ตอนที่แล้วChapter 43 pill then
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 45 Beast mark

Chapter 44 The strength of grandmaster


宗师的力量

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่านักเรียนทั้งสถาบันไม่อาจรับมือเจ้าได้,แท้จริงแล้วเจ้าเป็นจอมยุทธ์ระดับสูงแล้ว,ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่ำไป”เหล่าหลิวที่ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับอดหัวเราะออกมาไม่ได้.

ซูเห่าที่กล่าวออกมาอย่างถ่อมตน“พ่อของข้าสอนมาดี.”

เหล่าหลิวพยักหน้ารับ,ไม่ได้เอ่ยอะไรอีกต่อไป,ในเมื่อซูเห่าก้าวมาถึงขั้นนี้แล้ว,เขาก็สามารถสอนอีกฝ่ายก้าวสู่ขอบเขตปรมาจารย์ได้,ส่วนจะไปได้ไกลแค่ใหน,ก็ต้องขึ้นอยู่กับซูเห่า.

เหล่าหลิวที่ครุ่นคิด,ก่อนเอ่ยออกมาช้า ๆ,“เซี่ยงหวู่,พ่อของเจ้า ไม่เคยเอ่ยถึงการก้าวสู่ระดับปรมาจารย์เลยรึ?”

ซูเห่าส่ายหน้าไปมา เอ่ยออกมาว่า“พ่อของข้าเป็นเพียงจอมยุทธ์ขั้นสูงเท่านั้น,จึงไม่อาจบอกเกี่ยวกับระดับปรมาจารย์ได้,ทว่าข้าได้ตรวจสอบข้อมูลในหอตำราหลิงหยุนแล้ว,ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการก้าวสู่ระดับปรมาจารย์เลย.”

เหล่าหลิวที่เอ่ยตอบออกมาทันที.“เป็นเรื่องธรรมดา,การก้าวสู่ระดับปรมาจารย์นั้น,ถือเป็นองค์ความรู้ขั้นสูง,ไม่อาจปล่อยให้ใครได้ไปง่าย ๆ,การจะก้าวสู่ขอบเขตปรมาจารย์อย่างราบรื่นนั่น,จะต้องได้รับมรดกจากตระกูลที่สืบทอดกันมาเท่านั้น.”

ซูเห่าที่ตกใจ,เข้าใจทันทีเกี่ยวกับความรู้พิเศษของโลกใบนี้,ต่างก็ถูกกลุ่มอิทธิพลใหญ่ถือครองเอาไว้,คนทั่วไปนั้นไม่อาจศึกษาความรู้เหล่านี้ได้,ซูเห่าที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางลังเล“อาจารย์หลิวสอนข้า,จะมีปัญหาอะไรหรือไม่?”

เหล่าหลิวที่เผยยิ้ม”ไม่ใช่ว่าต้องรับสืบทอดจากตระกูลเก่าแก่เท่านั้น,ยังมีวิธีอื่น,ยกตัวอย่าง,สถาบันยุทธ์,ในเมื่อเจ้าเป็นนักเรียนสถาบันแห่งนี้,ย่อมสามารถได้รับข้อมูลชั้นสูงดังกล่าวได้,เป็นเรื่องทั่วไป,เป้าหมายของสถาบันยุทธ์เองล้วนแต่เฟ้นหาเหล่าพรสวรรค์,เพื่อสร้างยอดฝีมือให้กับเผ่ามนุษย์อยู่แล้ว.

หากมรดกต้องพึ่งพาแต่ตระกูลใหญ่,เผ่ามนุษย์จะดำรงอยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างไร,ไม่เช่นนั้นไม่นานก็คงถูกสัตว์ร้ายทำลายล้างไปแล้ว.”

ซูเห่าที่เข้าใจได้อย่างชัดเจน.

เหล่าหลิวเอ่ยออกมาว่า“บางทีเจ้าคงไม่รู้,ในมุมมองร่างกายของเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้น,จอมยุทธ์ขั้นสูงคือขีดจำกัด,ไม่อาจก้าวขึ้นไปได้อีกแล้ว.”

ซู่เห่าที่ราวกับเข้าใจความหมายดังกล่าวเอ่ยออกมาว่า“เกี่ยวกับร่างกายมนุษย์อย่างงั้นรึ?”

เหล่าหลิวไม่ได้เอ่ยว่าไม่อาจยกระดับต่อไปได้,ทว่าระดับปรมาจารย์ยุทธ์,บรรพชนยุทธ์,กระทั่งบรรพชนยุทธ์นั้น,ไม่อาจยกระดับได้ด้วย“สภาวะร่างกายของมนุษย์”ได้.

เหล่าหลิวพยักหน้ารับ“ถูกต้อง,ในสภาวะร่างกายมนุษย์,พวกเราเป็นได้เพียงแค่จอมยุทธ์ขั้นสูงคือขีดจำกัดที่เผ่ามนุษย์สามารถไปถึงได้.”

เหล่าหลิวที่รู้สึกพอใจกับท่าทางสงสัยของซูเห่า,ซึ่งเผยว่า อีกฝ่ายเข้าใจความหมายของเขา,เขาจึงเอ่ยออกมาช้า ๆ,”เผ่ามนุษย์และสัตว์ร้ายนั้นแตกต่างกัน,ความแข็งแกร่งของเผ่าพันธ์มนุษย์นั้นจำต้องพึ่งพาเชาว์ปัญญามากกว่าร่างกาย,เผ่าพันธุ์มนุษย์มีโครงสร้างร่ายกายที่อ่อนด้อย,แต่กับมีมันสมองที่ยอดเยี่ยม,สามารถชดเชยความแข็งแกร่งได้.

ด้วยเชาว์ปัญญาที่ยอดเยี่ยมของมนุษย์จึงทำให้อยู่รอดมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล,อย่างไรก็ตาม,ถึงจะมีสมองที่ยอดเยี่ยม,แต่ก็ไม่ได้มีพลังอะไรนัก,เราไม่อาจเอาชนะสัตว์ด้วยพลังได้,จำเป็นต้องซ่อนตัว,ซึ่งไม่ง่ายที่จะอยู่รอดเช่นกัน.”

ซูเห่าที่พยักหน้ารับ,เห็นด้วยกับมุมมองดังกล่าว,เผ่ามนุษย์นั้นนับว่ามีเชาว์ปัญญาเป็นพื้นฐานการเอาชีวิตรอดจริง ๆ.

เหล่าหลิวยังคงเล่าต่อ”สัตว์ร้ายนั้นไม่จำเป็นต้องฉลาด,ทว่าร่างกายของมันกับแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,ดังนั้นร่างกายของพวกมันยิ่งเติบโตเท่าไหร่ก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น.

กระนั้นบางครั้งสัตว์ร้ายที่เติบโตไร้ขีดจำกัดมากเกินไป,พวกมันจะไร้คู่ต่อสู้,เติบโตต่อไปจนไม่มีอาหารเพียงพอให้มันกิน,สุดท้ายก็ทำให้มันตกตายได้ด้วยเช่นกัน.”

“เพื่อที่จะให้ได้รับพลังที่แข็งแกร่งมา,เพื่อพัฒนาการอยู่รอดของเผ่ามนุษย์,บรรพชนของพวกเราจึงได้พยายามทดลองค้นหาวิธีการมาโดยตลอด.

เริ่มแรกก็พบการฝึกฝนเป็นผู้ฝึกยุทธ์,จากนั้นก็กลายเป็นจอมยุทธิ์,ซึ่งระดับจอมยุทธ์ถือเป็นขีดจำกัดของพวกเราที่คงอยู่นานถึงพันปี.”

ซูเห่าที่รู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก,“แล้วจากนั้นล่ะ?”

เหล่าหลิวเอ่ยอย่างภาคภูมิ“หลังจากนั้น,เผ่าพันธุ์มนุษย์ของเขาก็ปรากฏจอมยุทธ์มากพรสวรรค์ที่สามารถเปิดเส้นทางก้าวสู่ขอบเขตต่อไปได้,เซี่ยงหวู่เจ้าได้ยินเรื่องบรรพชนจักรพรรดิอู๋จงหรือไม่?”

ซูเห่าที่ดวงตาเป็นประกาย“บรรพชนจักรพรรดิอู๋จง?”

เหล่าหลิวเอ่ย“ใช่แล้ว,ดังนั้นวิธีการยกระดับข้ามผ่านจอมยุทธ์พวกเราจึงเรียกมันว่าวิธีการบรรพชนจักรพรรดิอู๋จง,เพื่อไม่ให้ผู้คนลืมตัวตนของเขาที่สร้างประโยชน์ให้กับมนุษย์ชาติ.”เหล่าหลิวเอ่ย“ในอดีตหลังจากที่จักรพรรดิอู๋จงก้าวมาถึงเขตจอมยุทธ์สูงสุดแล้ว ก็ไม่อาจก้าวต่อไปได้ เขาจึงได้เดินทางเข้าสู่ดินแดนรกร้างที่อันตราย,เพื่อสังหารเหล่าสัตว์ร้ายมากมาย,ศึกษาหาความลึกล้ำของร่างกายสัตว์ร้าย,ค้นหาว่าทำไมสัตว์ร้ายยิ่งเติบโตก็ยิ่งแข็งแกร่ง,ทว่าไม่มีเผ่ามนุษย์คนใหนเชื่อมั่นเขาเลย? สิบปีหลังจากนั้น,เขาก็ตัดผ่านระดับได้ และได้กลับมาเผยแพร่วิธีการที่เขาได้สร้างขึ้นมาให้ทุกคนรับรู้.”

ซูเห่าแทบจะจินตนาการถึงภาพฉากวัยเด็กของบรรพชนอู๋จงได้เลย.

“อัจฉริยะที่ถูกหาว่าเป็นคนบ้า! ท้ายที่สุดก็สามารถหาวิธียกระดับทะลวงคอขวดที่ดำเนินมานับพันปี,บรรพชนจักรพรรดิอู๋จงเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทำให้มนุษย์แข็งแกร่งขึ้น,หลังจากที่เขาได้เผยแพร่วิธีการยกระดับออกมาแล้ว,เขาก็กลับสู่พื้นที่รกร้างอีกครั้ง,นับจากนั้นก็ไม่มีข่าวของเขาอีกเลย.

อย่างไรก็ตามหลายปีหลังจากนั้น,ทุกคนต่างก็ยังคงจดจำเขาได้เสมอ,แม้แต่มอบฉายาจักรพรรดิให้กับเขา,จากนั้นการพัฒนาก็ดำเนินมาจนถึงทุกวันนี้,ในเวลาปัจจุบันเผ่าพันธ์มนุษย์มีระดับปรมาจารย์ยุทธ์,ระดับบรรพจารย์ยุทธ์,ระดับบรรพชนยุทธ์,ในวันข้างหน้าอาจจะมีขอบเขตที่สูงกว่านี้ก็เป็นได้.”

เหล่าหลิวที่เอ่ยถึงตรงนี้ก็ถอนหายใจยาว“หากแต่ในวันนั้นข้าคงไม่อาจได้เห็นฉากนั้นได้.”

ซูเห่าที่เผยยิ้ม“อาจารย์หลิวอย่าเพิ่งหมดความหวัง,บางทีคนที่ก้าวผ่านไปถึงขอบเขตนั้นอาจจะเป็นท่านก็ได้!”

เหล่าหลิวได้รับการชื่นชม,ถึงกับยกมือขึ้นลูบศีรษะที่ล้านเรียบของตัวเอง,เผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“การตัดผ่านไปยังขอบเขตบรรพจารย์ยุทธ์ก็ยากแสนเข็ญแล้ว,ไม่ต้องเอ่ยถึงขอบเขตบรรพชนยุทธ์เลย.”

“กลับมาสู่หัวข้อหลัก,ข้าจะแนะนำวิธีให้เจ้า,ตัดผ่านระดับด้วยวิธีการบรรพชนอู๋จง.”

ซูเห่าที่นั่งรับฟังด้วยความเข้ารบ,แม้แต่รู้สึกเกรงขามกับองค์ความรู้ดังกล่าวเป็นอย่างมาก.

เหล่าหลิวที่ยื่นฝ่ามือออกไป,เร่งเร้าพลัง,เส้นโลหิตที่ปูดออกมา,กลิ่นอายที่หนังหน่วงรุนแรงระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา,กระทั่งผมสั้นของซูเห่ายังตั้งชน.

ซูเห่าถึงกับกระเด็นจากกลิ่นอายที่ปะทุออกมา,ในเวลานี้เขารู้สึกราวกับว่าเหล่าหลิวคือสัตว์ร้ายโบราณที่ยืนจ้องมองเตรียมล่าเหยื่อ,เขาไม่มีแรงที่จะต้านทานได้เลย.

เพียงแค่กลิ่นอายที่ระเบิดออกมา ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะน่าเกรงขามถึงเพียงนี้.

เหล่าหลิวเอ่ย“วิธีการบรรพชนอู๋จงนั้น,เป็นการเพิ่มพูนพลังความบ้าคลั่ง,ก้าวเหนือระดับจอมยุทธ์,พลังขอบเขตปรมาจารย์และจอมยุทธ์นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง,หากจอมยุทธ์ขั้นสูงคือถังน้ำ,ระดับปรมาจารย์ ก็คือแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว.”

ซูเห่าที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต“แตกต่างกันขนาดนี้เลยรึ?”

เหล่าหลิวที่เผยยิ้มเอ่ยออกมา“แตกต่างเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการ.”

ด้วยเกรงว่าซูเห่าจะไม่เชื่อเขาจึงเอ่ยออกมาว่า“เจ้าลองใช้พลังทั้งหมดโจมตีออกมา,แล้วจะรู้ความแตกต่างระหว่างปรมาจารย์และจอมยุทธ์ได้.”

ซูเห่าไม่สงสัยเขาอีกต่อไป,พยักหน้ารับเอ่ยออกมาว่า“อาจารย์หลิวระวังด้วย,ข้าจะลงมือแล้ว.”

จินซีทั่วร่างที่ไหลพล่าน,กระจายไปทั่วทุกส่วนร่างกาย.

ซูเห่าที่ง้างหมัดรวมพลังมาไว้ที่หมัด,เอ่ยคำรามเบา ๆ.

“หมัดคมดาบ! ตัดตามขวาง!”

ทักษะ“ตัดตามขวาง”ได้ผสานเข้ากับ“หมัดคมดาบ”,ระเบิดออกมา,ทำให้พลังโจมตีของซูเห่าก้าวไปถึงจุดสูงสุด.

“ตูมมมมมมมมม!”

เสียงดังสนั่นหวั่นไหว.

เหล่าหลิวที่ใช้หน้าอกยืดรับหมัดของซูเห่า

ร่างกายที่เร่งเร้าพลังไปจนถึงขีดสุด,ทว่าถึงกับถูกกระแทกลากครูดถอยออกมา 5-6 ก้าว.

ความมั่นใจก่อนหน้านี้ได้หายไปจนหมด,ดวงตาแทบถลนออกจากเบ้า,รู้สึกเจ็บที่หน้าอกขึ้นมาเหมือนกัน,เอ่ยด้วยความไม่อยากเชื่อ“เซี่ยงหวู่,เจ้ามั่นใจนะว่าเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูง? เจ้าไม่ได้หลอกข้านะ?”

ซูเห่าที่สะบัดกำปั้นไปมา,รู้สึกเจ็บหมัดไม่น้อย,เผยความประหลาดใจ“ใช่,บิดาของข้าบอกเองว่าข้าเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูง!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด