ตอนที่แล้วตอนที่ 1071 กำเนิดดาบเทพพยัคฆราช
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1073 เปิดตัวได้ดี

ตอนที่ 1072 โปรดนำความฝันของเราบินไปด้วย


การช่วยเหลือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนวิวัฒนาการดาบเทพจักรพรรดิอวี้เป็นดาบเทพพยัคฆราชไม่เพียงแต่สร้างความหวังในอนาคตเท่านั้น  แต่ยังได้ฝักดาบ ‘อสูรกลืนฟ้า’ วิวัฒนาการไปเป็นอาวุธเทพร่างอสูรความสุขสองต่อทำให้เย่ว์หยางอารมณ์ดี

เขาไม่ได้กลับไปปราสาทไดมอนด์สตาร์

มีพ่อบ้านตู้ลี่และหัวหน้าแม่ครัวซูซานอยู่ด้วยเย่ว์หยางเชื่อว่าต่อให้เขาไม่กลับไป พวกนางสามารถจัดการได้อย่างเหมาะสมแน่นอน

โรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าดูเหมือนจะไม่ได้รับข้อมูลใดๆเกี่ยวกับการแสดงฝีมือที่น่าทึ่งของเย่ว์หยางที่เหมืองแร่

ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

นี่อาจเป็นเพราะแม่ทัพเหลยผาวมีองค์ชายเรโนลด์อยู่เบื้องหลัง  นอกจากนี้ยังมีจงหัวและเจ้าเมืองไม้งามหนุนหลังเขา พวกเขาไม่ต้องการประชาสัมพันธ์กิจการของเย่ว์หยางก่อนกำหนดเพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจของคนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่ว์หยางที่ใช้อักขระรูนลึกลับได้ทันที  การสร้างหุ่นยักษ์หินภูเขาไฟทำให้ทุกคนต้องยอมยกย่องเขา  นี่คือสุดยอดความลับของเรื่องนี้

“นักเรียนไตตัน!  เจ้าได้พักผ่อนบ้างแล้ว เป็นยังไงบ้าง?” อาจารย์ใหญ่ปฏิบัติต่อเย่ว์หยางนักเรียนยอดเยี่ยมเขาไม่เพียงแต่ยกย่องเย่ว์หยางว่าเป็นนักเรียนที่น่าภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของเขา  แต่ยังทำเหมือนกับว่าเป็นญาติของเขา เมื่อวันหยุดสามวันสิ้นสุดลงและเย่ว์หยางกลับมาเรียน  อาจารย์ใหญ่เตรียมเนื้อน้ำค้างร้อยบุปผาที่แม่เฒ่าโดโรปรุงไว้ให้เขา

“ขอบคุณที่อาจารย์ใหญ่กังวลห่วงใย  ข้าได้พักผ่อนอย่างดี”เย่ว์หยางทำตัวเป็นเด็กดีมีมารยาทเป็นธรรมดา

“ปราสาทไดมอนด์สตาร์ยังปลอดภัยดีหรือไม่?”  อาจารย์ใหญ่มองดูความก้าวหน้าในการค้นคว้าวิจัยช่วงไม่กี่วันมานี้  และเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่เหมืองแร่

“ไม่มีปัญหาอะไร  ข้าเพียงแต่ใช้เวลาสำรวจพื้นที่โดยรอบ”  “ เย่ว์หยางพูดความจริง แม้ว่าเขาไม่ได้พูดทั้งหมดก็ตาม

“เหรอ? ได้ผลเก็บเกี่ยวอะไรดีๆ บ้างไหม?”  อาจารย์ใหญ่ยิ้ม  เขาคิดว่าเย่ว์หยางสำรวจเขตแดนและได้รับการต้อนรับ  ดังนั้นเขาจึงมีอารมณ์ที่ดีเขาเห็นรอยยิ้มของนักเรียนไตตัน เขาพลอยมีความสุขไปด้วยเช่นกัน

“ผลเก็บเกี่ยวยังอยู่อีกไกล แต่ได้รู้จักคนเพิ่มได้รู้เรื่องราวเพิ่ม” เย่ว์หยางเปลี่ยนหัวข้อคุยและยิ้มอีกครั้ง “ในช่วงวันหยุดสองสามวันนี้ข้าได้มีโอกาสนั่งคิดเงียบๆ แต่มีแนวคิดใหม่อยู่บ้าง หากสามารถนำเอาไปใช้ได้จริง  อาจเป็นประโยชน์อย่างมากมายสำหรับงานวิจัย ตัวอย่างเช่นเกี่ยวกับรูปแบบในการต่อสู้ของอสูรบินหากเราใช้พลังอักขระรูนเสริมเข้าไป แทนที่จะเลือกเป็นใช้วัสดุไม่ต้องกังวลว่าน้ำหนักจะมากเกินไป เนื่องจากปัญหาของน้ำหนักวัสดุ  ดังนั้นด้วยความคำนึงถึงรูปร่าง น้ำหนักโครงสร้าง ขนาดและอื่นๆ ของอสูรบินรบ ทุกอย่างมีบทบาทในการขับเคลื่อน อีกอย่างหนึ่งรูปแบบอักขระรูนนี้สามารถเพิ่มเข้าไปได้อย่างราบรื่น  ดังนั้นการบินของอสูรบินทุกตัว รวมถึงการร่อน พลิกตัวหมุนวน จะมีบทบาทเสริมให้ได้ แม้แต่ข้าเองก็กำลังตรองคำถามว่าเราสามารถเปลี่ยนรูปแบบการสู้กันในอากาศได้หรือไม่ ถ้ามันบินและสามารถเปลี่ยนเป็นอสูรรบบนภาคพื้นได้จะมีความสำคัญสูงกว่าในการเตรียมยุทธวิธี และกำหนดเวลาเชิงกลยุทธ์ต่างๆ

“โอว,ข้าไม่คิดเลยว่าหุ่นอสูรบินจะสามารถออกแบบอย่างนี้ได้!”  อาจารย์ใหญ่มองดูภาพวาดและรู้สึกตกใจทันที

“ข้าได้ออกแบบหุ่นบินรบเป็นหุ่นรบมีการทำงานสามรูปแบบ  อันดับแรกประเภทลาดตระเวน มีความเร็วมากที่สุดแทนที่จะสละพลังต่อสู้ส่วนใหญ่ออกไป แต่ก็มีความเร็วและความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นไปถึงระดับสูงสุดในฐานะหุ่นบินลาดตระเวน บทบาทการต่อสู้ของพวกมันแต่ก็ทำให้รู้จักอาวุธของฝ่ายศัตรู แบบที่สองมีความเร็วและพลังต่อสู้ที่ใช้ผสานกันได้ในการต่อสู้  มันมีพลังต่อสู้หลัก มันคือดาบแห่งชัยชนะภารกิจของมันรวมถึงโจมตีกองกำลังทางอากาศของศัตรู แม้ว่าศัตรูจะยังไม่มีในตอนนี้แต่จะต้องมีอย่างแน่นอน ดังนั้นเราสร้างหุ่นรบบินจะต้องมีความก้าวหน้ากว่าใครทั้งหมด  หุ่นรบบินชนิดที่สามข้าหวังไว้ให้เป็นหุ่นบินโจมตีที่มีพลังแข็งแกร่ง รวมทั้งขนส่งอาวุธทำลายล้างศัตรู”เย่ว์หยางแนะนำอย่างต่อเนื่อง

“ชนิดโจมตี?” อาจารย์ใหญ่เข้าใจสองชนิดแรก แต่ชนิดที่สามนี้เขายังไม่ค่อยเข้าใจนัก

“คือเป็นอย่างนี้ข้าหวังไว้กับหุ่นรบประเภทที่สามมันอาจไม่จำเป็นต้องมีความสามารถในการเปลี่ยนรูปไม่จำเป็นต้องมีความสามารถรบทางอากาศที่เข้มแข็งแต่จะต้องเป็นหุ่นรบบินขนาดใหญ่ที่สุดมีปราการมีเกราะป้องกัน  มันสามารถใช้ขนส่งหุ่นรบบินหรือหุ่นรบภาคพื้นดินไปยังจุดหมายปลายทางได้ในรวดเดียว  ด้วยวิธีนี้สามารถนำไปใช้โจมตีเป้าหมายสำคัญ   สำหรับการใช้กลยุทธ์และการวางแผนรบ หุ่นรบประเภทโจมตีจะนำส่งกำลังพลไปที่สนามรบ  ตราบเท่าที่ถูกส่งออกไปศัตรูบนภาคพื้นจะถูกโจมตีอย่างหนักกลายเป็นเป้าหมายทำลายที่ถูกกำหนดไว้ นี่คือไพ่ใบสำคัญที่สุดในการต่อสู้กับศัตรู”  เย่ว์หยางอธิบายรายละเอียด

“โอวพระเจ้า!  ถ้าสิ่งนี้สามารถทำได้สำเร็จ  เมืองของศัตรูจะต้องสั่นเทิ้มอยู่ต่อหน้าหุ่นรบบินของเรา การปรากฏของหุ่นรบบินเหล่านี้จะเปลี่ยนโฉมพลิกประวัติศาสตร์ของหุบเขามนุษย์”  อาจารย์ใหญ่คิดว่าถ้าสิ่งนี้ทำสำเร็จคงเป็นเรื่องที่จะทำให้เขาถูกจดจำไว้ในประวัติศาสตร์ได้

“ข้าเขียนแบบไว้แล้วแค่รอสร้างต้นแบบและทดลองในสนามรบ” เย่ว์หยางโยนระเบิดอีกลูก

อันที่จริงเขาเพิ่งมีความคิดนี้

ผู้รับผิดชอบที่แท้จริงทำให้แบบนี้สำเร็จได้ก็คือสาวๆที่อยู่ในโลกคัมภีร์

อย่างเช่นอู๋เหินโล่วฮัว อี้หนานหลายคนช่วยรับผิดชอบปรับปรุงในส่วนของอักขระรูน,นางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้ทำหน้าที่ออกแบบ เซี่ยอีและสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์วาดภาพ  เย่ว์หวี่ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและจุ้ยมาวอี้เตรียมวัสดุทำแบบขั้นสุดท้ายเมื่อมีพวกนางอยู่ที่นั่น เย่ว์หยางแค่ผลักดันแนวคิดพวกนางจะเปลี่ยนแนวคิดนั้นให้เป็นจริง

สามัคคีคือพลัง

นี่เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ยิ่งไปกว่านั้นอู๋เหินและเย่ว์หวี่ไม่เพียงแต่เป็นสตรีที่มีพรสวรรค์เท่านั้น แต่พวกนางยังคุ้นเคยกับการร่วมทำงานกับเย่ว์หยางทำให้การทำงานกลมกลืนไปโดยปริยาย

อาจารย์ใหญ่ตื่นเต้นมากจนเคราสั่น

ทันใดนั้นเขาพาเย่ว์หยางเข้าไปในห้องปฏิบัติการและให้อาจารย์เข้ามาร่วมทั้งหมด ย่อยแนวคิดที่บ้าคลั่งของเย่ว์หยางด้วยทิศทางการวิจัยและภาพวาดที่มีหุ่นรบบินที่สับสนแต่เดิมก็มีกระบวนการจำลองที่ประสบผลสำเร็จในไม่ช้า ปรากฏว่าหุ่นรบบินที่น่าอึดอัดยังไม่ทันผลิตออกมาจริงๆ  ตอนนี้เย่ว์หยางกลับโยนแนวคิดใหม่เป็นทิศทางการสร้างหุ่นบินรบ  ถึงตะโกนออกมาอย่างอดกลั้นมิได้“ไม่เบาเลย  มันยิ่งใหญ่เหลือเกิน”

ไม่มีทาง!

พวกเขาอดตื่นเต้นไม่ได้  ไม่มีทาง นี่มันบ้าไปแล้ว!

แนวคิดที่เสนอโดยเย่ว์หยางนั้นเทียบเท่ากับอาวุธยุคสงครามเย็น แนะนำให้ผลิตปืนไรเฟิลและระเบิดเพื่อให้การต่อสู้เข้าสู่ยุคใช้ดินปืนทันที

แค่นี้ยังไม่พอทันทีหลังจากวิวัฒนาการหุ่นรบบินทั้งสามแบบวัตถุประสงค์แล้วก็เทียบเท่ากับเสนอให้ทำปืนยาวและดินระเบิดขับกระสุน เสนอการผลิตปืนและกระสุนทองแดงออกแบบปืนชนิดต่างๆ พัฒนาไปเป็นปืนกล แนวคิดพัฒนาแบบนั้นไม่ใช่มาคิดเพี้ยนมาจากยุคสงครามเย็นหรือ?

เมื่อกลุ่มอาจารย์ดูแบบจำลองและอนุมานถึงผลสำเร็จได้  พวกเขาร้องไห้ร่าเริงกอดกันและกัน

อาจารย์ใหญ่พบเจอปัญหาอย่างหนึ่ง เขาดึงเย่ว์หยางไปที่ด้านหนึ่งและจ้องมองหน้าเขาและไม่พูดอะไรอยู่เป็นเวลานาน จากนั้นจู่ๆ เขาตวาดขึ้น  “นักเรียนไตตัน  ข้าต้องตำหนิเจ้าบ้างแล้ว”

เย่ว์หยางตะลึง

ทุกคนตกตะลึง  เกิดอะไรขึ้น? ถ้าไม่ชื่นชม แล้วอาจารย์ใหญ่จะตำหนิติติงนักเรียนไตตันได้อย่างไร?

อาจารย์ใหญ่จับไหล่เย่ว์หยางเขย่า“เจ้า.. เด็กน้อยเจ้าเป็นแบบนี้ได้ยังไง? เจ้าทำแบบนี้ได้อย่างไร? ข้าให้เจ้าหยุดพัก เจ้าก็ควรพักให้ดี   แต่นี่เจ้าไม่ยอมพักผ่อนอะไรเลยกลับเอาแต่ค้นคว้าวิจัยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เจ้าไม่ได้ออกไปสำรวจเขตแดนของเจ้าใช่ไหม? เจ้าไม่ได้พักผ่อนให้ดีเลย เอาแต่ค้นคว้าวิจัยตลอดเวลา!”

พออาจารย์ใหญ่พูดเช่นนี้อาจารย์ทุกคนเห็นด้วย

นักเรียนไตตันไม่ได้พักแน่นอนมิฉะนั้นเขาคงไม่มีเวลาออกแบบหุ่นรบบินมากมาย

แม้ว่าจะเป็นภาพวาดออกแบบก็ยังต้องใช้เวลาสองสามวันจากเริ่มต้นหรืออาจใช้เวลานานกว่านั้น  ไม่ต้องพูดถึงการออกแบบจำนวนมากและแนวคิดในการใช้สอยทุกคนตาแดงน้ำตาคลอเบ้ามองดูเย่ว์หยาง

อาจารย์ใหญ่กลัวมากว่าเย่ว์หยางจะล้มเจ็บป่วยเพราะไม่มีเวลาพักผ่อนมากพอ

เหมือนแม่ไก่ที่ป้องปีกปกป้องลูกเจี๊ยบ

เย่ว์หยางต้องการอธิบาย

อาจารย์ใหญ่โบกมือ“เจ้าไม่ต้องพูดอะไรอีก  ไม่มีอะไรเหลือให้สนทนาอีกแล้ว  เจ้าต้องไปพักผ่อน มิฉะนั้นคนแก่อย่างพวกเราคงไม่ได้เห็นหุ่นรบบินแน่เราไม่อยากเห็นเจ้าล้มเจ็บไข้ได้ป่วย เด็กเอ๊ย!เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าเจ้าสำคัญมากขนาดไหน? เจ้าคือเพชรเม็ดงามที่เทพประทานมาให้กับโลกนี้  ความคิดของเจ้าจุดประกายแรงบันดาลใจในโลกนี้ซึ่งไม่มีอะไรเทียบค่าได้เลย  เมื่อเทียบกับคนที่ตายไปแล้วเจ้ามีคุณสมบัติพอจะเพลิดเพลินกับทุกอย่างในโลกอย่างแท้จริง  แต่เจ้ากลับไม่ห่วงร่างกายตัวเอง เอาแค่คร่ำเคร่งทำงานครั้งแล้วครั้งเล่าเด็กน้อย, รู้ไหมว่าข้าเป็นห่วงเจ้าขนาดไหน? เจ้ารู้ไหมว่าโดโรเป็นทุกข์และห่วงใยเจ้ามากขนาดไหน? เจ้าทำให้เราเหล่าครูบาอาจารย์ต้องตำหนิติติงตนเองมากมายขนาดไหน?  เอาเถอะ ข้าไม่พูดอีกแล้วเจ้าต้องไปพักเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่งของข้าในฐานะอาจารย์และผู้อาวุโสและเป็นคำขอร้องของข้าฐานะที่เป็นผู้ร่วมรับรู้เป็นประจักษ์พยานเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์”

“นี่...” เย่ว์หยางยังจะพูดอะไรได้อีก?

นี่เขาบอกว่าสิ่งเหล่านี้แค่เป็นหลักการที่เขาเสนอและจากนั้นเขาไม่ต้องทำอะไร แค่กลับบ้านไปอาบน้ำกับสาวงาม หรือนอนกอดสาวสวยตื่นขึ้นตามธรรมดาก็รู้สึกสดชื่นเต็มที่

ภาพวาดออกแบบเหล่านี้มาจากกลุ่มสาวๆที่บ้านเขาช่วยทำให้ทั้งนั้น

แต่เย่ว์หยางจะพูดเรื่องนี้ได้หรือ?

ย่อมไม่ได้แน่นอน

ยังไงๆพวกอาจารย์ใหญ่คงไม่ยอมเชื่อ

ดังนั้นเย่ว์หยางจึงแต่ก้มหน้าเหมือนเด็กที่กำลังสำนึกผิด  “ก็ได้, ข้าผิดไปแล้ว ข้าจะกลับไปพักทันที  ส่วนภาพวาด และแบบจำลองที่สมบูรณ์แบบ ข้าขอมอบให้อาจารย์ทุกท่าน!”

“เจ้ายังต้องนึกถึงผังแบบสร้างอีกหรือ? เรื่องเดียวที่เจ้าต้องทำตอนนี้คือกลับไปบ้านหาหมอนนุ่มๆและนอนหลับให้สบายทั้งคืน!”  อาจารย์ใหญ่ดุ

“เข้าใจแล้ว ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ ข้าไม่ต้องการ ข้าไม่ต้องการอะไรเลย...” เย่ว์หยางทำเป็นลนลานจากไป

“เป็นเด็กดีจริงๆเพียงแต่ไม่ค่อยเชื่อฟังกันง่ายๆ!”  เสียงอาจารย์ใหญ่ดังขึ้นในที่สุดเขาพยายามไม่ให้ใครเห็นน้ำตาที่คลอเบ้าของเขา

ไม่ใช่เพียงเขาเท่านั้น  แต่เป็นอาจารย์ที่อยู่ในที่ประชุมทุกคน

เพราะพวกเขาตื่นเต้นและตื้นตันใจ

อาจารย์ใหญ่และคณาจารย์ดีใจแทบคลั่ง

พวกเขาค้นคว้าวิจัยกันทั้งวันทั้งคืนราวกับกินยาขยัน

ด้วยการค้นคว้าวิจัยอย่างบ้าคลั่งเต็มพิกัด300% อาจารย์ใหญ่และคณาจารย์จึงขอคำแนะนำจากเย่ว์หยางหลังจากที่เขากลับมาจากการ ‘พัก’ แล้ว

ในที่สุดหุ่นรบบินตัวแรกก็ถูกผลิตออกมาได้อย่างสมบูรณ์ในอีกห้าวัน  แม้ว่านี่จะเป็นต้นแบบที่ยังไม่ได้ทำการทดลองแต่ก็เป็นหุ่นรบบินรุ่นแรก  การเปลี่ยนแปลงรูปได้จะทำให้ไม่มีความเร็วสูงแต่ว่ามีความยืดหยุ่นและยังไม่มีพลังรบใดๆ ไม่สามารถขนส่งบรรทุกในระดับเหนือเสียงแต่อย่างใดยังไม่ได้ทำการบินขึ้นไปในอากาศ แต่ยังคงอยู่ในห้องค้นคว้าใต้ดิน..ในช่วงเวลาสั้นๆ นี่จะเป็นต้นแบบหุ่นรบบิน อย่างไรนี่มีความหมายต่อโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าของเมืองไม้เงิน นั่นคือความคงอยู่ของยุคสมัย

สำหรับอาจารย์ใหญ่และคณาจารย์ผู้ร่วมงานค้นคว้าวิจัยอย่างบ้าคลั่งนี่จะเป็นยุคสมัยของพวกเท่านแน่นอน

ตอนนี้ไม่มีใครสงสัยว่ามันจะไม่สามารถบินในท้องฟ้าได้

ปัญหาประการเดียวก็คือมันจะบินได้สูงแค่ไหนและบินได้ไกลเพียงไหน

หุ่นรบบินได้รับการพัฒนาเรียบร้อยแล้วแม้ว่าจะยังไม่ได้บินขึ้นท้องฟ้าเข้าสู่สนามรบและได้รับการยอมรับจากกฎสวรรค์ว่าด้วยสงคราม แต่ก็เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่ายุคสมัยของการบินมาถึงแล้ว

สำหรับการสร้างสิ่งนี้อาจารย์ใหญ่บังคับให้เย่ว์หยางไปพักผ่อนอีกสามวัน

“เราสร้างปาฏิหาริย์ได้!”  หน้าของอาจารย์โอมอนต์แดงแม้แต่ตอนที่เขาแต่งงานก็ยังตื่นเต้นน้อยกว่าวันนี้

“ไม่ นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นแห่งยุค  ปาฏิหาริย์จะมาถึงในไม่ช้า!” อาจารย์อูผู่เขียนบันทึกประจำวัน นี่เป็นนิสัยประจำตัวของเขา ถ้าเขาตื่นเต้น เขาจะไม่พูด เขาจะใช้ปากกาเขียนระบายความรู้สึก

“ทั้งหมดนี้สร้างขึ้นด้วยน้ำมือของพวกเรา  เรากำลังสร้างยุคใหม่..  เกียรติยศกำลังก้าวเข้ามาหาเราและทั้งหมดนี้คือความคิดสร้างสรรของนักเรียนไตตัน นักเรียนไตตัน ข้าในฐานะเป็นครูของเจ้า ข้าภูมิใจที่มีนักเรียนอย่างเจ้า!” อาจารย์ใหญ่เหมือนไก่กระทงยืนอยู่ใต้หุ่นรบบินด้วยความภาคภูมิใจมือของเขาจับที่ไหล่ของเย่ว์หยางแน่น น้ำเสียงสั่นเครือ แต่มุมปากมีรอยยิ้ม “ข้ามีความสุขมากที่ได้อยู่ทันยุคที่มีเด็กหนุ่มอย่างเจ้าเป็นนักเรียน ข้าพอใจมากเด็กน้อยเอ๋ย จงสยายปีกแล้วพาความฝันของพวกเราบินไปด้วย...”

“โปรดพาความฝันของเราโบยบินไปด้วย!” บรรดาอาจารย์ผู้ร่วมค้นคว้าวิจัย รวมทั้งพี่น้องตระกูลโอมอนต์ต่างตื่นเต้นมองดูเย่ว์หยางในเวลานี้  และนี่คือเสียงที่เปล่งออกมาจากใจพวกเขา

“ได้โปรดสยายปีกของเจ้านำพาความฝันของเราโบยบินไปด้วย!”

“โปรดบินไป นำพาความฝันของเราไปด้วยกัน....”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด