ตอนที่แล้ว15. ข่าวจากฮ่าวเหมิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป17. พรสวรรค์ของญาติผู้น้อง

16. กำเนิดยุคสมัยแห่งผู้ปลุกพลัง และ นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่


(หมายเหตุ : ขอเปลี่ยนบางอย่างนะครับ

1.เปลี่ยนจาก ลุง เป็น น้าชาย เพิ่งทราบว่าแม่หนิงซีเป็นพี่สาวคนโตครับ

2.เปลี่ยนจาก ป้า เป็น น้าสะใภ้

3.เปลี่ยนจาก ห่าวเหมิง เป็น ฮ่าวเหมิง  เนื่องจากชื่อย่อ นักวิทยาศาสตร์ในท้ายของตอนนี้ครับ)

ตราบใดที่ผู้ปลุกพลังยังต้องการความมั่งคั่งจากสังคม

พวกเขาจะต้องไม่แยกตัวออกจากคนอื่นๆในสังคม

และต้องผสานกลมกลืนเข้ากับสังคมได้อย่างรวดเร็ว

หนิงซีคาดว่า ผู้มีอำนาจในรัฐบาลจะจัดระเบียบให้ผู้ปลุกพลังอยู่ภายใต้ฎหมาย

เพื่อทำให้สังคมมีเสถียรภาพและความกลมเกลียว

“คริสตัลจิตวิญญาณระดับ A น่าจะมีราคาสักเท่าไหร่?”

“คริสตัลจิตวิญญาณระดับ A ทุกชิ้นเป็นทรัพยากรสำคัญที่ประเมินค่าไม่ได้

เพราะมันมีผลกระทบที่ยิ่งใหญ่เกินไป”

“ผู้ปลุกพลังระดับ 6 ต้องใช้คริสตัลจิตวิญญาณระดับ A

เพื่อก้าวไปสู่ระดับ 7

ส่วนผู้ปลุกพลังระดับ 7 คริสตัลจิตวิญญาณระดับ A

จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความสามารถพิเศษของพวกเขา”

เมื่อได้ยินหนิงซีเฝ้าถามถึงเรื่องคริสตัลจิตวิญญาณระดับ A

ฮ่าวเหมิงสัมผัสได้ว่าหนิงซีให้ความสนใจต่อคริสตัลจิตวิญญาณมากเป็นพิเศษ

เธอจึงเตือนเขาว่า

“พี่สือโถว อย่าเข้าไปยุ่งเรื่องคริสตัลวิญญาณระดับ A

ที่เกิดขึ้นในเมืองตงหลิน

ฉันได้เตรียมทรัพยากรฝึกไว้ให้แล้ว

ขอเวลาอีกสิบวันฉันจะไปหาคุณ”

เมื่อพูดจบ ฮ่าวเหมิงก็รีบวางสาย

หนิงซีลูบจมูกพลางครุ่นคิด ฮ่าวเหมิงต้องมีที่มาไม่ธรรมดาแน่นอน

เธอล่วงรู้ความลับของทางการมากมาย แต่ยังยอมบอกให้หนิงซีได้รับรู้

เธอน่าจะเป็นผู้หญิงที่มีฐานะคนหนึ่ง

หลังจากวางสาย หนิงซีเห็นน้าชายของเขาเดินออกมาจากลิฟต์

“เมื่อเดือนที่แล้วน้าช่วยนัดบอดให้ผม เธอชื่อฮ่าวเหมิง

น้าพอจะจำเธอได้ไหม เธอมีภูมิหลังอย่างไรครับ”

หวังจือกั๋วยืนงงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า

“สหายเก่าร่วมรบเป็นคนแนะนำเธอให้รู้จักกับฉัน

เธอจบการศึกษาระดับสูงและมีพื้นฐานทางครอบครัวที่ดี

ตอนฉันเห็นรูปถ่ายเธอและเห็นเธอสวยเหมือนดอกไม้หยก

ฉันเลยเล่าเรื่องนี้ให้พี่สาวคนโตฟัง

หรือว่าหลานจะชอบเธอเข้าให้แล้ว”

“เราเข้ากันได้ดีครับ น้ารู้จักคุณพ่อของเธอไหมครับ?”

“ไม่รู้จักหรอก แต่หลานเก่งนะ

ความสัมพันธ์ของเธอกับหลานคืบหน้าเร็วมาก

นี่ถึงขั้นไปจะพบพ่อแม่ของเธอแล้ว

ถ้าอยากให้น้าช่วย บอกได้เลยนะ”

“ยังครับ ยัง ผมแค่ถามเฉยๆ ยังไม่ถึงเวลาหรอกครับ”

แปลกมาก จากที่น้าชายพูด แสดงว่าน้าไม่รู้จักพ่อของฮ่าวเหมิง

แต่หนิงซีจำสิ่งที่เธอพูดในวันนัดบอดได้อย่างชัดเจน

“ฉันรู้ว่าน้าชายของคุณสนิทกับพ่อของฉันมาก

ฉันเลยถามเขาถึงคุณ ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะเข้าใจผิด…”

นี่คือสิ่งที่ฮ่าวเหมิงพูดตอนนั้น แต่น้าของเขากลับไม่รู้จักพ่อของฮ่าวเหมิง

ทำไมฮ่าวเหมิงถึงต้องโกหกเขา?

ทันใดนั้น ตัวตนของฮ่าวเหมิงดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยความลึกลับ

หนิงซีไม่รู้สึกติดใจอะไร อีกสิบวันฮ่าวเหมิงก็จะมาเมืองตงหลินแล้ว

ถึงเวลานั้นเขาค่อยถามเธอต่อหน้าก็ได้

น้าชายเขารู้จักคนในโรงพยาบาล

ทำให้ขั้นตอนการออกจากโรงพยาบาลของน้าสะใภ้เป็นไปอย่างราบรื่น

ตอนแพทย์ตรวจเช็คร่างกายก่อนออกจากโรงพยาบาล เขาแปลกใจมาก

แต่เนื่องบาดแผลของน้าสะใภ้หายดีแล้ว แพทย์จึงยอมให้เธอออกจากโรงพยาบาลได้

พวกเขายกโขยงกันไปที่บ้านของน้าชายในหมู่บ้านดราก้อนซิตี้หมายเลข 1

หลังจากน้าชายของหนิงซีถูกปลดประจำการออกจากกองทัพ

เขากับกลุ่มสหายร่วมรบก็ร่วมมือกันทำธุรกิจด้วยกัน

พวกเขาเริ่มต้นด้วยการก่อตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้าง

หลังจากฝ่าฟันมาอย่างยากลำบาก

เขาก็สามารถสร้างธุรกิจของครอบครัวได้สำเร็จ

เขาอาศัยอยู่ในวิลล่าส่วนตัวขนาดแปดห้อง

ซึ่งเพียงพอที่จะให้หนิงซีและพวกได้มาอาศัยอยู่ชั่วคราว

วันที่น้าสะใภ้ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้าน ทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีอะไรผิดปกติ.

รุ่งขึ้น เวลา 9.00 น. รัฐบาลเผยแพร่วิดีโอสำคัญ

ในวิดีโอ สิ่งแรกที่เห็นคืออธิบายว่าผู้ปลุกพลังคืออะไร

และแนะนำพวกเขาต่อสาธารณชน

นอกจากนั้นยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถอันหลากหลายของผู้ปลุกพลัง

ความสามารถพิเศษของผู้ปลุกพลัง มีทั้ง

การบินได้ท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม

บางคนเพียงแค่โบกมือก็มีไฟลุกท่วมรอบบริเวณ

ผู้ปลุกพลังบางคนก็มีร่างกายที่เปล่งแสงได้ หรือ เทเลพอร์ตได้

ในวิดีโอยังแสดงให้เห็นการต่อสู้นองเลือดระหว่างผู้ปลุกพลัง

ฉากที่เลือดเนื้อกระจายไปทั่วบริเวณเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงไม่ใช่เกม

ทำให้หลายคนรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเมื่อได้เห็นมัน

หนิงซีรู้สึกได้ว่าทางการเหมือนจะมีจุดประสงค์บางอย่างซ่อนเร้นอยู่

พวกเขามีความจงใจแฝงการกระตุ้นจิตสำนึกการต่อสู้ของประชาชนไว้ในวิดีโอ

ทั่วทั้งประเทศตกอยู่ในความโกลาหลและทุกคนต่างก็พูดถึงแต่เรื่องนี้

ใครบ้างที่ไม่มีความฝันที่จะเป็นฮีโร่?

ใครบ้างที่ไม่อยากเป็นผู้ปลุกพลังที่มีความสามารถพิเศษ?

ผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีต่างเต็มไปด้วยความเสียใจ

“ฉันเกิดมาเร็วเกินไป ฉันก็อยากย้อนกลับไปก่อนอายุ 18”

“นี่คือการเลือกปฏิบัติทางอายุ ฉันอยากได้ยาปลุกพลังด้วย”

“ข้างต้น อัตราความสำเร็จของยาปลุกพลัง ของคุณน้อยกว่า 5%

ในขณะที่อัตราความสำเร็จสำหรับวัยรุ่นคือ 20%”

“ไม่ ไม่ อย่าพูดความจริง? มันบีบหัวใจเกินไป!”

“ทำงานหาเงินให้หนักขึ้น เมื่อเก็บเงินได้ 500,000 หยวนแล้ว

คุณสามารถซื้อยาปลุกพลังได้ แม้ว่าอัตราความสำเร็จจะไม่สูง

แต่คุณยังมีสิทธิ์ฝันถึงมัน ถ้ามันเกิดสำเร็จล่ะ?”

หนิงซีเห็นความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ต คนส่วนใหญ่ยินดีกับการปลุกพลัง

ทุกคนต่างมองโลกในแง่ดีและคิดว่าการเป็นผู้ปลุกพลังเป็นสิ่งที่ดี

แต่คนบางคนมองเห็นด้านนองเลือดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการปลุกพลัง

แต่ความคิดเห็นของพวกเขาจมหายไปท่ามกลางกระแสคลื่นความฝันของฝูงชน

แค่เข้าสู่ช่วงเช้าได้ไม่นาน หนิงซีก็ได้รับโทรศัพท์หลายสาย

บ้างคนแค่แบ่งปันข่าวสาร ในขณะที่บางคนบอกขอยืมเงิน

“หนิงซี ฉันต้องการซื้อยาปลุกพลัง แต่ฉันยังขาดเงินอยู่ 400,000 หยวน

ฉันขอยืมหน่อย พอฉันเป็นผู้ปลุกพลังแล้วจะคืนให้”

หนิงซีถึงกับพูดไม่ออกและวางโทรศัพท์ไป

เพื่อความสงบในชีวิต หนิงซีเปลี่ยนโทรศัพท์เป็นโหมดการบิน

แต่สักพัก หวังหยานก็ถือโทรศัพท์ของเธอเดินเข้ามาในห้องหนิงซี

“ซีน้อย หยางหยุนซีโทรหาลูก ลูกปิดโทรศัพท์หรือ”

หนิงซีรับโทรศัพท์มาจากแม่

“ต้าจือ เกิดอะไรขึ้น? แกโทรหาแม่ฉันเนี่ยนะ”

“สือโถว วันนี้เป็นวันรวมตัวประจำเดือนแล้ว

เดี๋ยวเราจะไปย่างแกะกันที่เวสท์เมาเท้นพาวิลเลี่ยนคืนนี้”

หนิงซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าวิหารแห่งทวยเทพคงยังไม่เคลื่อนไหวในช่วงนี้

การมีจูต้าหนิวคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ มันไม่น่าอันตรายสักเท่าไร

ดังนั้นเขาจึงตอบไปว่า

“โอเค เจอกันตอนทุ่มนึง.”

หวังหยานได้ยินว่าหนิงซีจะออกไปข้างนอก เธอก็รู้สึกเป็นกังวล

“ซีน้อย ลูกต้องระวังตัวด้วยนะ”

“แม่อย่าห่วงเลยครับ ผมเป็นผู้ปลุกพลัง แค่ไปกินข้าวเท่านั้นครับ

แล้วจะกลับมาก่อนสี่ทุ่ม ลูกพี่ลูกน้องก็ยังออกไปข้างนอกได้ไม่ใช่หรือครับ?

มันไม่เป็นไรครับ”

ในวาระการปลุกพลังแห่งชาติครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เตรียมพร้อมไว้อย่างดี

หลังจากเผยแพร่ วิดีโอแล้ว ไม่นานยาปลุกพลังก็ถูกส่งไปยังโรงเรียนต่างๆ

เพื่อมอบให้นักเรียนที่อยู่ในวัยที่เหมาะสม

ความจริงหวังอูเว่ยได้ลาเรียนวันนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว

แต่เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์ แจ้งให้เขาไปโรงเรียนเพื่อรับยาปลุกพลัง

หลังจากวิดีโอการปลุกพลังแห่งชาติได้เผยแพร่ออกไปแล้ว

บรรดาสื่อหลักในรัฐบาลก็หันมามุ่งความสนใจไปที่เหล่านักวิทยาศาสตร์

“ขอบคุณ นักวิทยาศาสตร์”ฮ“ผู้พัฒนายาปลุกพลัง”

“เพื่อรักษาความปลอดภัยให้นักวิทยาศาสตร์

เราไม่สามารถบอกตัวตนที่แท้จริงของเขาได้

แต่เราจะไม่ลืมความทุ่มเทของเขา!”

“ในยุคสมัยใหม่ นิวตันค้นพบกฏความโน้มถ่วงของจักรวาล

และไอน์สไตน์นำเสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ

การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่เหล่านี้

ทำให้การพัฒนาของราชอาณาจักรมีเย

และสหพันธรัฐมีเยล ก้าวนำเราไป”

“แต่ตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์”ฮ” ของเรา

ได้พัฒนายาปลุกพลังขึ้นมาได้สำเร็จ

การวิจัยและพัฒนานี้จะทำให้ราชอาณาจักรอวิ๋นเหมิง

กลายเป็นผู้นำทางฝั่งตะวันตกและผู้นำของโลกในอนาคตอีกด้วย”

หนิงซีเปิด เว่ยป๋อ ติ๊กต๋อกและแพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ อย่างไม่ตั้งใจ

นักวิทยาศาสตร์ “ฮ” กลายเป็นประเด็นที่ร้อนแรง

“นักวิทยาศาสตร์”ฮ“คือใคร”

“ฉันขอขอบคุณนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21 นักวิทยาศาสตร์”ฮ“”

“ความสำคัญอย่างยิ่งของยาปลุกพลัง!”

แม้แต่โมเม้นต์ในวีแชทของเขาก็เต็มไปด้วยคำชมและขอบคุณ นักวิทยาศาสตร์ “ฮ”

“ฮ” เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่

ไม่ว่าผู้ปลุกพลังจะนำพาการพัฒนาสังคมมนุษย์ไปสู่หนทางใด

แต่ก็ยังไม่อาจลบเลือนความสำคัญอันยิ่งใหญ่ของยาปลุกพลังได้

หนิงซีไม่กล้าใช้ โหมดมุมมองแรกในการเล่นเกมที่บ้านน้าชาย

เมื่อเขาเห็นอวตารของเขาออกล่าสัตว์อสูรเวทย์อย่างขยันขันแข็งในโหมดแฮ็กระบบ หนิงซีก็ไม่เข้าไปยุ่ง

เวลาหกโมงเย็น หนิงซีขับรถเมอร์ซิเดสของน้าชายออกไป

ตลอดรายทางมีฝูงชนที่ตื่นเต้นยินดีเต็มไปหมด

มีร้านค้าขายยาปลุกพลังและคริสตัลจิตวิญญาณตั้งอยู่ข้างถนนเรียบร้อยแล้ว

หนิงซีมองผ่านหน้าต่างกระจกรถ เห็นร้านขายยาปลุกพลังต่างมีผู้คนพลุกพล่าน

มีคนร่ำรวยเป็นจำนวนมากในราชอาณาจักรอวิ๋นเหมิง

เงิน 500,000 หยวน คนจนอาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิตก็เก็บไม่ได้

แต่สำหรับคนรวย มันก็แค่น้ำหยดเดียวในถังน้ำใบหนึ่ง

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน

ราชอาณาจักรอวิ๋นเหมิงได้เข้าสู่ยุคสมัยแห่งการปลุกพลังแล้ว

เวสท์เมาเท้นพาวิลเลี่ยน ตั้งอยู่ในเขตเจียอี้

ชานเมืองตงหลิน มันเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างห่างไกล

เนื้อแกะย่างของภัตตาคารนี้เป็นเนื้อแกะเค็มจากภูมิภาคหนิงเซี่ย

มันสดนุ่มชุ่มฉ่ำ ไม่มีกลิ่นเหม็นแม้แต่น้อย

เมื่อหนิงซีมาถึง ก็มีผู้คนเต็มไปหมดแล้ว

รูปแบบสถาปัตยกรรมและการตกแต่งของ เวสท์เมาเท้นพาวิลเลี่ยน

เป็นแบบของทางตะวันตกเฉียงเหนือ ก่ออิฐสร้างเป็นลานปิด

หยางหยุนจีและเฉินเว่ยกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมตะวันออกเฉียงใต้ของลาน

ครั้งนี้ทั้งสองคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มร่าเริง

ไม่เหมือนกับความหมดหวังในครั้งที่แล้ว

ทันทีที่หนิงซีนั่งลง เฉินเว่ยแทบทนไม่ไหวที่จะพูดว่า

“สือโถว น้ำห้าธัญรสมันยอดเยี่ยมมาก!

ไม่ว่าจะเป็นรสชาติหรือประสิทธิภาพมันดีกว่ากาแฟมาก

ในเวลาเพียงแค่หนึ่งเดือน เราเปิดสาขาในเมืองตงหลินได้ถึง 11 แห่ง”

"มันเร็วไปหรือเปล่า. เริ่มต้นธุรกิจอย่างช้าๆและมั่นคงจะดีกว่า

ถ้าได้ผลตอบรับดีค่อยเปิดร้านเพิ่ม อย่าขยายสุ่มสี่สุ่มห้า”

เมื่อได้ยินคำพูดของหนิงซี หยางหยุนจียิ้มและพูดว่า

"ไม่ต้องห่วง ผลตอบรับดีมาก

เราตั้งราคาน้ำผลไม้ห้าธัญรสไว้ที่ถ้วยละ 15 หยวน

หลังหักต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรง และค่าเช่าร้านแล้ว

เรามีกำไรสุทธิประมาณ 8 หยวนต่อถ้วย”

“มีต่อแถวยาวทุกร้าน แต่ละร้านขายได้มากกว่า 1,000 ถ้วยต่อวัน”

หนิงซียกนิ้วโป้งให้

"สุดยอด. พี่น้องของฉันยอดเยี่ยมมาก

มิน่า หลายคนถึงอยากเปิดร้านชานม กำไรสูงจริงๆ”

“เมื่อเร็วๆนี้ คนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องต้องการเข้าร่วมกับแบรนด์เรา

เฉินเว่ยและฉันไม่แน่ใจ แกคิดว่าเราเปิดแฟรนไชส์ดีไหม?”

“ถ้าเราเปิดแฟรนไชส์ ​​ในหนึ่งปีเราจะสามารถเปิดร้านได้ 1,000 แห่งทั่วประเทศ”

“ถ้าแกอยากทำเงินเร็ว แกก็เปิดแฟรนไชส์ได้

แต่ถ้าแกอยากทำธุรกิจน้ำผลไม้ห้าธัญรสจริงๆ

การขยายอย่างช้าๆ จะดีที่สุด”

“ถ้ามีผู้เข้าร่วมแฟรนไชส์มากเกินไปจะควบคุมคุณภาพของสินค้าได้ยาก

มันจะส่งผลเสียต่อแบรนด์ได้”

หยางหยุนจีพยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้นเราจะไม่เปิดแฟรนไชส์

เราจะตั้งหลักที่เมืองตงหลินให้ได้ก่อน

แล้วค่อย ขยายไปยังเมืองใหญ่อื่นๆ”

5 4 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด