ตอนที่แล้วตอนที่ 1122 สาวน้อยเปลี่ยนแปลงสิบแปดอย่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1124 ฐานลับ

ตอนที่ 1123 แนะนำขัดเกลาเขาให้เปล่งประกาย


หลังจากพักผ่อนมาทั้งคืนให้จักรพรรดินีเทียนฟาปรนนิบัติเย่ว์หยางเขากลับไปหอพักนักศึกษาอย่างมีความสุข

พอออกมา

ปรากฏว่าพบเห็นคุณชายหมิงจูกำลังนั่งอยู่หน้าเตียงของเขา

หน้าของเขาแย่ราวกับว่ามีคนติดหนี้สักสามล้าน

เย่ว์หยางเพิกเฉยต่อสายตาอำมหิตและยิ้มให้เขาเข้ามานั่งข้างคุณชายหมิงจูเหยียดแขนโอบไหล่สหายผู้ซึ่งกล่าวกันว่าสามารถไปเที่ยวผู้หญิงด้วยกันได้เพื่อทำให้อุดมคติของชีวิตสมบูรณ์ คุณชายหมิงจูหันมาจับมือของเขาและปัดออกไปทันที  เย่ว์หยางหัวเราะและกล่าวขอโทษ  “ข้าผิดเองข้าไม่ควรปล่อยให้เจ้าอยู่คนเดียวและแอบไปหาความสุขแต่เจ้าก็รู้ใช่ไหมว่าข้าไม่ใช่คนเคร่งครัดธรรมเนียมเพียงแต่เจ้าไม่มีประสบการณ์ชีวิตของมนุษย์ หน้าของเจ้าก็บางข้าก็อยากพาเจ้าไปเที่ยวด้วยนะ แต่เจ้าไม่เต็มใจ..  ก็ได้ ไม่ต้องโกรธแล้ว ข้ายอมรับว่าข้าผิดไม่เป็นไรตราบเท่าที่เจ้าไม่โกรธ จะให้ข้าทำอะไรก็ได้”

“จริงหรือ?” คุณชายหมิงจูหันกลับมาทันที ดวงตาสุกใสจ้องมองเย่ว์หยาง

“อะแฮ่ม.. แน่นอนถ้าเจ้าต้องการดวงจันทร์บนฟากฟ้านภากาศ ข้าไขว่คว้ามาให้เจ้า”  เพื่อให้คุณชายหมิงจูพอใจเย่ว์หยางตัดสินใจทุ่มเททุกอย่าง

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าไปเก็บดวงจันทร์มาให้ข้า!”  คุณชายหมิงจูแค่นเสียงเขาพูดอย่างนั้นได้ยังไง?

“เจ้าไปเอาบันไดสวรรค์มาให้ข้าก่อนข้าจะได้ไต่ขึ้นไปหยิบมาให้เจ้า” เย่ว์หยางกางมือและพูดว่าแม้เขาจะมีความสามารถในการเก็บดวงจันทร์  แต่เขาไม่มีบันไดไต่ขึ้นฟ้าไม่อาจช่วยทำตามคำขอคุณชายหมิงจูได้ หมิงจูเห็นเขาเจ้าเล่ห์ก็หายโกรธไปส่วนใหญ่แต่ก็ยังโกรธอยู่

“บันไดไต่สวรรค์ข้าไม่มี ต่อให้เจ้าโม้  เจ้าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แม้เจ้าจะพูดเป็นหมื่นเรื่องก็ตาม”  คุณชายหมิงจูยังอารมณ์เสีย

“ดูถูกกันเกินไปแล้ว!” เย่ว์หยางทำท่าเหมือนต้องการดวลกับคุณชายหมิงจู  จากนั้นจ้องมองกลับแสร้งทำเป็นโกรธ  “ถ้าพูดแบบนี้อีก ข้าต้องโกรธข้าอุตส่าห์ยินดีทำเพื่อเจ้าที่เป็นสหาย แม้ว่าเจ้าจะขอข้าเรื่องภาพลับที่ข้าสะสมไว้  ข้าก็ไม่ลังเลยินดีเอาออกมาอวดกัน..  เจ้าอย่ามาโทษข้าก็แล้วกันนี่คือสิ่งที่ข้าชอบมากที่สุด เจ้าจะขอยืมไปศึกษาข้าก็ไม่ว่านี่จะช่วยให้เจ้ามีอารมณ์ร่วมในอนาคต ข้าดีต่อเจ้าแค่ไหน เจ้าเข้าใจผิดข้าไปเอง!”

คุณชายหมิงจูดูภาพสาวฮาเร็มและมองหน้าเย่ว์หยาง

เขาพูดไม่ออกอยู่นาน

เย่ว์หยางเอาภาพลับวังที่มีน้ำพุให้คุณชายหมิงจูดู“ระวังด้วยเวลาศึกษาอย่าทำยับ อย่าทำหายแม้แต่หน้าเดียว เราต้องใช้...”

ปฏิกิริยาแรกของคุณชายหมิงจูโกรธต้องการฉีกหนังสือแล้วใส่จมูกเย่ว์หยาง

แต่กลับเปลี่ยนใจและยิ้ม

ตอนแรกเขาเก็บรวมฉบับที่ไม่ได้แก้ไขทั้งหมด

จากนั้นจับไหล่ของเด็กหนุ่มจากโลกอื่นและยิ้มให้เขา  “ไม่เลว เจ้าทำได้ดีแล้วแต่แค่นี้ยังไม่พอ เจ้าต้องเอามาอวดมากกว่านี้”

คุณชายสามรู้สึกว่าเหมือนเขากำลังหลั่งเลือดเมื่อเขาได้ยินเขาตกใจและถามด้วยความวิตก “เจ้าต้องการอะไร?   ข้าผ่านหนาวผ่านร้อนมาก็ย่อมทำเช่นนั้น”

คุณชายหมิงจูรีบปลอบโยนเขา  “ไม่มีใครต้องการให้เจ้าไปผ่านร้อน ข้ารู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับใบหน้าที่ยิ้มไม่จริงใจตลอดทั้งวัน  มันยังจะดีกว่าถ้าสีหน้าของเจ้าจริงจังมากที่สุดทำอย่างนั้นจะดูดี และข้าจะยอมอภัยให้เจ้า”

“ไม่!”  คุณชายสามปฏิเสธเด็ดขาด “ซื่อสัตย์เป็นการแสดงออกที่ดีที่สุดต้องแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา กล่าวอีกอย่างหนึ่ง เมื่อข้าเอาจริงจังข้าจะมีสง่าราศีจับใจ หล่อเกินไปก็ไม่ดีมักจะมีคนอิจฉาเสมอที่สำคัญก็คือต้องทำตัวให้สำคัญน้อยและรู้จักวิธีอำพรางตัวตน ข้าขอบอกเจ้าเลยว่าเมื่อข้าอยู่ในวัยเด็กไปโรงเรียน พวกคุณครูวิพากษ์วิจารณ์ข้าต่อหน้านักเรียนทำให้ข้าอดหัวเราะไม่ได้เพราะความหล่อของข้าส่งผลต่อการสอนของนางและยิ่งส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็กๆสำหรับการเติบโตก้าวหน้าของเด็กที่เป็นอนาคตของประเทศ  ข้าต้องทำตัวให้มีความสำคัญน้อยลงและยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้นข้าจะยิ้มได้ทุกวันหรือ แต่สำหรับอนาคตบ้านเกิดเมืองนอนและความสุขของเด็กๆ ข้าเสียสละได้คนที่ยอดเยี่ยมอย่างข้าเจ้าคงไม่เคยเห็น?”

“ข้าไม่เคยเห็นคนหน้าด้านอย่างเจ้า!”

เมื่อได้ยินเรื่องไร้สาระของเย่ว์หยางความหงุดหงิดในใจของคุณชายหมิงจูหายไปเกินกว่าครึ่งโดยไม่รู้ตัว

ในที่สุดคุณชายหมิงจูอดหัวเราะไม่ได้  เขาอยากจะโกรธ แต่ก็โกรธไม่ลงเจ้าผู้นี้เป็นคนแบบนี้ หากไม่ทำให้คนอื่นหัวเราะได้ นับว่าไม่ใช่ตัวดี

หลังจากคุณชายหมิงจูโกรธแล้วเขาอารมณ์ดีและออกไปที่ประตู เห็นคุณชายฉีมู่หัวเราะเต็มที่

จึงถีบเขากระเด็น

บุรุษผู้เป็นเหมือนแมลงสาบนี้ยากจะฆ่าได้มีรอยรองเท้าประทับอยู่บนหน้าของเขา  แต่เขายังคงยิ้มไม่เปลี่ยน เขาวิ่งกลับมากอดเย่ว์หยางไว้แน่น  “ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถเอาชนะได้ และข้าไม่กลัวที่จะบอกเจ้าว่าข้าเป็นผู้ชมเพียงคนเดียวที่สนับสนุนเจ้าอย่างยากลำบากเต็มร้อย เจ้าผู้ที่ถูกเรียกว่าเจ้าชายอินทรีน้อยล้อเล่นน่า  ข้าคิดว่าคนอื่นมองเจ้าผิดข้าบอกว่าเจ้าสามารถคว้าตำแหน่งชะเลิศได้ เจ้าจะเป็นผู้ชนะเลิศ อีกอย่างหนึ่ง เนื่องจากว่าเจ้ามีวิธีใช้เงิน ข้ารู้จักที่ที่มีสตรีต้องการเงินทำไมเราไม่ไปกันเล่า”

ทันทีที่เขาเห็นคุณชายหมิงจูเดินออกมาจากห้องเขาตะลึงปิดปากกล้ำกลืนคำพูดที่เหลือทันที

คุณชายหมิงจูชำเลืองมองดูเขาแมลงสาบที่ตายยากผู้นี้ถึงกับสั่นสะท้าน

โชคดีที่อาจารย์ใหญ่ออกมาฉีมู่ถอนหายใจโล่งอก

ผู้คนจำนวนมากได้ทราบข่าว

พวกเขาส่งเสียงเชียร์และปรบมือให้เสียงดังราวกับสายฝน

พิธีมอบรางวัลดำเนินไปตามกำหนดเวลา แต่หลานฟงผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศรู้สึกไม่สบายใจเกรงว่าทุกคนจะพบความลับของเขา หลังจากได้รับรางวัลเขาไม่พูดมากและรีบออกไปอย่างรวดเร็ว ในทางตรงข้ามเป็นชิงหมอรองชนะเลิศอันดับสองถูกมิกหมาป่าแห่งหอสูงและคุณชายหยางฉวนรายล้อมถามปัญหาเรื่องพลังโจมตีต่อเนื่องร้อยแปดท่าเขาหวังว่าจะเรียนรู้และได้รับประโยชน์มาบ้าง

สำหรับเย่ว์หยางผู้ชนะเลิศนักเรียนทั่วไปไม่มีโอกาสเข้าใกล้พวกเขา

ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าและอาจารย์ใหญ่และผู้อาวุโสอื่นหลังจากมอบรางวัลแล้วได้ถามเรื่องพลังของเทพปีศาจ  แม้ว่าพวกเขาจะไม่พูดเช่นนั้น แต่พวกเขาต้องรู้เรื่องความลับของเทพปีศาจแน่นอน

เย่ว์หยางไม่ได้ปิดบังยกเว้นแต่ความลับของฝ่ายเขา การตื่นขึ้นมาของเทพปีศาจและพลังของเทพปีศาจต้องให้ผู้อาวุโสเหล่านี้จัดการ

แบกทุกอย่างไว้บนบ่าตัวเองมันเหนื่อยเกินไป

ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้ากับอาจารย์ใหญ่และกลุ่มผู้อาวุโสพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันเบาๆ  ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้ากล่าว  “เทพปีศาจฟื้นฟูพลังจะไม่ถูกประกาศออกไปในเวลานี้เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนวุ่นวายในหุบเขามนุษย์ทั้งหมดและจะทำให้สาวกเทพปีศาจใช้ประโยชน์จากการนี้ เวลาหนึ่งปีไม่สั้นไม่ยาว เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหยุดยั้ง  ในกรณีนี้เราจะคงสถานะเดิมในขณะนี้  และนี่แผนที่หุบเขามนุษย์เจ้าได้รับรางวัลการประเมินผล นอกจากชื่อเสียงแล้ว เจ้าควรได้รับอาณาเขตปกครองเล็กๆ  ในแผนที่นี้ เจ้าดูแล้วพึงพอใจที่ใด?”

เขาไม่ได้พูดอย่างชัดเจนแต่อาจารย์ใหญ่ที่อยู่ข้างเขาพูดเป็นนัยน์ “เด็กน้อย, เจ้าต้องคิดให้ถี่ถ้วน”

เย่ว์หยางฉลาดมาก

เมื่อมองดูอาจารย์ใหญ่บอกใบ้เขารู้ว่าจะต้องเลือกที่ไหน

คุณชายหมิงจูกลัวว่าเย่ว์หยางจะมองไม่เห็นเขารีบก้าวออกมาข้างหน้าและตอบแทนเขา “ท่านประธานสมาคม  ผู้เยาว์ตัดสินใจเลือกเกาะมรกต!”

“เลือกเกาะมรกต?  แต่ไม่มีคนอยู่ที่นั่น นั่นเป็นเกาะที่อยู่โพ้นทะเลเจ้าอธิบายได้ไหมว่าทำไมเจ้าถึงเลือกที่นั่น?” ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าลอบพยักหน้ากับอาจารย์ใหญ่ พวกเขาแอบยิ้มให้กันแต่ปากก็ถามเพื่อให้เย่ว์หยางกับคุณชายหมิงจูให้เหตุผลโน้มน้าวใจชาวโลก

“ข้าได้ยินมาว่าที่นั่นอุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย”  เย่ว์หยางโกหกได้โดยไม่กระพริบตาหน้าไม่แดง

“ตกลงในกรณีนี้พื้นที่ส่วนกลางของเกาะมรกตเป็นของเจ้า แต่นักเรียนไตตันดินแดนของเจ้ามีเพียงหนึ่งเมืองไม่ถึง 1% ของเกาะมรกตไม่อาจรุกล้ำข้ามเขตแดนได้!”  ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าทำวงกลมเล็กๆบนแผนที่เกาะมรกต จากนั้นมอบให้เย่ว์หยางที่กำลังยืนยิ้ม

“โปรดมั่นใจได้ ท่านประธานสมาคมฯข้าจะปฏิบัติตามกฎไม่ทำการผนวกดินแดนรอบเกาะแน่นอน”  ถ้าเย่ว์หยางเป็นพิน็อคคิโอ  จมูกของเขาคงยืดยาวอย่างน้อยสองฟุต

“ดีมาก” ประธานสมาคมกลุ่มโรงเรียนฯ ตบไหล่เย่ว์หยาง  “เจ้าเด็กน้อย, เราทำอะไรได้ไม่มากเจ้าต้องเข้าใจพวกเราคนแก่ด้วย”

“พวกเจ้าไปเตรียมตัวเถอะ!”  อาจารย์ใหญ่ลูบไหล่เย่ว์หยางและจับมือคุณชายหมิงจูวางไว้บนมือของเย่ว์หยาง  “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้าหวังว่าพวกเจ้าทุกคนจำคำของข้าไว้ พวกเจ้าต้องรักษาตัวเองให้ดี หุบเขามนุษย์มีความสำคัญมาก แต่แม้จะสำคัญแต่ก็ยังไม่เท่าพวกเจ้า...ถ้าหลายอย่างไม่เป็นไปราบรื่นด้วยดี ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะออกจากหุบเขาให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้  ปล่อยให้ต้นกล้าเผชิญกับลมแรงเป็นความน่าละอายของเราเหล่าผู้อาวุโส น่าเสียดาย เราอ่อนแอเกินไปไม่สามารถปกป้องพวกเจ้าได้มาก”

“พายุรุนแรงจะผ่านไป  ข้าสัญญาว่าไม่ว่ามันจะรุนแรงเพียงไหนก็ไม่อาจหยุดยั้งพลังชีวิตได้” เย่ว์หยางพาคุณชายหมิงจูคำนับผู้อาวุโสผู้อยู่ในหุบเขามนุษย์มานานอย่างเงียบๆ

ประธานสมาคมกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้ามองเย่ว์หยางและคุณชายหมิงจูจากไป

เป็นเวลานานพวกเขามองหน้ากันและหัวเราะ

พวกท่านเข้าใจกันโดยปริยาย

พวกเขากล่าวคำอำลาและจากไปตามลำดับพยายามอย่างดีเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดและพบกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหุบเขามนุษย์

“หุ่นบินรบ แม้ว่าไม่อาจสู้กับเทพปีศาจได้แต่มันสามารถหยุดสาวกของเทพปีศาจไม่ให้ออกมาอาละวาดได้”ประธานกลุ่มโรงเรียนถอนหายใจมองดูฟ้า “บรรพบุรุษที่มองเราจากฟากฟ้า,ท่านคงจะรู้ว่าหุบเขามนุษย์เราใกล้จะพบจุดจบถึงได้ส่งไตตันน้อยมาให้เรา?  หรืออันที่จริงอาจเป็นเมื่อสิบห้าปีที่แล้วที่คุณหนูมาถึงก็ได้  ข้ามีลางสังหรณ์เช่นนี้คาดไม่ถึงเลยว่าเด็กน้อยผู้นี้มาได้เร็วนัก!  ข้าแต่บรรพบุรุษ โปรดชี้นำทางเราต่อไป  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางเติบโตของเจ้าเด็กน้อยโปรดช่วยขัดเกลาเขาให้เปล่งประกายด้วยเถิด!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด