ตอนที่แล้วตอนที่ 1115 เสรีภาพ โอกาส การยอมรับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1117 ผิดธรรมดา ความคล่องแคล่วที่สิ้นหวัง

ตอนที่ 1116 คนโอหังที่สุดในโลก


เย่ว์หยางมีความสุขมาก

แม้ว่าจะไม่ใช่การฝึกฝนของตัวนางเองและความก้าวหน้าในระดับใหม่  แต่เนื่องจากความเป็นตัวของตัวเองของเขา  ที่มีส่วนทำให้ภูมิปัญญาของอิงหลัวยกระดับเขามีความสุขที่นางยกระดับพลังต่อหน้าเขา ยิ่งกว่านั้นหลังจากพูดคุยด้วยใจครั้งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองดีขึ้นอย่างมาก

เย่ว์หยางอารมณ์ดียังคงยิ้มได้ถึงวันต่อมา

ไม่รู้ว่าทำไมคุณชายหมิงจูถึงได้อารมณ์เสียหงุดหงิด

“เกิดอะไรขึ้นเจ้าถึงได้หัวเราะเหมือนสุนัขไปคลุกฝุ่นมา?” คุณชายหมิงจูไม่ใส่ใจ แต่แม้แต่คนตาบอดก็มองออกว่าคุณชายหมิงจูกระตือรือร้นจะขุดความลับในใจของเขาออกมาดู  คุณชายหมิงจูอารมณ์ไม่ดีและฉีมู่กลัวว่าประตูเมืองจะโดนไฟลามไหม้ไปด้วย เขารีบพาฮ็อกหนีไป เขารู้วาพลังของค้อนทองไม่ใช่ว่าใครจะทนได้กันทุกคน

“วันนี้เจ้าไม่คิดว่าข้าหล่อเป็นพิเศษหรือ?” เย่ว์หยางทำเป็นหวีผมที่หน้าผากทำมาดเท่

“ส่องกระจกดูตัวเองบ้าง แล้วเจ้าจะพบหมูอยู่ข้างใน!”  คุณชายหมิงจูเยาะเย้ย

“อิจฉาข้าไปก็ไร้ประโยชน์  ข้าหล่อออกอย่างนี้ เจ้าคงไม่มีทางตามได้ทัน อย่างไรก็ตามเจ้าไม่จำเป็นต้องยึดติดกับเรื่องนี้มากเกินไปแม้ว่าความเป็นชายของเจ้าจะน้อยไปบ้าง เจ้ายังดูตุ้งติ้งเหมือนผู้หญิงแต่ต่อไปรับรองเจ้ามีอนาคตสดใส แม้ว่าข้าจะอยู่ในประเภทนักฆ่ารูปงาม แต่เจ้าก็ดูไม่เลวข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องติดตาต้องใจสาวใหญ่แม่ม่ายและคงจะได้ฉายานักฆ่าสาวรุ่นใหญ่ในอนาคตแน่”

“นักฆ่าสาวรุ่นใหญ่!” คุณชายหมิงจูคิดว่านี่คงเป็นชื่อที่ได้มายากที่สุดอย่างหนึ่ง

“นักฆ่าสาวรุ่นใหญ่ยังดีกว่ากระเทยปีศาจลามก!”  เย่ว์หยางอารมณ์ดีสบายใจอยู่นานเขาเอื้อมมือตบไหล่คุณชายหมิงจู “เจ้าอย่าเก็บตัวเกินไป มิฉะนั้นคนทั่วไปจะเข้าใจผิดว่าเจ้าเป็นสตรีได้!”

“ไม่มีใครตาบอด ยกเว้นเจ้า”  คุณชายหมิงจูกัดฟันกรอดๆ

“ความจริงแล้ว ถ้าข้าชอบผู้หญิง ข้าไม่สนใจผู้ชายแต่ข้าอาจถูกหลอกด้วยใบหน้าน้อยๆ ของเจ้ามันสวยเกินไปและดูดีกว่าสาวงามหลายคน ข้าไม่สบายใจทุกทีเมื่อคิดว่าเจ้าเป็นบุรุษ..”  ทันใดนั้นเย่ว์หยางยื่นมือออกไปลูบหน้าคุณชายหมิงจูซึ่งตกใจสนองตอบด้วยค้อนทองหวดใส่ศีรษะเขาทันที  “ไปตายซะเถอะ เจ้างี่เง่า!”

หลังจากหยอกล้อสนุกสนานแล้ว

หลังจากถูกค้อนหวดแล้ว เย่ว์หยางคืนชีพพร้อมกับตัวเปื้อนเลือดเมื่อกรรมการจัดการแข่งขันเตือนให้ผู้แข่งขันเตรียมพร้อม

คู่ต่อสู้ของเขาคนต่อไปก็คือว่านหมอผู้แข็งแกร่งเต็งชนะเลิศอันดับสองหลังจากจีอู๋ลี่ได้รับการจัดอัดดับแรก  จงหัวผู้อยู่อันดับสองถูกว่านหมอแซงแม้กระทั่งรั้งอันดับต่อจากหลานฟงที่เป็นเจ้าของหุ่นแพลตตินัม

การต่อสู้ครั้งนี้แทบไม่มีใครเชียร์เย่ว์หยาง

ที่สำคัญคือพลังต่อสู้ของหุ่นเลือดเนื้อน่าตกตะลึงจริงๆ

แม้ว่าเย่ว์หยางจะเด่นในเรื่องพลังโจมตีต่อเนื่องร้อยแปดท่าก็ยังไม่ได้รับความนิยมจากนักเรียน

สิ่งเดียวที่ทุกคนคาดเดาได้ก็คือด้วยสติปัญญาที่ชาญฉลาดไตตันน้อยจะสู้ได้นานเท่าใด

มิกหมาป่าแห่งหอสูงและนักเรียนอื่นที่เป็นสหายยังคงเชียร์เขาก่อนเริ่มการแข่งขัน  “อะแฮ่ม.. ไตตันน้อยแม้ว่าข้าจะเดิมพันข้างว่านหมอ 100 ผลึกสวรรค์ แต่ใจจริงข้าเชียร์เจ้า!”

“ไปไกลๆ เลย!”  ฉีมู่โกรธและสงสัย  วางเดิมพันข้างว่านหมอ แต่ไปเชียร์อีกฝ่ายหนึ่งนี่มันเชียร์ประสาอะไร?

“ขอบคุณ”  เย่ว์หยางยังอารมณ์ดีและกล่าวขอบคุณมิก

“เราคุณชายขอทุ่มสุดตัวเพื่อเชียร์พี่น้อง ข้าตัดสินใจหุ้นกับสมาชิกครอบครัวเดิมพันข้างเจ้า 5 – 50ผลึกสวรรค์!” ฉีมู่เป็นคนที่มุ่งมั่นภักดีจริงๆ

“ดูเหมือนเจ้ามี500 ผลึกสวรรค์ไม่ใช่หรือ? ถ้าเจ้าเชียร์จริงๆ เจ้าก็ต้องทุ่มสุดตัว ไม่งั้นก็ไปไกลๆ เลย!”  คุณชายหมิงจูเยาะเย้ยฉีมู่ที่ดูเหมือนตีสีหน้าไม่จริงใจฉีมู่อดละอายมิได้ เพื่อรักษาหน้าของตนเอง ฉีมู่ที่บอกว่าเสี่ยงทุกอย่างเขาตบอกตัวเองทันที  “50ผลึกสวรรค์นั่นแค่ส่วนของข้า การสนับสนุนที่แท้จริงกำลังตามมาข้าตั้งใจเชียร์พี่น้องข้า ขอทุ่มสุดตัวทั้งหมด 550 ผลึกสวรรค์!”

“นี่ไม่ดีหรือเปล่า?  วู่วามเกินไป จำเป็นต้องวางเดิมพันมากขนาดนี้เชียวหรือ?”  เย่ว์หยางมองเห็นแล้วสะดุ้งตกใจ  เขารีบออกตัว

“ไม่ต้องห้ามข้า  ข้าจะสู้อย่างนี้แหละ”  ภาพพจน์ของฉีมู่ก่อนนั้นยังดูมีราศี น่าเสียดายที่ต่อมาเขาแอบคร่ำครวญกอดขาเย่ว์หยาง  “ลูกพี่, เจ้าต้องชนะให้ได้นะ ไม่อย่างนั้นข้าหมดตัวแน่ถ้าเจ้าไม่ต้องการให้ข้าติดตามเจ้าทุกวี่วัน เจ้าต้องทุบว่านหมอเผื่อข้า!  ได้โปรด ชีวิตข้าขึ้นอยู่กับเจ้า...”

“ไปไกลๆ เลย!” เย่ว์หยางยิ่งฟังก็ยิ่งรำคาญ ชีวิตของเจ้าอะไรกัน ผายลมชัดๆ เขายันคุณชายฉีมู่ตัวลอย

ขณะที่เย่ว์หยางเตรียมพร้อมเข้าหุบเขาตะวันตกเพื่อสู้กับว่านหมอ

จินฉีผู้สามารถเข้าสู่รอบต่อไปเพราะคู่ต่อสู้ของเขายอมแพ้  ได้เข้ามาหาทันที

เขาเอ่ยคำพูดที่ทำให้ผู้ชมตะลึงเพราะพูดว่า “ท่านกรรมการจัดการแข่งขัน ขอให้ท่านช่วยสลับคู่ต่อสู้ข้ากับว่านหมอได้ไหม?ข้ายินดีจะแข่งกับไตตันน้อย ท่านก็รู้ใช่ไหมว่าไตตันน้อยอาจไม่สามารถเข้าสู่รอบต่อไปได้เพราะฉะนั้นข้าตั้งใจขอสู้กับเขาก่อน แม้ว่าข้าจะได้ตำแหน่งที่ดีไปแล้ว  ท่านกรรมการจัดการแข่งขันข้ายินดีจะแลกเปลี่ยนคู่ต่อสู้กับว่านหมอและขอให้ว่านหมอรับชัยชนะล่วงหน้าของข้าก่อนนั้นแทนข้าโดยตรง”

เมื่อกรรมการชุดดำได้ยินเขาขมวดคิ้วทันที “นักเรียนจินฉีขอเปลี่ยนคู่ต่อสู้ นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เจ้าไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนแลย  เรื่องจำเป็นอันดับแรกในการประเมินขึ้นอยู่กับกรรมการกลางและความยินยอมของบุคคลที่เกี่ยวข้อง  ประการที่สองความเห็นด้วยกับข้อการแลกเปลี่ยนของเจ้า ประการที่สามเป็นจุดที่ยากที่สุดในการแลกเปลี่ยนคู่ต่อสู้  นั่นคือเป้าหมายของเจ้า คือไตตันน้อยยอมตกลง..เอาแบบนี้ ข้าไม่สามารถมอบสิทธิ์ให้เจ้าโดยพลการได้แต่ตราบใดที่ว่านหมอและไตตันน้อยเห็นด้วย ข้าจะถามความเห็นของกรรมการทุกคนก่อนตัดสินใจว่าจะอนุมัติตามข้อเสนอนี้หรือไม่!”

“เห็นด้วย”  ว่านหมอมองเย่ว์หยาง ดวงตาของเขาเป็นประกายแต่ในที่สุดเขาเห็นด้วย

“ไตตันน้อย!  เจ้าเล่า จะเอายังไง?  ตราบเท่าที่เจ้าปฏิเสธข้อเสนอนี้จะไม่ผ่าน”  กรรมตัดสินชุดดำมองเย่ว์หยาง ในการแลกเปลี่ยนคู่ต่อสู้นี้สิ่งสำคัญที่สุดคือความเห็นของเย่ว์หยาง

“มันจะมากเกินไปแล้ว!”  ฮ็อกชูกำปั้นด้วยความโกรธ

“สู้กับเขา,  ว่านหมอไม่สามารถเอาชนะได้ แต่จินฉีน้อยอย่าว่าแต่เจ้าเลย  แค่ข้าก็ซัดเขาได้ไม่ต้องไปกลัว” ท่าทีของฉีมู่ไม่ต้องการให้ว่านหมอและเย่ว์หยางสู้กันทันทีและยอมตกลงเปลี่ยนคู่ต่อสู้  ว่านหมอและจินฉีเชื่อว่าคนโง่ก็รู้ว่าใครแข็งแกร่งยิ่งกว่า!

“ตกลง,ข้าเห็นด้วย...” ก่อนที่กรรมการชุดดำจะให้คำแนะนำอีกครั้ง เย่ว์หยางโบกมือและยิ้มสดใสราวกับพระอาทิตย์พูดต่อทันที “ตอนนี้ข้าจะต้องส่งคำขอแลกเปลี่ยนคู่ต่อสู้ของพวกเจ้าบ้าง  บางอย่างมันน่าเบื่อเกินไป ข้าว่ามันไม่ดี  ข้าขอเสนอให้นักเรียนว่านหมอและจินฉีเข้าร่วมกันเลยข้าคนเดียวจะสู้กับพวกเขาทั้งสอง เป็นการประหยัดเวลา ไม่ต้องเปลืองเวลาของทุกคนท่านจะเห็นด้วยไหม?”

“อะไร,ว่าไงนะ?” จินฉีไม่เคยคาดคิดว่าเย่ว์หยางจะหยิ่งยโสระดับนี้ ใบหน้าของเขากระตุกตัวสั่นด้วยความโกรธ

“เป็นผู้เยาว์ที่หยิ่งยโสยิ่งนัก!” ว่านหมอสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ในฐานะอันดับรองจากจีอู๋ลี่ นั่นทำให้ผู้คนโห่ร้องทันที  เขารู้สึกอายต่อหน้าสาธารณชน  เมื่อรู้ถึงพลังของหุ่นรบเลือดเนื้อแล้วและรู้ว่าจินฉีไม่เหมือนเดิม เขายังกล้าท้าสู้หนึ่งต่อสองไตตันน้อยนี้น่ากลัวจริงๆ!

“จะสู้กันแบบนี้จริงๆหรือ?”  กรรมการชุดดำไม่เคยเห็นคำขอแบบนี้มาก่อน

“ตกลง, ตกลง,ตกลง!” คนชมดูดีใจส่งเสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง อาการเลือดลมพลุกพล่านนี้คืออะไร? ปรากฏว่าไตตันน้อย ที่แต่เดิมไม่ชอบหน้าว่านหมอและจินฉีอยู่แล้ว คาดไม่ถึงว่าการปรากฏตัวของทุกคนกลับเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่จริงๆ  นับว่ามีความสุขที่ได้เห็นและได้ยิน

กรรมการชุดดำรีบกลับไปขอคำแนะนำของกรรมการจัดการแข่งขันกลางและผลลัพธ์ก็เกินความคาดหมายของเขา

ปรากฏว่ากรรมการกลางเห็นชอบ!

เวลานี้นักเรียนทุกคนในกลุ่มผู้ชมมารายล้อมชมดูการต่อสู้ตัดสินเด็ดขาดระหว่างเย่ว์หยางว่านหมอและจินฉี กิจกรรมอื่นๆ ถูกทิ้งไปหมด รวมทั้งผู้แข่งขันอื่นที่ต้องเริ่มแข่งพวกเขาไม่อาจเทียบได้จึงต้องมาดูไตตันน้อยผู้มีปัญญา  เขาจะต้องสู้กับว่านหมอผู้มีหุ่นเลือดเนื้อและจินฉีผู้มีพลังยิ่งใหญ่

หลังจากชนะการแข่งขันได้แล้วหลานฟงผู้กลับมาหอพักอย่างหยิ่งยโสเพื่อพักผ่อนก็ได้ทราบข่าวเช่นกัน

ก่อนจะเข้าเวทีต่อสู้  มิกหมาป่าแห่งหอสูง พวกเขายังคงไม่ยอมแพ้ได้ให้คำแนะนำกับเย่ว์หยาง  “ไตตันน้อยยอมแพ้ตอนนี้เถอะ ข้ารู้ว่าเจ้ามีพลังแข็งแกร่งมาก แต่เจ้าไม่รู้ว่าไม่เคยมีผู้ใดสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้สองคนที่มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกันหรือเหนือกว่าตนเองได้”

คุณชายหยางฉวนแนะนำอย่างกล้าหาญ  “ถ้าข้าไม่คิดว่าเจ้าเก่งอย่างนี้มาก่อน  อย่างนั้นแค่ความกล้าของเจ้าก็ทำให้ข้ามั่นใจแล้ว”

ไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นคำพูดจริงหรือเท็จ

แต่เย่ว์หยางยังคงยิ้มและยอมรับคำให้กำลังใจนี้

“เจ้าไม่เปลี่ยนใจจริงๆใช่ไหม?”  กรรมการชุดดำถามเป็นครั้งสุดท้าย

“ถ้าพวกเขายินดีขอความเมตตาจากข้า  อย่างนั้นข้าอาจจะยอมปล่อยพวกเขาไป” เย่ว์หยางส่งสัญญาณให้กรรมการชุดดำถามอีกฝ่ายหนึ่ง

“ปากกล้านัก!”  ว่านหมอโกรธจนปอดแทบระเบิด

“รอสักเดี๋ยวเถอะข้าต้องทุบเจ้าจนเละเป็นขยะ  จะทุบให้บ้าหลั่งเลือดและเลาะฟันเจ้าให้หมดถ้ายังเหลืออยู่สักซี่หนึ่งถือว่าข้าล้มเหลว” จินฉีโกรธจนจมูกบิดเบี้ยว ในชีวิตของเขาไม่เคยเห็นคู่ต่อสู้ที่เย่อหยิ่งแบบนี้มาก่อน พวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา  ต้องถลกหนังและจะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด

ไม่ว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้นี้จะเป็นเช่นไรทุกคนเข้าใจในที่สุด

ทั้งโลกนี้

ไม่มีใครเย่อหยิ่งและฉลาดยิ่งกว่าไตตันน้อยอีกแล้ว!

แม้ว่าเขาจะปฏิบัติต่อผู้คนอย่างสุภาพสุภาพต่อครูบาอาจารย์ ใจดีต่อสหาย ทำให้ทุกคนยิ้มเหมือนได้รับสายลมฤดูใบไม้ผลิเหมือนกับแสงอาทิตย์... อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ไม่ได้แสดงถึงความกล้าของเขาความหยิ่งของเขาอาจจะดูด้อยกว่าคนอื่นแต่นั่นเป็นเพราะเขาไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นตามปกติ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด