ตอนที่แล้วNH-ตอนที่ 12 ฉันไม่ใช่หมอนักต้มตุ๋น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปNH-ตอนที่ 14 บททดสอบของเวร่า

ฺNH-ตอนที่ 13 การยอมรับจากเวร่า


เวร่า,ลุกซ์ และ เอลิออน นั่งบนหลังฮิปโปขาวโซฟีขณะที่พวกเขาเดินทางไปตามแม่น้ำ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เวร่า พา ลุกซ์ เดินทางไปด้วยกับเธอ ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างคุ้นเคยกับสถานที่สำคัญที่พวกเขากำลังผ่าน

หลังจากเดินทางมาครึ่งวัน ฮิปโปขาวก็ว่ายไปทางฝั่งแม่น้ำ และหลังจากเดินขึ้นบน เวร่า,ลุกซ์ และ เอลิออน ก็ลงจากหลังของเธอและสังเกตุสภาพแวดล้อมของพวกเขา

“พวกเราอยู่ที่ไหนงั้นหรือคุณย่า?” ลุกซ์ กล่าวถาม

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวเข้ามาที่นี่ และ เขาไม่เข้าใจว่าทำไม เวร่า ถึงพาเขามาที่นี่พร้อมกับ เอลิออน

“สถานที่แห่งนี้เรียกว่าหุบเขาเวสต์มิลล์” เวร่าตอบ “นี่คือสถานที่ที่สามารถพบมอนสเตอร์ทั่วไปและมอนสเตอร์ที่มีแรงค์ แต่หลานไม่ต้องกังวล มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในพื้นที่นี้คือมอนสเตอร์ระดับ 2 เท่านั้น ตราบใดที่หลานไม่เข้าไปในส่วนลึกของหุบเขา โอกาสที่หลานจะพบกับพวกมันก็มีน้อยมาก”

ลุกซ์ กลืนน้ำลายเพราะตามความรู้ที่เขามี มอนสเตอร์ระดับ 2 นั้นแข็งแกร่งพอ ๆ กับ พวกมือใหม่ระดับ C

ในโซไรอัส มีหลายระดับเพื่อวัดความแข็งแกร่งของแต่ละบุคคล

เฉพาะผู้ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งมือใหม่เท่านั้นถึงจะถือว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถเกินขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์

ผู้ที่ได้ขึ้นเป็นมือใหม่เท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เข้าสู่พื้นที่ส่วนกลางของ เอลิเซียม นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่มอนสเตอร์แข็งแกร่งขึ้นและมีแหล่งทรัพยากรที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

เด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป จะได้รับโอกาสให้เข้าสู่พื้นที่เริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งจะมีมอนสเตอร์ทั่วไป เช่น กระต่ายเขา ที่สามารถพบได้ทุกที่

นี่คือสถานที่ที่พวกเขาใช้ฝึกฝนความสามารถในการต่อสู้เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่ตำแหน่งมือใหม่

เนื่องจาก ลุกซ์ ไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปในเอลิเซียม ดังนั้น เวร่า จึงทำได้เพียงพาเขาไปยังสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึ่งกัน ซึ่งมันสามารถพบมอนสเตอร์ทั่วไปได้ เพราะนี่เป็นทางเดียวที่จะรู้ว่า ลุกซ์ และ เอลิออน กำลังโกหกเธออยู่หรือไม่

“มาตั้งค่ายกันก่อนเถอะ” เวร่า สั่งการขณะที่เธอหยิบกระโจมขนาดใหญ่ออกมาจากที่เก็บของ

ลุกซ์ ช่วยเหลือย่าของเขากางเต็นท์อย่างมีความสุข เพราะพวกเขาไม่ได้ออกมาเที่ยวแคมป์ปิ้งด้วยกันหลายปีแล้ว ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังทำงานบ้านง่าย ๆ เหล่านี้ได้อย่างเชี่ยวชาญเพราะเขาต้องการเป็นประโยชน์กับเธอเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาออกจากฐานที่มั่นวิลด์การ์ดไปเยี่ยมชมเมืองใกล้เคียงหรือในดินแดนของพวกเขา

หลังจากกางเต็นท์เสร็จ เวร่า ก็เริ่มเตรียมอาหารกลางวันสำหรับพวกเขา

ลุกซ์ หมกมุ่นกับการฝึกทักษะดาบของเขา เขาได้ถือความเงียบสงบที่เป็นอาวุธหายากที่ทำให้เขาสามารถเรียก หมาป่าพงไพร ออกมาช่วยเขาในการต่อสู้ได้

“ออกมา!” ลุกซ์ตะโกนออกมาขณะที่เขาเปิดใช้สกิลอัญเชิญ

ทันใดนั้น หมาป่าที่มีขนสีน้ำตาลอ่อนก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา

ลุกซ์เหลือบมองไปที่คุณย่าของเขาเพื่อดูปฏิกิริยาของเธอ แต่เธอกลับไม่แม้แต่จะเงยศีรษะขึ้นมามองและยังคงคนอาหารในหม้อต่อไป

เอลิออน ที่เห็นฉากนี้ได้หัวเราะออกมาเบา ๆ เพราะเขารู้ว่า ลุกซ์ กำลังคิดอะไรอยู่ ในฐานะเทพเจ้าแห่งเกม เขารู้ถึงระดับของ เวร่า และ การแสดงธรรมดา ๆ เช่นนี้ ไม่เพียงพอที่จะทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง แต่เพราะความระแวดระวังหรือกังวล ทำให้เธอละสายตาจากอาหารที่อยู่ตรงหน้าและเหลือบมองไปที่หลานชายของเธอชั่วครู่

อาวุธที่มีความสามารถในการอัญเชิญนั้นไม่ได้หายากในโซไรอัส ใครก็ตามที่สามารถครอบครองมันได้ก็สามารถทำสิ่งที่ลุกซ์ทำได้อย่างง่ายดาย

แน่นอนว่า ลุกซ์ ไม่รู้เรื่องนี้ เขาคิดว่าการมีอาวุธเจ๋ง ๆ สักชิ้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ย่าของเขารู้สึกประทับใจ ดังนั้น หลังจากเห็นปฏิกิริยาเฉยเมยของเธอ มันก็ทำให้เขารู้สึกปวดใจ

“เอาล่ะ ไม่ต้องรู้สึกเสียใจไป” เอลิออน ไม่สามารถเพิกเฉยท่าทีที่หดหู่ของ ลุกซ์ ได้ แต่เขาก็ไม่คิดจะเปิดเผยอะไรต่อ เวร่า เพราะเขาต้องการให้ ลุกซ์ ตัดสินใจด้วยตัวเอง “อันที่จริง ย่าของนายก็แค่ต้องการอยากจะรู้ว่านายสามารถเข้าสู่เอลิเซียมได้หรือไม่หากไม่พึ่งพาพวกสิ่งของภายนอก”

ลุกซ์ เกาหัวขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ เอลิออน ที่กำลังนั่งอยู่บนกิ่งไม้ “หรือก็คือผมไม่สามารถเรียก หมาป่าพงไพร และ เดียโบล ออกมาได้งั้นเหรอ?”

“แน่นอนว่านายสามารถทำได้” เอลิออน ตอบกลับ “ฉันแน่ใจว่าย่าของนายคงจะไม่บ่นตราบใดที่เธอเข้าใจว่านายจะไม่พึ่งพาพวกเขามากเกินไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้านายเผชิญหน้ากับผู้อัญเชิญที่ทรงพลัง นายจะโจมตีใครก่อน?”

“ผู้อัญเชิญใช่ไหม?” ลุกซ์ ตอบกลับด้วยความไม่แน่ใจ

เอลิออน พยักหน้า “ถูกต้อง เมื่อผู้อัญเชิญถูกจัดการ มอนสเตอร์ที่อัญเชิญออกมาก็จะหายไปด้วย ดังนั้น แม้ว่ามอนสเตอร์ที่อัญเชิญจะแข็งแกร่ง แต่ผู้อัญเชิญจะต้องมีวิธีป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะพวกมอนสเตอร์ระดับสูงพวกมันมีสติปัญญาสูงมาก พวกมันจะโจมตีนายโดยตรงโดยไม่สนใจมอนสเตอร์อัญเชิญของนาย”

ลุกซ์ กอดอกของเขาในขณะที่เขากำลังแยกแยะคำพูดของ เอลิออน จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่หมาป่าพงไพรที่อยู่ข้างหน้า

“บางทีผมควรจะเริ่มจากการอัปเกรดค่าสถานะส่วนตัวของผมก่อน จากนั้นก็ค่อยเสริมแกร่งให้กับเดียโบล ดีมั้ย?” ลุกซ์ กล่าวถาม

เอลิออน ยิ้มเยาะ “ลุกซ์ ไม่ว่านายจะทำสิ่งนั้นหรือไม่ก็ตาม การตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับนายเสมอ ดังนั้นอย่าให้คนอื่นมาตัดสินใจแทนนาย เพราะไม่มีใครสามารถตัดสินใจได้ว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตของนายได้ดีไปกว่าตัวนายเองแล้ว”

“แต่ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง? คุณช่วยให้คำแนะนำสักหน่อยได้มั้ย?” ลุกซ์ประสานมือด้วยกันแล้วอ้อนวอน

เอลิออน มองไปที่ เวร่า ที่กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร แต่ถึงกระนั้นเขาก็รู้ว่าเธอกำลังฟังการสนทนาของพวกเขาอยู่ และ ต้องการทดสอบเขาว่าเขาสามารถเป็นที่ปรึกษาที่ดีสำหรับลุกซ์ได้จริงไหม

เนื่องจากเป็นกรณีนี้ เอลิออน จึงตัดสินใจที่จะให้คำแนะนำที่ดีบางอย่างแก่ ลุกซ์ เพื่อให้เขาเข้าใจแนวคิดเรื่องบทบาทการต่อสู้

“นักบวช และ นักเวทย์ มักจะอยู่ด้านหลังของปาร์ตี้ ส่วนนักดาบคือผู้ปกป้อง พวกอาชีพสายระยะประชิดนั้นมักจะอยู่แนวหน้าเสมอ” เอลิออน ได้อธิบาย “นักธนูพวกเขามักจะอยู่ที่ไหนสักที่ที่พวกเขาสามารถซุ่มยิงศัตรูได้จากระยะที่ปลอดภัย”

“พวกเขาแต่ละคนล้วนมีหน้าที่และจังหวะที่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่นายต้องถามตัวเองก็คือบทบาทไหนที่เหมาะสมกับนายที่สุด นายวางแผนที่จะลุยเดี่ยวหรือร่วมทีมกับคนอื่น ๆ เนื่องจากตอนนี้นายได้เรียนรู้สกิล เนโครแมนซี่ ไปแล้ว นายสามารถทำสิ่งที่ดีที่สุดในทั้งสองโลกได้ แม้ว่านายจะไม่มีปาร์ตี้ แต่นายก็สามารถสร้างปาร์ตี้ของตัวเองขึ้นมาโดยใช้มอนสเตอร์อัญเชิญของนายได้”

เมื่อพูดถึง เนโครแมนซี่ เวร่า ก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ ลุกซ์ ที่กำลังครุ่นคิด

“ลุกซ์ นี่เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?” เวร่า กล่าวถามด้วยสีหน้าที่จริงจัง

“ครับคุณย่า” ลุกซ์ ตอบกลับ

“แสดงให้ย่าดูหน่อย”

“ครับ”

ลุกซ์ สูดลมหายใจเข้าลึก ในขณะที่เขาเปิดใช้สกิลอัญเชิญโครงกระดูก

“จงออกมา! เดียโบล!” ลุกซ์ กล่าวสั่ง

ทันใดนั้นวงเวทย์ก็ปรากฏขึ้นที่พื้นที่ด้านหน้าของเขา

วินาทีต่อมา โครงกระดูกสีขาวที่มีรอยประทับเปลวไฟบนหน้าผากก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับดาบกระดูกในมือ

เวร่า ขมวดคิ้วแน่น เพราะเธอรู้ว่าหลานชายของเธอไม่ได้มีความสามารถด้านเวทย์มนตร์แห่งความมืดมาก่อน ในความเป็นจริง เธอให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ได้บอกหรือแสดงอะไรพวกนี้ออกมา

เธอพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าหลานชายของเธอที่มักจะเป็นลมในบางสถานการณ์จะสามารถเรียนรู้เวทย์มนตร์ได้โดยที่เธอไม่รู้ตัว

ขณะที่ เวร่า ประเมินโครงกระดูกสีขาว ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเธอสังเกตุเห็นบางสิ่งที่มีเพียงผู้เชี่ยวชาญเช่นเธอเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้

“สิ่งมีชีวิตที่มีชื่อ!” เวร่า รีบเข้าไปหา โครงกระดูก

จากนั้นเธอก็ประเมินมันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้มองผิดไป

“เป็นไปได้ยังไง?” เวร่า พึมพัมออกมาด้วยความสงสัย “หลานจะมีสิ่งมีชีวิตที่มีชื่อด้วยสถานะปัจจุบันของหลานได้อย่างไร นี่เป็นฝีมือของนายใช่ไหม?” หลังจากพูดจบ เวร่า ก็หันไปมอง เอลิออน

“ฉันก็แค่ให้บางอย่างแก่เขาเท่านั้น” เอลิออน ตอบกลับ “ส่วนคนที่ตัดสินใจตั้งชื่อให้โครงกระดูกตัวนั้นก็คือลุกซ์”

เวร่า ตระหนักได้เป็นอย่างดีว่าสิ่งมีชีวิตที่มีชื่อนั้นทรงพลังเพียงใด พวกมันไม่เหมือนกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เพราะสิ่งมีชีวิตที่มีชื่อ สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอัตราที่รวดเร็วกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น นอกจากนี้พวกมันยังมีความสามารถพิเศษที่ทำให้พวกมันแตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตทั่วไป

“คุณย่าคิดว่าไง?” ลุกซ์ทุบหน้าอกของตัวเอง “ตอนนี้คุณย่าคงไม่คิดว่าผมจะไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่เอลิเซียมแล้วใช่ไหม?”

เวร่า ชำเลืองมองไปที่ เดียโบล ก่อนที่จะเปลี่ยนสายตามองไปที่หลานชายของเธอ เธอยอมรับว่าสิ่งมีชีวิตที่มีชื่อนั้นจะช่วยเหลือ ลุกซ์ ได้อย่างมากในระยะยาว แต่ปัญหาก็คือความก้าวหน้าในระยะสั้นของหลานชายของเธอ

“ในกรณีที่หลานไม่เป็นลมจากการต่อสู้ล่ะก็นะ” เวร่า ลูบผมของลุกซ์ด้วยความห่วงใย “ถ้าหลานหมดสติ ไม่ว่ามอนสเตอร์อัญเชิญของหลานจะแข็งแกร่งขนาดไหน พวกมันก็จะหายไป”

“ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับคุณย่า ผมจะไม่มีอาการหมดสติเหล่านั้นอีกต่อไป”

“เดี๋ยวพวกเราก็จะได้รู้กัน”

เอลิออน ยิ้มขณะที่เขาเฝ้าดูการล้อเล่นอย่างขี้เล่นระหว่าง คู่คุณย่าและหลานชาย ในที่สุด เวร่า ก็ยอมรับศักยภาพของลุกซ์แล้ว สิ่งที่เหลือก็คือเธอต้องการจะดูว่าชายหนุ่มผมแดงจะเป็นอย่างไรในการต่อสู้จริง

ตราบใดที่ลุกซ์ผ่านการทดสอบของคุณย่า เทพเจ้าแห่งเกม ก็มั่นใจว่า เวร่า จะให้การสนับสนุนลุกซ์อย่างเต็มที่และอนุญาติให้เขาเข้าสู่พื้นที่เริ่มต้นโดยใช้ประตูหลังที่ เอลิออน เตรียมไว้ให้เขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด