ตอนที่แล้วNH-ตอนที่ 24 ความเสียใจของลุกซ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป์NH-ตอนที่ 26 อัปเกรดเดียโบล

NH-ตอนที่ 25 ผลพวงการระบาดของมอนสเตอร์


เมื่อลุกซ์ ลืมตาตื่นขึ้น เขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย

หลังจากมองไปรอบ ๆ ซึ่งยังคงครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ ภาพของสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ก็แวบเข้ามาในหัวของเขา จนทำให้เขาสะดุ้งตื่นอย่างสมบูรณ์

“การระบาดของมอนสเตอร์!” ลุกซ์ ตรวจสอบร่างกายของเขาทันที และ รู้สึกประหลาดใจที่เขาพบว่าเขาไม่ได้เจ็บปวดตรงไหนเลย แม้แต่แขนซ้ายของเขาที่หักเนื่องมาจากการโจมตีของดรักเกอร์ ก็ยังทำงานได้อย่างปกติ ซึ่งมันทำให้ ฮาล์ฟเอลฟ์คิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความฝัน

‘หรือว่าจะเป็นแค่ความฝัน’ ลุกซ์ ขมวดคิ้วแน่น ‘ฉันต้องยืนยันเรื่องนี้ให้ได้’

สิ่งแรกที่ ลุกซ์ ทำ คือ เรียกโซลบุ๊กของเขาออกมาเพื่อดูค่าสถานะของเขา ถ้ามันเป็นเพียงความฝันจริงๆ ค่าสถานะของเขาก็จะไม่เพิ่มขึ้น และคงไม่ได้เรียนรู้สกิลฟาดฟัน

‘บ้าเอ้ย…มันไม่ใช่ความฝัน’ ลุกซ์ ถอนหายใจออกมาขณะที่ดูข้อมูลของเขา ความแข็งแกร่งของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่นเดียวกับการได้รับสกิลฟาดฟันซึ่งกำลังจะพัฒนากลายเป็นฟาดฟันด้วยความโกรธ

จากนั้นลุกซ์ ก็ถอนหายใจขณะที่เขาเดินไปที่หน้าต่างของห้อง ซึ่งดวงอาทิตย์ได้ขึ้นอยู่บนจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งหมายความว่าเขาตื่นสายมาก

ชายหนุ่มผมแดงมองไปที่พื้นที่กว้างและพบว่าบ้านบางหลังได้รับความเสียหายและพวกมันส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์

เพราะฝ่ายป้องกันได้ใช้บ้านบางหลังเป็นจุดยุทธศาสตร์เพื่อใช้กลยุทธ์โจมตีแล้วหนีเพื่อต่อสู้กับพวกอันเดด

ขณะที่ เขากำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูที่ทำให้เขาสลัดหลุดจากความสับสน

“เชิญ” ลุกซ์ กล่าวตอบกลับคนที่เคาประตูโดยไม่รู้ตัว

เมื่อประตูเปิดออก หญิงชราคนแคระที่ลุกซ์คุ้นเคยก็ยิ้มหลังจากที่เห็นลุกซ์ตื่นแล้ว

“แม้ว่า พวกนักบวชจะรักษาร่างกายของเธอเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน แต่พวกเขาอาจจะพลาดไปบางจุด”แอนนี่ ได้เดินเข้ามาหา ลุกซ์ และ กลาวถาม “ยังมีส่วนไหนที่ยังเจ็บอยู่ไหม ฉันพอจะมียารักษาอยู่บ้าง”

ลุกซ์ สั่นศีรษะของเขา “ผมสบายดี คุณย่าแอนนี่ เกิดอะไรขึ้นกับ โคเล็ตต์ และ คนอื่นๆ?”

“เธอหมายถึงเด็กพวกนั้นที่ต่อสู้กับพวกเราเมื่อคืนนี้ใช่ไหม”

“ครับ”

“พวกเขาได้รับการรักษาจากนักบวชเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้พวกเขาได้ไปที่ลานเพื่อเตรียมจะกลับบ้าน” แอนนี่ ตอบกลับ “ถ้าฉันจำไม่ผิด พวกเขาบอกว่าจะรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ให้ผู้อาวุโสของพวกเขาทราบ เพราะมีผู้คนเสียชีวิตมากมายเมื่อคืนนี้ แต่โชคดีที่มีเด็กไม่เกิน 10 คนที่เสียชีวิตจากการพยายามปกป้องหมู่บ้าน จนท้ายที่สุดกำลังเสริมที่มาจากฐานที่มั่นนอร์เนียก็มาถึง”

คุณย่าแอนนี่กล่าวพูดอย่างเศร้าสร้อยขณะที่เธอพูดถึงการตายของเด็กๆ

“มันอาจจะฟังดูน่าอายที่จะพูด แต่ในฐานะผู้ใหญ่แล้ว พวกเราไม่ชอบที่จะเห็นพวกเด็กเสียชีวิตต่อหน้าของเรา แม้ว่าพวกเขาจะเป็นชาวต่างชาติก็ตาม” แอนนี่ตอบกลับ “แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องขอบคุณพวกเขาที่ช่วยให้เรายืนหยัดต่อสู้ได้ถึงกำลังเสริมมาถึง”

มีเด็กกว่า 10 คนที่เสียชีวิตในระหว่างการต่อสู้

ตามคำบอกเล่าของคุณย่าแอนนี่ ทหารรักษาการณ์เกือบ 200 คนได้เสียชีวิตเมื่อคืนนี้ นั่นคือ 2 ใน 3 ของจำนวนทหารรักษาการณ์ทั้งหมดที่คอยปกป้องหมู่บ้านลีฟ

ถ้าในฝูงพวกอันเดดไม่มี ดรักเกอร์ อยู่ล่ะก็ บางทีจำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะน้อยกว่านี้มาก

มอนสเตอร์ระดับ 1 จำนวนนับร้อยคือฝันร้ายสำหรับหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขตเริ่มต้น อารอนเป็นมือใหม่แรงค์ C ซึ่งเทียบเท่ากับ มอนสเตอร์ระดับ 2 ส่วนทหารยามที่เหลือเป็นมือใหม่แรงค์ D ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาจึงพอ ๆ กันกับ มอนสเตอร์ระดับ 1

“คุณย่าแอนนี่ การระเบิดของมอนสเตอร์เกิดขึ้นบ่อยไหม?” ลุกซ์ ถามขณะที่นั่งลงบนโซฟาร่วมกับหญิงชรา

แอนนี่พยักหน้า “พวกเราเผชิญหน้ากับมันปีละครั้งหรือสองครั้ง แต่คราวนี้ค่อนข้างสาหัส ดังนั้นฉันแน่ใจว่าฐานที่มั่นนอร์เนียจะต้องส่งไรเดอร์เข้ามาอย่างน้อย 10-20 คนเพื่อปกป้องหมู่บ้านในช่วงเวลานี้ และการมีพวกเขาอยู่ พวกเราจะสามารถรอดจากการระบาดของมอนสเตอร์ในครั้งต่อไปที่จะเกิดขึ้นในอีกครึ่งปีข้างหน้าได้อย่างแน่นอน”

ลุกซ์ ถอนหายใจออกมาเมื่อคิดถึงหายนะที่จะเกิดขึ้นทุก 1-2 ครั้งต่อปี ที่หมู่บ้านลีฟต้องเผชิญ เขาได้ถามคำถามคุณย่าแอนนี่อีก 2-3 ข้อ ซึ่งเธอก็พยายามตอบอย่างสุดความสามารถ

ด้วยเหตุนี้ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มจึงได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย

ในอาณาจักรดวอร์ฟกิวลิเว่น โดยปกติแล้ว หมู่บ้านต่าง ๆ จะสร้างใกล้กับฐานที่มั่นของพวกดวอร์ฟ ซึ่งพวกเขาจะได้ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ในยามจำเป็น

ยกตัวอย่างเช่นฐานที่มั่นนอร์เนีย ที่เป็นผู้พิทักษ์ 4 หมู่บ้าน นี่รวมถึงหมู่บ้านลีฟด้วย โดยชาวบ้านจะใช้ระฆัง เพื่อเป็นการสื่อสารกับฐานที่มั่นที่ตั้งอยู่ในระยะไกล เมื่อพวกเขาถูกโจมตีโดยกองกำลังที่เกินความสามารถของพวกเขาที่จะป้องกัน

ในทางกลับกัน ฐานที่มั่นก็จะส่งไรเดอร์ที่ขี่แพะภูเขามาช่วยเหลือหมู่บ้านในการต่อต้านภัยคุกคามเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากระยะทางที่ค่อนข้างไกล พวกเขาจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงจึงจะไปถึง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม ภารกิจเอาชีวิตรอดของลุกซ์ จึงได้ขอให้เขามีชีวิตรอดให้ได้ 1 ชั่วโมง ก่อนที่กำลังเสริมจะมาถึง

“เมื่อคืนเธอกล้าหาญเป็นอย่างมากเลยรู้ตัวบ้างไหม” แอนนี่กล่าวพูดด้วยรอยยิ้มและจับมือของชายหนุ่มผมแดง “นอกจากนี้ ขอบคุณที่เธอพยายามยืนหยัดต่อสู้กับพวกดรักเกอร์เหล่านั้นเพื่อให้พวกเรามีเวลาได้หลบหนี”

“ผมแค่ทำสิ่งที่ต้องทำเท่านั้น” ลุกซ์ ตอบกลับ “สุดท้ายผมก็ถูกช่วยเหลือไว้อยู่ดี”

ลุกซ์ ไม่ได้คิดว่าเขาจะสามารถรอดไปจากสถานการณ์นั้นด้วยตัวคนเดียวได้ หากไม่ใช่เพราะ ไรเดอร์ขี่แพะภูเขามาถึงทันเวลา เขาอาจจะถูกเพิ่มเข้าไปในรายชื่อผู้เสียชีวิตจากการระบาดของมอนสเตอร์แล้ว

แม้ว่าการถูกมองว่าเป็นฮีโร่ที่เสียชีวิตจะเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจของวงศ์ตระกูล แต่ฮีโร่ที่ตาย ก็คือคนตาย

ลุกซ์ อยากมีชีวิตมากกว่าตาย ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขอบคุณที่เขายังมีชีวิตอยู่และรอดมาจากเหตุการณ์ฝันร้ายนั้นได้สำเร็จ

“ลืมไปเลย เอาล่ะรับนี่ไป” แอนนี่ได้หยิบ คอร์มอนสเตอร์สีน้ำเงิน 3 อัน ออกมาแล้วส่งให้กับ ลุกซ์“”มันเป็นของเจ้าสามตัวที่พยายามจะฆ่าเธอเมื่อคืนนี้”

ลุกซ์ ไม่ได้มากพิธี เขารับมันมาด้วยความเต็มใจ เพราะเขาปราถนาที่จะแข็งแกร่งขึ้น

“คุณย่าแอนนี่ คุณเป็นคนช่วยผมเมื่อคืนนี้ใช่ไหม?” ลุกซ์ กล่าวถาม

“ถ้าเธอถามว่าใครเป็นคนเผาดรักเกอร์พวกนั้น ใช่แล้ว เป็นฉันเอง” แอนนี่ตอบกลับ “แต่ไม่ใช่ฉันที่ช่วยเธอไว้ แต่เป็นเธอต่างหากที่ช่วยฉัน ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทางพวกมันเอาไว้ บางทีฉันกับเด็ก ๆ ก็อาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือที่แย่ไปกว่านั้นก็อาจจะตายได้”

“เพราะงั้นการที่เธอเข้าไปหยุดพวกมัน ได้ช่วยซื้อเวลาให้ฉันมากพอที่จะร่ายคาถาระดับสูง ดังนั้น ต้องขอบคุณเธอที่ทำให้พวกเรามีชีวิตรอดต่อไปได้”

ลุกซ์ ยิ้มและไม่ได้พูดอะไร ราวกับว่าเขากำลังรอช่วงเวลานี้ ทันใดนั้นท้องของเขาก็ร้องประท้วงเพื่อบอกว่าเขายังไม่ได้กินข้าว

คุณย่าแอนนี่ ได้หัวเราะเบา ๆ ขณะที่บอกให้ลุกซ์ตามเธอลงมายังพื้นที่รับประทานอาหารเพื่อรับประทานอาหารกลางวันกับเธอ

โดยธรรมชาติแล้ว ฮาล์ฟเอลฟ์ ย่อมตอบรับข้อเสนอและเพลิดเพลินไปกับข้าวต้มและไข่ที่เตรียมไว้สำหรับเขาโดยเฉพาะ

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันจนอิ่ม คุณย่าแอนนี่ก็บอกให้เขาพักผ่อนในห้องพักให้มากขึ้น เพราะสภาพของหมู่บ้านยังคงทรุดโทรมจากความเสียหาย

ลุกซ์ พยักหน้าอย่างเห็นด้วยและขอบคุณ คุณย่าแอนนี่สำหรับการต้อนรับของเธอ หลังจากที่เขาปิดประตูห้องแล้ว ชายหนุ่มผมแดงก็นั่งบนโซฟาและเรียกโซลบุ๊กออกมา

เขาเปิดหน้าภารกิจและพบเครื่องหมายเสร็จสิ้นที่ด้านบน จากนั้นเขาก็ดูรางวัลที่เขาไม่มีเวลาตรวจสอบเมื่อคืนนี้เนื่องจากความเหนื่อยล้า

_____

<เอาชีวิตรอดจากการระบาดของมอนสเตอร์>

สถานะ : เสร็จสิ้น!

<รางวัล>

- 10 แต้มค่าสถานะฟรี

- 100 แต้มสกิล

- 50 แต้มร่างกาย

- 20 เหรียญเงินเอลิเซียม

<รางวัลโบนัส>

- 100 แต้มสกิล

_____

‘ฉันได้รับโบนัสแต้มสกิล 100 แต้ม หลังจากทำภารกิจสำเร็จ ดังนั้นฉันจึงได้รับแต้มสกิลทั้งหมดรวม 200 แต้ม’ ลุกซ์ รำพึงในใจทันที ‘ด้วยสิ่งนี้ ฉันไม่จำเป็นจะต้องใช้คอร์มอนสเตอร์ที่ฉันได้รับมาเพื่ออัปเกรด เดียโบล เพราะฉันมีแต้มสกิลมากพอที่จะอัปเกรดเขาได้ถึง 2 ครั้ง’

เมื่อคืนที่ผ่านมา เขาตระหนักได้ว่า เดียโบล นั้นเปราะบางเพียงใด เมื่อเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่มีระดับสูงกว่าตัวเอง เพียงแค่กำปั้นเดียวก็เพียงพอที่จะกำจัดสิ่งมีชีวิตมีชื่อของเขา และ ทำให้ ลุกซ์ เสียใจมากที่คู่หูของเขาได้ตายไปแบบนั้น

‘อย่ากังวลใจไปเลย เดียโบล’ ลุกซ์ พึมพัมออกมา ‘ฉันจะทำให้แน่ใจว่าจะไม่มี ดรักเกอร์ ตนใดที่สามารถจัดการนายได้อีกในอนาคต’

ลุกซ์ แสดงท่าทางที่แน่วแน่ขณะที่เขาเปิดหน้าส่วนตัวของ เดียโบล ในโซลบุ๊ก ของเขา จากนั้นเขาก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นว่าคู่หูของเขานั้นจะทรงพลังเพียงใดหลังจากได้รับการอัปเกรดถึง 2 ครั้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด