ตอนที่แล้วตอนที่ 1177 สงสัย ข้อบกพร่อง หลอกลวง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1179 คนรุ่นใหม่ผู้ตัดสินอนาคต!

ตอนที่ 1178 ผ่านได้แม้แกล้งล้มเหลว


ยากจะพูดได้

สถานการณ์ปัจจุบันของเย่ว์หยางเหมือนกับอมบอระเพ็ดยากจะบอกความขมขื่นได้ และคนที่วางตัวเป็นสายลับไม่สามารถอาละวาดได้

แต่วิธีจะพิสูจน์ว่าเขาเป็นเทพหรดีซาฟงนั้นง่าย  ส่วนวิธีพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่เทพอีสานชิงหวินนั้นยาก!  แต่ถ้าไม่พูดถึงตัวเขา  เฮยโจ้วซวงหานและจ้าวซีจะสงสัยตัวเขาได้ง่าย ทั้งซวงหานและเฮยโจวยังไม่เท่าใด แต่ต่อหน้าจ้าวซีเทพอุดรผู้ลึกลับและไม่ค่อยใส่ใจเขาไม่ใส่ใจก็คงไม่ได้

ทั่วทั้งขุนเขาเหนือขุนเขาเย่ว์หยางรู้สึกว่าสองคนนี้อาจมองเห็นสถานะของเขา

คนหนึ่งคือจีอู๋ลี่

คนที่สองคือเทพอุดรจ้าวซี

แกล้งเป็นเทพหรดีซาฟงให้ได้เขาต้องผ่านเทพอุดรจ้าวซี

“แล้วไงข้าเป็นชิงหวิน แล้วเจ้าต้องการอะไร?” เย่ว์หยางยิ้มสู้การยอมรับว่าเขาคือเทพอีสานชิงหวินเกินคาดเฮยโจวและซวงหานไปมาก

“อย่าโมโหซวงหานเลยเขาไม่ได้ตั้งใจสงสัยเจ้า  ก็แค่ล้อเล่น!”  เฮยโจวรีบเข้ามาห้ามปรามในความเห็นของเขา ซาฟงอาจจะปลอมกันได้ แต่คนปลอมไม่ใช่ชิงหวินแน่เพราะด้วยความสามารถและนิสัยของชิงหวิน เป็นไปไม่ได้ที่จะเลียนแบบซาฟง  นอกจากนี้หากถอยไปหมื่นก้าวต่อให้ชิงหวินตั้งใจปลอมเป็นซาฟง เขาไม่มีทางลงมือต่อหน้าจ้าวซีได้ใครจะสามารถเอาชนะเขาได้เมื่ออยู่ต่อหน้ากระจกวิเศษสมบัติชั้นเทพของจ้าวซีได้นั่นคือกระจกที่สะท้อนความจริงทั้งหมดในโลกได้

“ฮ่าฮ่า  เป็นเรื่องตลกไร้สาระ” เย่ว์หยางปลอมเป็นซาฟงย่อมไม่พูดดีเป็นธรรมดา  ความโกรธรุนแรงเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่สุดหากสุภาพบุรุษมารยาทดีบอกว่าไม่เป็นอันตราย อย่างนั้นอาจต้องมีการทุบตีทันที  เพราะซาฟงไม่ใช่สุภาพบุรุษแม้แต่น้อย ทั้งยังห่างจากพฤติกรรมเช่นนั้น

“ข้าขอสงวนความคิดเห็น”  ซวงหานคิดว่าวันนี้ซาฟงผิดปกติไปเล็กน้อยแต่ไม่สามารถบอกได้

“.....”จ้าวซียิ้มเล็กน้อย และไม่พูดอะไรอีก

“ถ้าเป็นอย่างนี้อย่างนั้นข้าขอสงสัยเจ้าบ้างว่าเป็นซื่อเสินปลอมตัวมา!”  เย่ว์หยางตอบโต้โจมตีคืนเขาถนัดอยู่แล้วเรื่องชวนทะเลาะ

ไม่รอให้ให้เฮยโจวโน้มน้าวคน

เย่ว์หยางเริ่มงานแล้ว

แกล้งทำเป็นหน้าหนาถือโอกาสเอาเปรียบ ถ้าไม่ดีจริงอาจหันหน้าหนีในที่สุด

ถ้าเลียนแบบเจ้าหน้าที่หรือนักการเมืองมักจะขมขื่นและเหนื่อยเกินไปปลอมเป็นคนพวกนี้ไม่จำเป็นต้องมีมโนธรรม แค่หน้าด้านเข้าไว้ ถ้าหน้าด้านเพียงพอก็ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ทางการหรือคนการเมืองก็ได้  จากนั้นเบิกตากว้างพูดเรื่องไร้สาระเป็นพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีระดับเล็กน้อย ทักษะการแสดงระดับเซียน เป็นทักษะพื้นฐาน

แม้ว่าเย่ว์หยางจะเป็นผู้มีพรสวรรค์  แต่เขาไม่สามารถแสร้งเป็นคนแบบนั้นได้  ไม่ว่าเขาจะมีความสามารถเพียงไหนก็ตาม

แต่ไม่เป็นปัญหากับการปลอมตัวเป็นคนเจ้าโทสะอย่างซาฟง

มือทั้งสองของเขาสั่น

เฮยโจวซวงหานและจ้าวซีรู้สึกว่ามีเปลวไฟแห่งความโกรธปะทุขึ้นท้องฟ้า

นี่ไม่ใช่การระเบิดที่ถูกปล่อยออกมาหลังจากที่ปล่อยพลังระเบิด  แต่เป็นการขยายการควบคุม    เปลวไฟที่ลุกโชติช่วงในท้องฟ้า  เทพอีสานชิงหวินท่วงท่าของเขานั้นมหัศจรรย์งดงามส่วนใหญ่จะปรากฏในรูปแบบของดอกไม้และต้นไม้เขาเป็นเทพที่ใจดีรักความสงบและไม่ชอบต่อสู้เขามีความเห็นอกเห็นใจทุกชีวิตในโลก นอกจากนี้เขายังเป็นเพียงหนึ่งในบรรดาเทพทั้งแปดที่ไม่แต่งงานยินดีใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์  ในบรรดาเทพทั้งแปดหากมีสัญญาณของดอกไม้ตูมดอกไม้บานและการฟื้นฟูสภาพโลกปรากฏขึ้นทันทีนั่นคือเครื่องหมายของเทพอีสานชิงหวินมาปรากฏตัว

เทพอีสานชิงหวินเป็นเจ้าของหัวใจฟ้าของวิเศษระดับกึ่งเทพ

นี่คือยอดฝีมือชั้นเทพเพียงคนเดียวที่ใช้พลังงานในการแปลงเป็นดอกไม้และต้นไม้ได้นี่คือสัญลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของเขา

ตอนนี้เย่ว์หยางควบแน่นพลังเปลวไฟสร้างเป็นกุหลาบไฟตกลงมาทั่วท้องฟ้าเป็นการตอบสนองต่อซวงหานและเฮยโจว เหมือนจะบอกว่าข้าคือชิงหวิน

แน่นอนว่าเขาต้องการหลอกว่าเป็นชิงหวินแต่ด้วยวิธีนี้มีข้อบกพร่องมากมายในทางกลับกันการแสดงออกอย่างนี้จะขับไล่ความสงสัยที่ค้างคาใจซวงหานและเฮยโจวผลนั้นหนักแน่นกว่าแสดงอิทธิฤทธิ์พิสูจน์ตัวมาก เขาไม่รู้ว่าทำได้ดีแค่ไหน

“น่ารำคาญ!”  ตอนนี้ซวงหานไม่สงสัยแล้ว

สร้างกุหลาบไฟซึ่งเทียบได้กับเทพอีสานชิงหวินหรือ?  นั่นเป็นเรื่องตลก!  หนึ่งนั้นคือพลังชีวิตและอีกหนึ่งคือพลังแห่งการทำลายล้าง ทั้งสองเป็นพลังตรงข้ามสุดขั้ว  เพลิงลุกไหม้เหมือนดอกกุหลาบและมันกลั่นตัวจากความโกรธและแค้น ในบรรดาแปดเทพแห่งขุนเขาเหนือขุนเขา เทพหรดีซาฟงเขาเชื่อว่าไม่มีคนที่สองที่สามารถโกรธได้มากมายเท่าเขา

ซวงหานไม่ได้สงสัยว่าซาฟงที่เป็นเย่ว์หยางปลอมนั้นจะเป็นร่างปลอมของชิงหวิน  เขาแค่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงพูดแหย่เท่านั้น

เพลิงบัวแดงของเย่ว์หยางแปลี่ยนรูปเป็นดอกกุหลาบ

เขาขจัดความสงสัยออกไปได้

นั่นคือซาฟงแน่นอน

ยกเว้นซาฟงไม่มีใครใช้ไฟได้ดีเท่าเขา

แน่นอนว่าเทพอาคเนย์ชี่เฉียวก็เป็นยอดฝีมือในการใช้ไฟ  แต่ชี่เฉียวต่างจากซาฟง เขามีชื่อเสียงทางด้านเพลิงมังกรไฟเป็นไฟพิเศษที่ไม่สามารถเปลี่ยนคุณสมบัติตลอดเวลา และสามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็ว สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือในกุหลาบเพลิงเหล่านี้ พายุไฟนี้ฝากไว้ตรงนี้ชั่วคราวเขาจะสร้างแรงระเบิดที่น่าตกใจได้

นี่เป็นความสามารถพิเศษของซาฟงการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของลมและไฟที่ผู้อื่นไม่สามารถเลียนแบบได้

เฮยโจวที่ค้างคาใจก็หายสงสัยเขาหัวเราะ

ตรงกันข้ามกับจ้าวซี

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยดูเหมือนจะมึนงงเล็กน้อย

“รับมือ!” เย่ว์หยางกลัวว่าจ้าวซีจะเห็นจุดบกพร่อง ในความเป็นจริงเขาไม่ได้ใช้การผสานระหว่างลมและไฟแต่เป็นการใช้ไฟสองชนิด อย่างหนึ่งเป็นเพลิงบัวแดง อีกหนึ่งคือไฟที่ยังสมบูรณ์ของกุ่ยหยินไฟซึ่งเป็นการผสานของลมและไฟ ด้วยทักษะแฝงเร้นพรางพร้อมด้วยเจตจำนงของเย่ว์หยางผู้อื่นไม่สามารถมองเห็นความแตกต่างได้อย่างแน่นอน  แต่จ้าวซีผู้ครอบครองกระจกวิเศษอาจมองเห็นได้ เขารีบโจมตีอย่างเร่งรีบซึ่งบางทีดีกว่าใช้เหตุผลอื่นมากมาย

“เจ้าบ้าไปแล้ว...!”  ซวงหานรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเจ้านี่ต้องการทำอะไร? ต้องการระเบิดพื้นที่น้ำตกควงหลัวให้พังพินาศหรือ

เปลวไฟลุกโชติช่วงควบแน่นภายใต้พายุแห่งจิตสำนึกของเย่ว์หยาง

เปลี่ยนเป็นดาบไฟขนาดยักษ์

หันปลายไปทางซวงหาน

ไม่สามารถหยุดได้

คราวนี้เย่ว์หยางแสร้งปลอมเป็นซื่อเสินเขาไม่เคยเห็นเทพบูรพาซื่อเสิน ไม่รู้จักไม้ตายของเทพบูรพาซื่อเสิน  แต่ข้อมูลก่อนหน้านี้เขาได้เรียนรู้ข้อมูลพื้นฐานบางอย่างมาบ้างตัวอย่างเช่นเทพบูรพาซื่อเสินใช้ดาบเทพเล่มหนึ่ง ดาบวิถีกำศรวลซึ่งเป็นดาบเทพโบราณแห่งขุนเขาเหนือขุนเขา

แน่นอนว่าเย่ว์หยางที่ถนัดปราณกระบี่อยู่แล้วสามารถสร้างขึ้นได้ง่าย

ต่อหน้าซวงหานดาบไฟลุกโชติช่วง ตาของซวงหานมีแววเย็นชา

เขายกมือขึ้น

ดอกไม้น้ำแข็งน้ำล้านบานทันที

เชื่อมกันกลายเป็นโซ่น้ำแข็งพุ่งขึ้นไปในอากาศเผชิญหน้ากับดาบเพลิงและออกแรงดึงบิด

“ทำลาย!”  เย่ว์หยางเหยียบขอบดาบใช้หมัดระเบิดโซ่น้ำแข็งที่พันทั้งหมด  เปลวไฟสวรรค์สีแดงปะทุออกมาจากร่าง เขายกดาบที่เสริมศักยภาพเป็นร้อยเท่าแทงใส่ใต้เท้าซวงหาน

“ซาฟง!  เจ้ามันบ้าไปแล้ว!”  ซวงหานเริ่มโกรธเช่นกัน

แม้ว่าจะเป็นคนของค่ายตะวันตกเหมือนกัน

แต่ซาฟงไม่เคยถูกมองว่าเป็นเทพระดับสูงส่ง

ตามการจัดอันดับของซวงหานพันธมิตรเทพอย่างเทพหรดีซาฟง อยู่ท้ายสุดของของแปดเทพยังไม่อาจเทียบเท่าเทพอาคเนย์ชี่เฉียวและเทพอีสานชิงหวินได้สำหรับเขาผู้เป็นเทพพายัพมีพลังเทียบได้กับสองเทพเหนือใต้เขาแค่ด้อยกว่าตรงที่ไม่มีสมบัติระดับเทพ เขาจึงไม่ติดห้าอันดับแรก   ไหนเลยจะเห็นซาฟงเทพอันดับแปดอยู่ในสายตา?

ครั้งนี้เมื่อเห็นซาฟงหันมาเผชิญหน้ากับเขา  เขาเองก็รู้สึกโกรธเหมือนกัน

งั้นก็สู้กันข้าต้องกลัวซาฟงเจ้าด้วยหรือ?

เขาคิดเช่นนี้

ซวงหานลอยตัวขึ้นในท้องฟ้าอย่างใจเย็น

ลูกเห็บนับหมื่นชิ้นจับตัวกันเป็นโลกแข็งยิ่งกว่าดาบไฟนับสิบเท่า หนายิ่งกว่ากำแพง จะไม่ถูกทุบเหมือนในอดีต

เมื่อเทียบกับโล่ปราการน้ำแข็งที่สร้างโดยซวงหานแล้วเย่ว์หยางยังคงพลังดาบไฟของเขาไว้ตามปกติแล้วถ้าทั้งสองคนปะทะกันก็เพียงพอทำให้สั่นสะเทือนไปทั้งน้ำตกควงหลัวได้ทั้งหมด

คนอื่นๆไม่สามารถควบคุมได้  แต่เทพประจิมเฮยโจวผู้นำค่ายตะวันตกต้องแทรกแซงการต่อสู้ครั้งนี้

ในฐานะลูกพี่ใหญ่เขาแสดงความรู้สึกความสามารถทันที

ฟ้าและดินพลันมืดมิด

ราวกับว่ามีสัตว์ร้ายขนาดใหญ่สามารถกลืนกินโลกทั้งโลกได้ด้วยการฮุบเพียงครั้งเดียวรวมทั้งเย่ว์หยางและซวงหาน ในพื้นที่ต่อสู้พวกเขารู้สึกเวียนหัวยากจะทนได้ แต่เพียงหนึ่งวินาทีต่อมาฟ้าและดินกลับมาสว่างและทุกอย่างเป็นไปตามปกติ แต่ดาบไฟและโล่น้ำแข็งที่กำลังจะปะทะกันจนกลายเป็นระเบิดครั้งใหญ่ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย...  เห็นได้ชัดว่านี่เป็นทางออกที่เฮยโจวสร้างขึ้นด้วยพลังเทพของเขา ภายในไม่กี่วินาทีดาบไฟและโล่น้ำแข็งของพวกเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย  ความแข็งแกร่งของเทพประจิมเฮยโจว  ถึงระดับที่น่ากลัวอย่างแน่นอน

เย่ว์หยางกับซวงหานเลิกลงมือต่อกันไปโดยปริยาย

เฮยโจวพุ่งเข้ามาจับเย่ว์หยางด้วยมือข้างหนึ่งและจับซวงหานด้วยมือข้างหนึ่งพลังของเขาดีกว่าอย่างชัดเจนเหมือนจักรพรรดิที่มีลักษณะที่ไม่ธรรมดาเมื่อรวมกับความยิ่งใหญ่ มั่นใจตามธรรมชาติ เขาคือนักสู้ระดับเทพที่มีความมั่นใจ

“น้องเราทั้งสองคนพวกเจ้าฟังคำแนะนำของข้าผู้พี่ก่อน จงอย่าทำอย่างนั้น ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นความโชคร้ายของค่ายตะวันตกเรา! น้องซาฟงกับน้องซวงหานไม่ใช่ศัตรูกัน เขาไม่มีความตั้งใจจะเป็นเช่นนั้น เขาเป็นคนมีนิสัยระมัดระวังตัวเท่านั้นข้าเข้าใจความคิดเขาได้ ที่นี่ข้าผู้พี่ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร ไม่ต้องระแวงระแวงน้องเราทั้งสอง การมีส่วนร่วมรุมเข่นฆ่าก่อนนั้นทำให้น้องซาฟงได้รับบาดเจ็บการเดินทางล่าช้าจึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดในวันนี้!  มาเถอะ เราจะเข้าไปที่งานเลี้ยงรื่นเริงกันถ้าจะสู้กันไปแข่งกันดื่มดีกว่า!”  เฮยโจวสร้างความสงบได้ทันเวลา  และพลังของเขาสร้างความตกใจให้กับเย่ว์หยางที่ปลอมเป็นซาฟงและซวงหาน

“ซาฟงยังไม่ชินจริงๆ”  จ้าวซีอดกระตุ้นเขาไม่ได้

“.....”  เย่ว์หยางเหงื่อตกเมื่อได้ยินเช่นนี้เขาจะทำอะไรได้?

ซวงหานแค่นเสียงเย็นชา

ทัศนคติของซวงหานที่มีต่อซาฟงตัวปลอมอ่อนลงเพราะความคิดเล็กน้อยเกี่ยวกับผลการปะทะกันระหว่างโล่น้ำแข็งและดาบไฟเขาเหนือกว่าเล็กน้อยแต่หลังจากซาฟงถูกชี่เฉียวโจมตีแล้วยังคงมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้ดูเหมือนว่าเขายังประเมินเทพหรดีต่ำเกินไป

เฮยโจวกังวลเล็กน้อยว่าซาฟงซึ่งรุมฆ่าชี่เฉียวได้รับบาดเจ็บแล้วจะอ่อนแอ

เมื่อเห็นตอนนี้แล้ว

แม้ว่ายังไม่พอเป็นหน่วยหน้ากล้าตายแต่แค่นี้นับว่าไม่เลว

คนอื่นอาจไม่รู้ว่าการกลืนโล่น้ำแข็งและดาบไฟไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีเท่าใดนักเพราะต่อหน้าเขาเพียงแต่คลี่คลายโล่น้ำแข็งและดาบไฟตามลำดับร่างของเขามองผิวเผินแล้วไม่เป็นอะไร แต่วิญญาณของเขาแทบทนรับไม่ได้  พลังเทพของซวงหานนั้นตามความรู้สึกในใจของเขารู้สึกว่าอึดอัดแต่นึกไม่ถึงเลยว่าดาบไฟของซาฟงก็มีพลังไม่คาดคิด แทบจะทำให้เขาเสียหน้า.. ยิ่งเป็นหน่วยทะลวงฟันที่แข็งแกร่งการฆ่าซื่อเสินยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง

เฮยโจวมีความสุขเป็นธรรมดา

แน่นอนว่ามองผิวเผินแล้วเขาเป็นมิตรมีจิตใจอบอุ่นเป็นกันเองไม่ได้มีแผนชั่วร้ายผลักไสซาฟงตัวปลอมซวงหานให้ไปตาย ในทางกลับกันเขากลับแสดงออกเหมือนกับพี่ชายยิ้มต้อนรับน้องชายแท้ๆ

“ระวังให้ดีเถอะมีสี่ต่อหนึ่ง ทั้งมีหมากลับอยู่ในมือก็ยังทำซื่อเสินไม่ได้อย่างนี้ข้าว่ากลับไปซ่อนตัวกินนมแม่ดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียศักดิ์ศรี”  เย่ว์หยางกล่าวแสดงอารมณ์โกรธไม่หายและในขณะเดียวกันแสร้งทำเป็นเผยข้อมูลลับบางอย่างด้วยความขุ่นเคืองเฮยโจวรู้สึกกังวล เขารีบกระแอมและห้ามเย่ว์หยางไม่ให้พูดถึงเทียนโฉวหมากลับหมากลับนี้จะไม่เปิดเผยได้จนกว่าจะถึงเวลาสุดท้าย แม้ว่าจะเป็นดินแดนของเขา แต่คำพูดแบบนี้ไม่อาจพูดออกมาได้โชคดีที่ตอนนี้นอกจากทั้งสี่คนแล้ว ไม่มีคนอื่นได้ยิน  มิฉะนั้นเขาจะต้องฆ่าทุกคนให้หมด

“เฮอะ,เจ้าจะรู้อะไร, ซื่อเสินไม่ใช่ศัตรูอย่างเจ้าคิด!”  ซวงหานเกรงกลัวซื่อเสินมาตลอดเกรงว่าจะไม่เห็นเฮยโจวอยู่ในสายตา

“ถูกแล้ว,น้องซวงหานพูดถูก เราต้องระวังไว้ แม้ว่าเราจะมีโอกาสชนะก็ตาม”  เฮยโจวเห็นด้วยแต่เพียงผิวเผินแต่ในใจของเขาไม่สบายใจ

ซวงหานให้เกียรตินับถือเขา

แต่เทียบกับซื่อเสินน่ากลัวว่ายังมีระยะห่าง

แน่นอนว่านี่คือความเข้าใจความแข็งแกร่งของซื่อเสินอย่างชัดเจนของซวงหาน  นั่นเป็นสิ่งที่ดี  ถ้าซวงหานรู้สึกเหมือนซาฟงนั่นก็คงไม่ดีนัก  ดังนั้นเฮยโจว  ดังนั้นไม่ว่าเขาจะอิจฉาแค่ไหน  เฮยโจวก็ยังยิ้มออก เพียงเพราะเทพสือเซินครองตำแหน่งแรกของเทพแห่งขุนเขาเหนือขุนเขาเฮยโจวต้องการแทนที่ตำแหน่งนั้น

เทพบูรพาซื่อเสินต้องถูกฆ่าโดยเร็ว

มีเขาเพียงวันเดียวขุนเขาเหนือขุนเขาเป็นบุคคลหมายเลขหนึ่งที่ไม่มีวันล้มและไม่มีใครต้านได้

เย่ว์หยางทำท่าเลียนแบบซาฟงได้สำเร็จและปะปนอยู่ในค่ายตะวันตก  แม้ว่าจ้าวซีพยายามจับเขาก็คงไม่ง่ายนักแต่เมื่อเห็นเฮยโจวและซวงหานยังคงเงียบ และสัมพันธ์ของพวกเขาแข็งแกร่ง เขารู้สึกสงสัย

ต่อไปคือเขาจะส่งข้อความให้ซื่อเสินยอมรับและเชื่อถือได้อย่างไร

ถ้าซื่อเสินยังคงเชื่อเทียนโฉวและจีอู๋ลี่ที่ปลอมตัวเป็นชี่เฉียว  อย่างนั้นเขาแข็งแกร่งเชื่อมั่นมากกว่า  เขาเชื่อว่าซื่อเสินจะตกอยู่ในวงล้อมเทียนโฉวและจีอู๋ลี่สองคนนี้จะยิ่งน่ากลัวมากกว่าซวงหานและจ้าวซี  ทันทีที่แผนคำนวณสำเร็จ  ซื่อเสินจะต้องหมดหวังแน่นอนสิ่งที่เย่ว์หยางต้องการตอนนี้คือวิธีการฟันฝ่าอุปสรรคไปตามความประสงค์ของสวรรค์ในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไรและปลอดภัยจากการต่อสู้ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมแพ้

โชคดีที่เขาเข้าไปในค่ายตะวันตกและก้าวแรกของเขาทำได้สำเร็จ

มิฉะนั้นไม่มีความจำเป็นต้องสู้กันต่อไป

เย่ว์หยางมองดูจ้าวซีและพบว่าเทพอุดรยังคงสงบและเขาระงับความคิดชั่วคตาว บางทีเขาอาจไม่เห็นข้อบกพร่องด้วยกระจกวิเศษนี้ก็ได้  บางทีเขาอาจเห็น  แต่เขาไม่พูดว่า เป็นเรื่องไม่สำคัญ!  แม้ว่าเทพจ้าวซีจะเห็นข้อบกพร่องนั่นคงเป็นเรื่องดี แต่เย่ว์หยางไม่แน่ใจ

เขาไม่แน่ใจว่าเทพอุดรจ้าวซีนี้จะโจมตีในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดหรือไม่

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหตุการณ์

บางครั้ง

หลายอย่างจะมาถึงได้ในที่สุด  ตัดสินตอนนี้ยังเร็วเกินไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด