ตอนที่แล้วตอนที่ 1222 ความฝันไม่รู้จบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1103 ความลับ การแลกเปลี่ยน การตื่น

ตอนที่ 1102 ภาระที่หนักหน่วง


หญิงสาวชุดขาวร่างสูงส่ายหน้าเบาๆ  “เราควรจะห้ามเจ้า และขอวัตถุโบราณจากเจ้า แต่ก็กังวลว่าถ้าพูดไป เจ้าก็จะยิ่งไม่ไว้วางใจมากขึ้น”

เย่ว์หยางยังโมโหไม่เลิก  “แต่เจ้าไม่ได้บอกว่ามีเทพรอข้าอยู่!  นั่นคือเทพ พวกเจ้าคิดว่าเป็นคนธรรมดาหรือ?”

เริ่นเทียนเกอและคนอื่นได้ยินเข้าก็เห็นด้วย

แน่นอนมีเทพอยู่ข้างใน

นี่ไม่ควรบอกหรือ?

อันตรายที่ทำร้ายผู้คนคือไม่รู้อะไรเลย!

หญิงสาวชุดขาวหน้ากลมน่ารักพูดเสริมต่อ  “เราไม่ได้บอกให้ชัด  แต่พี่สาวบอกว่าเจ้าไม่มีปัญหา ดังนั้นข้าเลยไม่ได้ห้ามเจ้า!”

“ไม่มีอะไร, ข้าเกือบตายไปแล้ว!”  เย่ว์หยางต้องการหยิกแก้มกลมทั้งสองข้างสักครั้ง แม้ว่านางจะน่ารัก แต่เขาไม่อาจยกโทษให้ เพราะแม้ว่านางจะขายเขาคุณชาย ก็คงไม่มีใครเหมือนนาง  ช่างพูดจาปั้นแต่งเกินไปหรือเปล่า? ให้สู้กับเทพคิดว่ามันง่ายๆ สบายๆ เหมือนกับพาสาวเที่ยวหรือ?  ตอนนั้นถ้าอ่อนแอสักเล็กน้อยคงกลายเป็นศพ!   มีเทพผู้หลับใหลอยู่ในหอคอยเหนือหอคอย  พวกนางไม่บอกเรื่องนั้น  มันสนุกที่จะเก็บความลับนี้ไว้ใช่ไหม?  นางทำให้ทุกคนเกือบตายไปแล้ว!

“การประเมินหอคอยเหนือหอคอยจบไปแล้ว  แต่นี่ยังไม่ใช่สิ้นสุดการต่อสู้ของหุบเขามนุษย์  ตรงกันข้ามการต่อสู้ที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มขึ้น”  สตรีชุดขาวผู้ถือคัมภีร์เงินพูดจริงจัง

“พวกเจ้าคงไม่ต้องการให้เราสู้กับเทพนั้นใช่ไหม?”  ฮ็อกตัวสั่นด้วยความกลัว

“ก็คงอย่างนั้น” หญิงสาวชุดขาวผู้ห้าวหาญตอบอย่างมั่นใจ

“ไม่, ข้าต้องออกไปจากที่นี่ทันที”  ฮ็อกคิดว่านี่คือการหาที่ตาย คิดสู้กับเทพหรือ?  พูดเป็นเล่นไป กลุ่มมดน้อยๆ จะเอาชนะช้างได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นในหุบเขามนุษย์ พวกเขายังไม่สามารถใช้พลังวิทยายุทธ์ได้ ให้สู้กับเทพที่ใหญ่ยิ่งกว่าภูเขา พวกเขายังเหลืออะไรอีก?

“เราไม่ยุ่งกับเขาได้ไหม?”  เริ่นเทียนเกอแข็งแกร่งขนาดนั้นยังถึงกับเหงื่อตก

“ถ้าพวกเจ้าต้องการมีชีวิตรอด พวกเจ้าก็ต้องหยุดเทพนั้นมิให้ทำลายหุบเขามนุษย์  มิฉะนั้นพวกเจ้าจะพากันตายทั้งหมด”  หญิงสาวชุดขาวที่ดูกล้าหาญเตือนแบบขวานผ่าซาก

“พลังเทพนั่นสามารถมาถึงหุบเขามนุษย์ได้หรือ?”  ฮ็อกเมื่อได้ยิน เขาสังหรณ์เหมือนกับว่าหุบเขามนุษย์จะถูกทำลายในวันนี้

“เทพนั้นเดิมทีอยู่ในหุบเขามนุษย์ เพียงแต่ประกายเทพ พลังเทพและสำนึกเทพ ฯลฯ ถูกผนึกอยู่ในหอคอยเหนือหอคอย ถ้าโดยปกติก็คงไม่เป็นไร  แต่ตอนนี้เขารู้สึกถึงพลังของโบราณวัตถุ และตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์  ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานเขาจะหาวิธีกลับไปที่หุบเขามนุษย์และค้นหาร่างที่แท้จริงของเขา พอถึงเวลานั้นวิญญาณทั้งหมดในหุบเขามนุษย์จะถูกทำลาย เพราะนั่นคือเทพปีศาจ ไม่ใช่เทพฝ่ายดี!”  หญิงสาวผู้ถือคัมภีร์เงินมองมาทางเย่ว์หยางและถอนหายใจเบาๆ “หนทางเดียวที่จะหยุดยั้งเทพปีศาจนั้นได้ก็คือวัตถุโบราณที่หลงเหลือมาจากโบราณของเจ้า...  อย่างไรก็ตามเรารู้เพียงแค่ข้อมูลนี้ ไม่รู้วิธีใช้โบราณวัตถุเพื่อยับยั้งเทพปีศาจนั้น!”

“เจ้าก็เป็นสมาชิกหุบเขามนุษย์คนหนึ่ง ถ้าเจ้ามีภาระอย่างหนึ่ง เจ้าจะไม่คิดอะไรบ้างหรือ?”  เย่ว์หยางกำลังจะโมโห ทำไมต้องให้เขาออกไปจัดการด้วยตัวเองอีกด้วยเล่า? เขาไม่ใช่คนงานที่รับค่าแรงทำงานเพื่อพวกนาง  นอกจากทำงานนอกเวลา และมีเงินเดือน ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรให้ฟรีๆ อย่างนี้

“เพราะเราถูกกฎสวรรค์จำกัดไว้  ไม่มีทางช่วยได้ ความคงอยู่ของเราถูกจำกัด ไม่ใช่การต่อสู้”

พวกนางมองหน้าเย่ว์หยางด้วยความเห็นใจ

บอกว่าอยากช่วย แต่ทำไม่ได้

“พอเทพปีศาจนั้นมาถึง ทุกคนก็จบกัน  พวกเจ้าจะไม่แนะนำอะไรเลยหรือ?” เย่ว์หยางหงุดหงิด  แต่ก็ยังต้องรักษากฎที่น่าตายนี้อีก

“ถ้าเทพปีศาจนั้นทำลายหุบเขามนุษย์ ก็คงไม่อาจหยุดเขาได้  เราจะเลือกเทเลพอร์ตไปจากที่นี่ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป บอกความลับแก่เจ้าล่วงหน้าก็ได้ มีหอคอยเหนือหอคอยในหุบเขามนุษย์ มีขุนเขาเหนือขุนเขาในหุบเขาโลกธาตุ มีฟ้าเหนือฟ้าในหุบเขาสวรรค์  หากเจ้าต้องการไปต่อ ก็ต้องผ่านขั้นตอนของหุบเขามนุษย์นี้ให้ได้   ถ้าแม้แต่ทางผ่านที่ง่ายที่สุดยังข้ามผ่านไม่ได้ ก็ไม่ต้องคิดเรื่องไปหุบเขาโลกธาตุและหุบเขาสวรรค์  หุบเขาโลกธาตุมีความยากกว่าหอคอยเหนือหอคอยอย่างน้อยสิบเท่า  และหุบเขาสวรรค์คาดว่ามีความยากขึ้นอย่างน้อยร้อยเท่าเมื่อเทียบกับหอคอยเหนือหอคอยในหุบเขามนุษย์ ถือว่าที่นี่ง่ายที่สุดแล้ว อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นแค่การอุ่นเครื่องก่อนท้าท้ายระดับยากที่อยู่ข้างหน้า!”  หญิงสาวชุดขาวผู้ถือคัมภีร์เงินพูดถึงความลับที่ทำให้ทุกคนสิ้นหวัง

“แม่เจ้า, ต่อไปในอนาคตข้าจะเป็นเด็กดีแน่นอน จะไม่กล้าเที่ยวเถลไถลอีก ผ่านหุบเขามนุษย์ไปได้ข้ากลับบ้านแน่นอน ข้างนอกน่ากลัวเหลือเกิน!”  ฮ็อกเกือบร้องไห้

ถ้าเขารู้เร็วกว่านี้ว่ามิติฝึกฝีมือเป็นการทดสอบที่ยาก

เขาจะไม่ยอมมา

เทียบกับหุบเขามนุษย์แล้วหุบเขาปีศาจยากนิดเดียว

เทียบกับหุบเขาโลกธาตุและหุบเขาสวรรค์แล้ว มีเทพปีศาจในหอคอยเหนือหอคอย หุบเขามนุษย์ก็ยังเป็นงานเด็กๆ ..... แล้วจะมีชีวิตได้ยังไง? มหาเทพโบราณ  ท่านต้องการทดสอบผู้เยาว์รุ่นหลัง  จำเป็นต้องตั้งความยากไว้ระดับนี้ด้วยหรือ?    ใครจะผ่านความยากระดับนี้ได้เล่า?   อย่าว่าแต่นักรบเลย  ต่อให้เป็นเทพก็ยังไม่กล้าพูดโดยไม่ยั้งคิดว่าจะต้องผ่านให้ได้

เย่ว์หยางพูดไม่ออกจริงๆ

เป็นเวลานานเขาจึงถอนหายใจถามขึ้น  “พวกเจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร? ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมวกวน  บอกมาตรงๆ เลย!”

หญิงสาวชุดขาวทั้งสามมองหน้ากันเองและในที่สุดหญิงสาวหน้ากลมผู้น่ารักกล่าว  “ง่ายมาก  ก่อนที่เทพปีศาจจะมาถึง  ต้องหรร่างจริงของเขาให้พบและหาทางใช้วัตถุโบราณฆ่าเขา หรือผนึกกลับเข้าไป”

“ข้าต้องใช้เวลาเตรียมตัวนานแค่ไหน?”  เย่ว์หยางถาม

“ข้าไม่รู้  บางทีอาจเป็นหนึ่งวัน, หนึ่งเดือน หรืออาจหนึ่งปี... เทพปีศาจอาจกลับมายังหุบเขามนุษย์ได้อย่างคาดไม่ถึง  เว้นแต่เขาถูกพลังเทพบังคับ บริวารของเขาจะต้องทำลายเสาผนึก 72 เสา เทพปีศาจจะกลับมายังหุบเขามนุษย์ทันที”  หญิงสาวผู้กล้าชุดขาวตอบ

“ข้าปวดหัวจริงๆ!”  ฮ็อกทนไม่ไหวทิ้งตัวลงกับพื้น

“ยังมีข่าวร้ายอะไรจะบอกอีก บอกมาเลย” เย่ว์หยางพร้อมจะเสี่ยง

“เสาผนึกทั้ง 72 ต้นถูกทำลายโดยผู้ศรัทธาเทพปีศาจมาตั้งแต่ยุคโบราณ ตอนนี้เหลืออยู่เพียงเก้าต้น!”  หญิงสาวชุดขาวน่ารักขณะมองเย่ว์หยางก็ทำนิ้วกรีดกราย

“โอว..ไปดีกว่า ยังมีข่าวเลวร้ายมากกว่านี้อีกไหม?”  เย่ว์หยางรู้สึกอยากเป็นลมทันที

“มี” คำตอบนี้ทำให้เขาอยากเอาหัวชนกำแพงตาย

“อย่าเพิ่งพูด, ฟังแล้วข้าจะบ้าตาย!  ก่อนที่ข้าจะโกรธจนฆ่าพวกเจ้าตาย  ข้าขอสงบใจสักนิดก่อน”   ในที่สุดเย่ว์หยางอดโพล่งออกมาไม่ได้  “ข่าวร้ายวางไว้ก่อน ถึงจะเป็นข่าวร้ายก็ตามก็ควรปรับระดับด้วย ไม่ใช่เอาแต่ข่าวร้ายทั้งโลกมากระจุกยัดเยียดอยู่ในหัวคนๆ เดียวหมด แล้วจะทำให้คนมีชีวิตได้อย่างไร?”

“อย่างนั้นก็จงพักให้สบาย!  สตรีชุดขาวทั้งสามไม่โกรธ พวกนางมอบของขวัญให้เย่ว์หยางจากนั้นลอยจากไป

พวกนางเป็นหญิงงามตามธรรมชาติ

อย่างไรก็ตามพวกนางจะไม่ตายในที่สุด  หุบเขามนุษย์ถูกทำลาย พวกนางก็แค่หนี เปลี่ยนสถานที่ทำงาน

แต่เย่ว์หยางสามารถหนีได้หรือ?  หุบเขาเมนุษย์ ตอนนี้ ปราสาทไดมอนต์สตาร์กำลังขยายตัว เขาสามารถจากไปตามลำพังได้หรือ?

นอกจากนี้ยังมีคุณชายหมิงจู ฉีมู่ ฮ็อก เริ่นเทียนเกอ บัณฑิตตาเงิน อาจารย์ใหญ่และครูบาอาจารย์ที่โรงเรียนและคนอื่นจะต้องตายภายใต้การโจมตีของเทพปีศาจ!

แน่นอนทุกคนสามารถหนีได้

มีแต่เย่ว์หยางที่ทำไม่ได้

เพราะเขามีโบราณวัตถุ  เป็นความหวังสุดท้ายของหุบเขามนุษย์!

“อย่ามองข้า, ข้าเป็นแค่สัดใส่ข้าว... สู้กับเทพ?  ข้าไม่เคยนึกฝันถึงเรื่องแบบนี้มาก่อน  ข้าไม่มีฝีมือ ไม่มีแม้แต่ความกล้าพอ!”  ฮ็อกพบว่าเย่ว์หยางมองมาทางเขาและรีบออกตัวว่าการออกไปสู้กับเทพปีศาจไม่ใช่เรื่องที่ความสามารถและสติปัญญาของเขาจะทำได้!

“ก็อยากจะช่วย แต่ทำไม่ได้” เริ่นเทียนเกอฝืนยิ้ม และตบไหล่เย่ว์หยางอย่างช่วยไม่ได้  “มีอะไรบอกเราได้  แต่ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับเจ้า!”

“โธ่เอ๊ย...” ซิวอิ่ง เซี่ยที จินหายกับพวกทำสีหน้าเหมือนกับแม่หม้ายที่ลูกตาย

“ข้าโง่จริงๆ  ที่ไปค้นหาวัตถุโบราณ ถ้าข้าไม่พบสิ่งนี้เทพปีศาจนั้นคงไม่ตื่น และข้าก็ยังสามารถผ่านด่านหุบเขามนุษย์ได้ ตอนนี้ปัญหาตามหาวัตถุโบราณกลับเป็นเรื่องไม่ดี  ข้าแส่เอง ไม่มีใครสามารถหามันได้พบ แต่โชคร้ายกลับถูกพบได้ ทำไมข้าโง่อย่างนี้!”  เพราะสะเทือนใจ เย่ว์หยางถึงได้เริ่มตำหนิตนเองเสียงดังขึ้น

เนื่องจากวิกฤติแรงกดดันใกล้เข้ามาทุกขณะ

เขาไม่มีอารมณ์จะนึกถึงปัญหาการประเมินใดๆ และในสถานบันผู้พเนจรแดนฟ้า เป็นเพราะจีอู๋ลี่นำพานักเรียนโจมตีโรงงานหุ่นอสูร ทำให้สูญเสียเวลาไปครึ่งหนึ่งต้องหยุดการประเมินชั่วคราว ก่อนทำพิธีศพของนักเรียนที่เสียชีวิตก่อน

ในก่อนนั้นไม่ใช่ว่าไม่มีนักเรียนเสียชีวิตในการประเมินผล  แต่พวกเขาไม่เคยเสียหายร้ายแรงขนาดนั้น

นักเรียนมากกว่าสามร้อยคน กลับออกมาเพียงร้อยกว่าคน และพวกเขาได้รับบาดเจ็บกันหมด

The most serious is.

พวกเขาบาดเจ็บกันหมด

นักเรียนที่ตายในการต่อสู้  แม้แต่ศพก็ไม่ได้คืนกลับมา นี่เป็นเรื่องที่ยากอธิบายให้พ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนฟัง  ครั้งนี้ครูบาอาจารย์สถาบันผ้พเนจรแดนฟ้ารู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก

ในเวลาดึกสงัด เย่ว์หยางยังคงดูแลคุณชายหมิงจูที่ยังไม่ได้สติอยู่ในหอพักนักศึกษา

เขารอให้หมิงจูฟื้นอย่างอดทน

ที่ประตูเทเลพอร์ต สถาบันผู้พเนจรแดนฟ้า มีเงาดำที่รวดเร็วและหายไปในพริบตา

วินาทีต่อมาเงานั้นมาปรากฏที่ซากสนามรบหักพังหอคอยเหนือหอคอย  เขามองเห็นนิ้วชี้ของเทพหลังจากไฟไหม้แล้วตกใจรู้สึกไม่อยากเชื่อกับภาพที่เห็น  ใครกันที่สามารถสู้กับเจ้าของนิ้วมือนี้ได้  ที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่าคนผู้นั้นกลับตัดนิ้วขาดได้

หือ?

เงาร่างนั้นตื่นตัว เตรียมพร้อมจะเทเลพอร์ตออกไปจากหอคอยเหนือหอคอยทันที

แต่พลังเทพอันกว้างใหญ่ศักดิ์สิทธิ์คลุมรอบตัวเงาร่างนั้นไว้ได้ทั้งหมด

มีเจตจำนงที่แข็งแกร่งไม่สามารถละเมิดได้กำลังทลายการป้องกันทางจิตของเงาร่างนั้น และสะท้อนความปรารถนาอันชั่วร้ายของเงาร่างนั้นโดยตรง “ข้าชอบผู้เยาว์รุ่นหลังอย่างเจ้า ฉลาดและจิตใจชั่วร้าย  มาเถอะ มาทำพันธสัญญาเทพกัน ตราบใดที่เจ้าทำตามข้อผูกพันของพันธสัญญาเทพ  ข้าจะทำให้เจ้าสมปรารถนา แม้ว่าเจ้าต้องการจะก้าวขึ้นไปเป็นระดับเทพ หรือกลายเป็นเทพที่แท้จริงก็ตาม!

ก้าวขึ้นไปเป็นระดับเทพ  หรือกลายเป็นเทพที่แท้จริงหรือ?

ของล่อใจอย่างนี้... เป็นไปไม่ได้ที่นักรบทั้งโลกจะยอมปฏิเสธ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด