ตอนที่แล้วบทที่ 22 ความผิดพลาดของโป!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 24 ศักยภาพที่พุ่งทะยานของอาโป!

บทที่ 23 อัจฉริยะแห่งศิลปะการต่อสู้หนึ่งในล้าน!


บทที่ 23 อัจฉริยะแห่งศิลปะการต่อสู้หนึ่งในล้าน!

  กลางคืน ณ บ้านของเฉินเหวิน....

  สีหน้าของอาโปมืดมน และมันนอนเหม่อลอยอยู่บนโซฟากับเฉินเหวินและดู "The Beastmaster Who Knows Martial Arts"

นี่เป็นแอนิเมชั่นที่ดัดแปลงมาจากประสบการณ์ของ เฉินฟาน บีสมาสเตอร์ในตำนาน มันบอกเล่าเรื่องราวของบีสมาสเตอร์

ที่รักศิลปะการต่อสู้โบราณ และสอนสัตว์อสูรของเขาให้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ ในท้ายที่สุด เขาก็สามารถเอาชนะศัตรูได้ทุกรูปแบบ และป้องกันหายนะของสัตว์อสูรลึกลับจากการโจมตีหมู่บ้านได้สำเร็จ และกลายเป็นรุ่นของบีสมาสเตอร์เรื่องราวของราชาสัตว์อสูร

  เมื่อก่อน อาโปเห็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมและอาหารอร่อยๆ มันจะร้องเรียกสองสามครั้ง และแสดงสีหน้าที่โหยหาอีก

   แต่ตอนนี้อาโปมีดวงตาที่เศร้าสร้อย เป็นเหมือนมะเขือยาวที่ถูกน้ำแข็งทุบจนร่วงโรย

  แม้ว่าตาทั้งสองข้างจะมองไปที่ทีวี แต่หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าดวงตามันไม่ได้จดจ่ออยู่ที่ทีวี

   ใจมันยังติดอยู่ที่ศึกเมื่อยามบ่าย....

   เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉินเหวินก็หยิบรีโมตคอนโทรลบนโต๊ะและปิดทีวีลง

  ดวงตาของอาโปยังคงจ้องมองที่หน้าจอทีวี ราวกับว่าภาพเคลื่อนไหวยังคงแสดงบนหน้าจอมืด

"พอได้แล้ว!"

  เฉินเหวินไม่เพียงแค่พูด แต่ยังถ่ายทอดความคิดของเขากับอาโปผ่านจิตวิญญาณในพื้นที่มิติสัตว์อสูร....

  เสียงนั้นเข้าถึงส่วนลึกของหัวใจของอาโป และปลุกมันให้ตื่นจากโลกของตัวเองทันที

  อาโปกลับสู่ความเป็นจริง เงยหน้าขึ้นมอง เฉินเหวินอย่างอ่อนแรง แสดงสีหน้าว่า "ฉันก็ไม่อยากเป็นแบบนี้เหมือนกัน!"

   ความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ในวันนี้ อาโปไม่เพียงท้อใจในตัวเองเท่านั้น แต่ยังรู้สึกผิดต่อเฉินเหวินด้วย

  แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้มันหมดหวังและเป็นทุกข์คือการสูญเสียน้ำผึ้งร้อยดอกไม้ทั้งสองกระป๋อง

   สิ่งที่นึกกลับไปกลับมาในใจตอนนี้ไม่ใช่ฉากทั้งหมดของการพ่ายแพ้ในการต่อสู้ แต่เป็นฉากที่เซิ่งเอ๋อกินน้ำผึ้งร้อยดอกไม้สองกระป๋องมากกว่า

  กินคนเดียวสบายเลยนะ!!

  เมื่อรู้สึกถึงอารมณ์ที่ซับซ้อนของอาโป เฉินเหวินตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่เขาฝืนทำหน้าเฉยเมย และถามว่า "นี่นายยังคงหมกมุ่นอยู่กับความล้มเหลวของวันนี้งั้นเหรอ?"

  อาโปก้มหน้าลงและนิ่งเงียบ....

   "ถ้านายล้มเหลว แล้วทำหน้าซังกะตายแบบนี้จะไปมีประโยชน์อะไร และจะได้น้ำผึ้งร้อยดอกไม้คืนมามั้ย?"

   ประโยคแรกไม่มีการเคลื่อนไหวจากอาโป แต่ทันทีที่ประโยคที่สองถูกพูด มันก็รู้สึกว่าหัวใจดวงน้อยถูกทิ่มแทงอีกครั้ง มันเงยหน้าขึ้นมองเฉินเหวิน ด้วยดวงตาที่ขุ่นมัว

  (﹏)

   "อะไรนะ? เป็นความผิดของฉันเหรอ?"

   “ผิดที่ฉันไม่สามารถหาอาหารที่ดีกว่านี้ หรือ ผิดฉันที่ไม่สามารถฝึกฝนนายให้ดีได้!”

  อาโป รีบส่ายหัว

"嘤嘤~"

   มันไม่ใช่สัตว์อสูรที่ไม่มีความรู้สึก หากแต่มันสัมผัสได้ถึงความเมตตาที่ เฉินเหวิน ปฏิบัติต่อมันในเดือนที่ผ่านมา

  คนส่วนใหญ่ชอบมันเพราะรูปร่างหน้าตาน่ารักและท้องกลม มีเพียงเฉินเหวินเท่านั้นที่ต้องการให้มันมีทักษะในการต่อสู้ไปพร้อมกับเขา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะแข็งแกร่งขึ้น

  เฉินเหวินพยักหน้าเบา ๆ อาโปค่อนข้างขี้เกียจ และไม่ชอบการออกกำลัง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนแปลงมัน

   “ในเมื่อมันไม่ใช่ปัญหาของฉัน แล้วปัญหาของใครล่ะ?”

  เมื่อฟังคำถามของเฉินเหวิน อาโปก็ก้มหัวต่ำลงอีกครั้ง

   “เพราะทักษะต่ำ หรือไร้ซึ่งพรสวรรค์กันแน่?”

"มันต้องมีทางแก้สิ!"

แต่ทุกปัญหาที่เกิดก็เพราะ......

   "นายขี้เกียจ!"

   “การวอร์มอัพทุกครั้งก็ไม่ได้เรื่อง!”

   "ทุกการฝึกเกือบจะเหมือนกันไม่เอาไหน!"

   "แล้ววิชาอื่นๆ ถ้าไม่เล่นนายก็หลับ!"

   "..."

  อาโปก้มหัวให้ต่ำลง.....

"แต่นายรู้หรือไม่ว่า?"

   “รู้มั้ยที่เห็นว่าเซิ่งเอ๋อเล่นกับนายทุกวันที่โรงเรียน แต่เขาต้องฝึกอย่างหนักอย่างน้อยสองชั่วโมงหลังจากกลับบ้าน!”

"แต่นายกินแล้วก็นอนดูซีรีย์?"

   "ฉันจะปล่อยให้นายวิ่งไปรอบ ๆบ้าน ในเวลากลางคืน และกลิ้งไปทั่วพื้น!"

  เมื่ออาโปได้ยินคำพูดนี้ ทำให้มันรู้สึกว่าหากมันจะสามารถขุดลงไปในดินได้ มันจะรีบซ่อนตัวอยู่ในนั้นทันที

   เมื่อเห็นเช่นนี้ มุมปากของเฉินเหวินก็โค้งขึ้นเล็กน้อย...

  แน่นอนว่ามีสัตว์อสูรที่กลับบ้านเพื่อฝึกฝนเพิ่มเติม แต่มีเพียงสามหรือห้าตัวในชั้นเรียนมัธยมปลายปีสองของทั้งหมด

สัตว์อสูรทุกตัวยังเป็นลูก และหากการฝึกฝนมากเกินไปอาจส่งผลต่อพัฒนาการของพวกมัน

   นอกจากนี้การฝึกฝนจะเพิ่มขึ้นอย่างหนักนั้น หากเป็นสัตว์อสูรเลี้ยงและคนธรรมดาก็ยากที่จะทนทานได้

  สำหรับการฝึกฝนสองชั่วโมงของเซิ่งเอ๋อในทุกคืน...ก็นับว่าหนักสำหรับเด็กน้อย

เหอเซิ่งเคยบอกเขาว่าเขาซื้ออุปกรณ์สำหรับการฝึกไว้บ้านด้วย

   แม้เซิ่งเอ๋อเองก็ ไม่ได้ดีกว่าอาโป มากนัก ไม่ว่าจะฝึกต่อที่บ้านก็ตาม แต่มันยังใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์บ้าง ซึ่งต่างกับอาโปที่กินแล้วก็นอน!

  หากกล่าวถึงอาโป มันเป็นเพียงลูกหมีอ้วนที่กำลังกินและนอนตามวัยไร้เดียงสาของมัน หากจะกล่าวว่ามันเกียจคร้านคงจะไม่ถูกนัก... หากแต่การฝึกฝนของสัตว์อสูรนั้นจะต้องเป็นไปตามเวลาที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นอาจตะมีผลต่อการพัฒนาทักษะก็เป็นได้.....

  กินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน เว้นแต่ใช้อาหารล่อมันจะเริ่มฝึก!

  เนื่องจากไม่มีทักษะของเผ่าพันธุ์ และไม่มีความพยายามที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างที่ระบบกล่าวไว้ และสิ่งเดียวที่อาโปทำได้ก็คือทำตาบ้องแบ๊วเท่านั้น

   โชคดีที่ระบบมอบแพ็คเกจของขวัญให้ เฉินเหวินสำหรับผู้เริ่มต้น

   เมื่อเห็นว่าถึงเวลาแล้ว เฉินเหวินมองตาของอาโปและถามอย่างจริงจัง: "นายจะเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหน!?"

   อาโปได้ยินคำพูดนั้นก็ได้แต่นิ่งเงียบ!

   “หากนายยังขี้เกียจฝึกแบบนี้ระวังจะถูกสัตว์อสูรตัวอื่นสังหารเอาก็ได้นะ เมื่อถึงเวลานั้นฉันเองก็ช่วยไม่ได้!?”

   หากกล่าวถึงโครงเรื่อง"The Beast Master Who Knows Martial Arts" หลังจากชนะการต่อสู้แล้วเท่านั้นจึงจะมีอาหารอร่อยๆ ได้ มันยากสำหรับผู้แพ้ที่จะได้กิน"

   เมื่อนึกถึงเจ้าของสัตว์อสูรผู้หิวโหย และสัตว์อสูรในอนิเมชั่น อาโปก็ถึงกับตกใจและส่ายหัวอย่างรวดเร็ว

  เฉินเหวินพูดต่ออย่างช่วยไม่ได้: "ถ้านายไม่ต้องการฝึกฝนการต่อสู้ ฉันจะไม่บังคับนายอีกต่อไปแล้ว และฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อนม น้ำผึ้งร้อยดอกไม้ ไม้ไผ่หยกฯ และของอร่อยๆให้นายอีกต่อไปแล้ว .."

   "嘿咕~咱咕~"

  อาโปรีบกอดต้นขาของเฉินเหวินไว้แน่น และแนบหัวเข้ากับแขนของเฉินเหวิน.......

  เฉินเหวินสะบัดแขนเดินผ่านอาโปอย่างเฉยเมย "ช่วยไม่ได้..บ้านฉันไม่ได้ร่ำรวยอะไร!..."

   หลังจากพูดจบ เฉินเหวินก็ถอนหายใจอย่างแรง......

"เฮ้อเหนื่อยใจ!"

  เมื่อนึกถึงฉากที่อาโปถูกตบด้วยฝ่ามือของเซิ่งเอ๋อ และคิดถึง น้ำผึ้งร้อนดอกไม้ อีกทั้งไม้ไผ่หยกฯ ที่ดูเริ่มจะห่างไกลเต็มที จากนั้นสีหน้าอาโป เริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ

   หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ราวกับว่ามีการตัดสินใจครั้งสำคัญ มันกอดต้นขาของเฉินเหวินไว้อย่างแน่น และมองไปที่เฉินเหวินอย่างด้วยดวงตาที่แน่วแน่

"นายตัดสินใจแล้วว่างั้น?"

  อาโปพยักหน้าอย่างหนัก....

   "ต่อไปจะไม่ขี้เกีียจ?"

  อาโปครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พยักหน้าอีกครั้ง!

"อ่ะๆ---!!"

  อาโป: ถ้าไม่ขี้เกียจแล้วจะได้กินของอร่อยใช่มั้ยอ่ะ!?

   เมื่อเห็นความลังเลบนใบหน้าของอาโป เฉินเหวินถึงกับเลือดขึ้นหน้าจนอยากจะใช้เข็มขัดฟาดเลยทีเดียว....

  คุยกันตั้งนานแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เรื่อง?

  เฉินเหวินพูดอย่างชั่วร้าย: "คราวหน้าถ้านายขี้เกียจอีก ก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายนะ!"

  ก่อนหน้านี้ เขาเอาอกเอาใจมันมากเกินไป ไม่ได้เคี่ยวเข็ญในการฝึกซ้อม จึงทำให้เป็นเช่นนี้...

  แม้ตอนนี้ในเมื่ออาโปรับปากแล้วว่าจะไม่ขี้เกียจซ้อม และต่อไปเขาก็จะไม่ใจอ่อนอีก....

   เมื่ออาโปเห็นเฉินเหวินกับหน้าตาที่เปลี่ยนไป มันจึงรีบพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ

   หลังจากสัญญาว่าจะไม่ขี้เกียจ อาโปก็ลูบท้องอีกครั้ง....

   "嘿咱咒~"

   หลังจากเสียงกระซิบแผ่วเบา เฉินเหวินก็เข้าใจว่าอาโปหมายถึงอะไร.....

   "ฉันจะถามนายอีกครั้ง ถ้าหากนายฝึกฝนอย่างหนักแล้วนายจะสามารถเอาชนะเซิ่งเอ๋อได้หรือไม่!?"

  อาโปพยักหน้าและมองไปที่ เฉินเหวิน อย่างกระตือรือร้น

  สมรรถภาพทางกายของเซิ่งเอ๋อกับอาโปนั้นคล้ายคลึงกัน แต่มันมีความสามารถในการตบด้วยฝ่ามืิออันทรงพลังซึ่งมันทำให้เฉินเหวินอดกังวลไม่ได้...

  เฉินเหวินยิ้มเบา ๆ : "อาโปนายรู้มั้ยว่า พรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรของฉัน คือการมองเห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในของพวกมัน และช่วยปลุกทักษะให้กับพวกมัน และก็นาย รู้ไว้ซะ! ... "

   หลังจากหยุดชั่วคราว เฉินเหวินก็พูดช้าๆ: "และฉันก็จะเป็นอัจฉริยะแห่งศิลปะการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใคร เพราะฉะนั้นนายอย่ามาเป็นตัวถ่วง!"

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด