ตอนที่แล้วตอนที่ 1123 แนะนำขัดเกลาเขาให้เปล่งประกาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1125 ความจริงที่คาดไม่ถึง

ตอนที่ 1124 ฐานลับ


“ข้าไม่เข้าใจทำไมเจ้าต้องเลือกเกาะมรกต?” ฉีมู่ที่ตามคุยตลอดทางไม่มีความเข้าใจ จนเย่ว์หยางไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

“เกาะมรกตเลวร้ายนักหรือ?”  เย่ว์หยางอดถามข้อสงสัยไม่ได้

“ยกเว้นชื่อของเกาะมรกตข้าไม่คิดว่าสถานที่ผีสางนี้มีค่าอะไรแก่การกล่าวถึง แม้แต่นกยังไม่อยากบินเฉียดผ่าน”  ฉีมู่รู้สึกหดหู่เหลือทน

“ว่ากันว่ามีแร่ทรัพยากรอยู่ที่นั่น..ใช่แล้ว ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่น แต่มันไม่สำคัญหรอก สิ่งที่เราต้องการที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่ผลประโยชน์เรื่องแร่”  เย่ว์หยางอยากเอานุ่นยัดปากฉีมู่ตลอดทางมานี้เขาพล่ามไม่หยุดเหมือนแมลงวันกวนใจ ถ้าเขาไม่ได้บินด้วยเรือเหาะสำราญบนท้องฟ้าไม่สามารถหลบหลีกได้เย่ว์หยางต้องการอยู่ห่างจากเจ้าผู้นี้จริงๆ

“ไม่มีผลประโยชน์เหมืองแร่,เฮ้..เจ้าพูดจาได้อย่างคล่องแคล่ว เจ้าสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศในการประเมินได้ด้วยความยากลำบากแต่ในเวลาที่สำคัญที่สุด เจ้าไม่ปรึกษากับสหายที่สนับสนุนเจ้าและตัดสินใจเอาเองอย่างน่าโมโห จริงๆ แล้วเราได้เลือกที่ไว้สำหรับเจ้าแล้ว แต่เราก็ต้องปวดหัวไปอีกสองวันจนป่านนี้ก็ยังไม่หาย  เจ้าบอกว่าเจ้าต้องการดินแดนที่ไม่ดีทำไมเจ้าถึงต้องสร้างอาณาเขตในเกาะโพ้นทะเลอย่างเกาะมรกตซึ่งอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่อย่างน้อยสองพันกิโลเมตร? เจ้าคาดหวังให้ใครไปตั้งรกรากที่นั่นมีส่วนร่วมในการทำการเกษตรและซื้อขายจากนั้นจ่ายภาษีให้เจ้าอย่างนั้นหรือ?  เมื่อคนอื่นต้องการดินแดนอาณาเขตแม้แต่ข้าก็ยังหวังว่าจะเป็นสถานที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในหุบเขามนุษย์  ยิ่งใกล้เมืองก็ยิ่งดี อย่างแย่ที่สุดก็เป็นเมืองชนบทและหมู่บ้านต่างๆ  แต่เจ้าทำตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง  แล่นไปไกลถึงที่รกร้างกันดารที่สุดในโลกมีแต่ภูเขา น่านน้ำที่นั่นก็แย่ ไม่มีแม้แต่นกอาศัย  เกาะมรกตเป็นที่ดีจริงๆ  ข้าจะบอกให้ฟังก็ได้ มันเป็นเกาะทะเลทรายนอกนั้นเป็นหญ้าเขียวไม่กี่ต้น มันลำบากมากๆ เมื่ออยู่ที่นั่น  ฉีมู่คิดในตอนแรกว่าเย่ว์หยางกับคุณชายหมิงจูเป็นคนฉลาดทั้งคู่ เขาวาดภาพอาณาเขตชานเมืองของจักรวรรดิหรือพื้นที่พิเศษไม่ได้คาดหวังว่าพวกเขาทั้งสองจะต้องการเกาะมรกต ซึ่งเป็นสถานที่ว่างเปล่า  หาผู้คนอยู่ได้ยาก

“ตอนนี้ไม่ต้องการมันอีกต่อไปเจ้าบอกมาจะทำยังไงดี?” เย่ว์หยางผายมือ

“ข้าจะทำอะไรได้?  เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังปวดหัว?”ฉีมู่กุมศีรษะ

“ปวดหัว”  เย่ว์หยางประหลาด ฉีมู่ใช้สมองเป็นด้วยหรือ?

“ใช่แล้วข้าใช้กำลังสมองอันชาญฉลาดของข้าคิดถึงปัญหาคิดว่ามีวิธีใดจะสามารถกู้คืนความสูญเสียสักเล็กน้อยได้บ้าง เวรจริงๆต้องบอกว่าตัวเลือกของเจ้ามันแย่มาก!  เกาะมรกตไม่มีอะไร และคาดว่าอาณาเขตที่นั่นแม้แต่โจรสลัดก็ยังขี้เกียจไปเยี่ยมเยือน ไม่จำเป็นต้องพูดถึงระยะทางกว่าสองพันกิโลเมตรก็เพียงพอทำให้ผู้คนท้อแท้ได้แล้ว” ฉีมู่อดถ่มน้ำลายดูถูกตัวเลือกของเย่ว์หยางไม่ได้

“นี่ไม่เลวเลยใช่ไหม?  มีทะเลกั้นขวางแผ่นดินใหญ่หุบเขามนุษย์  ดินแดนของเราย่อมปลอดภัย”  เย่ว์หยางรู้สึกว่ายังคงมีข้อได้เปรียบ

“ปลอดภัย?เจ้ากล้าพูดว่าปลอดภัยหรือ? การสร้างอาณาเขตบนเกาะมรกตปลอดภัยอย่างนั้นหรือ? เจ้าความกังวลถึงความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาห่างไกลผู้คนจริงๆ มากกว่า ต่อให้เจ้าใช้เงินหนึ่งร้อยผลึกสวรรค์เชิญให้คนไปเกาะมรกตกับเจ้าหรือจ้างโจรสลัดให้มาปล้นเจ้า จะมีสักกี่คนที่เต็มใจไปกับเจ้า  สัตว์ประหลาดในทะเลมีมากกว่าวัวใครอยากไปตายกันเล่า?  สำหรับการบินในอากาศจะมีสักกี่คนที่มีเรือเหาะหรู สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือเส้นทางนี้ไม่เพียงแต่มีสภาพอากาศเลวร้ายเท่านั้นแต่ยังมีพายุฟ้าคำรนไม่มีหยุดหย่อน มันไม่มีประโยชน์อย่างสิ้นเชิง มีแต่คนเขลาเท่านั้นที่ไปได้หลายพันกิโลเมตรและไปยังสถานที่ผีสางอย่างเกาะมรกตเพื่อกินทราย!”  ฉีมู่รู้สึกว่าเย่ว์หยางเป็นคนดี  แต่ไม่ดีพอในเรื่องการเลือกอาณาเขตเห็นแล้วน่าเยาะเย้ยดูแคลนยิ่งนัก! คาดว่าตอนนี้ว่านหมอและหลานฟงคงหัวเราะจนฟันแทบหักไปแล้ว

“สถานที่นี้นับว่าไม่เลวอย่างน้อยก็กว้างใหญ่มาก” เย่ว์หยางพบความได้เปรียบอีกอย่างหนึ่ง

“มันก็จริงที่นี่กว้างใหญ่กว่าแผ่นดินในปกครองของเมืองไม้เงิน  ความจริงก็มีขนาดใหญ่กว่า 100 เท่าหรือหลายร้อยเท่า แต่จะมีประโยชน์อะไรเล่า? ไม่มีแหล่งแร่ ไม่มีสมบัติของมีค่าเป็นเวลาหลายพันปีที่มีนักสำรวจนับไม่ถ้วนตั้งใจแสวงหาที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ ผู้คนไม่น้อยกว่าพันคนมาที่เกาะมรกตเพื่อค้นหาร่องรอยสิ่งของมีค่าแต่หาไม่พบ นี่แหละเกาะมรกต ดินแดนที่เจ้าเลือก” ฉีมู่เมื่อคิดเห็นว่าคนฉลาดอย่างเย่ว์หยางบางครั้งก็ทำเรื่องโง่เขลาเหมือนกันเขาบ้าจริงๆ

“ข้าขอบอกว่าไม่สำคัญว่าจะมีทรัพยากรแหล่งแร่ที่นี่หรือไม่  เราสามารถสร้างท่าเรือได้”  เย่ว์หยางหยิบแผนที่และพูดถึงแผนของเขา

“และจากนั้นขนทรายออกจากเกาะมรกตหรือ?”  ฉีมู่ตะลึงและหัวเราะทันที  “ถ้าเป็นอย่างนั้นเจ้าโยนเงินผลึกสวรรค์ลงทะเลเพื่อตรวจดูกระแสน้ำก็ได้เผื่อจะสนองความอยากของเจ้าได้!  ไม่มีปัญหาในเรื่องการขาดแคลนทราย ความคิดในเรื่องขนส่งทรายบนเกาะมรกตไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย! แทนที่จะทำอย่างนั้นมิสู้สร้างแพตกกุ้งตกปลาเพื่อหากุ้งหาปลาดีกว่า...แต่ข้าจะพูดว่าผู้ยิ่งใหญ่อย่างเจ้าเป็นใคร?เจ้าคือผู้ที่น่าภาคภูมิใจที่สุดในโลก เจ้าคือไตตันน้อยผู้ฉลาดที่สุดในโลกเจ้าคือผู้ชนะเลิศในการแข่งขันประเมินคะแนนชีวิต ชื่อเสียงของเจ้าตอนนี้ดังยิ่งกว่ากว่าราชาจักรพรรดิกลาง สาวงามในโลกล้วนแต่จดจ่อรอคอยเจ้า แต่เจ้าเจ้าเข้ามาในที่ผีสางแห่งนี้ จะสร้างท่าเรืออะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ!” ฉีมู่ถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด “เดิมทีข้าคิดว่าขณะที่เจ้ารายล้อมไปด้วยสตรีสาวงามข้าตั้งใจจะมาแบ่งเบาภาระให้เจ้า ช่วยแก้ปัญหาให้เจ้า ใครจะรู้เจ้าดันพาข้ามากับเจ้า  เกาะทรายแห่งนี้!”

“ถ้าเจ้าไม่มางั้นข้าแนะนำเจ้าว่าไม่ต้องตามมาก็ได้!”  เย่ว์หยางได้ยินแล้วมีความสุข

“อะไรนะ?  เจ้าพูดว่าอะไร ข้าเหมือนกับคนที่ไม่ซื่อสัตย์อย่างนั้นหรือ?”  ฉีมู่โกรธเหมือนนกแองกรี้เบิร์ดถ้าใส่เครื่องยิงหนังสะติ๊กคงระเบิดหัวหมูกระจาย

“ดีแล้วเจ้าเป็นสหายที่ซื่อสัตย์มาก...” เย่ว์หยางคิดว่า ถ้าเจ้าไม่ตามมา อย่างนั้นเส้นทางนี้คงเงียบเหงากว่าเดิมและคุณชายหมิงจูก็ไม่ชอบแบบนี้ เขาปฏิเสธจะออกมานอกประตู

“ในช่วงเริ่มต้นของการทำงานของเจ้าเมื่อเจ้าท้อแท้ เจ้าต้องการการสนับสนุนจากสหายของเจ้า  ถ้าข้าไม่สนับสนุนเจ้าข้าจะไปคาดหวังจากใครได้? ฮ็อกหรือว่าชิงหมอเจ้าหน้าหลุมศพ?  นอกจากดื่มกินฉลองแล้วพวกเขาไม่มีทักษะฝีมืออย่างอื่น มีแต่ข้าเท่านั้น ก็เหมือนที่ผ่านมาข้ามักสนับสนุนเชียร์เจ้า พี่ใหญ่อย่างข้ายากจะหาได้จริงๆ  เจ้านับว่าโชคดีแล้ว!” ฉีมู่ยื่นแขนโอบไหล่เย่ว์หยางโดยไม่รู้ตัวว่าตนเองขวางโลก

“....”  เย่ว์หยางจะพูดอะรได้ เขาไม่ค่อยพูดเรื่องเขาปลาบปลื้มใจแทบตายเสียด้วย

“ท่าเรือยังจะต้องสร้างแต่ไม่จำเป็นว่าต้องเอาไว้ตกปลา เจ้าบอกว่าการเป็นผู้ชนะเลิศเป็นเจ้าเมืองมีทั้งศักดิ์และฐานะ ก็ต้องหาคนมาทำงานหนักที่นี่บางทีเจ้าอาจต้องทำธุรกิจขนาดใหญ่ แต่นี่ไม่ใช่สถานที่ดีจริงๆ แต่ถึงแม้การตัดสินใจของเจ้าจะผิดก็ตาม แต่ข้าก็ยังสนับสนุนเจ้า!” ฉีมู่ออกหน้าเหมือนเป็นพี่ใหญ่และตบไหล่เย่ว์หยางบอกว่าเขาจะปกป้องน้องชายคนนี้

“การสรรหาคนอาจทำให้เจ้าเดือดร้อนบ้าง”  เย่ว์หยางยินดีมอบภารกิจให้เขาโดยตรง

“เรื่องรับสมัครงานจ้างงานคนเป็นเรื่องง่ายมาก  เราเจ้าชายน้อยผู้มากเสน่ห์รับประกันได้..จะมีปัญหาเล็กน้อยบ้างก็เรื่องเงินทุน ที่นี่ไม่ใช่แหล่งทรัพย์ของข้า  แต่ดินแดนเขตปกครองของเจ้าแย่เกินไป  ข้ากล้าพูดได้ว่าถ้าเจ้ามาที่นี่เพื่อใช้เงินก็คงหาที่นี่ไม่ได้” ฉีมู่รู้สึกว่าการจ้างคนเพื่อสร้างดินแดนที่นี่ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์

“เจ้าคิดว่ามีปัญหากับการจ้างงานคนหรือไม่?”  เย่ว์หยางส่งบัตรเงินผลึกฟ้าราคา 3000ใส่มือฉีมู่

“ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”  เมื่อมองดูบัตรเงินผลึกฟ้าในมือ ฉีมู่ตาคมยิ่งกว่าเหยี่ยวเอวยืดตรงยิ่งกว่าคันทวน

“ข้าเชื่อใจเจ้า!” ครั้งนี้เป็นเย่ว์หยางบ้างที่แสดงท่าทีพี่ใหญ่ตบไหล่ให้กำลังใจเขาบ้าง

“ลูกพี่!  เราจะไม่รับสาวๆ บ้างหรือ?”  ฉีมู่ต้องการคำตอบสุดท้าย

“มีหลักการบางอย่างที่ไม่ควรทำอย่าให้ความสนใจเกินไป อย่ากังวลจนเกินไป”  เย่ว์หยางพูดจนฉีมู่น้ำลายแทบหยด

“เจ้าน่าจะพูดเร็วกว่านี้ข้ากังวลอยู่หลายวัน ความจริงด้วยสิ่งนี้ไม่ว่าจะไปสุดขอบโลก หรือปลายแหลมต่อให้เป็นเกาะมรกตที่นกยังไม่สนใจข้าสามารถเปลี่ยนให้เป็นสถานที่ร่าเริงคึกคักที่มีน้องหนูมากมายมาช่วยผ่อนคลายให้ได้  ไม่ต้องห่วง, ข้ามั่นใจว่าทำเรื่องเหล่านี้ได้ไม่น่ายากเย็นอะไร สำหรับข้า ผู้ฉลาดหล่อเหลา เจ้าชายน้อยผู้น่าทึ่งแห่งหุบเขามนุษย์!”  ฉีมู่ยากจะหาโอกาสคุยโวได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าเย่ว์หยาง และในที่สุดก็หาโอกาสพบจนได้

“.....”  เย่ว์หยางพูดไม่ออก

หลังจากฉีมู่ถูกปิดปากไปได้เย่ว์หยางและคุณชายหมิงจูถึงได้อยู่อย่างเงียบสงบ

ทั้งสองคนลงจากเรือเหาะหรูเตรียมพร้อมจะแสดงพลังที่นี่ตามแผนลับที่ได้คุยกันระหว่างทาง  สร้างฐานทัพที่สู้กับเทพปีศาจได้ในอนาคต

เพราะอยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่ที่นี่จึงป้องกันได้ง่ายหลังจากสร้างฐานที่นี่

การนำทางไม่จำเป็นต้องพูดถึงแม้ว่าเส้นทางคมนาคมทางอากาศก็มีการจัดหุ่นบินรบคอยลาดตระเวนป้องกันหลังจากกลายเป็นฐานที่มั่นคง

นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่เกาะมรกตได้รับเลือก ประการที่สองคือภายในเกาะมีพื้นที่ซึ่งคุณชายหมิงจูวงไว้เป็นวงขนาดเล็ก  มีจุดผนึกลับซึ่งเป็นเสาหลักที่ใหญ่ที่สุดและสุดท้ายนี่อาจเป็นสุสานของเทพปีศาจในหุบเขามนุษย์  ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้ายังไม่มีท่าทีชัดเจน  แต่อาจารย์ใหญ่ให้ความสำคัญกับที่แห่งนี้

คุณชายหมิงจูเกรงว่าเย่ว์หยางจะไม่รู้ถึงความสำคัญของสถานที่แห่งนี้หรือมีความดื้อรั้นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงรีบพยักหน้าและเห็นด้วยกับการแบ่งดินแดนใหม่ของเย่ว์หยาง

มีท่าเรือมีหุ่นรบบิน

แม้ว่าจีอู๋ลี่ว่านหมอและหลานฟงจะแข็งแกร่งขึ้นมากว่าที่เคยมีและมีคะแนนสะสมมากขึ้นแต่ก็ยังยากจะทำลายจุดสุดท้ายนี้

หรือหนึ่งปีต่อมาเทพปีศาจเปลี่ยนหุบเขามนุษย์เป็นทวีปแผ่นดินได้  เย่ว์หยางได้พัฒนาเกาะมรกตแห่งนี้ลับๆเป็นเวลาหนึ่งปี เขาจะมีความสามารถในการเผชิญหน้าแน่นอนไม่ใช่ว่าทำอะไรไม่ถูกและไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง การพัฒนาพื้นที่หุบเขามนุษย์นั้นแม้ว่าจะไม่เลวเลยแต่ประการแรกยากจะประกันความลับได้ ประการที่สองคือสาวกของเทพปีศาจจะตามรังควานทุกวิถีทางที่เป็นไปได้และประการที่สามคือจีอู๋ลี่ และไคเทียนจะระดมกำลังโจมตีครั้งใหญ่แน่นอนและผลกระทบจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าหากเขาไม่เข้าใจ  เขาอาจจะแพ้ได้

มีการสร้างท่าเรือที่นี่  และฐานลับถูกสร้างไว้ภายในผนึก

ด้วยอุปสรรคระยะทางมากกว่าสองพันกิโลเมตรด้วยมีหุ่นบินรบคอยลาดตระเวนป้องกัน จีอู๋ลี่ไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไป และไม่สามารถระดมกองทัพใหญ่บุกเกาะมรกตเพื่อปลดผนึกของเทพปีศาจ

“หลังจากสร้างฐานลับแล้วเจ้าสามารถส่งมอบให้ชิงหมอ พวกเขาต้องการยกระดับพลังของพวกเขา  ที่สำคัญศัตรูของเจ้าคือเทพปีศาจ”  ความจริงในการเดินทางครั้งนี้มีอาคันตุกะสามคนร่วมทางมาด้วย พวกนางคือทูตสวรรค์แห่งหุบเขามนุษย์ทั้งสามสตรีทั้งสามทุกคนน่านับถือ พวกนางยังไม่ปรากฏตัวในเวลาปกติตอนที่ฉีมู่ยังอยู่พวกนางปฏิเสธที่จะออกมาจากเรือเหาะ  พอฉีมู่ออกไปแล้วพวกนางถึงออกมาสนทนากับเย่ว์หยางและหมิงจู

“กฎแห่งการเลื่อนระดับเป็นอย่างไร?”  เย่ว์หยางรอถามประโยคนี้กับพวกนาง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด