ตอนที่แล้วตอนที่ 1102 ภาระที่หนักหน่วง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1104 สัญญาเทพปีศาจ

ตอนที่ 1103 ความลับ การแลกเปลี่ยน การตื่น


หอพักนักศึกษา

รอจนเย่ว์หยางมาถึงหน้าเตียง ก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดมาทั้งวัน ไม่ว่าต้องใช้พลังงานเพียงไหน ความเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน และต้องใช้พลังรักษาคุณชายหมิงจูที่ได้รับบาดเจ็บ ต่อให้เย่ว์หยางเป็นเหล็กกล้าก็ไม่สามารถจะฝืนทนได้ในตอนนี้  สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหลังจากต่อสู้ทำศึกอย่างหนัก ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย  จิตใจของเขาผ่อนคลาย  ไม่สามารถจะรักษาสภาพตึงเครียดในเหมือนในขณะต่อสู้

ไม่รู้ว่าคุณชายหมิงจูฟื้นคืนสติตั้งแต่เมื่อไหร่

เขาลืมตาช้าๆ

มองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบจากนัยน์ตาที่พร่ามัว จึงทราบได้ว่านี่เป็นห้องนอนในหอพักนักศึกษา และจากนั้นพบว่ามีคนผู้หนึ่งหลับอยู่หน้าเตียง นั่นคือเย่ว์หยาง เขารู้สึกโล่งใจอย่างแท้จริง

ในที่สุดการต่อสู้ก็จบลง ทั้งคู่กลับมาได้อย่างปลอดภัย

ตอนนี้เขาไม่ต้องการกลับมา ตราบเท่าที่ยังหลบหนีรอดปลอดภัย เขาก็พอใจ

คุณชายหมิงจูยกมือทั้งสองและดูเหมือนมองดูฝ่ามือที่สัมผัสเสื้อผ้า

และพบว่าทุกอย่างไม่เป็นอะไร

แม้ว่าเสื้อผ้าจะฉีกขาดไปบ้าง แต่เกราะลับยังคงอยู่ปลอดภัย

นอกจากนี้ชุดที่ปิดบังความลับของร่างกายไม่ได้รับความเสียหายจากพลังเทพ  หรืออาจได้รับผลร้ายบ้าง แต่คุณชายหมิงจูคิดว่าร่างกายของเขาดีกว่าก่อนเวลาต่อสู้เสียอีก อาการบาดเจ็บจากแรงอัดพลังเทพหายไปเหมือนฝัน ถ้าไม่ได้อยู่ในหุบเขามนุษย์เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้พลังพิเศษ  คุณชายหมิงจูต้องการทดลองใช้พลังจริงๆ ขณะนี้ร่างกายของเขาฟื้นฟูแล้ว จะให้เข้าร่วมต่อสู้เมื่อไหร่ก็ได้.... เมื่อมองเห็นเย่ว์หยางที่กำลังหลับอยู่  หมิงจูเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น  เขาทำได้อย่างไร?

บาดแผลที่เกิดจากการใช้พลังเทพลอบโจมตี ได้รับการเยียวยา

บาดแผลเก่าที่ได้รับมาก่อนหน้านั้น

ฟื้นฟูได้ยากอย่างยิ่ง

เป็นบาดแผลที่อยู่ลึกมาก

เขาช่วยรักษาให้หายได้อย่างไร?

เขาใช้พลังแบบไหน?  เขาผสมยาอะไรเข้าช่วย? น้ำทิพย์เทพธิดา? เลือดเทพ? หรือว่าเป็นตัวยาอื่นที่เขาไม่รู้?

เพราะความสัมพันธ์บางอย่างและลักษณะเฉพาะตน เขาไม่สามารถฟื้นฟูตนเองจนอยู่ในสภาพสุดยอดได้  แต่ตอนนี้ คุณชายหมิงจูรู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่เพียงแต่ฟื้นฟูเต็มที่ แต่ยังทรงพลังมากกว่าก่อนนั้น การฟื้นฟูที่เกินคาดนี้ นี่คือการฟื้นฟูเต็มที่หลังจากต่อสู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส!

“เป็นบุรุษที่มีแต่สตรีเต็มหัวทั้งวัน แต่เวลาหลับเหมือนกับเด็กน้อย

คุณชายหมิงจูมองดูเย่ว์หยางหลับสนิท เขามีความรู้สึกที่มิอาจพูดได้

ไม่รู้ว่าทำไม ถึงได้รู้สึกว่าเจ้าผู้นี้มักเดียวดายอยู่เสมอ

ราวกับจะกระตุ้นให้ผู้คนสงสารสมเพช

แน่นอนว่าเขาจะไม่เอ่ยปากยกโทษให้เขาเป็นแน่

หลังจากมองดูชั่วครู่คุณชายหมิงจูนึกสนุกต้องการใช้ปลายผมแยงจมูกของเขาเพื่อดูว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร หรือจะใช้ปากกาเขียนบนใบหน้าเขาแล้วดูสีหน้าของเขาเวลาส่องกระจกหลังจากตื่นขึ้นมาในตอนเช้า... อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณชายหมิงจูกำลังจะทำ จู่ๆ เขาก็หยุด

เพราะเย่ว์หยางพูดเสียงคลุมเครือ

เสียงเบาไม่ค่อยชัดเจน

เหมือนจะเป็นคำว่าแม่

อาจจะเป็นคำว่าแม่หรือพี่สาวแม่..คุณชายหมิงจูฟังไม่ถนัด แม้จะเงี่ยหูฟังใกล้ๆ แล้วก็ตาม

เขาฟังแล้วน้ำตาไหล อดกอดเขาไว้ในอ้อมแขนไม่ได้

คนผู้นี้ ไม่มีใครรู้ว่าเขาเจ็บปวด  น่าสงสารจริงๆ

วันต่อมา เมื่อเย่ว์หยางลืมตาตื่นขึ้น! เขาพบว่าคนที่อยู่ในสายตาของเขาก็คือคุณชายหมิงจูที่สุขภาพฟื้นฟูกระตือรือร้นอีกครั้ง    เขารีบหยิบกระจกออกมาส่องเพื่อดูว่าหน้าของเขาถูกวาดรูประบายสีอะไรหรือไม่?  และเขาก็พบว่าไม่มีอะไร แต่ผิดปกติเล็กน้อย  เขาวิ่งไปที่หน้าต่างและดูว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิตย์ตะวันตกหรือไม่.. คุณชายหมิงจูมองดูกลั้นหัวเราะแทบแย่ เขาแค่นเสียงเย็นชา  “เฮ้, ข้าน่าเบื่อนักหรือ?  เจ้าถึงได้เอาหัวใจร้ายๆ ของเจ้ามาประเมินข้าแบบนี้”

“วันนี้เจ้าดูแปลกไปเล็กน้อย!”  เย่ว์หยางรู้สึกว่าคุณชายหมิงจูแตกต่างจากวันอื่นอยู่บ้าง  แต่แปลกไปตรงไหนเขาไม่สามารถบอกได้ทันที

“ข้าน่ะหรือ?  วันนี้ข้าอารมณ์ดี และข้าก็ไม่สนใจเจ้าด้วย”  คุณชายหมิงจูแค่นเสียง แต่ในใจยังอารมณ์ดีอยู่

“ข้าไม่ได้ฝันอยู่ใช่ไหม?”  เย่ว์หยางเกาหลังหัว

“เจ้าหมายความว่ายังไง?  ข้าอารมณ์ดีไม่ต้องการใช้ค้อนยักษ์ช่วยเรียกความทรงจำของเจ้า หรือว่าเจ้าคันเนื้อคันตัว?”  คุณชายหมิงจูทำท่าดุร้าย  แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง คุณชายหมิงจูไม่โกรธอีกต่อไป และดูไม่ดุร้าย ไม่เพียงแต่ไม่ทำให้เย่ว์หยางกลัวเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนที่เห็นรู้สึกว่าท่าคุกคามนั้นดูน่ารัก

ขณะที่กินอาหารเช้าเย่ว์หยางเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้

เขามองดูรอบๆ  แต่ไม่มีใคร

เขาเอียงตัวไปกระซิบที่ข้างหูถามคุณชายหมิงจู  “เมื่อวานนี้ที่หอคอยเหนือหอคอย เจ้ามีความลับอะไรจะบอกข้าหรือ?”

หลังจากได้ยินคำพูดนี้แล้วคุณชายหมิงจูที่กำลังอารมณ์ดีจ้องหน้าเย่ว์หยางอยู่นาน จู่ๆ เขาหัวเราะขึ้นและย้อนถามเย่ว์หยาง  “เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือ?”

เย่ว์หยางพูดไม่ออกและทำตาโต  “รู้แล้วข้ายังจะถามเจ้าอีกหรือ?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้คุณชายหมิงจูยิ่งอารมณ์ดีกว่าเดิม  เขายิ้มหวานย้อนถาม  “เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือ?”

เย่ว์หยางโกรธเอาก้อนขนมปังใส่ปากน้อยๆ ของหมิงจู  “เจ้าต้องการล้อข้าเล่นใช่ไหม?”

การกระทำเช่นนี้เปลี่ยนแปลงช่วงเวลาที่สงบสุขไป  แต่เป็นเรื่องแปลกที่คุณชายหมิงจูไม่ได้เอาค้อนออกมาทุบกบาลเย่ว์หยาง  เขาอยู่ในสภาพอารมณ์ที่ดีมาก แม้จะถูกเย่ว์หยางเอาก้อนขนมปังยัดปากก็ไม่โกรธ เขากัดกินขนมปังทีละชิ้นๆ อย่างสบายใจ จากนั้นส่ายนิ้วชี้มาทางเย่ว์หยาง  “ตัดสินใจแล้ว”

เย่ว์หยางประหลาดใจ  “ตัดสินใจอะไร?”

คุณชายหมิงจูมองดูเขาและยิ้มกล่าว  “ข้าตัดสินใจไม่บอกความลับนี้กับห่านโง่อย่างเจ้า!”

“แต่ตอนแรกเจ้าว่าอยากจะบอก  แต่พอข้าอยากรู้ เจ้ากลับไม่บอก”  เย่ว์หยางหงุดหงิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น

“ตอนนั้นก็ส่วนตอนนั้น  เวลานี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”  คุณชายหมิงจูยิ้มปลอบโยน  และสีหน้าของเขาดูภูมิใจที่ไม่ต้องพูดในสิ่งที่เขาบอกไว้

“โธ่เอ๊ย, ไม่เห็นต้องทำให้ยุ่งยาก”  เย่ว์หยางหันไประบายความโกรธกับอาหาร เขายัดขนมปังสามก้อนรวดทำราวกับว่ากำลังเคี้ยวคุณชายหมิงจูอยู่ในปาก  เกี่ยวกับท่าทีโกรธของเย่ว์หยาง คุณชายหมิงจูไม่ค่อยสบายใจเท่าใด แต่ก็หัวเราะได้ทั้งวัน และหยุดเป็นบางคราว  แต่เมื่อเขามองดูเย่ว์หยาง เหมือนกับว่าเขาระลึกเรื่องสนุกๆ บางเรื่องได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่ค่อนข้างขำ ก็จะอดหัวเราะไม่ได้

ขณะกำลังหัวเราะ ปรากฏว่าเทพปีศาจตื่นขึ้นและโจมตีตอบโต้

คุณชายหมิงจูหาวิธีที่ดีไม่ได้

ที่สำคัญคือ ที่นี่คือหุบเขามนุษย์

เป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้โดยตรง  เป็นเรื่องไร้ประโยชน์

สำหรับวัตถุโบราณที่เย่ว์หยางเอามาจากใต้ทะเล  ทั้งสองคนไม่เข้าใจว่าคืออะไร มองผิวเผินดูธรรมดา  แต่ภายในผนึกพลังเอาไว้อย่างเหลือเชื่อ ต่างจากสมบัติศักดิ์สิทธิ์หรือสมบัติเทพที่ทรงพลัง มันค่อนข้างคล้ายจี้หยกดำของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี  เย่ว์หยางไม่แน่ใจ แต่คาดว่าคล้ายกันมากเป็นสิ่งที่ผลึกเทพปีศาจไว้ เหมือนกับที่ผนึกนางพญาเฟ่ยเหวินหลีหรือไม่? เป็นไปได้ไหมว่าเทพปีศาจนี้จะถูกผนึกอยู่ในนี้เหมือนกับที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีถูกผนึกไว้?

สามารถผนึกไว้ชั่วคราวได้ไหม?

ตอนนี้มีคำถามว่าจะผนึกไว้ได้หรือไม่?

เย่ว์หยางถามคุณชายหมิงจูและพบว่าเป็นปัญหาใหญ่ เพราะคุณชายหมิงจูผนึกไม่เป็น

ผนึกไม่ใช่เรื่องยาก อย่างเย่ว์หยางเขามักผนึกเหล่านักสู้แดนสวรรค์ผู้ชั่วร้าย ทุบตีจนปางตาย  จากนั้นโยนเข้าเจดีย์ปราบปีศาจอีกครั้ง  แน่นอนว่าผนึกชนิดนั้นมิอาจถือว่าเป็นผนึกจริงๆ เป็นเรื่องยากมากที่ใช้จัดการนักรบแดนสวรรค์ และแทบเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับนักสู้ปราณราชันย์ระดับชั้นสูง

จะใช้วิธีนั้นผนึกเทพตัวจริงน่ะหรือ?

ต่อให้มั่นใจในตนเอง เย่ว์หยางไม่กล้ารับประกันความสำเร็จ

ต่อให้เย่ว์หยางเข้าใจวิธีการผนึกเทพโบราณในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างคาดไม่ถึง  แต่เขาจะผนึกเทพปีศาจที่ทรงพลังมากกว่าเขาไว้ในวัตถุโบราณได้อย่างไร?

ในกรณีที่ประโยชน์ของวัตถุโบราณไม่ได้ใช้ผนึกเทพปีศาจ แต่ใช้ทำอย่างอื่น จะไม่เป็นการพลาดเสียเวลาหรือ

ในช่วงเวลาสั้นๆ เย่ว์หยางรู้สึกปวดหัว

คุณชายหมิงจูถอนหายใจ

ทั้งสองคนคิดมาเกือบทั้งวัน ในที่สุดก็ล้มเหลวในการค้นหาความคิดดีๆ

ในที่สุดคุณชายหมิงจูปลอบโยนเย่ว์หยาง  “ใจเย็นๆ ไม่ต้องกังวลเกินไป  ถ้าผนึกทั้งเก้าปกป้องเอาไว้เป็นอย่างดี อย่างน้อยเราก็มีเวลาทั้งปี

หลังจากเย่ว์หยางได้ยินแล้วก็พยักหน้าในตอนแรก

จากนั้นเขาส่ายหน้าอีกครั้ง

แม้ว่าจะป้องกันอย่างดีที่สุด  แต่ไม่สามารถหยุดยั้งได้ตลอดไป

ยิ่งกว่านั้นภายใต้การนับถอยหลังไปหนึ่งปี  จะมีสักกี่คนที่ร่วมใจป้องกันภัยพิบัตินี้?

เขาเกรงว่าเรื่องที่แย่ที่สุดก็คือเพื่อช่วยชีวิตหรือประโยชน์แก่อนาคต จะต้องมีหลายคนที่ไม่เชื่อเทพปีศาจไปเข้าพวกกับผู้มีศรัทธา แทนที่จะกลายเป็นผู้พิทักษ์กลับกลายเป็นผู้ทำลายล้าง!

หลังจากผ่านไปสองวัน แม้จะมีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากในระหว่างประเมินคะแนนของโรงเรียน  แต่สถาบันผู้พเนจรแดนฟ้าจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว  พิธีประเมินคะแนนชีวิตของนักเรียนใหม่ในที่สุด ก็เปิดต่อได้สำเร็จ  เริ่นเทียนเกอและฮ็อกรู้สึกประหลาดใจ พวกเขาตามหาเย่ว์หยางเพื่อพูดคุยปรึกษา เย่ว์หยางและคุณชายหมิงจูให้คำตอบที่จริงใจกับพวกเขา  “เทียบกับการตื่นขึ้นของเทพปีศาจ หุบเขามนุษย์จะถูกทำลายในไม่ช้า ความตายของนักเรียนไม่มีค่าแก่การเอ่ยถึง  ผลที่ตามมาของการที่นักเรียนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รุนแรงยิ่งขึ้น  และหุบเขามนุษย์กำลังจะถูกทำลายโดยเทพปีศาจหรือไม่?  หากไม่มีอุบัติเหตุในตอนนี้ กองกำลังสำคัญของหุบเขามนุษย์คงทราบข่าวนี้กันแล้ว  และกำลังวางแผนเพื่ออนาคตของพวกเขา จะเอาเวลาที่ไหนมาดูแลนักเรียน!”

“นี่เป็นเรื่องจริง  แต่เราไม่สามารถนั่งเฉยอยู่ได้”  เริ่นเทียนเกอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย การรอคอยด้วยวิธีนี้ ไม่ใช่ความคิดที่ดี

“เจ้าคิดหาวิธีแก้ปัญหา  ขอเพียงมีอะไรต้องลงมือ ให้บอกเราได้ไม่ต้องเกรงใจ”  ฮ็อกรู้สึกว่าเขามีความสามารถมากพอในการใช้สมองมากกว่า  แต่เขายังฟังเย่ว์หยางและคุณชายหมิงจู  ถ้าทั้งสองมีวิธีแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้อง พวกเขาจะรับดำเนินการอย่างแน่นอนไม่หันหลังกลับ

“วางใจได้ ข้าสามารถตัดนิ้วเขาได้ ก็ต้องตัดศีรษะของเขาได้”  เย่ว์หยางป้องกันไม่ให้ทุกคนหมดหวังและรีบปลอบโยนอย่างรวดเร็ว

“เมื่อคืนนี้ ข้าเห็นจีอู๋ลี่ผ่านประตูเทเลพอร์ตเข้าไปในหอคอยเหนือหอคอยอีกครั้ง”  บัณฑิตตาเงินพูดข่าวร้ายมาก

หือ?

“ว่าไงนะ?”

“นี่ยังไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่สุด” ชิงหมอพูดอย่างเยือกเย็น  “หลังจากจีอู๋ลี่จากไป หลายคนเข้าไปในสนามสู้หอคอยเหนือหอคอย  มองจากสีหน้าจีอู๋ลี่และคนอื่นๆ อีกหลายคนเหมือนไม่มีอะไร  แต่ในหมู่พวกเขา คนสุดท้ายที่ออกมามีสีหน้าที่หงุดหงิด ใบหน้าของเขาเหมือนกับคนที่คิดว่าต่อไปเหมือนว่าเขาจะได้เป็นใหญ่ในหุบเขามนุษย์  แม้ว่าคนผู้นั้นจะอยู่ห่างจากความสำเร็จ  แต่เห็นแล้วก็คงอยากอาเจียนออกมา   ข้าสงสัยว่าพวกเขาออกมาจากหอคอยเหนือหอคอยโดยปลอดภัยได้ก็คงทำสัญญาข้อตกลงบางอย่างกับเทพปีศาจ!”

“ท่านบอกว่าใครกันที่ออกมาเป็นคนสุดท้าย?”  คุณชายหมิงจูไม่ต้องถามก็เดาคำตอบได้

“จินฉี?”  เย่ว์หยางเดา  ชิงหมอพยักหน้ายืนยัน

“นั่น..ไม่ผิดจริงๆ ด้วย!”  แม้แต่ฮ็อกซึ่งไม่ค่อยได้ใช้สมองก็ยังตบหน้าผากและรู้สึกได้ถึง ‘สัญญาปีศาจ’ เป็นเรื่องที่แยกไม่ออก

“ถ้าเทพปีศาจทำข้อตกลงกับจินฉีและคนอื่นๆ เราจะจัดการกับพวกเขาได้อย่างไร?  แม้ว่าจินฉีจะไม่มีปัญหา แต่จีอู๋ลี่คือคนอื่นๆ  ที่จะต้องป้องกัน  โดยเฉพาะจีอู๋ลี่ถ้าเขาทำสัญญาแลกเปลี่ยนกับเทพปีศาจ คาดว่าคนที่อยู่ในหุบเขารุ่นต่อไปคงจะต้องตายกันอีกมาก”   เริ่นเทียนเกอคิดถึงการกระทำของจีอู๋ลี่ในหุบเขาปีศาจ เมื่อเขาเก็บคะแนน เขาแทบจะทำให้ผู้ท้าทายผ่านด่านค่ายเทพตายเกือบหมดด้วยจิตใจที่โหดร้ายของจีอู๋ลี่และพลังเทพของเทพปีศาจเกรงว่าในหุบเขามนุษย์จะมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นร้อยเท่า

“ก็ดี, ไม่ต้องคิดอะไรอื่นมากนัก  รอไปก่อนจนกว่าพิธีประเมินคะแนนนักเรียนผู้มาใหม่เสร็จสิ้น!”  เย่ว์หยางยังไม่ได้วางแผน  แต่โชคดีที่สาวหิมะในโลกคัมภีร์แสดงสัญญาณว่ากำลังจะตื่นขึ้น  ถ้าไม่ดีก็กลับไปปรึกษากับนาง

บางทีด้วยภูมิปัญญาของทุกคน คงจะหาทางแก้ที่ดีได้

ตอนนี้เย่ว์หยางแทบไม่สามารถรอกลับไปเยี่ยมเสวี่ยอู๋เสียซึ่งถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในช่วงเหตุการณ์สนามสอบหอคอยเหนือหอคอยเพื่อสนับสนุนพลังจิตให้เขา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด