ตอนที่แล้วตอนที่ 960 สิ่งหนึ่งมันก็ย่อมพิชิตสิ่งหนึ่ง(1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 962 โอเค ได้.. งั้นผมจะพูดตรงๆ

ตอนที่ 961 ผมจําเป็นต้องเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อน..


ทันใดนั้น เว่ย เยว่เอ๋อร์ ก็ได้โทรเข้ามา หลินฟาน ก็ได้กดรับสาย และได้รู้ว่ามีพ่อลูกคู่หนึ่ง ต้องการมาเยี่ยมเขา หลินฟาน ก็อยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยแล้ว

“พ่อ ลูกสาว? พวกเขาเป็นใคร แล้วมีเรื่องอะไร?” หลินฟาน ได้ถาม

เว่ย เยว่เอ๋อร์ กล่าวว่า : “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกเขาไม่ยอมเปิดเผยชื่อด้วยซ้ำ แค่บอกว่าอยากจะขอเข้าพบคุณก่อน พวกเขาถึงจะยอมพูดอะไร”

หลินฟาน ได้ขมวดคิ้ว ยังมีเรื่องแบบนี้ได้อีก เขาได้มองไปที่ หนิง เสี่ยวเยว่ ที่ได้อยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า : “ผมจะเปิดแฮนด์ฟรี เยว่เอ๋อร์ คุณช่วยอธิบายเด็กผู้หญิงคนนั้นให้หน่อย”

เว่ย เยว่เอ๋อร์ ก็ไม่รู้ว่า หลินฟาน คิดจะทําอะไร จึงได้พูดไปว่า : “นี่เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ดูยังไม่บรรลุนิติภาวะ ดูเหมือนเธอจะอายุ 14-15 ปีได้มั้ง? เธอดูซีดเซียว ออกจะขี้อายมาก เธอก้มหน้าก้มตาตลอดเวลา และไม่ค่อยกล้าสบตากับฉัน จากท่าทางที่ฉันได้ดูเด็กผู้หญิงคนนี้ ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บไม่ทางใดก็ทางหนึ่งมา หลินฟาน นี่คุณก็ไม่รู้เหรอว่าพวกเขาเป็นใคร?”

หนิง เสี่ยวเยว่ ก็ได้โพล่งเสียงออกมา : “เป็นเธอ!”

เมื่อฟัง เว่ย เยว่เอ๋อร์ อธิบายแบบนี้ เด็กผู้หญิงคนนี้ก็ต้องคือ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เธอได้ไปพบเธอบนสะพานหยุนเจียง!

เธอได้ฟังคําแนะนําของ หนิง เสี่ยวเย่ว จริงๆ และได้ไปหา หลินฟาน แล้ว!

แต่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ และพ่อของเธอ เห็นได้ชัดว่าระมัดระวังตัวมาก และหากพวกเขาไม่ได้พบเห็น หลินฟาน พวกเขาก็จะไม่เปิดเผยแม้แต่ชื่อ แล้วนับประสาอะไรที่พวกเขาจะบอกเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น…

“คุณ?” เว่ย เยว่เอ๋อร์ ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่ง ก็ได้เกิดรู้สึกแปลกใจ และได้ถามแปลกๆ ออกไป เธอเองคิดในใจว่า ตอนนี้ หลินฟาน กำลังอยู่กับใคร?

เธอเองเกิดรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย ทั้งยังรู้สึกหึงอย่างอธิบายไม่ได้ หลินฟาน ในตอนนี้ เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอ ..ไม่รู้จัก

หลินฟาน ยิ้ม และพูดว่า : “ผมอยู่กับ เสี่ยวเยว่ พวกคุณยังไม่เคยพบเจอกัน ครั้งหน้าที่มีโอกาส ผมจะแนะนําพวกคุณให้ได้รู้จักกัน”

“โอ้…” เว่ย เยว่เอ๋อร์ ไม่มีทางเลือก ทำได้แค่พูดตอบรับเท่านั้น

หลินฟาน กล่าวว่า : “เยว่เอ๋อร์ เอาอย่างนี้เถอะ คุณบอกพ่อ และลูกสาวคู่นี้ไปว่าตอนนี้ ผมอยู่ที่หางโจว และยังไม่สามารถกลับไปได้ในตอนนี้ แล้วถ้าพวกเขายินยอม และต้องการมาพบผมจริงๆ คุณก็แค่พาพวกเขามาพบผมที่หางโจวได้เลย หากไม่งั้นก็คงต้องรอให้ผมกลับไปที่หยุนเฉิง พวกเขาถึงจะมาพบผมได้”

เว่ย เยว่เอ๋อร์ กล่าวว่า : “โอเค ฉันรู้แล้ว ฉันจะไปบอกพวกเขาให้”

จากนั้นเธอก็ได้วางสายไปทันที

เมื่อนั้น เว่ย เยว่เอ๋อร์ ก็ได้พึมพําออกมาทันทีว่า : “เสี่ยวเยว่ เหรอ? นี่เธอคือใคร? ทําไมไม่เคยได้ยิน หลินฟาน เล่าถึงเพื่อนคนนี้เลย”

วันนี้เธอได้รู้ว่า หลินฟาน ได้ไปที่เมืองหางโจว และสงสัยว่า หลินฟาน ไปทําอะไรที่เมืองหางโจวอย่างกะทันหันเช่นนี้ เธอเองได้เดาไปว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับการสร้างโรงงานผลิตชิป แต่.. หลินฟาน เองก็กลับพูดคลุมเครือกลับมา…

หรือว่า หลินฟาน ที่ได้ไปที่หางโจว ก็เพื่อตั้งใจจะไปหา “เสี่ยวเยว่” คนนี้โดยเฉพาะ?

หาก หลินฟาน ตั้งใจไปพบ เสี่ยวเยว่ คนนี้ที่หางโจวจริงๆ ..แล้ว พวกเขามีความสัมพันธ์กันอย่างไรกันแน่นะ?

เว่ย เยว่เอ๋อร์ ในตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมความหึงหวงของเธอได้อีกแล้ว เสี่ยวเยว่ คนนี้ ดูเหมือนจะมีความสําคัญกับ หลินฟาน มาก หลินฟาน ถึงกลับละทิ้งบริษัทไว้ และถึงกับได้รีบวิ่งไปพบเธอที่หางโจว…

เธออยากรู้มากว่า ‘เสี่ยวเยว่’ คนนี้คือใคร? ดูเหมือนว่าเธอจะต้องโน้มน้าว พ่อ และลูกสาวคู่นี้ ให้เธอพาพวกเขาไปที่หางโจว ในวันพรุ่งนี้โดยเร็วที่สุด ถึงตอนนั้นเธอก็น่าจะได้รู้ว่า เสี่ยวเยว่ คนนี้คือใคร..

พอตัดสินใจได้แล้ว เว่ย เยว่เอ๋อร์ ก็ได้รีบไปพบกับพ่อลูกคู่นั้น.. ทันที

อีกด้านหนึ่ง หลินฟาน ที่ได้วางสาย และได้พูดกับ หนิง เสี่ยวเยว่ ไปว่า : “เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนั้นต้องการมาหาผม ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ คุณเองก็สามารถวางใจได้แล้วนะ”

หนิง เสี่ยวเยว่ ได้พยักหน้า ในที่สุดเธอก็สามารถปล่อยวางเรื่องที่เธอค้างคาใจมาทั้งวันได้แล้ว และเธอได้พูดไปว่า : “พี่หลินฟาน คุณช่วยพวกเขาได้ใช่ไหม? ฉันหวังว่าเรื่องนี้มันจะไม่ไปสร้างปัญหาให้กับคุณ..”

หลินฟาน ได้กล่าวว่า : “ผมจําเป็นต้องเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อน.. แต่คุณทําถูกต้องแล้ว แล้วก็อย่าได้พูดว่าสร้างปัญหาให้กับผม คุณได้ช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง และให้ความหวังแก่เธอ ผมเองก็จะช่วยเธออย่างสุดความสามารถเช่นกัน”

“อืมม..”

หนิง เสี่ยวเยว่ รู้สึกซาบซึ้งใจมาก พี่ชายหลินฟาน ใจดีมากจริงๆ และเธอก็รู้ว่า พี่ชายหลินฟาน จะไม่สนใจถึงปัญหาอย่างแน่นอน..

เธอเองไม่ได้คิดอยากที่จะสร้างปัญหาให้กับ หลินฟาน เพียงแต่ว่าในสถานการณ์วันนี้ เธอต้องการให้ความหวังกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนั้น.. และไม่ต้องการให้เธอฆ่าตัวตาย เพราะตอนนั้นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนั้น เธอก็ได้ดูสิ้นหวังมาก และเธอเองก็รู้ตัวด้วยว่าเธอ ..ไม่สามารถให้สัญญากับเธอว่าจะสามารถช่วยเธอได้ แม้ว่าเธอจะบอกว่าเธอสามารถช่วยได้ แต่คาดว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนั้นก็คงจะไม่เชื่อเธอ… เธอจึงทําได้แค่ต้องบอกชื่อของ หลินฟาน ออกไป ..หลินฟาน เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหยุนเฉิง ทั้งชื่อของ คุณหลิน ก็แทบจะเป็นที่รู้จักกันดีในเมืองหยุนเฉิง คุณหลิน มีความสามารถมาก ทั้งยังกว้างขวาง ทั้งยังเป็นฉันทานุมัติของคนจํานวนมากด้วย..

แน่นอนว่าเป็นไปตามที่คาดเอาไว้ หลังจากที่เธอบอกไปว่า หลินฟาน สามารถช่วยเธอได้ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนั้นก็ได้เลือกยอมแพ้ที่จะฆ่าตัวตาย และมีความกล้าหาญมากขึ้น

หลินฟาน ยิ้ม แล้วได้พูดว่า : “เอาล่ะ ผมเองอยู่ที่นี่นานไม่ได้ พวกคุณก็พักผ่อนเถอะ ผมต้องไปก่อนแล้ว”

หนิง เสี่ยวเยว่ ได้ยิ้ม และพูดว่า : “โอเค ขอบคุณ ..พี่หลินฟาน”

ตอนนี้เธออารมณ์ดีมาก สภาพจิตใจที่วิตกกังวลมาในก่อนหน้านี้ก็ได้หายไปทั้งหมดแล้ว นั่นเพราะการมาถึงของ หลินฟาน ทําให้เธอไม่มีความกังวลใดๆ เหลืออยู่อีกต่อไป…

ก่อนหน้านี้เธอรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่ออยู่ในห้องนี้ แต่ตอนนี้เธอสบายใจมาก และไม่มีความเครียด หรือความกังวลใดๆ อีกแล้ว

หลินฟาน ได้ออกมาจากห้องของ หนิง เสี่ยวเยว่ และเขาก็ได้เห็นว่า หลิว อีน่า ยังคงยืนรอเขา …อยู่ข้างนอก

“หลินฟาน คุณช่วยลงไปส่งฉันได้ไหม? พอดีฉันเองมีเรื่องที่จะพูดคุยกับคุณ” หลิว อีน่า ได้กล่าว

หลินฟาน ได้พูดไปว่า : “ได้สิ แล้วคุณ.. มีเรื่องอยากจะพูดอะไรกับผม?”

หลิว อีน่า ได้พูดว่า : “หลินฟาน ที่พ่อของฉันได้จับ น้องสาวเสี่ยวเยว่มา คุณเองก็ต้องโกรธมากแน่ๆ ใช่ไหม? แล้วคุณจะอยู่ร่วมกับพ่อของฉัน.. ไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม?”

นี่คือสิ่งที่เธอเป็นกังวลมากที่สุด ตอนนี้.. เธอไม่ได้เกลียด หลินฟาน แล้ว และจริงๆ แล้วเหตุการณ์ในวันนั้นที่เธอได้ไปพบกับ หลินฟาน แล้วได้เกิดความขัดแย้งกันเล็กน้อยนั้น มันก็ไม่ได้ถือว่าเป็นความเกลียดชังอะไร และหลังจากที่ได้รู้จัก หนิง เสี่ยวเยว่ ในวันนี้ เธอเองก็ได้มีความรู้สึกที่ดีกับ หนิง เสี่ยวเยว่ มาก

ดังนั้นตอนนี้.. เธอจึงไม่คิดยินยอมให้พ่อของเธอ กลายมาเป็นศัตรูกับ หลินฟาน อีก

หลินฟาน ได้ยิ้มเล็กน้อย แล้วได้พูดไปว่า : “ทั้งหมดนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับพ่อของคุณ ถ้าเขายอมปล่อย เสี่ยวเยว่ ไป เรื่องนี้ผมเองก็ไม่คิดสนใจ.. หากไม่เช่นนั้น ..ผมเองก็คงจะต้องเล่นเป็นเพื่อนกับเขา ไปให้จนถึงที่สุดเท่านั้น”

หลิว อีน่า ได้กัดริมฝีปาก และพูดว่า : “หลินฟาน ฉันต้องเตือนคุณว่าการต่อต้านพ่อของฉัน มันจะไม่เป็นผลดีกับคุณ ฉันรู้ว่าพ่อของฉันเป็นใคร และฉันก็ไม่ได้คิดที่จะข่มขู่คุณ แต่แค่ต้องการเตือนคุณเพียงเท่านั้น”

หลินฟาน กล่าวว่า : “ขอบคุณสําหรับคำเตือนของคุณ จริงๆ แล้วจิตใจของคุณก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร และแท้จริงแล้ว พ่อของคุณ เขาก็ควรโชคดีมากจริงๆ ที่ได้มีลูกสาวอย่างคุณ”

หลิว อีน่า ได้หน้าแดงเป็นอย่างมาก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ หลินฟาน เอ่ยชมเธอ.. แต่การเอ่ยชมเธอในครั้งนี้มันกลับทําให้เธอรู้สึกอายเล็กน้อย..

“สรุปแล้ว ฉันรู้ว่าฉันควรต้องทำอย่างไร ฉันจะกลับไปเกลี้ยกล่อมให้พ่อของฉันปล่อย น้องสาวเสี่ยวเยว่” หลิว อีน่า ได้กล่าวต่อว่า “เรื่องนี้มันเกิดขึ้นก็เพราะฉัน ฉันจําเป็นต้องแก้ไขมันด้วยตัวเอง คุณเองก็แค่รอข่าวจากฉันก็พอ”

หลินฟาน ได้ร้องโอ้ออกมา หลิว อีน่า เธอคิดง่ายเกินไปหน่อยจริงๆ เรื่องนี้เกรงว่าเธอจะไม่สามารถแก้ไขมันได้ด้วยตัวเอง แต่ หลินฟาน ก็ไม่ได้คิด หรือมีความจําเป็นที่ต้องบอกเรื่องนี้กับ หลิว อีน่า…

ทั้งสองคนได้เดินไปพลางพูดคุยไปพลาง เมื่อมาถึงชั้นล่าง หลินฟาน ก็ได้พา หลิว อีน่า ไปที่ลานจอดรถ..

ในเวลานี้ หลิว อีน่า ก็ได้กล่าวขึ้นว่า : “หลินฟาน ฉันเองไม่รู้มาก่อนเลยว่า แท้จริงแล้ว คุณเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง น้องสาวเสี่ยวเยว่ เท่าที่ฉันรู้มา บริษัทของ น้องสาวเสี่ยวเยว่ เป็นบริษัทขนาดเล็ก ตอนนี้ในบริษัท มีเพียง น้องสาวเสี่ยวเยว่ เท่านั้นที่เป็นศิลปินอยู่ และการที่คุณสามารถสนับสนุน น้องสาวเสี่ยวเยว่ ได้มาถึงขนาดนี้ แสดงว่าคุณเองก็มีวิสัยทัศน์ที่ดีมาก”

หลินฟาน ได้ยิ้ม และกล่าวว่า : “ขอบคุณสําหรับคําชม..”

เขาไม่ได้บอก หลิว อีน่า ว่าจริงๆ แล้วบริษัทเล็กๆ ที่ หนิง เสี่ยวเยว่ ได้อยู่นั้น ..ทำงานให้กับเขา ทั้งยังมี เทียนเสวีย เอนเตอร์เทนเมนท์ ที่ได้อยู่เบื้องหลัง.. เทียนเสวีย เอนเตอร์เทนเมนท์ เองเป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ของวงการบันเทิง และหลินฟาน ก็เป็นบอสใหญ่ที่ได้อยู่เบื้องหลัง เทียนเสวีย เอนเตอร์เทนเมนท์.. อีกทีหนึ่ง

สิ่งเหล่านี้.. เขา ไม่จําเป็นต้องบอก หลิว อีน่า ในตอนนี้

หลิว อีน่า ได้พูดว่า : “หลินฟาน ฉันขอถามคุณข้อหนึ่ง คุณสามารถช่วยตอบฉันอย่างตรงไปตรงมา ได้ไหม?”

หลินฟาน พูดไปว่า : “อืมม.. ได้สิ คุณต้องการจะถามอะไรผม?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด