ตอนที่แล้วChapter 36 In everyone 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 38 Invincible? 2 but actually

Chapter 37 2 levels of students


2级学员

หลังจากวิ่งอย่างต่อเนื่องตลอดหนึ่งเดือน,ห้องแปดของล้านเหล่าหลี่,นักเรียนก็ไปถึงมาตรฐานในที่สุด,พวกเขาสามารถเข้าสู่การเรียนบทต่อไป,เกี่ยวกับการต่อสู้ด้วยมือเปล่า.

ซูเห่าที่เรียนรู้ได้เร็วมาก,เกี่ยวกับพื้นฐานนั้น,เขาสามารถสอนให้กับคนอื่น ๆ ในวันต่อมาได้เลย.

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาต้องการคู่ต่อสู้,คาดไม่ถึงว่าจะไม่มีใครยินดีจับคู่กับซูเห่าเลย.

อย่างไรก็ตาม,นี่ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด,เขาก้าวออกไปชี้ไปยังหรงกวงหมิงเอ่ยออกมาว่า“เจ้า,จับคู่กับข้า.”

หรงกูหมิงที่ขนลุกตั้งชันแทบล้มทั้งยืน,จ้องมองซูเห่าด้วยความหวาดกลัว,แต่ก็ไม่กล้าขัดขืน,ทำได้แค่ต้องจับคู่กับซูเห่า,ทว่าหลังจากต่อสู้กับหรงกูหมิง,อีกฝ่ายที่ไม่กล้าโจมตีแม้แต่น้อย,ซูเห่าที่เอ่ยออกมาทันที“ไม่มีแรงรึไง? รีบโจมตีกลับมา!”

หรงกูหมิงที่ร้องโอดครวญ,“ข้า...ข้าไม่กล้า!”

ซูเห่าที่เข้าใจอีกฝ่ายได้.

เขาเริ่มกลับมาครุ่นคิด,ช่วงนี้เขาทำเกินไปหน่อยรึเปล่า.

แล้วทำอย่างไรดี? เขาที่ได้เก็บเกี่ยวข้อมูลทฤษฎีมาไม่น้อย,จำเป็นต้องลองทดสอบด้วยการต่อสู้จริง,เพื่อตกผลึกข้อมูลที่ได้รับมา.

ดังนั้นซูเห่าจึงหันหน้าไปมองล้านเหล่าหลี่,เขาก้าวออกไปเอ่ยออกมาว่า“อาจารย์หลิว,ท่านมาเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้หรือไม่?!”

เหล่าหลี่ที่ไม่มีอะไรทำเช่นกัน

ดังนั้นล้านเหล่าหลี่จึงมาเป็นคู่ฝึกส่วนตัวของซูเห่า.

ซูเห่าที่ได้รับรู้ความลับอย่างหนึ่งขึ้นมา,ล้านเหล่าลี่นั้นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก,ไม่เพียงแค่เป็นอาจารย์ผู้ฝึกสอน,ยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับบรรพจารย์ยุทธ์เหมือนกับคณบดีเซียวจีด้วย,ในสถานบันหลิงหยุนเป็นหนึ่งตัวตนที่ค่อนข้างทรงพลัง.

ซูเห่าที่วางแผนการ สร้างรากฐานทักษะจากสถาบัน,และฉวยโอกาสสร้างสัมพันธ์กับล้านเหล่าหลี่ไปด้วย,หลังจากสนิทกันแล้ว,เขาก็จะปรึกษาหารือกับล้านเหล่าหลี่เพื่อยกระดับไปยังขึ้นต่อไป.

เวลานี้เขาเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูง,ระดับต่อไปก็คือขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ์นั่นเอง.

เขาไม่เร่งรีบยกระดับไปยังขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ์,ซึ่งมีอยู่ด้วยกันสามเหตุผล,เหตุผลแรกแม้นว่าเขาจะเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูง,ทว่าร่างกายของเขายังไม่เติบโตเต็มที่,ยังห่างไกลจากจุดสูงสด,เขาต้องการเติบโตกว่านี้,ร่างกายและจิตวิญญาณจะได้แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น,ซึ่งจะทำให้เขาสามารถก้าวเดินไปได้ไกลยิ่งกว่าเดิม.

เหตุผลที่สอง,ความรู้พื้นฐานของเขายังต่ำอยู่ มีข้อมูลทฤษฎีหลายอย่างที่ยังไม่เคยได้เรียนเลย,การก้าวไปยังระดับปรมาจารย์อย่างเร่งรีบ,ความรู้พื้นฐานที่อ่อนด้อยอาจจะซ่อนอันตรายหลายอย่างเอาไว้,เหมือนกับการเรียนคณิตศาสตร์,รากฐานความรู้มัธยมต้นไม่ดี,การทดสอบในระดับมัธยมปลายก็ย่อมย่ำแย่ไปด้วย.

เหตุผลที่สาม,กฎเกณฑ์ของสถาบันยุทธ์,ขอเพียงนักเรียนก้าวเข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์,ไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่,ก็เท่ากับว่าได้สำเร็จการศึกษาแล้ว.

ดังนั้น,เขาจึงตัดสินใจปรับปรุงรากฐานพัฒนาตัวเองอีกหนึ่งปี,รอคอยดูสถานะการณ์จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะก้าวไปสู่ขอบเขตปรมาจารย์อีกครั้งก็ได้.

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น,บทเรียนถัดไปก็คือเรียนรู้เกี่ยวกับทฤษฎีและการบำรุงรักษาอาวุธและชุดเกราะ.

ด้วยการเรียนรู้ที่รวดเร็ว,เพียงไม่กี่วันที่เริ่มเรียนพื้นฐานอาวุธต่าง ๆ,ด้วยความสามารถที่ซูเห่ามีทำให้เขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว.

พื้นฐานหลายอย่างดูง่ายดายไปหมด,เขาสามารถเชี่ยวชาญในเวลาไม่นาน,ทุกทักษะการเรียนรู้,เขาสามารถก้าวไปด้านหน้าเพียงแค่เรียนครั้งเดียว.

ด้วยเหตุนี้,กับความเร็วที่เกินที่ใครจะคาดคิด,ทั้งที่ไม่ต้องสอนอะไรมากมาย,ทำให้เขาโดดเด่นเป็นอย่างมาก.

เทียบกับคนทั่วไป,อาจารย์ต้องมาสอนแนะนำตัวต่อตัว,ถึงจะทำให้พวกเขาเข้าใจ.

ดังนั้นเพียงแค่สองเดือนแรก,การเรียนรู้พื้นฐานการต่อสู้และอาวุธ,ความโดดเด่นของซูเห่าก็ฉายแสงเผยออกมาทันที.

ห้องประชุม,อาจารย์แต่ละคนที่มารวมตัวพูดคุยกัน.

“เหล่าหลิว,อู๋เซี่ยงหวู่ในห้องของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”อาจารย์ห้องสี่ที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยสอบถามเหล่าหลิว.

อาจารย์ห้องสี่ผู้นี้มีนามว่าโม่เฟิงหัว,เป็นบุรุษอายุ 28 ที่มีแววตาคมกริบแต่มีมีผมบางเฉียบ.

หลังจากโม่เฟิงหัวเอ่ยสอบถาม,สายตาของอาจารย์ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังล้านเหล่าหลิวทันที.

เป็นความจริง,ว่าอาจารย์ทุกคนล้วนแต่สนใจนักเรียนที่โดดเด่นเป็นธรรมดา,เหล่าหลิวที่มีใบหน้ามีรอยแผลเป็นสองรอย,เผยยิ้มดูอัปลักษณ์ยิ่งนัก,เอ่ยออกมาว่า“เหลือเชื่อ,ในโลกนี้จะมีตัวตนที่มีพรสวรรค์มากมายขนาดนี้.”

อาจารย์ห้องสาม,หญิงสาวที่งดงาม,นามเฟิงม่านเอ๋อ,เผยยิ้มที่มีลักยิ้มออกมา,ยกมือปิดปากเล็กน้อย“เหล่าหลิวถึงกับออกปากชม,ดูเหมือนว่าจะไม่ธรรมดา!”

อาจารย์คนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย.

ในเวลานั้นเหล่าหลิวเอ่ยออกมาว่า“เป็นความจริงเขามีพรสวรรค์อย่างแท้จริง,เป็นอัจฉริยะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน,ข้าไม่อาจบรรยายความรู้สึกออกมาได้,ราวกับว่าไม่มีอะไรที่เขาไม่อาจทำสำเร็จ,ยากที่จะมีใครเทียบกับเขา...”

เหล่าหลี่เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง“หากเขาเติบโตอย่างราบรื่น,ข้าบอกได้เลยเพียง 20 ปี,เขาจะไปถึงบรรพชนยุทธ์หรือกระทั่งตำนานเลยก็ได้.”

อาจารย์หญิงอีกคนที่เป็นสตรีที่มีใบหน้าเคร่งขรึมนามสุ่ยเถา,ขมวดคิ้วเอ่ยด้วยความสงสัย“เหล่าหลิว,เจ้าไม่พูดเกินจริงไปหน่อยรึ?!”

เหล่าหลิวเผยยิ้ม“พวกเราก็เพียงแค่รอดู! ไม่กี่ปีหลังจากนี้ก็จะเห็นเอง”

“พูดได้ดี!”

หลังจากนั้นคนอื่นก็เปลี่ยนหัวข้อ,เฟิงม่านเอ๋อได้เอ่ยสอบถามสุ่ยเถา“เถา,ห้องของเจ้าไม่ใช่ว่ามีเด็กนามจินต้าเหยียนหรอกรึ? เขาเป็นน้องชายของจินต้าถงไม่ใช่รึ? ได้ยินมาว่าเป็นอัจฉริยะที่หายากเช่นกัน.”

เอ่ยถึงจินต้าเหยียน,สุ่ยเถาก็เผยยิ้มมุมปาก“คู่ควรที่มีสายโลหิตตระกูลจิน,นอกจากนี้เขายังฝึกฝนอย่างหนัก,มีอนาคตไร้ขีดจำกัด,กล่าวได้ว่าจะต้องก้าวไปยังขอบเขตที่สูงกว่านี้ได้แน่,นอกจากนี้ก็ยังมีโม๋ซิน,ซึ่งเป็นหนึ่งความหวังของตระกูลโม่,ที่มีพรสวรรค์ไม่ธรรมดาด้วย.”

เฟิงม่านเอ๋อที่เอ่ยด้วยความอิจฉา.“เฮ้อ,อิจฉาเจ้าจริง ๆ,ที่มีอัจฉริยะถึงสองคน,ห้องสามของข้าดูไม่ค่อยมีใครเข้าตาเลย.”

อาจารย์ห้องสี่ โม่เฟิงหัวที่เอ่ยออกมาว่า“ห้องสามของเจ้าไม่ใช่ว่ามีกงหยางหรอกรึ? ดูสูงใหญ่แข็งแกร่งไม่ธรรมดา.”

เฟิงม่านเอ๋อหัวเราะคิกคักออกมา หันหน้าไปเอ่ยกับโม่เฟิงหัว,“เหล่าหวัง,ห้องเจ้าเองไม่ใช่ว่ามีธิดาหัวแก้วหัวแหวนตระกูลจิน,จินเสี่ยวหานหรอกรึ? นางเป็นอย่างไรบ้าง?”

เหล่าหวังที่ยกมือขึ้นสีจมูก,เผยยิ้มเล็กน้อย“ก็นับว่าใช้ได้.”

เหล่าอาจารย์ที่พูดคุยกันออกรสถึงนักเรียนมีพรสวรรค์ในห้องของตัวเอง.

......

หกเดือนหลังจากนั้น,ซูเห่าที่ฝึกฝนพื้นฐานเสร็จสิ้นจนหมด,นับจากนี้นักเรียนไม่ต้องเรียนทั้งวันอีกต่อไป,อาจารย์จะคอยชี้แนะเป็นครั้งคราว,นักเรียนมีอิสระที่จะเรียนรู้ฝึกฝนยกระดับด้วยตัวเอง.

ครึ่งปีมานี้,นามซูเห่ายอดอัจฉริยะได้กระจายไปทั่วสถาบัน,ไม่เพียงแค่นักเรียนใหม่เท่านั้นที่รู้จัก,นักเรียนชั้นปีสูงขึ้นไป,ยังได้ยินชื่ออู๋เซี่ยงหวู่ด้วย.

หลังจากจบครึ่งปีของการปูพื้นฐาน,เวลาต่อไป,ก็ถึงเวลาปล่อยให้นักเรียนหาประสบการณ์แล้ว.

ในเวลานั้นนักเรียนทุกคนเห็นว่ามีนักเรียนปีสองกลุ่มหนึ่งได้มาขวางทางหาเรื่องซูเห่าทันที.

“เจ้าคืออู๋เซี่ยงหวู่อย่างงั้นรึ?”นักเรียนที่มีผมเรียบแบนคนหนึ่งที่เป็นผู้นำเข้ามาเอ่ยถาม.

หลังจากนั้นไม่นาน,นักเรียนปีสองหลายคนก็ลงไปนอนร้องโอดโอยครวญครางอยู่บนพื้น.

แน่นอนว่าเป็นฝีมือซูเห่า,เขาที่ก้าวคล้ายจะจากไป ทว่ากับวนกลับมา,ยกมือทุบตีอีกฝ่ายอีกครั้ง,จนอีกฝ่ายต้องร้องขอความเมตรตา.

ซูเห่าที่เอ่ยสอบถามนักเรียนที่ผมเรียบแป้ กลายเป็นยุ่งหยองไปแล้ว เอ่ยออกมาว่า“เจ้าอยู่ชั้นใหนอย่างงั้นรึ?”

ชายหัวเรียบกลายเป็นหยองเอ่ยตอบทันที”พวกเราเป็นนักเรียนปีสอง.

ซูเห่าพยักหน้ารับราวกับเข้าใจ,นักเรียนปีสองก็คือนักเรียนระดับชั้นปีสูงกว่าหนึ่งปีนั่นเอง.

ซูเห่าเอ่ยออกมาทันที“นักเรียนปีสองอยู่ที่ใหน,พาข้าไป!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด