ตอนที่แล้วบทที่42
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่44

บทที่43


เซฟพาซันจิและเชฟคนอื่นๆ มาส่งรอนและพรรคพวกออกจากด้านหลังร้าน

พวกเขามองดูรอนและพรรคพวกขึ้นเรือแมรี่แล้วค่อย ๆออกทะเลไปอย่างช้า ๆ พอลับหลัง เซฟอดไม่ได้ที่จะปาดเหงื่อแล้วถอนหายใจ “อันตราย แต่โชคยังดี สุดท้ายก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร”

“นี่ หัวหน้าเชฟครับ ทหารเรือเสียชีวิตจำนวนมากแบบนี้จะทำยังไงดีครับ” พ่อครัวคนหนึ่งกระซิบถามด้านหลังเซฟ

“อะไร! กองทัพเรือพวกนั้นไม่ได้ถูกฆ่าด้วยมือของเรา แต่เป็นรอนคนนั้น กองทัพเรือจะไปหาเขาเพื่อชำระแค้นเอง” เซฟกล่าวด้วยเสียงทุ้ม “ดีใจที่รอนคนนั้นไม่ได้ไม่พอใจร้านของเรา ด้วยความแข็งแกร่งของเขา ถ้าเขาฟันใส่เราสักที เราก็คงหนีไปไหนไม่ได้”

“ใช่ เขาแข็งเกร่งมาก!” บรรดาเชฟต่างพยักหน้า พอนึกไปถึงเหตุการณ์นั้นแล้วก็อดขนลุกไม่ได้ ตอนที่รอนตัดหัวทีละคน ใจของพวกเขาก็สั่นสะท้านและไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก

“โอเค ซันจิ กลับเข้าไปข้างใจ” เซฟหันไปมองเด็กหนุ่มผมบลอนด์คิ้วม้วนข้าง ๆเขา

“อืม!” ซันจิตอบกลับ แต่เขายังคงมองตามแมรี่ไป ความแข็งแกร่งเช่นนี้ สามารถไปที่ไหนก็ได้ เพิกเฉยต่อกฎของที่ไหนก็ได้ ‘เมื่อไหร่ฉันจะแข็งแกร่งได้ขนาดนั้นนะ ถ้ามีมัน ครอบครัววินสโม๊คจะไม่สามารถทำร้ายฉันได้’

บนแมรี่ รอนนั่งลงที่เก้าอี้ตรงดาดฟ้าเรือ จิบน้ำผลไม้แล้วอาบแดด แน่นอนว่าอาหารเหล่านี้เซฟเป็นคนเตรียมเอาไว้ให้ อาหารทั้งหมด หากคิดกันจริง ๆก็คงไม่ต่ำกว่าสองสามแสนเบรี แต่เซฟคิดเขาเพียงหนึ่งแสนเบรีเท่านั้น

รอนคิดถึงการเดินทางครั้งต่อไป แผนการเดินทางของเขาคิดแกรนด์ไลน์ ที่นั่นเท่านั้นที่เขาสามารถเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติมได้ เพียงแค่เขาเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติม ค่าสถานะทั้งสี่ของเขาก็จะพัฒนาต่อไปได้

เมื่อฉันกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ฉันจะเปิดการอัพเกรดของระบบ ระบบที่อัพเกรดแล้วต้องมีคุณสมบัติเพิ่มเติมอย่างแน่นอน รอนมีความสนใจกับระบบที่อัพเกรดเป็นระดับสอง เขาสามารถเปิดระบบเพิ่มค่าสถานะให้กับผู้อื่นได้ คุณสมบัติพิเศษนี้รอนตั้งหน้าตั้งตารอมันมาก “แถมยังมีขั้นที่สาม ขั้นสี่ ระบบอีกสองขั้นสุดท้ายฉันไม่รู้ว่ามันจะมีความสามารถอะไรอีกบ้าง ฉันเดาว่าระบบระดับสี่อาจจะเป็นการยืดอายุ คาวมเป็นอมตะ เพราะนั่นคือเป้าหมายที่ฉันไล่ตามมัน”

ข้าง ๆรอน คายะกำลังอ่านหนังสือการแพทย์อย่างขะมักเขม้น และท่าทางของเธอนั้นก็น่ารักมากจริง ๆ ขณะเดียวกัน นามิก็นั่งพลิกหน้าหนังสือพิมพ์และตรวจสอบข่าวสารทุกอย่าง ส่วนทาชิงิและมากิโนะกำลังง่วงอยู่กับเรื่องอื่นในห้องโดยสาร

“นามิ ตอนนี้เรามีเงินเท่าไหร่?”

ได้ยินรอนถาม นามิซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆก็เงยหน้าขึ้นตอบว่า “เงินของเรามีไม่มาก ระหว่างการเดินทาง เราต้องเติมเสบียงหลายครั้ง ครั้งนี้แม้จะเสียไปไม่มาก แต่ก็มีราคาเป็นแสนเช่นกัน ส่วนที่เหลือมีเพียงเกือบล้านเบรีเท่านั้น”

“เงินเพียงเล็กน้อยนี้ ไม่เพียงพอที่เราจะไปสู่ทะเลที่ใหญ่แบบนี้ได้” รอนมองไปที่นามิแล้วครุ่นคิด เขาเพียงต้องการหาทางช่วยนามิ คืนความฝันให้กับเธอ กลุ่มโจรสลัดมนุษย์เงือกจะต้องมีเงินทที่ถูกขโมยไปมากมาย เขาแค่ทำลายมันไปพร้อมกันแล้วชิงเงินมา แผนการนี้เป็นแผนการที่ดีที่สุด

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ช่วงหลายปีที่ผ่านมา นามิเองก็ประหยัดเงินเอาไว้เป็นจำนวนมาก หลายปีในฐานะหัวขโมย ขโมยเงินและสมบัติของกลุ่มโจรสลัดนับไม่ถ้วน เงินที่รวบรวมไว้ได้ก็น่าจะเกือบหนึ่งร้อยล้านเบรี แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ รอนไม่อายที่จะฉกมันมา

“ใช่ มันมีไม่ถึงหนึ่งล้าน และในอนาคตเราต้องซ่อมแซมเรือ เติมเสบียงและกระทั่งในการเดินเรือ เราก็ต้องซื้อล็อกโพสต์เอาไว้ด้วย สิ่งนั้นอาจมีราคาสูง” นามิรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินเรือมาก และเมื่อเธอพูดขึ้น เธอก็รู้สึกว่าการเดิทางในอนาคตมันไม่ง่ายเลย

“อืม!” รอนพยักหน้ารับรู้แล้วกล่าวอย่างช้า ๆ “ฉันได้ยินมาว่า มีกลุ่มโจรสลัดมนุษย์เงือกที่แข็งแกร่งทรงพลังอยู่ในทะเลอีสต์บลูแห่งนี้ ชื่อหัวหน้าของพวกมั้นน่าจะชื่อว่าอารอน”

นามิตัวสั่น ใบหน้าของเธอซีดลง เธอกัดริมฝีปากสีดอกกุหลาบของเธอแน่นและมองรอนที่หางตา โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ารอนรู้ข้อมูลบางอย่างของเธอ เธอไม่แน่ใจ ดังนั้นเธอเลยแกล้งพูด “ใช่ นั่นเป็นกลุ่มโจรสลัดที่ทรงพลัง กัปตันของกลุ่มอารอนนั้นแข็งแกร่งมากและอำนาจในท้องทะเลอีสต์บลู มีกำลังพลเป็นรองแค่ดอนครีกเท่านั้น”

“ครีก!” รอยยิ้มแล้วกล่าว “ชายคนนี้ฉันรู้จัก ก่อนที่ฉันจะมีค่าหัวสามสิบล้านเบรี เขาเป็นโจรสลัดที่มีค่าหัวสูงที่สุดในทะเลอีสต์บลูตอนนั้นแล้ว แต่ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้เขาเข้าไปในแกรนด์ไลน์นี่”

“ใช่” นามิพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ดอนครีกเป็นเจ้าของเรือโจรสลัดกว่าห้าสิบลำ ไม่มีใครเทียบเข้าได้ในทะเลอีสต์บลู แม้แต่กองทัพเรือสาขาอีสต์บลูก็จับเขาไม่ได้ หลังจากทีขาสะสมพรรคพวกแล้วเขาก็เข้าไปในแกรนด์ไลน์”

“ปล่อยเขาไปเถอะ” รอนส่ายหัว “มาคุยเรื่องอารอนดีกว่า เงินเราหมดพอดี อารอนน่าจะมีสมบัติมากมายใช่ไหม เราไปหาเขาแล้ว ‘ยืม’ มาใช้กันเถอะ”

“จริง ๆเหรอ?” นามิตกตะลึง มองรอนด้วยสายตาประหลาดใจ ก่อนหน้าที่เธอจะรู้ถึงความแข็งแกร่งของรอน หลายครั้งที่เธอหาทางหนี แต่หลังจากที่ได้เห็นเธอก็ไม่คิดที่จะหลบหนีเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป แต่เธอยังคงลังเลที่จะขอให้รอนช่วยจัดการกับอารอนและช่วเหลือคนที่หมู่บ้านโคโคยาชิ

และตอนนี้รอนก็เสนอตัวที่จะจัดการอารอนก่อน ช่างโชคดีจริง ๆ

“แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง!” รอนมองไปที่นามิแล้วอมยิ้ม “เธอควรรู้จักสถานที่นี้ดีใช่ไหม? ไม่สิ เธอต้องรู้ เพราะเธอเป็นต้นหนเรืออัจฉริยะ เธอต้องพาเราไปได้!”

“ตกลง!” นามิกำลังดีใจและไม่ได้สนใจรอยยิ้มแปลก ๆของรอนเลย กลับกัน เธอรีบลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้นและเริ่มควบคุมแมรี่ให้ไปทางหมู่บ้านโคโคยาชิทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด