ตอนที่แล้วChapter 160 The Yashan 1st time
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 162 Who is whose Savior

Chapter 161 You, need to help


你们,需要帮助吗

การฝึกบินใช้เวลาต่อเนื่องสามวัน,ท้ายที่สุดหยาซานก็สามารถรักษาสถานการณ์บินได้.

จากหวาดกลัวเวลานี้กลับกลายเป็นตื่นเต้น.

โอ้วสวรรค์,ใครจะคาดคิดว่าเขาจะสามารถบินได้.

สองวันก่อนเขายังหวาดผวาจนร่วงอยู่เลย,เวลานั้นเขารู้สึกสมองขาวโพลน กระทั่งหยุดทำงานไปเลย.

ตอนนี้เขาสามารถควบคุมมันได้,รักษาสมดุลได้อย่างรวดเร็ว,การบินเวลานี้,ไม่จำเป็นต้องให้พี่ใหญ่เหว่ยจับอีกแล้ว.

การสามารถเคลื่อนไหวบนอากาศได้อย่างอิสระ,หยาซานบอกได้คำเดียวว่า“สุดยอด!”

ความรู้สึกล่องลอยบนอากาศเช่นนี้,เป็นประสบการณ์ที่หยาซานไม่เคยประสบมาก่อน.

ส่วนการลงพื้นของหยาซาน,ซูเห่าไม่จำเป็นต้องกังวลใด ๆ.

การจอดพื้นนั้นง่ายมาก,เพียงใช้รูนปะทุบนอากาศลดความเร็วก็เพียงพอแล้ว.

ไม่ว่าอย่างไรร่างกายของหยาซานก็หนาหนังเหนียวอยู่แล้ว,ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ตายง่าย ๆ ถึงจะล่วงหล่นลงบนพื้นอย่างรุนแรงก็ตาม.

หลังจากนั้นอีกสองวัน ที่ซูเห่าสอนหยาซานบิน,เขาได้แนะนำอีกฝ่ายสองสามอย่าง,จากนั้นเขาก็ออกจากเมืองซือหลินไป.

แผนที่ทวีปแห่งนี้,ซูเห่าได้บันทึกเอาไว้ในพื้นที่พินบอลแล้ว,ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะหลงทาง.

ซูเห่าที่หาเมืองที่อยู่ห่างจากเมืองซือหลิน,ซึ่งเมืองเป้าหมายมีชื่อว่าเมืองฉีหยาง,เป็นเมืองขนาดเล็กมีขนาดไม่ต่างจากเมืองซือหลินเท่าใดนัก.

ทำไมซูเห่าถึงได้เลือกเมืองฉีหยาง? นั่นเพราะเขาเปิดแผนที่แล้วเห็นมันเป็นสถานที่แรก,ก็เลยเลือกเมืองฉีหยาง.

ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดหาใช่เรื่องสำคัญ,สิ่งสำคัญคือสิ่งที่เขาต้องการจะทำต่างหาก.

ซูเห่าที่บินออกไป,บินบนท้องฟ้า,มุ่งไปยังทิศทางเมืองฉีหยาง,ด้วยความเร็ว 2000 กมต่อชั่วโมง,บินไม่หยุด,ได้ยินเหมือนกับเสียงสายฟ้าฟาดบนท้องฟ้า.

แม้นว่าเมืองฉีหยางจะอยู่ไกลมาก,ทว่าด้วยการบินด้วยความเร็วสูง,เพียงแค่สามชั่วโมง,ก็มาถึงเมืองฉีหยางแล้ว.

หลังจากมองจากบนท้องฟ้าสูงขึ้นมาหลายพันเมตร,เมืองแห่งนี้เห็นเป็นจุดเล็ก ๆ,หากไม่เพราะสัมผัสถึงพลังงานของจูเห่าเหรินจำนวนมาก,ซูเห่าคงไม่อาจมองเห็น.

ประชากรของเมืองนี้มีอยู่ราว ๆ หนึ่งหมื่นคน,พลังจิงซีที่หนาสุดเทียบเท่ากับบรรพจารย์ขั้นสูง,หรือมนุษย์กลายพันธ์ขั้นสี่,มีอยู่ด้วยกันสองคน,ส่วนมนุษย์กลายพันธ์ขั้นสองและขั้นสามมีอยู่น้อยมาก.

ซูเห่าที่บินวนอยู่สองสามรอบ,จากนั้นก็ร่อนลงภูเขานอกเมือง.

เขาไม่เร่งรีบเข้าเมือง,ก่อนอื่นต้องหาสถานที่ก่อตั้งห้องทดลองก่อน.

ซูเห่าทำการเปลี่ยนภูเขาลูกดังกล่าว,สร้างกำแพงศิลาขึ้นมา.

ด้วยการใช้ทักษะเลือดเนื้อกลืนกิน.

เซลล์และพลังงานของเขาที่แพร่กระจายออกไป,ชั่วขณะก็เปลี่ยนภูเขาทั้งลูกกลายเป็นโลหะแปลง.

ซูเห่าไม่คิดที่จะใช้พื้นที่ทั้งภูเขา,ทว่าจำเป็นต้องสร้างห้องสิบห้อง,ห้องครัวสองห้องและห้องฟื้นฟูสุขภาพสิบห้อง.

อย่างไรก็ตามเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่,แม้นว่าจะเป็นถ้ำ,ก็จำเป็นต้องวางโครงสร้างและระบบถ่ายเทอากาศให้ดี,และเขายังสร้างระบบระบายน้ำตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างอื่นขึ้นมาด้วย.

ในเมื่อมีแผนการไว้แล้ว,ก็สามารถปรับปรุงและปรับแต่งโครงสร้างที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย.

เพียงไม่นาน,เขาก็ปรับแต่งภูเขา,ปรับปรุงส่วนที่ต้องการ,สร้างทางเข้าออก,แม้แต่บันไดขึ้นลง,แบ่งปันเป็นสัดส่วน.

หลังจากปรับปรุงภูเขาทั้งลูก,เขาก็ทำการปิดซ่อนภูเขาให้เป็นปรกติ,ไม่ให้ใครเห็นสิ่งพิเศษใด ๆ ของสถานที่ดังกล่าว.

หลังจากจัดการทั้งหมด,ซูเห่าก็ปลดทักษะเลือดเนื้อกลืนกิน,โลหะแปลงค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพปรกติเช่นเดิม.

ซูเห่าที่ก้าวลงบันได,ลงไปในอุโมงค์,เฝ้ามองพื้นที่รอบ ๆ เผยใบหน้าพึงพอใจ“โลหะเปลี่ยนรูป” ใช่งานง่ายจริง ๆ,เหมาะที่จะเป็นทักษะสร้างบ้าน!”

ยังไม่จบเท่านั้น,ซูเห่าได้ทำการสร้างสิ่งตกแต่ง,เช่นหลอดไฟ,และท่อน้ำ.

หลอดไฟนั้นง่ายมาก,เขาได้สลักอักขระ“สว่างจ้า”บนเพดาน,และยังมีอักขระผูกติด,เพื่อใช้เป็นโหนดเก็บพลังจิงซีเอาไว้,เพื่อหล่อเลี้ยงไฟบนเพดาน,ทำให้เพดานสามารถส่องแสงได้ตลอดเวลา.

โหนดเก็บจิงซีสามารถหล่อเลี้ยงอักขระสว่างจ้าได้หนึ่งวัน,หลังจากนั้นเขาจะต้องเติมจิงซีเข้ามาใหม่.

ประสิทธิภาพของโหนดเก็บพลังงานไม่ค่อยดีนัก,ทว่าซูเห่าไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก.

ก่อนหน้านี้อาจจะต้องใส่ใจ,ทว่าเวลานี้เขามีจิงซีมหาศาล,แม้นว่าจะเปลืองจิงซีสักหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา.

ส่วนท่อน้ำนั้น,เขาสามารถสร้างท่อต่อมาจากแหล่งนน้ำพุใต้ดินที่อยู่ข้างเคียงด้านนอกได้.

หลังจากจัดการเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เสร็จ,ซูเห่าก็บินตรงไปยังเมืองฉีหยาง,จากนั้นก็เข้าไปในเมืองช้า ๆ.

เมืองแห่งนี้นับว่าเป็นเมืองชนบทยิ่งกว่าเมืองซือหลินซะอีก.

ที่นี่อยู่ติดกับทะเล,ทำให้สภาพบรรยากาศค่อนข้างชื้น,ทุกหนแห่งมักจะมีน้ำขัง,ดังนั้นสิ่งก่อสร้างมักจะมีสองชั้นขึ้นไป,และผู้คนจะอาศัยอยู่บนชั้นสอง.

สิ่งสำคัญที่สุดบ้านทุกหลังนั้นแทบจะมีโครงสร้างที่ใช้กันฝนและความชื้น.

ซูเห่าก้าวเข้ามายังเมืองฉีหยาง,รู้สึกราวกับว่าได้เข้ามายังอีกโลกอีกใบหนึ่ง.

หากไม่เพราะว่าบนถนนยังมีเผ่าพันธุ์จูเห่าเหรินที่ดูยุ่งวุ่นวาย,ซูเห่าคงคิดว่าตัวเองได้ตายแล้วมาเกิดอีกโลกแล้ว.

ซูเห่าที่เอ่ยเสียงออกมาทันใดนั้นเขา,ก็พบว่าสำเนียงของเขานั้นแตกต่างจากคนอื่น.

พี่สาวคนขายผ้าห่มที่เผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“น้องชายมาจากข้างนอกสินะ! จากสำเนียงแล้ว,เหมือนกับคนภาคตะวันตก,ไม่รู้ว่ามาจากใหนอย่างงั้นรึ?”

ซูเห่าเพียงแค่ต้องการผ้าห่มและของใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น,ไม่ได้ต้องการเอ่ยอะไรมาก,จึงเอ่ยออกไปว่า“ใช่แล้ว,เมืองฉีหยางนับเป็นสถานที่ดี! ข้าเพิ่งมาจากพื้นที่ตะวันตก!”

พี่สาวขายผ้าเห็นซูเห่าไม่ได้ต้องการคุยอะไรจึงเพียงแค่เผยยิ้มเล็กน้อยและกล่าวแนะนำเกี่ยวกับยาป้องกันยุงให้,จากนั้นก็ไม่เอ่ยอะไรอีก.

ซูเห่าที่ครุ่นคิด,ยากันยุงดูเหมือนว่าจะจำเป็นเช่นกัน,หลังจากซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน,ภายใต้คำแนะนำของพี่สาวขายของ,เขาก็ซื้อยาไล่ยุงและหนอนกลับมาด้วย.

เวลาค่ำคืนที่มาถึง,ซูเห่าที่กลับมายังห้องทดลอง,พร้อมกับไปนั่งบนเตียงนอน.

“ดูเหมือน,ว่าจำเป็นต้องรอให้มืดกว่านี้สักหน่อย.”

หลังจากฟ้ามืดสนิท,ซูเห่าก็บินไปยังเมืองฉีหยาง,ในเวลานี้เขากำลังลอยอยู่บนท้องฟ้าเมืองฉีหยาง.

ซูเห่าไม่ได้ร่อนลงจอดบนพื้น,ลอยอยู่บนอากาศ,เฝ้ามองหาเหยื่อ.

......

ซูเห่ามาถึงโลกนี้,มากว่าสิบปีแล้ว,เข้าใจเกี่ยวกับโลกนี้ดี,เขาใจถึงพฤติกรรมของชาวพื้นเมืองเผ่าพันธุ์จูเห่าเหรินเป็นส่วนใหญ่.

ความเข้าใจนี้ไม่ใช่แค่เกี่ยวกับยีนเท่านั้น,ยังเข้าใจเกี่ยวกับนิสัยของพวกเขาด้วย.

เผ่าพันธุ์จูเห่าเหรินนั้นมีเมืองเล็กและหมู่บ้านจำนวนมาก,กระจายไปทั่วทั้งแผ่นดิน.

อย่างไรก็ตามตามประวัติศาสตร์เพราะการคุกคามของสัตว์ร้าย,ในอดีตทำให้เผ่าพันธ์จูเห่าเหรินชอบอาศัยกันเป็นกลุ่ม.

ทว่าพฤติกรรมดังกล่าวนี้เปลี่ยนไปเพราะการหายไปของเหล่าสัตว์ร้าย,ถึงแม้นว่าในเวลากลางวันจะยังคงปรกติ,ทว่าทุกคืนนั้นไม่ว่าจะเป็นที่ใหนเหล่ามนุษย์กลายพันธ์ก็จะออกมาต่อสู้กัน.

ซูเห่ากำลังเฝ้ามองหาคนธรรมดาที่ได้รับอุบัติเหตุจากการต่อสู้ของมนุษย์กลายพันธ์.

ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหน,ขอเพียงมีจำนวนประชากรจำนวนหนึ่ง,ก็มักจะมีมนุษย์กลายพันธ์,ออกมาไล่ล่ากันในเวลากลางคืน.

ในเวลาเดียวกันคนธรรมดาที่บริสุทธ์,มักจะได้รับบาดเจ็บอย่างช่วยไม่ได้,ส่วนจำนวนคนที่ได้รับผลกระทบนั้นก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของมนุษย์กลายพันธ์ที่ปะทะกัน.

หากทั้งสองเป็นมนุษย์กลายพันธ์ขั้นห้าต่อสู้กันในเมือง,กล่าวได้ว่าในเมืองเล็กแห่งหนึ่งอาจจะพังทลายลงไปครึ่งหนึ่งเลย.

เกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้,ซูเห่าเห็นมามาก,ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้,เขาไม่สามารถที่จะขอให้ทุกคนกินเนื้อกันและกันอย่างเป็นมิตรได้.

มันดีเท่าไหร่แล้วที่เขาสามารถทำให้เมืองซือหลินอยู่ในสภาพที่ดีขึ้น.

ในโลกนี้ยังมีเมืองใหญ่เมืองเล็กอีกมาก,กระจายไปทั้งแผ่นดิน,มือของเขาไม่อาจยื่นไปได้ทั่วถึง.

นอกจากนี้,เขายังไม่ต้องการเข้าไปจัดการอีกด้วย!

ที่เขาทำได้ก็แค่แนะนำหยาซาน,กระตุ้นจิตใจของเขา,ให้ลุกขึ้นออกไปจัดการเรื่องดังกล่าว.

อย่างไรก็ตาม,เส้นทางนี้ก็ยังยากจนเกินไป,ตราบเท่าที่ระบบยกระดับความแข็งแกร่งของโลกนี้,จะต้องใช้เนื้อของมนุษย์กลายพันธ์,การเปลี่ยนแปลงไม่ให้ผู้คนต่อสู้กันจึงนับว่ายากจะทำสำเร็จ.

เพราะมนุษย์กลายพันธ์แทบทั้งหมดทุกคนไม่อาจระงับความยั่วยวนของการวิวัฒนาการได้.

ส่วนมนุษย์กลายพันธ์ขั้นสูงเองก็ไม่เคยไว้วางใจมนุษย์กลายพันธ์ขั้นต่ำ.

ใครจะรู้ว่าตัวเองจะถูกลอบสังหารเพื่อเก็บเนื้อกันเมื่อไหร่.

“ตูมมมมม!”

ทันใดนั้นเกิดระเบิดขึ้นในเมืองฉีหยาง,ซูเห่าที่ดวงตาหรี่เล็ก,ร่อนลงพื้นที่ด้านข้าง,ลงไปยืนบนพื้นช้า ๆ.

เพียงไม่นาน,ซูเห่าก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน,เขาสูดหายใจลึก,พร้อมกับสร้างเกราะปกคลุมทั่วร่างสวมหน้ากากช้า ๆ,เพื่อปิดบังหน้าตาของเขา.

“เจ้าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด