ตอนที่แล้วตอนที่ 198 เปิดกล่องสุ่ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 200 เฟิงเฉาเกอค่อยๆชิน

ตอนที่ 199 จิ้งจอกน้อยขี้หึง(ตอนฟรี)


ในห้องนอน

เอเลียนอนในอ้อมแขนของซูสือ ร่างบางของนางเบาเหมือนปุยนุ่น

นิ้วของนางวาดวงกลมบนหน้าอกเขาเล่น ใบหน้านางยังขึ้นสีแดงไม่หาย

พอได้กลิ่นหอมของตัวเขา ความเหนื่อยล้าทั้งหมดก็หายไป

แม้นางจะไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆซูสือถึงมา แต่ความดีใจก็กลบมันหมด

ตอนนั้นเอง เอเลียจำอะไรได้“ว่าแต่ ข้าได้เขียนจดหมายหาเหรินเอ๋อร์เพื่ออธิบายเรื่องของเราแล้วนะ”

ถ้ากล้าทำอะไร ก็ต้องกล้ารับผิดชอบ

เนหือสิ่งอื่นใด อีกฝ่ายมีสิทธิ์รู้

ซูสือผงกหัว

ต่อให้เอเลียไม่พูด เขาก็จะไม่ปิดบังมันจากอวี่เหรินเอ๋อร์

‘แล้วนางตอบว่าไง?”

“นาง…”

เอเลียหัวเราะแห้ง หยิบจดหมายออกมา“อ่านเองดีกว่า”

ซูสือเปิดมัน และเห็นแค่คำเดียว เกลียด เกลียด เกลียด….

มีคำว่า’เกลียด’เป็นพันคำ!

เขาสามารถนึกภาพของอวี่เหรินเอ๋อร์ที่ถือพู่กัน ตวัดมันเขียนด้วยความโกรธและพึมพำไม่หยุด

“นี่แหละนาง”

ซูสืออดหัวเราะไม่ได้

เอเลียจ้องเขาแปลกๆ“ยังหัวเราะอีก?มันเป็นความผิดเจ้านั่นแหละ”

ซูสือขมวดคิ้ว“เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเจ้าที่ยั่วข้า…”

เอเลียปิดปาก พูดอายๆ“ใครยั่วเจ้า?เจ้าไม่ควรพูดไร้สาระ!”

ซูสือขยิบตา

ใบหน้าน้อยของเอเลียแดงยิ่งกว่าเดิม”ข้าไม่สน เหรินเอ๋อร์เป็นเพื่อนรักของข้า เจ้าต้องโน้มน้าวนางให้ได้ ไม่งั้นข้าจะเมินเจ้า!’

พอคิดถึงจิ้งจอกน้อยนั่น ซูสือก็ยิ้มออกมา

แม้เขาจะเคยไปที่ราบเนินเขาเขียวมา เขก็ไม่ได้เป็น’กลุ่ม’เดียวกับเผ่าจิ้งจอก และไม่สามารถข้ามมิติไปที่นั่นได้โดยตรง

มันดูเหมือนว่าเขาต้องหาโอกาสเดินทางไปอาณาจักรคนเถื่อน

“อวี่เหรินเอ๋อร์ไม่เท่าไร”

“ตรงกันข้าม ชิงหลวนกับชิงเฉิงสิที่เป็นปัญหา…”

ซูสือถอนหายใจ

นี่ยังต้องจัดการอีกยาว

เอเลียมองเขาอย่างลุ่มหลงและถาม“คนเลว เจ้าจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน?”

ซูสือพูด“ข้าต้องไปหลังเที่ยงคืน”

หลังเที่ยงคืน หรือหลังวันใหม่ ภาพวาดจะใช้ได้อีกครั้ง

เหนือสิ่งอื่นใด เขาแอบมา และเฟิงเฉาเกอยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขากลับไปช้าเกิน มันอาจเกิดเรื่อง

“เร็วขนาดนั้นเลย?”

เอเลียเศร้า

อีกแค่ชั่วโมงเดียวก็เที่ยงคืนแล้ว

นางกัดริมฝีปาก ใบหน้าขึ้นสี

นางขยับปากไปข้างหูซูสือและพ่นลม“สามี งั้นก็รีบทำเวลากันเถอะ”

..

เที่ยงคืน

เฟิงเฉาเกอถอนสัมผัสของนาง คิ้วขมวดเป็นปม

สัมผัสของนางกวาดไปทั่วเมืองหลวงหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังหาร่องรอยของซูสือไม่พอ เขาดูเหมือนจะหายไปในอากาศธาตุ!

“แม้กระทั่งอวิ๋นฉีหลัวกับซือคงหลานเยวี่ยก็ไม่สามารถพาเขาไปได้ภายใต้จมูกของข้า”

“เขาไปไหน?

“ไม่มีทางที่เขาจะตกอยู่ในอันตรายใช่ไหม?”

เฟิงเฉาเกอกังวล

ทันใดนั้น นางก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่ง ใบหน้าเปลี่ยนเป็นตกตะลึง

ตัวของนางพลันปรากฏในห้องนอน นางยื่นมือไปยกม่านที่ทำจากด้ายเงินขึ้น

นางเห็นซูสือนอนบนเตียงอย่างสบายใจ

พอเห็นนาง เขาก็กวักมือ”มาเร็ว ฝ่าบาท เตียงอุ่นแล้ว’

“..”

เฟิงเฉาเกอสงสัยว่านางหลอนไปเอง

“เจ้าไปไหนมา?”

“อะแฮ่ม เขาแค่เดินเล่นในวัง”

“เดินเล่นโดยไม่ใส่ชุด?”

“เอ่อ..”

ซูสือไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง

พอเห็นแบบนี้ เฟิงเฉาเกอก็ไม่ถามเพิ่ม

ทุกคนล้วนมีความลับของตน

แค่ว่าความลับของซูสือแปลกไป…

“ครั้งหน้า อย่าหายไปแบบนี้อีก เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นห่วงแค่ไหน?”

พอเห็นสายตาของนาง ซูสือก็ฉีกยิ้ม“ไหนฝ่าบาทบอกว่าไม่สนใจข้า?”

เฟิงเฉาเกอรีบเบือนหน้าหนีและแค่นเสียงเย็น’ข้าแค่ห่วงว่าจะไม่มีใครอุ่นเตียงให้ข้า”

ซูสือหัวเราะ

ปากไม่ตรงกับใจ เหมือนกับจักรพรรดินีมารไม่มีผิด

หรือว่าความหยิ่งจะเป็นของคู่กันของผู้ปกครอง?

“เตียงก็อุ่นพร้อมแล้ว ฝ่าบาทอยากนอนเลยหรือไม่?”

เฟิงเฉาเกอดูเหมือนจะไม่รู้ตัว

แต่ซูสือได้ขยับตัวมายืนข้างนางแล้วและพยายามอุ้มนางขึ้น

แต่ แม้นางจะไม่ต่อต้าน เฟิงเฉาเกอก็ยังนิ่งเหมือนหิน

บรรยากาศอึดอัด ทั้งสองสบตากัน

พอเห็นว่าเขาพยายามอุ้มนางจนหอบ เฟิงเฉาเกอาก็กดนิ้วที่หน้าผาก

ฐานบ่มเพาะนางถูกผนึก กลิ่นอายหายไป

แก้มหยกของนางขึ้นสีเล็กน้อยขณะที่นางกระซิบ“ลองใหม่สิ”

นี่น่าอายมาก!

ซูสือโอบกอดนางและพูดอย่างตื่นเต้น“สักวัน ข้าเองก็จะกลายเป็นผู้ปกครอง!”

ดวงตาของเฟิงเฉาเกอเต็มไปด้วยความขบขัน“ข้าเชื่อในตัวเจ้า”

ตอนนั้นเอง นางก็สูดดมฝุดฝิด“นี่มันกลิ่นอะไร?”

นอกจากกลิ่นเดิม ยังมีกลิ่นหอมคล้ายดอกกุหลาบเพิ่มมมา

“นี่ควรเป็นกลิ่นตัวของข้า”

ซูสือฝืนยิ้ม

เฟิงเฉาเกอสงสัย

นางรู้สึกเหมือนว่าชายคนนี้ทำอะไรไม่เหมาะสมลับหลังนาง..

ทั้งสองนอนบนเตียง

เฟิงเฉาเกอนอนข้างเขา ความรู้สึกที่ห่างหายไปนางทำให้นางรู้สึกสงบสุขมากภายในใจ

ซูสือเกาหัว

สองก้านธูปก่อน คนที่นอนข้างเขายังเป็นเอเลีย

‘ข้าชักเหมือนพวกผู้ชายไม่เอาไหนขึ้นเรื่อย’

“โอ้ ใช่”

จากนั้น เฟิงเฉาเกอก็พูดขึ้น“ซือคงหลานเยวี่ยมาหาข้าด้วย”

ซูสือถามอย่างอยากรู้“ซือคงหลานเยวี่ย?นางต้องการอะไรจากท่าน?”

เฟิงเฉาเกอมองเขา“นางอยากให้เจ้าไปดินแดนเมฆา นางดูเหมือนจะอยากรับเจ้าเป็นศิษย์”

“รับข้าเป็นศิษย์?”

ซูสือตัวแข็ง

ซือคงหลานเยวี่ยคือหนึ่งในผู้ปกครองของโลกนี้ และทั้งสองก็ไม่เคยพบปะกัน

เฟิงเฉาเกอบอกเขาถึงเจตนาของนาง

ซูสือเข้าใจ“ดูเหมือนว่าคงเพราะชิงเฉิง”

ตอนแรก ในเมืองหวงหยวน จ้านชิงเฉิงขอให้เขาเดินทางไปดินแดนเมฆา

แต่ มันถูกเลื่อนไปเพราะเหตุผลต่างๆ

เขาไม่สนใจในมรดกของศาลาเทียนจี

แต่ถ้าเขาอยากอยู่กับจ้านชิงเฉิง เขาต้องข้ามซือคงหลานเยวี่ยไปให้ได้ก่อน

แต่ถ้าเขาไปศาลาเทียนจีจริง แล้วเขาควรอธิบายต่อจักรพรรดินีมารยังไง?

ซูสือลำบากใจ

พอเห็นเขาขมวดคิ้ว เฟิงเฉาเกอก็ยื่นมือเนียนนุ่มไปลูบแก้มเขา“ถ้าเจ้าอยากไป ก็ไป ถ้าเจ้าไม่อยากไป ก็ไม่ต้องไป มีข้าหนุนหลัง เจ้าไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น”

ซูสือหันไปมองร่างงดงามข้างเขา

ครั้งนี้ สายตานางไม่มีความเขินอายอีก“ข้าตัดสินใจแล้ว”

ซูสืออยากรู้“ตัดสินใจอะไร?”

เฟิงเฉาเกอพูดด้วยใบหน้าจริงจัง“ข้าจะเป็นแม่ยกเจ้าเอง”

ซูสือ“…”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด