ตอนที่แล้วตอนที่ 28 พลังที่ทำลายทุกสิ่งและร่างดาบราชันย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 30 เมืองยุ่นเห่ย

ตอนที่ 29 สองต่อหนึ่งยังเอาชนะไม่ได้


เกล็ดน้ำแข็งทมิฬนั้นเป็นสมบัติทางธรรมชาติที่หาได้ยากมาก แม้ว่าจะสามารถเพิ่มค่ากระดูกโดยของผู้ฝึกตนได้ แต่ก็จําเป็นต้องได้รับการขัดเกลาเพื่อที่จะเพิ่มพลังนั้นให้ได้

นอกเหนือจากว่าพวกเธอจะมีพลังที่สูงมากอยู่แล้วเกล็ดน้ำแข็งทมิฬจึงสามารถซึมซับเข้าสู่ตัวเธอได้อย่างง่ายดาย

สิ่งสําคัญที่สุดคือคนทั่วไปไม่สามารถทำการขัดเกลาพลังนี้ได้เลย เพราะมันต้องใช้พลังของคนที่อยู่ระดับแก่นแท้จริงหรือสูงกว่าเพื่อขัดเกลาเท่านั้น และแม้ว่าจะสามารถขัดเกลาพลังของเกล็ดน้ำแข็งทมิฬได้หลังจากถึงระดับแก่นแท้จริงแต่ก็ต้องใช้เวลามาก

หรือก็คือถ้าหวงหลิงและซื่อหมินต้องการปรับแต่งพลังในร่างกายด้วยเกล็ดน้ำแข็งทมิฬ พวกเธอจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามเดือน

ความคิดแรกของพวกเธอคือการขอความช่วยเหลือจากอาจารย์หลินชิงเมื่อพวกเธอกลับไปที่นิกายชิงหยุน

ด้วยความช่วยเหลือของผู้ฝึกตนระดับแก่นหลักว่างเปล่าจะทำให้ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในการขัดเกลาพลังของเกล็ดน้ำแข็งทมิฬ!

แต่ด้วยความแข็งแกร่งของยื่อซวนนั้นแข็งแกร่งกว่าของอาจารย์ของพวกเธออย่างเห็นได้ชัด มันจะทำให้การขัเกลาพลังของเกล็ดน้ำแข็งทมิฬใช้เวลาน้อยลงไปอีก

ยิ่งไปกว่านั้นข้อตกลงที่ยื่อซวนเสนอกับพวกเธอนั้นมันก็ทำให้เธอไม่สามารถปฎิเสธได้

"ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าก็ไปได้แล้ว"

ยื่อซวนยิ้มแล้วโบกแขนเสื้อก่อนที่พลังที่มองไม่เห็นจะห่อหุ้มร่างของลู่หยานรันและคนอื่นๆและพวกเธอก็หายตัวไปจากที่พักทันที

เมื่อลู่หยานรันและคนอื่นๆค่อยลืมตาขึ้นพวกเธอพบว่าพวกเธอได้มาถึงด้านนอกเมืองเจียเห่ยแล้ว

แม้ว่าจะเป็นเวลาค่ำแล้วแต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นของพวกเธอเลย

"ความเร็วนี่มันอะไรกัน?!"

เมื่อได้เห็นแบบนี้หวงหลิงและซื่อหมินก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปด้วยความว่างเปล่า

ปรมาจารย์ยื่อเก่งกาจขนาดไหนกันแน่?

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกตนระดับแก่หลักว่างเปล่าสามารถทําได้ใช่ไหม?

"อ้อจริงสิ พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องออมพลังของพวกเจ้าและไม่ต้องห่วงว่ามันจะเป็นการทําร้ายกันแค่ทําให้ดีที่สุด!" ยื่อซวนกล่าว

ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขามาถึงขั้นต้นของรูปแบบแก่นหลักทองคํา แม้ว่าผู้ฝึกตนระดับแก่นแท้จริงทั้งสามคนนี้จะต้องต่อสู้จนต้องตาย ยื่อซวนจะสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้สบายๆ

"ค่ะ!" ทั้งสามคนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง

การแสดงออกของลู่หยานรันกลายเป็นจริงจังทันที แม้ว่าเธอจะขาดประสบการณ์การต่อสู้ในเชิงปฏิบัติและเธอรู้ดีว่าอาจารย์ของเธอนั้นพยายามฝึกเธอในเรื่องนี้

เธอไม่ควรพลาดโอกาสนี้ไปและต้องพยายามให้มากที่สุด

"ซื่อหมินเจ้าเริ่มก่อน!" ยื่อซวนพูดหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง

"ค่ะท่านปรมาจารย์ยื่อ"

ซื่อหมินพยักหน้าแล้วดาบก็ปรากฏขึ้นในมือขวาของเธอ ก่อนที่เธอจะเดินไปหาลู่หยานรันด้วยท่าท่างสบายๆ

ในฐานะลูกศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสในนิกายชิงหยุนเธอมักจะออกไปฝึกอยู่แล้ว อาจกล่าวได้ว่าเธอมีประสบการณ์การต่อสู้ในเชิงปฏิบัติมากมาย เธอถือว่ามีพลังมากในหมู่ผู้ฝึกตนในระดับเดียวกัน

ผู้ฝึกตนที่มีความสามารถในระดับเดียวกับเธอนั้นแม้ว่าระดับของพวกเขาจะสูงกว่าเธอเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะเธอได้

แต่ในวินาทีถัดมาการแสดงออกของซื่อหมินก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

นี่มัน!

พลังในร่างกายของลู่หยานรันเริ่มไหลเวียนอย่างรวดเร็วและพลังของระดับรูปแบบแก่นแท้จริงของเธอก็ระเบิดออกมา

"จริงหรือเนี่ย? ลู่หยานรันอยู่ในขั้นที่ห้าของรูปแบบแก่นแท้จริงงั้นหรือ?"

เมื่อได้เห็นแบบนี้การแสดงออกของหวงหลิงและซื่อหมินก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

พวกเธอสังเกตเห็นว่าลู่หยานรันได้เข้าสู่ระดับของรูปแบบแก่นแท้จริงเนื่องจากเธอยังไม่คุ้นเคยกับพลังของเธอเองในตอนนั้นซึ่งทําให้เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะซ่อนพลังทางจิตวิญญาณของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบนี้

แต่ลู่หยานรันยังคงสามารถปกปิดส่วนหนึ่งของพลังของเธอได้ ดังนั้นจากสิ่งที่สองสาวสามารถสัมผัสได้คือลู่หยานรันเพิ่งเข้าสู่ระดับรูปแบบแก่นแท้จริงเท่านั้น

ตอนนี้ลู่หยานรันได้ปลดปล่อยความแข็งแกร่งของเธอออกมาอย่างสมบูรณ์ ทำให้พวกเธอได้รู้ถึงระดับที่แท้จริงของลู่หยานรันทันที

รูปแบบแก่นแท้จริงขั้นที่ห้า..

เธออยู่ในระดับเดียวกับหวงหลิงและระดับของเธอนั้นสูงกว่าของซื่อหมินด้วยซ้ำ

ในขณะนั้นสีหน้าของซื่อหมินก็จริงจังขึ้นมาทันที

"กรุณากับข้าด้วย!"

ลู่หยานรันตะโกนออกมาแล้วเธอก็พุ่งเข้าหาซื่อหมิน

เมื่อเห็นแบบนี้ซื่อหมินก็ไม่กล้าประมาทแม้แต่นิดเดียว เธอใช้พลังของเธออย่างเต็มที่ทันที

ภายในระยะเวลาอันสั้นทั้งสองคนได้แลกเปลี่ยนการโจมตีกันเกือบสี่สิบครั้ง

ในขั้นต้นนั้นซื่อหมินอาศัยประสบการณ์การต่อสู้อันโชกโชนของเธอเพื่อให้ได้เปรียบเล็กน้อย แต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอก็ค่อยๆหมดแรง

ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ทําให้ซื่อหมินประหลาดใจมากที่สุดคือประสบการณ์การต่อสู้ของลู่หยานรันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและในไม่ช้าเธอก็เป็นคุมความได้เปรียบในการต่อสู้ครั้งนี้

เมื่อเห็นว่าซื่อหมินกําลังจะต้านทานการโจมตีของลู่หยานรันไม่ไหวหวงหลิงก็รีบเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยทันที

ทั้งสองคนได้ฝึกฝนร่วมกันในโลกภายนอกมาโดยตลอด และการประสานงานของพวกเธอนั้นก็ไร้ที่ติซึ่งมันทําให้โมเมนตัมของสถานการณ์เปลี่ยนไปในทันที

ลู่หยานรันกลับมาเสียเปรียบอีกครั้ง

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นทั้งสองคนก็ยังสู้กับลู่หยานรันได้อย่างลำบาก และเมื่อเวลาผ่านไปอย่างช้าๆไม่มีใครรู้ว่าทั้งสามคนนั้นแลกเปลี่ยนการโจมตีกันไปกี่ครั้ง

ในตอนนี้การแสดงออกของหวงหลิงและซื่อหมินได้เปลี่ยนไปอย่างมาก

หลังจากที่ลู่หยานรันค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับการโจมตีของหวงหลิงและซื่อหมิน ร่างดาบหยกในร่างกายของเธอก็เปล่งแสงออกมา ลำแสงนั้นพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและเธอก็ใช้การฟันดาบของเธอเอาชนะหวงหลิงและซื่อหมินได้ในทันที!

"เอาล่ะ พอแค่นั้น!"

เมื่อเห็นแบบนี้ยื่อซวนก็ให้พวกเธอหยุด

เป็นไปไม่ได้!

เมื่อเห็นแบบนี้หวงหลิงและซื่อหมินก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจด้วยความประหลาดใจ พวกเธอมองไปที่ลู่หยานรันด้วยความตกใจในสายตาของพวกเธอ!

ระดับความสามารถที่อาจารย์และลูกศิษย์คู่นี้มีนั้นมันสูงมากจนเกินไป

ก่อนหน้านี้พวกเธอนั้นต่างอิจฉาในโชคของลู่หยานรันในการได้เป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์ยื่อซวน อย่างไรก็ตามหลังจากการต่อสู้ในตอนนี้พวกเธอก็ไม่ได้คิดแบบนั้นอีกต่อไป

ค่าความเข้าใจของลู่หยานรันได้มาถึงระดับที่สูงมากแล้ว ถ้าไม่เป็นแบบนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่ประสบการณ์การต่อสู้ของเธอจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้แบบนี้

แต่ถ้าหากทั้งสองสาวได้รู้ว่ายื่อซวนเคยถ่ายทอดพลังให้กับลู่หยานรันด้วยพลังทางจิตวิญญาณของเขาเอง พวกเธออาจจะกลับมาอิจฉาอีกครั้ง

ยื่อซวนโบกแขนเสื้ออีกครั้งและพาลู่หยานรันและคนอื่นๆกลับไปที่ที่พักที่เขาจากมา

เขาสัญญาว่าจะช่วยหวงหลิงและซื่อหมินปรับแต่งร่างกายของพวกเธอด้วยเกล็ดน้ำแข็งทมิฬดังนั้นเขาจึงรีบกลับ

ตอนแรกหวงหลิงและซื่อหมินคิดว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายชั่วโมงสําหรับยื่อซวนในการขัดเกลาพลังเกล็ดน้ำแข็งทมิฬแต่จริงๆแล้วยื่อซวนสามารถทําได้ในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที

พวกเธอนั้นคิดผิดไปอย่างมาก!

นับตั้งแต่พวกเธอเริ่มติดตามปรมาจารย์ยื่อตั้งแต่ที่อยู่ในเทือกเขา ก็เกิดเรื่องขึ้นเรื่อยๆระหว่างทางทำให้พวกเธอรู้สึกเปลี่ยนไปอย่างมากตลอดสิ่งที่พวกเธอได้เจอมานี้

อย่างที่ทุกคนรู้นั้นความเร็วที่ผู้ฝึกตนจะสามารถกลั่นเกล็ดน้ำแข็งทมิฬนั้นจะเร็วขึ้นตามความแข็งแกร่งของเขา

หรือก็คือยิ่งผู้ฝึกตนแข็งแกร่งเท่าไหร่พวกเขาก็จะสามารถปรับแต่งเกล็ดน้ำแข็งทมิฬได้เร็วขึ้นเท่านั้น เมื่อเห็นว่ายื่อซวนใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาที่ในการปรับแต่ง เกล็ดน้ำแข็งทมิฬต่อหน้าพวกเธอ พวกเธอจึงเริ่มสงสัยแล้วว่าเขานั้นแข็งแกร่งแค่ไหน?

ทั้งสองคนมองหน้ากันและเห็นทั้งความตกใจกับความสงสัยในสายตาของกันและกันทันที

หากการคาดเดาของพวกเธอถูกต้องสิ่งที่จะสั่นคลอนราชวงศ์เฉียนทั้งหมดได้นั้นอาจเกิดขึ้นในไม่ช้า

หลังจากที่กลั่นเกล็ดน้ำแข็งทมิฬเสร็จแล้วยื่อซวนก็ผายมือเบาๆ

ลำแสงสองเส้นพุ่งเข้าสู่ด้านหลังของหวงหลิงและซื่อหมินทันที ในขณะเดียวกันพลังภายในร่างกายของยื่อซวนก็พุ่งออกไปเพื่อช่วยให้ทั้งสองคนนั้นสามารถดูดซับพลังของเกล็ดน้ำแข็งทมิฬได้อย่างสมบูรณ์

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด