ตอนที่แล้วตอนที่ 1146 โลหะลับเทพทำลายล้าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1148 ระวัง ข้าบอกว่ข้าจะขายพวกเจ้า

ตอนที่ 1147 เจ้าเป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่


จัตุรัสนักรบตัวหนอนนับไม่ถ้วนผุดขึ้นจากซากศพ

บางตัวมีความคล้ายคลึงกับคนธรรมดาเพียงแต่ร่างแดงเหมือนเลือดหรือสีดำ อย่างไรก็ตามมีช่องว่างขนาดใหญ่ บางตัวสูงกว่าคนสิบเท่า  นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของลักษณะเขี้ยว เขาหนวด งวง แนวสันหลัง บางตัวมีรูปร่างประหลาดไม่มีรูปทรงมนุษย์ น่าเกลียดน่ากลัว

หนอนปรสิตหลายหมื่นตัวจากศพวิวัฒนาการเป็นตัวโตเต็มวัย สั่งการโดยหนอนพิษหัวหน้าของห้าคนโฉด

มันไปตามส่วนต่างๆ ของยานแม่

เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตที่ยังหลบซ่อนอยู่

ในไม่ช้าผู้หลบหนีบางคนที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องลับก็ถูกพวกมันค้นพบด้วยความรู้สึกที่ไวต่อกลิ่น พวกมันล้อมโจมตีและรวมกำลังกันเพื่อบุกเข้าประตู  และฆ่าผู้รอดชีวิตที่น่าสงสารเหล่านั้นและจับกิน...ฮัวยาและกัวกัววิ่งหนีหนอนกลุ่มใหญ่ที่ไล่หลังมาอย่างรวดเร็ว

พวกเขาเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องโดยสารและถูกหนอนพวกนั้นหาตัวพบ

เย่ว์หยางผู้มีความสามารถในการป้องกันพวกเขาออกมาพร้อมกันออกมาพร้อมกับกาดำและเจ้ากระทุงยักษ์ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ตอนนี้ฟื้นฟูพลังจากชิ้นส่วนโบราณวัตถุหลังจากออกจากห้องโดยสารไปก็พบกับหัวหน้าโจรดวงดาวสามคน พยัคฆ์บินอินทรีป่าและฟลามิงโก แม้ว่าเขาจะเอาชนะผีตะกละได้อย่างง่ายดายและผนึกไว้ในเจดีย์ปราบปีศาจแต่ไม่ได้หมายความว่าเย่ว์หยางจะพบกับงานเบา พลังของผีตะกละเป็นเพียงหนึ่งในห้าจอมโฉดที่ชั่วร้ายที่สุดแต่ความแข็งแกร่งของมันยังไม่เท่ากับสตรีไฟนรกและภูตพรายสภาพจิตใจยังสู้ศพบินและหนอนพิษไม่ได้ นอกจากงานอดิเรกและจิตใจที่ชั่วร้ายแล้ว ผีตะกละสามารถจัดอันดับอยู่ท้ายๆในห้าจอมโฉดเท่านั้น

แต่เขาเป็นจอมวายร้ายแข็งแกร่งที่สามารถเอาชนะกาดำและเจ้ากระทุงยักษ์ได้อย่างง่ายดาย  แต่นั่นเป็นแค่เบี้ยเล็กๆ ในแปดอาณาจักรเทพไม่ต้องพูดถึงเทพทั้งแปด พวกเขาเทียบได้กับจอมพลผู้มีพลังสุดยอดขุนพลเทพ

ศัตรูของศัตรูก็คือพันธมิตร

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดเขายังจำเป็นต้องปกปิดตัวตนของเขาเย่ว์หยางรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องดีในการช่วยพยัคฆ์บิน อินทรีป่าและฟลามิงโก

ก่อนที่เขาจะสามารถเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของเทพทั้งแปดได้  เย่ว์หยางไม่ต้องการให้พวกเขาเพ่งเล็งมาที่ตัวของเขาเอง

เว้นแต่ไม่มีวิธีอื่น เขาต้องการสำรวจขุนเขาเหนือขุนเขาตามวิถีที่ไม่โดดเด่น

หลังจากได้ข้อมูลขุนเขาเหนือขุนเขาทั้งหมดแล้วเขาค่อยท้าทายอีกครั้ง

ก็ยังไม่สายเกินไป!

“พยัคฆ์บิน อินทรีป่าและฟลามิงโกทั้งสามคนนี้สู้ติดพันกับกัปตันกริฟฟิน,แม่ทัพอินทรีทองและเหมาพั่วตี้หรือเปล่า?” เย่ว์หยางมีลางสังหรณ์ไม่ดี และรู้สึกว่าสิ่งต่างๆ นั้นไม่ง่าย  สังหรณ์ของเย่ว์หยางแม้ว่าปกติแล้วจะด้อยกว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้มีทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ แต่ในการต่อสู้เขามีสัญชาตญาณและการคาดการณ์ที่แม่นยำ ในความเป็นจริงก็คล้ายกับทักษะหกรับรู้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและในบางช่วงเวลาก็เหนือกว่าเล็กน้อย

“ห้าจอมโฉดเราได้พบเห็นทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะมีกันแค่นี้?” เจ้ายักษ์กระทุงร้องลั่น และจนถึงตอนนี้ เขายังไม่สามารถรับความจริงได้ว่าเด็กใหม่ผู้นี้เป็นสุดยอดนักสู้ที่ช่วยเขาไว้

“ถ้าคนที่อยู่เบื้องหลังห้าจอมโฉดมาด้วยสถานการณ์จะแย่มากขึ้น” กาดำถอนหายใจอย่างกังวลและบินไปข้างหน้า

“จอมพลซ้ายกู้ไห่แห่งอาณาจักรเทพประจิมไม่ใช่หรือ?  เขามักจะไม่รับมือกับกริฟฟินและอินทรีทอง  ตราบใดที่เขาปรากฏตัวที่นี่ กริฟฟินและอินทรีทองจะต้องสงสัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  และพวกเขาอาจไปหาจอมพลกู้ไห่โดยตรง!” เจ้ากระทุงไม่เหมือนกับคนหยาบ เขามักจะหุนหันพพลันแล่นในช่วงเวลาสำคัญ เขาสามารถไว้ใจได้จริงๆเขาเป็นคนฉลาดที่สังเกตรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ  มองผิวเผินบุคลิกหุนหันพลันแล่นของเขาและอาการไอคิวต่ำจะสอดคล้องกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมรับความจริงว่ามือใหม่อย่างเย่ว์หยางกลายเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของเขากับเจ้ากาดำ  ตอนแรกเขายังกังวลแต่ความเป็นจริงเมื่อเจ้ากระทุงได้สติและเห็นเกราะหนักโลหะลับเทพสังหารที่เย่ว์หยางสวมใส่  แต่เขาก็ยังปากแข็งไม่เชื่อ

“คำพูดเหมือนเป็นเช่นนี้แต่ความจริงไม่ควรจะเกิดขึ้น” กาดำรู้สึกว่าแนวโน้มสถานการณ์มีแต่จะเลวร้ายไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น

“หัวหน้าพยัคฆ์บิน อินทรีป่าและฟลามิงโกทั้งสามคนคงไม่พ่ายแพ้ง่ายๆ   บางทีพวกเขาอาจกำลังตามหาเราเมื่อสมทบกำลังได้แล้ว เราจะไปตามฆ่าพวกมัน!” เจ้ากระทุงยังคงมองโลกในแง่ดี นี่เป็นนิสัยของเขาที่คิดทุกอย่างในทางดี

“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น!”  กาดำไม่ได้มองโลกในแง่ดีไม่มีทางที่เขาจะมองโลกในแง่ดี

“มีเสียงดัง!” เย่ว์หยางรู้สึกว่ามีเสียงอยู่ข้างหน้าเขา

รอให้ทั้งสามคนหยุดและเตรียมตัวเล็กน้อยเขาเห็นหนอนนับไม่ถ้วน กำลังรีบเร่งไปตามทางเดินเรือฝูงผู้คนจำนวนมากไม่สามารถเคลื่อนไหวบนพื้นได้ ต่างพากันปีนขึ้นไปบนเพดานหรือไม่ก็ทางเดินทั้งสองข้างเพื่อหนีการไล่ล่า

ข้าหน้าตัวหนอนเหล่านี้มีทหารหลายคนและพ่อค้าที่หนีไปข้างหน้าด้วยอาการงุนงง

คนที่ช้าลง

จะถูกหนอนกัดขาดเป็นชิ้นเหลือแต่เลือดเนื้อนับไม่ถ้วนและกลืนลงไปทันที

ทหารสองคนที่เหลือไม่มีความกล้าจะถืออาวุธเผชิญหน้า  เขาไม่กล้าวิ่งออกไปสู้  ได้แต่หันหลังวิ่งตรงมาที่เย่ว์หยาง

กาดำไม่ต้องการให้ความสนใจกับผู้รอดชีวิตเหล่านี้  เพราะเขาไม่สามารถป้องกันตนเองได้

เป็นการยากที่จะดูแลผู้อื่น

แต่ในบรรดาผู้รอดชีวิตเขาเห็นแม่ลูกคู่หนึ่งกำลังร้องไห้และรั้งอยู่หลังกลุ่มข้างหลังมีตัวหนอนหางแมลงป่องและหางของมันเป็นหางตะขอ ดูเหมือนมันต้องการใช้หางเกี่ยวมารดาและบุตรสาวคู่นี้   มารดาพยายามอย่างดีที่สุดหลบหนีจนหมดแรง นางไม่ยอมแพ้ปกป้องลูกสาวในอ้อมแขนอย่างสิ้นหวัง

“....” ขณะที่กาดำสีหน้าเปลี่ยน เขาต้องการวิ่งเข้าไปช่วยแม่ลูกที่กำลังจะตกเป็นอาหารหนอน

“ปีกดำ, อย่าทำเรื่องโง่แบบนี้!”  เจ้ากระทุงรีบห้ามเขา

“เจ้าหลีกทาง” กาดำโกรธ เพราะเขาเห็นเจ้ากระทุงขวางทางเขาไว้ ไม่ให้ขึ้นไปข้างหน้าหางหนอนแทงทะลุร่างมารดาจากข้างหลัง

และหางนั้นพยายามกระตุกกลับ

อกของมารดาสาวและท้องทะลุเลือดกับอวัยวะภายในไหลออก

ไม่มีใครกล้าอยู่หรือกลับไปช่วยมารดาและลูกสาว  ทหารและพ่อค้าเห็นพวกเย่ว์หยางสามคนรีบวิ่งไปหาราวกับได้ชีวิตใหม่  พวกเขาแสวงหาผู้แข็งแกร่งเพื่อความปลอดภัย ขณะที่กาดำจะพุ่งไปข้างหน้าเพื่อช่วยชีวิตเด็กหญิงที่ยังรอดชีวิตอยู่ภายใต้การช่วยเหลือของผู้เป็นมารดา  เจ้ากระทุงก็ใช้ร่างดุจเนินเขาของเขาขวางอีกครั้ง

เจ้ากระทุงจับเสื้อคลุมของกาดำแล้วตะคอก  “คนบนเรือห้าหมื่นหรือหกหมื่นคนตายไปแล้วเจ้าช่วยได้สักกี่คน? แม้ว่าเจ้าจะช่วยนางได้ตอนนี้ แต่เจ้าสามารถปกป้องนางได้หรือไม่?มีศัตรูที่แข็งแกร่งมากปรากฏอยู่ต่อหน้าเรา และแม้กระทั่งตัวเราเองอาจไม่สามารถรับมือกับพวกมันได้แล้วเจ้าจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร? ช่วยนางให้รอดตอนนี้ นางก็จะมีชีวิตรอดต่อไป  เมื่อเจ้ายืนยันจะทำอย่างนี้มันจะเพิ่มความเจ็บปวดให้กับนางมากขึ้น  ขนดำ! เจ้าควรจะมีเหตุผลมากกว่านี้ นี่ไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะทำเรื่องนี้ เจ้าเป็นคนฉลาดมากกว่าข้า เจ้าควรจะเข้าใจความจริงเหล่านี้ได้ดีกว่าข้า!”

กาดำคำรามด้วยความเจ็บปวด  “ความจริงก็คือหัวหน้าพยัคฆ์บินก็ช่วยข้าจากความตายไม่มีเขา ก็ไม่มีข้าในวันนี้! เจ้าไปถามเขาบ้าง ทำไมเขาทำตัวไร้เหตุผล?”

อาการบาดเจ็บของมารดาสาวแม้ใกล้จะตายก็ยังจับลูกสาวหลบตะขอหางหนอนไม่ให้หางหนอนแทงลูกสาวของนาง

นางชูทารกลูกสาวของนางสูงขึ้น

เกรงว่านางคงไม่รอดแล้ว

แต่ความสามารถในการปกป้องลูกสาวให้ได้แม้สักวินาทีเดียวก็เป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ของนาง...เมื่อเห็นเช่นนี้ กาดำน้ำตาแทบร่วง  “แม่!  แม่ข้า, ในปีนั้นนางก็ปกป้องข้าข้าขนดำจะต้องไม่นิ่งเฉยดูสิ่งนี้ การช่วยนางคือการช่วยตัวข้าเอง เพื่อสนองความปรารถนาของผู้เป็นแม่!  ธอร์นตัน  เจ้าหลบไป!”

เขาขยับเสื้อคลุมปาดร่างใหญ่ของเจ้ากระทุงโดยตรง

และพุ่งไปบนฟ้าเหมือนนกราตรี

ร่างของกาดำเร็วมากขึ้นทุกทีและพุ่งตรงไปที่มารดากับทารกหญิง

แต่สายเกินไป...หนอนยาวดึงหางตะขอเกี่ยวร่างที่อ่อนแอของแม่เด็กลากมาข้างหน้าตะขอเหล็กของมันชูสูงก่อนที่กาดำจะเข้ามาช่วยชีวิตมันเตรียมจะทำร้ายกาดำที่อยู่ข้างหน้าอย่างดุร้าย มารดาสาวพยายามปกป้องลูกน้อยอย่างสิ้นหวังต่อหน้ากาดำ!

“ไม่!” กาดำตะโกนร้องอย่างเศร้าใจ เหมือนกับว่าเขาเห็นเด็กถูกฆ่าเพราะได้รับการช่วยเหลือ

“แครก!”ดูเหมือนหนอนจะมีความสุขกับความสิ้นหวังและเจ็บปวดของศัตรู

หนามแหลมของมันหนาเป็นชั้นๆ

อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ นั้นเกินความคาดหมายของทุกคนในตอนนี้  เขี้ยวเล็บที่สามารถตัดทารกหญิงเป็นชิ้นๆได้อย่างง่ายดาย ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดร่องรอยของการฆ่า  แต่กลับถูกกระแทกแตกหักร่วงลงกับพื้น

มารดาสาวที่ยังหลับตาลืมตาอย่างอ่อนล้าของนางและพบบุรุษคนหนึ่งสวมชุดเกราะหนักยืนอยู่ข้างหน้านางร่างของเขาเปล่งประกายลึกลับ สงบและอบอุ่นมาก... มารดาสาวอดส่งเด็กทารกให้เขาไม่ได้ นางหลั่งน้ำตาด้วยความปิติและถามเขา  “ท่านเป็นเทพในตำนานหรือ?  โปรดเมตตาธิดาของข้าด้วยเถิด  โปรดให้ชีวิตเธอ แม้ว่าเธอจะต่ำต้อยแต่ไม่ใช่ความผิดของเธอ..”

เย่ว์หยางยื่นมือรับทารกหญิงที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา

มารดาสาวสูดหายใจและพยักหน้า  “เจ้าเป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่  เพราะเจ้าปกป้องเธอ ลูกสาวของเจ้าจึงปลอดภัย  ไม่ใช่ข้าแต่ตัวเจ้าเป็นคนให้ชีวิตใหม่กับลูกสาว!”

“ถ้าเจ้าไม่ว่ากระไรข้ายินดีรับเธอไปเลี้ยงดูเป็นธิดาตนเอง” กาดำยังคงบินมาสมทบและยืนอยู่ข้างเย่ว์หยาง และขอให้มารดาสาวรับรอง  ขณะเดียวกันเขาโบกเสื้อคลุมและโจมตีหนอนยาวพุ่งออกไปราวกับอุกกาบาต  พวกหนอนเห็นการกระทำของผู้ทรงพลังเหล่านี้พวกมันไม่กล้าแสดงความก้าวร้าว รีบถอยหนีไปทีละตัวและพร้อมจะกลับมาโจมตี

“ขอบคุณ!”มารดาสาวคลายลมหายใจอึดสุดท้ายด้วยความโล่งใจ แม้ว่านางจะตายนางไม่มีความกังวลใจ  นางจากไปอย่างสงบ

“กาดำ! เจ้าบ้าไปแล้ว เจ้าคิดว่ามีเด็กตัวน้อยอยู่ด้วย ศัตรูจะหยุดโจมตีหรือ?  มอบเด็กให้กับทหารเหล่านั้นไปและเราไปกวาดล้างสัตว์ประหลาดกลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด!” เจ้ากระทุงคิดว่านำเด็กผู้หญิงตัวน้อยไปด้วยจะเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ ถ้ายืนยันจะทำเช่นนั้นไม่เพียงแต่ช่วยคนอื่นไม่ได้เท่านั้น  แต่ยังทำให้ทุกคนติดกับดัก

“ไม่, สำหรับข้า เธอคือข้า  ข้าต้องไม่ทอดทิ้งเธอ  มิฉะนั้นก็เท่ากับทิ้งตัวตนเองในตอนนั้นที่แม่ข้ายอมปกป้องข้าจนตัวตายเพื่อให้ข้ารอดอยู่ได้!” กาดำปฏิเสธจะรับเด็กหญิงน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนเย่ว์หยาง  เขาลูบแขนเธออย่างแผ่วเบา

“เจ้าช่างไร้เหตุผลเสียจริง!”  เจ้ากระทุงโกรธจับคอเสื้อกาดำและตวาดลั่น   “นี่เป็นเรื่องสำคัญสองเรื่องและตอนนี้เจ้าไม่ควรเอาแต่ใจตนเองด้วย เจ้ายังจะไปช่วยคนอยู่หรือเปล่า?”

“ไป, แต่ต้องพาเธอไปด้วย”  กาดำเช็ดน้ำตาทารกหญิงที่กำลังหลับเบาๆ

“โมโหแล้วโว้ย!”  เจ้ากระทุงทุบหน้าอกตัวเองและรู้สึกเสียใจที่รู้จักเป็นสหายกับเจ้ากาดำ

เย่ว์หยางกระแอมทันที

เตือนทั้งสองคนว่าอย่าลืมว่าเขายังอยู่

เมื่อเจ้ากระทุงและกาดำหันมามองเย่ว์หยางชูมือขวาเรียกคัมภีร์อัญเชิญและยิ้มให้ทั้งสองคน  “ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไร  ข้าจะส่งเธอไปพักก่อนรับรองได้ว่าข้าไม่ชิงลูกสาวเจ้าแน่”

เมื่อเห็นภาพข้างหน้านี้เจ้ากระทุงและกาดำไม่ได้แสดงความดีใจเพราะพวกเขาคลี่คลายปัญหาได้  แต่พวกเขามีสีหน้าตกใจ  “เจ้า เจ้ามีคัมภีร์อัญเชิญหรือ?  นี่คือคัมภีร์อัญเชิญในตำนานใช่ไหม?”

คราวนี้เย่ว์หยางพูดไม่ออก

คัมภีร์อัญเชิญในตำนาน? ที่นี่ขุนเขาเหนือขุนเขาไม่มีคัมภีร์อัญเชิญหรือ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด