ตอนที่แล้วChapter 188 The Xumi founder is in danger, Red Lotus Buddha golden body came into being
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 190 The Luo Shui jade flute directed bidding, Demon Dragon Palace mainly to decide

Chapter 189 Battling Heaven City Qi Yuan arrives, all parties get together in Four Sided Sea


战天城齐元亲临,各方齐聚四方海(一更)

“ไม่คาดคิดเลยว่าร่างทองคำสหายน้อยอรหันต์หงเหลียนจะปรากฏขึ้นที่นี่.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยออกมาด้วยอารมณ์ความรู้สึก.

อรหันต์หงเหลียนเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดฝีมือยุคหมื่นทวยเทพ,เป็นศิษย์อันดับหนึ่งของวังเทวะเป่ยโตว,เป็นศิษย์พี่ของเทพธิดาโหลวสุ่ย.

Listens to Dragon Horn Golden Bull to call Red Lotus Buddha for the little fellow, Xumi founder Wu Zhe is stunned, he hesitates saying: „Moreover some people said, above the Red Lotus Buddha golden body, there is treasure map that Big Dipper Divine Palace Palace Lord keeps.”

ได้ยินวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยถึงอรหันต์หงเหลียนว่าสหายน้อย,เจ้าอาวาสนิกายซู่มี่อู๋เจ๋อถึงกับตื่นตะลึง,เขาเอ่ยออกมาอย่างลังเล“นอกจากนี้ยังมีคนเอ่ยว่า,บนกายาทองคำของอรหันต์หงเหลียนนั้น,มีแผนที่สมบัติของวังศักดิ์สิทธิ์เป่ยโตวด้วย.”

“แผนที่สมบัติ!”ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยความประหลาดใจออกมา.

อู๋เจ๋อพยักหน้ารับ.“ใช่,เป็นแผนที่ของวังเทวะเป่ยโตว,ทว่ามีเพียงแค่ครึ่งเดียว,ได้ยินมาว่าอีกครึ่งหนึ่งนั้นอยู่กับศิษย์คนเล็กเทพธิดาโหลวสุ่ย.”

“โหลวสุ่ย.”ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่เผยท่าทางตกใจขึ้นมาอีกครั้ง.

“แม้นว่าจะเป็นแผนที่เพียงครึ่งเดียว,ทว่าก็พอทำให้กลุ่มอิทธิพลมากมายเคลื่อนไหว.”อู่เจ๋อเอ่ย“ตอนนี้เผ่าปิศาจ,แม้แต่เผ่ามนุษย์ต้นไม้,เผ่ายักษ์ทองคำต่างก็เข้ามาในทะเลซือฟางมากมาย.”

เป็นเช่นนี้นะเอง.

ไม่แปลกใจเลยว่าในทะเลซือฟางเวลานี้มีเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย.

ดูเหมือนว่าจะมาเพื่อกายาทองคำกันทั้งนั้น รวมทั้งยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ด้วย.

จากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันนานเหมือนกันขณะเดินทางก่อนจะมาถึงเมืองแห่งหนึ่ง.

ที่ด้านหน้าประตูเมืองนั้นปรากฏชื่อ เมืองหลานจิง,เป็นหนึ่งในเมืองมีชื่อของทะเลซือฟาง.

ที่นี่มีหอการค้าของเผ่ามนุษย์มากมายที่เข้ามาในทะเลซือฟาง,และมักจะมาตั้งถิ่นฐานในเมืองหลานจิง,นอกจากนี้ยังมีหอการค้าของเผ่าพันธุ์อื่น ๆ อีกไม่น้อย ที่มาตั้งสาขาที่นี่เช่นกัน.

ลู่อี้ผิงทั้งสามคนที่เข้าไปในเมืองหลานจิง,เวลานี้ผู้คนคับคั่ง,ยอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ที่หลั่งไหลเข้ามา.

“ได้ยินมาว่ามีใครบางคนได้ให้วังถามสวรรค์ประมูลสมบัติยุคปฐมกาลด้วย.”

“สมบัติยุคปฐมกาล? เป็นไปไม่ได้! สมบัติล้ำค่าเพียงนั้นยังมีคนนำออกมาประมูลอีกรึ?”

“วังถามสวรรค์ได้ประเมินแล้ว,ว่าเป็นสมบัติยุคปฐมกาลจริง ๆ,กล่าวได้ว่าเป็นศิลาสีเงิน,มีขนาดสูงกว่าสองเมตร,มีน้ำหนักมาก,ต้องใช้เหล่ายอดฝีมือจ้าวพิภพทั้งหมดแม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ของวังถามสวรรค์จำนวนมากทำการเคลื่อนที่มา.”

“ไม่เกินจริงไปรึ?ต้องใช้จ้าวพิภพทั้งหมดของวังถามสวรรค์และผู้ยิ่งใหญ่ยกมา?”

ผู้คนต่างก็พูดคุยหารือกันอย่างออกรส.

ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำจ้องมองหน้ากันและกัน,เป็นศิลาปู้โจวหรือไม่?

มีเพียงแค่ศิลาปู้โจวเท่านั้นที่จะมีน้ำหนักจนน่าขนลุก.

“สหาย,ที่เจ้ากล่าวเมื่อครู่,วังถามสวรรค์จะประมูลศิลาสีเงินอย่างงั้นรึ?”ลู่อี้ผิงที่ก้าวเข้าไปหากลุ่มคนที่พูดคุยกันก่อนหน้านี้,พร้อมกับส่งศิลาวิญญาณเกรดสวรรค์ให้กับพวกเขา.

ฝ่ายตรงข้ามที่รับศิลาวิญญาณเกรดสวรรค์,ด้วยใบหน้างง ๆ.

แม้แต่หนึ่งในนั้นแทบไม่อยากเชื่อถึงกับต้องตบหน้าตัวเอง.

หลังจากพวกเขาได้สติ,ท้ายที่สุดก็เร่งรีบลุกขึ้น,เชิญพวกลู่อี้ผิงนั่ง.

“ใช่แล้ว,สามวันหลังจากนี้จะมีการประมูลแร่ศิลาสีเงิน.”หนึ่งในนั้นเอ่ย“ได้ยินมาว่านอกจากแร่สีเงินแล้ว,ยังมีสมบัติของซือจุ้นยุคโบราณด้วย.”

“ซือจุ้นยุคโบราณอย่างงั้นรึ?”ลู่อีผิ้งตะลึงงัน.

“ใช่ ๆ.”อีกคนพยักหน้า เอ่ยออกมาว่า“มีบางคนว่าบอกว่าเป็นหยกที่ซือจุ้นยุคโบราณสวม,บางคนก็เอ่ยว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะที่ซือจุ้นยุคโบราณหลอมขึ้นมา,บางคนก็บอกว่าเป็นตำราวิชาลับที่ซือจุ้นยุคโบราณเคยบ่มเพาะ.”

“ศิลาสีเงิน,ควรจะเป็นชิ้นส่วนของเทือกเขาเทวะยุคปฐมกาล,เผ่ามนุษย์พฤกษา,เผ่ายักษาต่างก็เดินทางมายังเมืองหลานจิง,เพื่อศิลาก้อนนี้.”อีกคนที่เอ่ยเสริม“ได้ยินมาว่ากายาทองคำอรหันต์หงเหลียนที่ปรากฏขึ้นมา,ทำให้ทะเลซือฟางไม่ค่อยสงบนัก.”

“ทะเลซือฟางเป็นดินแดนของวังมังกรปิศาจ,จะมีใครกล้าสร้างความวุ่นวายอีกรึ?”

“ก็อาจจะ,หากเป็นสมบัติทั่วไปก็คงไม่,อย่างไรก็ตาม,กายาทองคำอรหันต์หงเหลียนนั้น,เพียงพอที่จะทำให้กลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ยินดีเสี่ยงอันตรายก็ได้.”

หลาย ๆ คน ต่างก็แสดงความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป.

ลู่อี้ผิงที่เอ่ยสอบถามปัญหาอีกหลายอย่าง,จากนั้นก็กล่าวลา,นำวัวกระทิงมังกรเขาทองคำและเจ้าอาวาสซู่มี่ อู๋เจ๋อจากไป.

หลังจากที่ลู่อี้ผิงจากไป,มีใครบางคนที่เห็นชุดสีน้ำเงินที่ลู่อี้ผิงใส่,ก็เอ่ยออกมาว่า“เจ้าว่า,คนผู้นี้คืออาจารย์นักบุญปิศาจหรือไม่?”

หลาย ๆ คนที่หัวเราะครืนออกมา.

“สหาย,เจ้าจะเพ้อเจ้อไปไกลแล้ว,คนสวมชุดน้ำเงินมีอยู่มากมาย,เจ้าคิดว่าเจ้าอยู่ ๆ กับโชคดีขี้หมาวิ่งเข้าไปชนกับยอดฝีมือ,พบกับอาจารย์นักบุญปิศาจเข้ารึไง?”ใครบางคนที่หัวเราะลั่น.

“ก็ไม่แน่.”ชายคนดังกล่าวที่เผยยิ้ม“หากคนผู้นั้นเป็นอาจารย์นักบุญปิศาจ,ศิลาวิญญาณเกรดสวรรค์ที่อาจารย์นักบุญปิศาจให้พวกเรามา,ย่อมมีกลิ่นอายของอาจารย์นักบุญปิศาจอยู่,หลังจากนี้จะต้องเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน.”

พวกเขาที่พูดคุยด้วยความสนุกสนาน,โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายก็คือลู่อี้ผิงจริง ๆ,ซึ่งอีกฝ่ายจากมาแล้วได้ไปยังโรงเตี้ยมแห่งหนึ่ง,เพื่อพักชั่วคราว,รอสามวันเพื่อเข้าร่วมงานประมูล,และค้นหาที่อยู่ราชันย์หมาป่ายวีเมียนและหาข่าวของกายาทองคำอรหันต์หงเหลียน.

ลู่อี้ผิงเอ่ยกับตัวเอง,ราชันย์หมาป่ายวีเมียนมายังทะเลซือฟาง,เพราะว่ากายาทองคำอรหันต์หงเหลียนหรือไม่?

เป็นไปได้ว่าราชันย์หมาป่ายวีเมียนั้นรู้มานานแล้วว่ากายาทองคำอรหันต์หงเหลียนจะปรากฏใช่ใหม?

ไม่เช่นนั้น,คงไม่เดินทางมาที่ทะเลซือฟางก่อนหนึ่งเดือน.

อย่างไรก็ตาม,สิ่งที่วังถามสวรรค์จะประมูล สิ่งของเกี่ยวกับเขานั้น,มันคืออะไรกัน?

ลู่อี้ผิงที่เต็มไปด้วยความสงสัย.

ขณะที่ทั้งสามกำลังรอคอยงานประมูลของวังถามสวรรค์,ก็มีใครบางคนเอ่ยออกมาว่ามีผู้ยิ่งใหญ่บางคนได้เข้ามายังทะเลซือฟางกระจายข่าวออกมา.

มีเหล่าอสุรกายชรายุคนักบุญปิศาจแม้แต่ยุคจ้านเทียน,ได้เข้ามาในทะเลซือฟาง.

“คนของเมืองจ้านเทียนเองก็มา!”

ข่าวดังกล่าวทำให้ทะเลซือฟางสั่นสะเทือนทันที.

“เจ้าเมืองจ้านเทียน,ท่านฉีหยวนและท่านฉีอ้าวซือ เดินทางมาในครั้งนี้.”

“ยอดฝีมือเมืองจ้านเทียนแทบจะมากันทั้งหมด.”ใครบางคนเอ่ยด้วยความตื่นเต้น.

เมืองจ้านเทียน,ฉีหยวน!

บุตรชายเพียงคนเดียวของฉีจ้านเทียน.

กล่าวถึงชื่อเสียงของเขาเอ่ยได้ว่าเป็นสุดยอดฝีมือยุคถัดมาจากหลงกัง.

การมาของฉีหยวน,ทำให้ทะเลซือฟางคึกคักขึ้นมาทันที.

“ทว่า,ไม่เห็นท่านฉีหยวนขี่ราชรถเทวะจ้านเทียนมาเลย?”

“เจ้าไม่ได้ข่าวงั้นรึ? ราชรถเทวะจ้านเทียนนั้นถูกเทพสงครามเก้าโคจรผู้ใต้บังคับบัญชาของอาจารย์นักบุญปิศาจทุบไปแล้ว,แม้แต่ล้อทั้งสี่ยังหักพัง,เกรงว่าราชรถเทวะจ้านเทียนคงไม่อาจซ่อมได้แล้ว.”

“ราชรถเทวะจ้านเทียน,ไม่ใช่ว่ามีค่ายกลที่ท่านฉีจ้านเทียนวางไว้หรอกรึ? คาดไม่ถึงว่าจะพัง.”

“มีค่ายกลที่ท่านฉีจ้านเทียนติดตั้งไว้ก็จริง,ทว่าท่านฉีอ้าวซือไม่อาจควบคุมได้สมบูรณ์,ดังนั้นจึงไม่อาจใช้พลังที่แท้จริงของค่ายกลได้,มันจึงถูกทุบพังลง,เวลานั้นแม้แต่ท่านฉีหยวนลงมือเอง,เกรงว่าราชรถเทวะจ้านเทียนเองก็คงพังทลายเช่นกัน.”

ในเมืองหลานจิง,บนถนนใหญ่ถนนเล็กผู้คนต่างก็พูดคุยกันเรื่องราชรถเทวะจ้านเทียนกันอย่างออกรส.

แม้นว่าบางคน ยังเอ่ยออกมาด้วยซ้ำ ว่าการที่ฉีหยวนออกมาจากเมืองจ้านเทียนครั้งนี้,ไม่ได้มาเพราะกายาอรหันต์หงเหลียน,แต่มาเพราะเรื่องอาจารย์นักบุญปิศาจ,เขาต้องการประลองกับอาจารย์นักบุญปิศาจ,เพื่อฟื้นฟูชื่อเสียงเมืองจ้านเทียน.

หลายคนที่พูดคุยไปต่าง ๆ นา ๆ,ทำให้ลู่อี้ผิงเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

ภายในเมืองหลานจิงเวลานี้มียอดฝีมือเดินทางมามากขึ้นและก็มากขึ้น.

ยิ่งสามวันนี้ก่อนงานประมูลก็ยิ่งคึกคักเป็นอย่างมาก.

วันประมูล,พวกลู่อี้ผิงที่ออกจากโรงเตี้ยมก่อนเวลา,เพื่อเข้าร่วมงานประมูลของวังถามสวรรค์.

ลานประมูลวังถามสวรรค์,เวลานี้มีราชรถที่หรูหรามากมายจอดเต็มไปหมด.

“เป็นเจ้า!”ขณะที่พวกลู่อี้ผิงกำลังเดินทางเข้าร่วมงานประมูล,ก็พบเข้ากับยวีคุนบรรพชนชรานิกายเต๋าโถวโหลว,ครานี้,พวกยวีคุนทั้งสี่ก้าวตามชายชราสองคนด้วยความเคารพ.

เห็นชายชราสองคน,อู๋เจ๋อที่ตกใจ,สหายแฝดดำขาวรึ?

สหายแฝดดำขาวก็คือไท่จู่นิกายเต๋าโถวโหลว,เป็นผู้ยิ่งใหญ่ยุคจ้านเทียนนั่นเอง.

พวกยวีคุนเอ่ยรายงานต่อไท่จู่สหายแฝดดำขาว,ทันใดนั้นทำให้พวกเขาประหลาดใจออกมา,เวลานี้จ้องมองลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเขม็ง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด