ตอนที่แล้วChapter 180 Do most also three lines shine?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 182 I revealed shortcomings

Chapter 181 Hundred Phoenixes Zither Immortal asserted


百凰琴仙断言(四更)

สี่แถว!

เห่าเหลียนยวีแทบสำลักน้ำลายตัวเอง,ทำให้เขากลายเป็นเงียบไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาอีก.

ฉีหวยที่ตื่นตะลึงไปเหมือนกัน.

ส่วนเฉินหานเสวี๋ยที่เวลานี้หัวใจสั่นไหวไปมา.

เทียบกับคนอื่น ๆ,นางเข้าใจแจ่มแจ้งกับที่มาของเสาศิลา,เข้าใจวิถีกู่ฉินอย่างชัดเจน,นางที่ตระหนักรู้เสาศิลา,และปรึกษาหารือกับยอดฝีมือวิถีกู่ฉินมา มากมายหลายคน,แม้แต่ปรึกษาบิดาของนาง,ก็ตระหนักรู้ได้เพียงแค่สี่บรรทัด,นอกจากนี้ยังใช้เวลาสองสามร้อยปีด้วยซ้ำ.

ส่วนคนตระกูลกู่,ไม่ถึงชั่วโมงก็ตระหนักรู้ได้สี่บรรทัดแล้ว!

มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว.

ในโลกนี้,มีคนที่มีพรสวรรค์วิถีกู่ฉินที่เลิศล้ำเช่นนี้ด้วยรึ?

ทว่าเฉินหานเสวี่ย,ฉีหวยและเห่าเหลียนกำลังพูดคุยกันนั้น,คนอื่น ๆ ต่างได้ยิน,โดยเฉพาะเหล่าผู้ฝึกตนสตรีต่างก็จ้องมองลู่อี้ผิงด้วยแววตาหยาดเยิ้ม.

ซุนไห่เฟยที่เอ่ยด้วยความประหลาดใจ“ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะมีพรสวรรค์วิถีกู่ฉินที่เลิศล้ำขนาดนี้.”

เฉินฉงเถาที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“สี่บรรทัด,ญาติผู้น้องของข้าก็ตระหนักรู้ได้สี่บรรทัดเช่นกัน,เขาตระหนักรู้ได้สี่บรรทัด,ไม่เห็นมีอะไรต่าง.”

ทันใดนั้น,เสาศิลาก็ส่องสว่างบรรทัดที่ห้า,นอกจากนี้ยังส่องสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าเดิมอีกด้วย.

เมื่อปรากฏบรรทัดที่ห้านอกจากแสงอักขระที่ส่องสว่าง,ยังมีเสียงดังหวึ่ง ๆ ออกมาจากเสาศิลาด้วย.

เฉินหานเสวี๋ยที่เห็นอักขระบรรทัดที่ห้าที่ส่องสว่างแล้ว ดวงตาของนางที่เบิกกว้าง,รู้สึกแทบสลบไปในบัดดล.

“บรรทัดนี้คืออะไร? จิตวิญญาณเสาศิลาอย่างงั้นรึ?”เห่าเหลียนยวีเผยความสงสัย.

“ไม่ใช่จิตวิญญาณ!”ฉีหวยส่ายหน้าไปมา,เอ่ยออกไปว่า“บรรทัดนี้น่าจะกระตุ้นอำนาจวิถีกู่ฉินกำเนิดพลังขึ้นมา.”

ที่จริง,เขาไม่อาจยืนยันได้อย่างแน่นอนนัก.

ฉีหวยที่ถอนหายใจยาว,“ไม่คาดคิดเลยว่าคนตระกูลกู่จะมีพรสวรรค์วิถีกู่ฉินที่สูงเช่นนี้.”

หานเหลียนยวีที่จ้องมองเฉินหานเสวี๋ยที่ดวงตาลุกโชนวับวาวเมื่อจ้องมองลู่อี้ผิง,ทำให้ภายในใจของเขาไม่ค่อยสบายใจนัก,เอ่ยออกมาว่า“บางทีคนตระกูลกู่,คงเคยตระหนักรู้เสาศิลาวิถีกู่ฉินมาก่อน,ดังนั้นจึงตระหนักรู้ได้เร็วเพียงนี้,นอกจากนี้เท่าที่ข้าเห็น,ขีดจำกัดของเขาเองคงแค่ห้าบรรทัดเท่านั้น.”

เฉินหานเสวี๋ยที่อ้าปากค้างไปชั่วครู่”อาจารย์หานฮัวเคยเอ่ยไว้ว่า,จวบจนถึงตอนนี้ในโลกใบนี้,ถึงแม้นว่าจะมีวิถีกู่ฉินสูงเพียงใด,มีพรสวรรค์มากแค่ใหน,ชั่วชีวิตนี้,ก็ตระหนักรู้ได้เพียงแค่ห้าบรรทัดเป็นขีดจำกัดแล้ว.

“ไม่เคยมีใครสามารถตระหนักรู้ได้ถึงบรรทัดที่หก!”

ฉีหวยได้ยิน,ก็เผยความประหลาดใจ“อาวุโสหานฮัว,ก็คือเจ้าของฉายา เซียนกู่ฉินร้อยฟินิกซ์?”

เซียนกู่ฉินร้อยฟินิกซ์!

ในโหยวหมิง,วิถีกู่ฉินของอีกฝ่ายถือเป็นหนึ่งในสามตัวตนที่ไร้เทียมทานของยุค.

ไม่คาดคิดเลยว่าหานฮัวจะรับเฉินหานเสวี๋ยเป็นศิษย์.

เห่าเหลียนยวีเองก็ประหลาดใจไม่น้อย.

เฉินหานเสวี๋ยที่พยักหน้ารับ“ถูกต้อง,อาจารย์ของข้าหานฮัวก็คือเซียนกู่ฉินร้อยฟินิกซ์.”นางมั่นใจในคำพูดของอาจารย์ของนางมาก,นอกจากนี้เสาศิลานี้ก็คือสมบัติของศาลสวรรค์ยุคปรัมปรา,ในยุคปัจจุบันการตระหนักรู้ห้าบรรทัดคือขีดจำกัดอย่างไม่ต้องสงสัย.

“แม้แต่อาวุโสเซียนกู่ฉินร้อยฟินิกซ์ยังเอ่ยเช่นนั้น,รับรองไม่มีผิดแน่.”เห่าเหลียนยวีเอ่ย.

เฉินหานเสวี๋ยที่เพิ่งเอ่ยปาก,ทว่าเวลานี้,ดวงตาคู่งามของนางที่แทบถลนออกมา,เมื่อเห็นบรรทัดที่หกของเสาศิลาปรากฏแสงสว่างขึ้นอีก.

เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ,บรรทัดที่หกก็ส่องสว่างจ้าแล้ว.

นอกจากนี้ยังส่องสว่างติด ๆ กันทิ้งระยะไม่นานอีกด้วย.

เฉินหานเสวี๋ยที่กลายเป็นงงงวย.

ฉีหวยและหานเหลียงยวีที่ตะลึงงัน,เฉินหานเสวี๋ยที่ไม่เอ่ยอะไรอีก,อาวุโสเซียนกู่ฉินร้อยฟินิกซ์,บอกว่าในยุคปัจจุบันมีคนตระหนักรู้ได้เพียงแค่ห้าบรรทัดไม่ใช่รึ?

เฉินหานเสวี๋ยที่จ้องมองไปยังบรรทัดอักขระแถวที่หกส่องสว่าง,อาจารย์ของนางพูดผิดอย่างงั้นรึ?

ในยุคปัจจุบัน,ขีดจำกัดคือบรรทัดที่หกหรือไม่?

ในเวลานั้น,บรรทัดอักขระที่เจ็ดก็ส่องสว่างวับวาวขึ้นมาอีก.

เพิ่มขึ้นมาอีกแถวแล้ว.

อักขระที่ดูเลือนลานก็ชัดเจน,รวมตัวกันขึ้นอย่างสมบูรณ์.

เฉินหานเสวี๋ยที่สะดุ้งตกใจ.

คาดไม่ถึงขีดจำกัดไม่ใช่หกแถว,แต่เป็นเจ็ดแถวอย่างงั้นรึ?

ในเวลาเดียวกัน,บรรทัดที่แปดก็ส่องสว่างขึ้นอีกครั้ง.

เสาศิลาที่ส่องสว่างเจิดจ้าปกคลุมพื้นที่รอบ ๆ.

แสงส่องสว่างราวกับว่าเสาศิลาได้กลายเป็นดวงตะวันอีกดวงไปแล้ว.

ซุนไห่เฟยถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่,เอ่ยออกมาเสียงสั่น“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ตระหนักรู้ได้สี่บรรทัด,เจ้าคนตระกู่นั่นกับตระหนักรู้ได้แปดบรรทัดอย่างงั้นรึ? มีอะไรผิดพลาดหรือไม่?”

ผิดลาดอย่างงั้นรึ?

มีผู้ฝึกตนมากมายต่างก็เห็นเหมือน ๆ กัน จะมีอะไรผิดพลาดกัน.

ทุกคนต่างก็รับรู้,ธิดาศักดิ์สิทธิ์เผ่ามนุษย์เฉินหานเสวี๋ย,นอกจากวิถีปรุงยา,ยังมีวิถีกู่ฉินที่สูงล้ำ,แม้แต่เฉินหานเสวี๋ยยังตระหนักรู้ได้เพียงแค่สี่รรทัด,คนของตระกูลกู่กับตระหนักรู้ได้ถึงแปดบรรทัด?

ขณะที่ผู้คนมากมายที่กำลังตกใจสงสัย,บรรทัดที่เก้าและสิบก็ส่องสว่างขึ้นมาแล้ว.

ในเวลานี้รัศมีแสงที่ส่องสว่างไปทั่วลานด้านในแม้แต่ส่องออกไปถึงลานด้านนอก!

อักขระที่ลึกล้ำยากจะมองได้ชัดส่องสว่างรวมตัวเป็นอักขระที่ชัดเจนขึ้นแล้ว.

เฉินหานเสวี๋ยเวลานี้ตื่นตะลึงอย่างหนัก.

คนตระกูลกู่,ใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงตระหนักรู้สิบบรรทัดแล้ว.

นอกจากนี้จากที่เห็นสิบบรรทัดก็ไม่ใช่ขีดจำกัดด้วย!

แล้ว,ขีดจำกัดคือกี่บรรทัดกัน?

ภายใต้สายตาทุกคนที่จับจ้อง,บรรทัดของเสาศิลาก็ส่องสว่างติดต่อกันอย่างรวดเร็วจนถึงบรรทัดที่ 20 แล้ว!

เมื่อถึงบรรทัดที่ 20 ,ทุกอย่างก็กลายเป็นเงียบลง.

แม้แต่เฉินหานเสวี๋ยยังกลายเป็นกระวนกระวายใจไปด้วย.

อักขระบนเสาศิลานั้นมีทั้งหมด 27 แถว.

ตอนนี้เหลือเพียงแค่เจ็ดแถวเท่านั้นที่ยังไม่ส่องสว่าง.

ขอเพียงคนตระกูลกู่ตระหนักรู้ได้อีกเจ็ดแถว,ก็จะสามารถตระหนักรู้วิถีกู่ฉินทั้งหมดบนเสาศิลาได้,เมื่อถึงเวลานั้น,จะเกิดอะไรขึ้นกัน?

“คนตระกูลกู่ไม่ใช่ว่าจะสามารถตระหนักรู้ได้ถึง 27 แถวสมบูรณ์หรอกนะ?”ซุนเซียวเฟยที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.

27 แถว.

ทั้งที่แม้แต่ธิดาศักดิ์สิทธิ์เผ่ามนุษย์ยังตระหนักได้เพียงแค่สี่แถวเท่านั้น.

หลายคนที่ช่วยไม่ได้ที่ต้องหันหน้าไปมองเฉินหานเสวี๋ย.

เพียงไม่นานท้ายที่สุด อักขระ 26 แถวก็ส่องสว่าง.

เมื่อส่องสว่าง 26 แถว,ทุกคนต่างก็หัวใจรัดแน่นไปตาม ๆ กัน.

เฉินหานเสวี๋ยที่จ้องมองผู้เยาว์ด้านหน้าไม่วางตา,นี่เขาสามารถตระหนักรู้ได้ทั้ง 27 แถวจริง ๆ รึ?

ในเวลานี้,เวลาที่หยุดนิ่งราวกับว่าแต่ละเสี้ยววินาทีจะผ่านไปนานแสนนาน.

จากนั้นอักขระแถวที่ 27 ก็ส่องสว่าง,ทันใดนั้น,เสาสิลาก็เริ่มบรรเลงเพลงสวรรค์,เพลงสวรรค์,ที่สร้างตัวโน๊ตเพลงขึ้นบนอากาศ,ตัวแล้วตัวเล่า,หมุนวนโคจรไปมาบนอากาศ,เกิดปรากฏการสวรรค์ขึ้นบนท้องฟ้าทั่วลานสวน่ของคฤหาสน์แห่งนี้.

ทว่าความลึกล้ำจากอักขระที่ส่องสว่างแผ่รัศมีแสงนั้นมันได้ผสานรวมเข้ามาในร่างของลู่อี้ผิง,จากนั้นก็หายไปในที่สุด.

ทุกคนที่เห็น,ถึงกับตื่นตะลึงไปในทันที.

เพลงสวรรค์ยังคงบรรเลงต่อไปเรื่อย ๆ,เป็นเวลา กว่าสิบนาทีถึงค่อย ๆ จางหายไป.

ทั่วสวนที่กลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิม.

เสาศิลาไม่เปล่งแสงออกมาอีก.

เฉินหานเสวี๋ยที่นิ่งงันเป็นเวลานาน,ก่อนจะสูดหายใจลึก,ระงับความตื่นเต้นในใจเอาไว้,จากนั้นก็ก้าวไปหาลู่อี้ผิง.

ฉีหวย,เห่าเหลียนยวีที่ก้าวตามไปเช่นกัน.

เฉินหานเสวี๋ยที่เดินมาถึงด้านหน้าลู่อี้ผิง,เอ่ยออกมาว่า“คุณชายเป็นคนของตระกุลกู่โรงเตี้ยมอู๋ซ่วงอย่างงั้นรึ? พรสวรรค์กู่ฉินคุณชายสูงล้ำ,ชั่วชีวิตนี้หานเสวี๋ยเพิ่งเห็นเป็นคนแรก,ไม่รู้ว่าจะสามารถหารือวิถีกู่ฉินกับคุณชายได้หรือไม่?”

ในเวลานั้น,เห่าเหลียนยวีที่เอ่ยปาก“วันนี้งานชุมนุมวิถีปรุงยา,จะให้พูดคุยวิถีกู่ฉินคงไม่เหมาะจริง ๆ.”จากนั้นเขาจ้องมองไปยังลู่อี้ผิง“ในเมื่อวิถีกู่ฉินของเจ้าก็ใช้ได้,วิถีปรุงยาก็คงไม่อ่อนด้อยกระมั้ง,พวกเราทั้งสองมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์วิถีปรุงยาพร้อมกับทุกคนเป็นอย่างไร.”

ฉีหวยที่เผยยิ้ม“สงสัยว่าวิถีปรุงยาสหายตระกูลกู่เป็นเช่นไร.”

เฉินหานเสวี๋ยได้ยินคำพูดดังกล่าว,ไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด,ที่จริงนางก็สงสัยเกี่ยวกับวิถีปรุงยาของคนตระกูลกู่ด้วย.

ลู่อี้ผิงที่จ้องมองไปยังเห่าเหลียนยวี,“เจ้าคือหลานของราชันย์หมาป่ายวีเมี่ยนอย่างงั้นรึ?”

หลายคนที่ไม่รู้จักสถานะของเห่าเหลียนยวี,ทว่าเมื่อได้ยินว่าเห่าเหลียนยวีเป็นหลานราชันย์หมาป่า,ก็ตกใจไปตาม ๆ กัน.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด