ตอนที่แล้วตอนที่ 7 ลูกศิษย์เพียงคนเดียวยังไม่พอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 ความหลัง

ตอนที่ 8 เดือนละหนึ่งครั้ง


นี่มัน!

ลู่หยานรันค่อยๆลืมตาขึ้น หลังจากที่สัมผัสได้ถึงพลังที่พุ่งสูงขึ้นในร่างกายของเธอแววตาของเธอก็แสดงออกถึงการตื่นเต้นอย่างมาก

เธอไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเธอจะก้าวข้ามไปได้สูงกว่าขั้นที่สี่ของรูปแบบการปรับแต่ง ไปสู่ขั้นที่เก้าของรูปแบบการเปลี่ยนแปลงฉี เพราะมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เธอรู้สึกเหมือนเธอสามารถเอาชนะตัวเองก่อนหน้านี้ได้หลายร้อยคนได้อย่างง่ายดาย

สิ่งสําคัญที่สุดคือไม่เพียงแต่ระดับการฝึกตนของเธอข้ามไปสู่ขั้นที่เก้าของรูปแบบการเปลี่ยนแปลงฉีเท่านั้น แต่พื้นฐานพลังของเธอยังมีความสมดุลอย่างมากโดยไม่มีจุดอ่อนเลยแม้แต่น้อย

สิ่งที่สําคัญที่สุดสําหรับเธอในตอนนี้คือการทําความคุ้นเคยกับพลังในร่างกายของเธออย่างสมบูรณ์ให้ได้ก่อน

แต่ด้วยเนื่องจากพื้นฐานพลังของเธอนั้นสมดุลขึ้นอย่างมาก ลู่หยานรันจึงอาจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการทำความคุ้นชินกับพลังในร่างกายของเธออย่างสมบูรณ์ได้

[ดิ๊ง! เนื่องจากท่านได้ถ่ายทอดพลังการฝึกตนของท่านที่สามารถทำได้เป็นเวลาหนึ่งเดือนให้กับลูกศิษย์ของท่าน ท่านจะได้รับการตอบแทนกลับสิบห้าเท่า! ขอแสดงความยินดีท่านได้พลังการฝึกตนของเป็นเวลา 450 วันตอบแทนกลับมา!]

ทันใดนั้นเสียงของระบบก็ดังขึ้นในใจของยื่อซวน

บ้าไปแล้วว!

ทันใดนั้นพลังที่มีอยู่ในแก่นกลางของยื่อซวนก็พุ่งสูงขึ้น ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากขั้นกลางของรูปแบบแก่นแท้จริงเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น!

"นี่มันโกงมากๆ พลังของข้าสามารถเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างง่ายดายอะไรแบบนี้!"

ยื่อซวนสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขาและดวงตาของเขาอดไม่ได้ที่จะส่องประกายออกมา

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เขาเพียงแค่ใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อทำความเข้าใจระดับพลังใหม่ของเขาอย่างสมบูรณ์เท่านั้น

ด้วยพลังที่ได้รับจากการฝึกตน 450 วันหลังจากที่ถ่ายทอดพลังที่เขาฝึกได้แค่30วันให้กับลู่หยานรันนั้น เท่ากับว่าเขาได้กําไรเป็นพลังที่เขาสามารถฝึกได้เป็นเวลาถึง 420 วัน!

แค่การถ่ายทอดพลังทางจิตวิญญาณเพียงครั้งเดียวเขาได้รับพลังที่เขาต้องฝึกฝนมากกว่าหนึ่งปี

"ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้พลังจากการฝึกตนถึง 400 วันกลับมา แต่ยังไงก็ตาม มันไม่สามารถช่วยให้ข้าไปถึงระดับต่อไปได้ ยิ่งข้าอยู่ในระดับสูงเท่าไหร่ การก้าวข้ามสู่ระดับต่อๆไปก็จะยากมากขึ้นเท่านั้น!"

เมื่อนึกได้แบบนี้ ยื่อซวนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

เนื่องจากความแตกต่างด้านระดับพลังที่ได้จากการฝึกตนนั้นก็ต่างกันด้วย

ถึงแม้ว่าจะฝึกฝนเป็นเวลาหนึ่งวันเท่ากัน แต่การฝึกฝนของรูปแบบการเปลี่ยนแปลงฉีและรูปแบบแก่นแท้จริงนั้นจะได้รับพลังจากการฝึกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

หรือยกตัวอย่างง่ายๆ ลู่หยานรันที่ต้องการเข้าสู่ขั้นที่เก้าของรูปแบบการเปลี่ยนแปลงฉีนั้น จะใช้เวลาอย่างน้อยหกถึงเจ็ดปีในการฝึกฝนอย่างหนักด้วยตัวของเธอเอง

แต่ด้วยการถ่ายโอนพลังทางจิตวิญญาณของยื่อซวน เธอจะใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนเพื่อเข้าสู่ระดับรูปแบบแก่นแท้จริงได้

"จากนี้ไปข้าจะมอบพลังทางจิตวิญญาณของข้าให้เจ้าทุกเดือน!"

ยื่อซวนยืนขึ้นและพูดกับลู่หยานรัน

ตอนนี้เขาได้ลิ้มรสความหอมหวานของการถ่ายทอดพลังทางจิตวิญญาณแล้วเขาจะพลาดโอกาสนี้ไปได้อย่างไรกัน? ยิ่งไปกว่านั้นหากเขารับลูกศิษย์คนที่สองและถ่ายทอดพลังทางจิตวิญญาณของเขาหนึ่งครั้งเขาจะสามารถเข้าสู่ขั้นกลางของรูปแบบแก่นแท้จริงได้ทันที

"อะไรกัน?"

ลู่หยานรันซึ่งยังคงพยายามควบคุมพลังใหม่ของเธอก็ตกตะลึงอีกครั้ง

ถ่ายทอดพลังทางจิตวิญญาณเดือนละหนึ่งครั้ง? ท่านปรมาจารย์พูดจริงงั้นหรือ?

ลู่หยานรันกตัวแข็งทื่อทันที

เพราะวิธีการของยื่อซวนนั้นทําให้เธอตกใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นยาฟื้นวิญญาณขั้นสามหรือการถ่ายทอดพลังทางจิตวิญญาณนั้นมันเกินกว่าที่เธอจะคิดไปมาก

ลู่หยานรันเมื่อก่อนนั้นทำได้เพียงเพ้อฝันที่สักวันหนึ่งเธอจะกลายเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์ผู้แข็งแกร่ง

แต่เธอไม่คิดว่ามันจะเป็นอะไรที่เกินกว่าความฝันของเธอแบบนี้

คําพูดของยื่อซวนทําให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล!

การถ่ายทอดพลังทางจิตวิญญาณเดือนละครั้ง? แม้แต่พ่อของเธอเองก็ยังไม่เคยทำดีแบบนี้กับเธอมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

"ท่านปรมาจารย์..."

ดวงตาของลู่หยานรันอดไม่ได้ที่จะแดงขึ้นอีกครั้งก่อนที่น้ำตาใสๆสองสายไหลลงมาที่อาบบนใบหน้าที่สวยงามของเธอ

"เจ้าไม่จําเป็นต้องคิดอะไรมากข้าทำไปเผื่อสักวันเจ้านั้นหย่อนยานกับการฝึกของเจ้า ด้วยเหตุนี้เจ้าจะยังแข็งแกร่งไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!"

ยื่อซวนมองไปที่ลู่หยานรันซึ่งน้ำตาไหลและพูดช้าๆ

แต่จริงๆแล้วเขาเองก็ไม่ใช่นักบุญที่ใจดีอะไรมากขนาดนั้น การถ่ายทอดพลังให้แก่ลู่หยานรันนั้นเขาก็ทำเพื่อหวังได้รับการตอบแทนกลับมาของระบบเช่นกัน

ยื่อซวนนั้นจะไม่ทําอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเขาและแน่นอนว่าเขารู้ด้วยว่าการถ่ายทอดพลังงานทางจิตวิญญาณในภูมิภาคเทียนหยวนนั้นเป็นตัวแทนของอะไร

โดยปกติแล้วไม่มีพ่อคนไหนที่คิดจะทําสิ่งนี้เพื่อลูกของตัวเอง

เพราะพลังจากการฝึกตนที่หายไปอย่างถาวรนั้น จะต้องมาฟื้นฟูใหม่ตั้งแต่ต้น

ในภูมิภาคเทียนหยวนนั้นผู้แข็งแกร่งตกเป็นเหยื่อของผู้อ่อนแอและผู้ปกครองที่แข็งแกร่ง เพราะไม่มีผู้ฝึกตนคนใดจะถ่ายทอดพการฝึกตนของเขาให้อย่างเต็มใจ

แต่วิธีการของยื่อซวนนั้นเหนือกว่าความสัมพันธ์ระหว่างปรมาจารย์กับศิษย์ทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัย

การถ่ายทอดพลังทางจิตวิญญาณเพียงเดือนละครั้งกับลู่หยานรันนั้นไม่ต่างอะไรกับการลงทุนรายเดือนของยื่อซวน

ตุ้บ

ทันใดนั้น ลู่หยานรันก็คุกเข่าลงต่อหน้ายื่อซวนกดหน้าผากสีขาวนวลของเธอลงกับพื้นอย่างแรง

"ข้าขอขอบคุณในความเมตตาของท่านปรมาจารย์ และข้าจะระลึกถึงความเมตตาของท่านปรมาจารย์หลังจากที่ข้าต้องตายไปอย่างแน่นอน ข้าจะปรนนิบัติต่อท่านเป็นอย่างดีไปตลอดชีวิตของข้า!"

ร่างกายของลู่หยานรันสั่นเล็กน้อยเมื่อเธอพูดแบบนี้ ดวงตาของเธอนั้นก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเข้ามาแทนที่น้ำตา

นอกจากพ่อแม่ของเธอแล้วไม่เคยมีใครปฏิบัติต่อเธอได้ดีขนาดนี้มาก่อน

เรื่องราวของลู่หยานรันเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก เธอเคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านบนภูเขาเล็กๆและใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างสงบสุข แต่แล้ววันหนึ่งพวกโจรก็เข้ามาโจมตีหมู่บ้านของเธอ

พวกโจรนั้นสังหารคนทั้งหมู่บ้านอย่างโหดเหี้ยม เธอเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตที่โชคดีมาได้

หลังจากผ่านความยากลําบากทุกประเภทในที่สุดเธอก็ได้เข้าร่วมนิกายชิงหยุนและกลายเป็นสาวใช้ประจำตระกูล

แต่เนื่องจากไม่มีใครผู้สนับสนุนเธอเลยในนิกายรวมถึงระดับที่อ่อนแอ ลู่หยานรันจึงถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก

ถึงแม้ว่าเธอจะดูไม่สนใจอะไรมากนัก แต่เธอก็รู้สึกผิดอย่างมากในจิตใจของเธอ ทุกคืนเมื่อเธอหลับไปเธอจะต้องทนทุกข์ทรมานตามลําพัง

ลู่หยานรันได้สาบานต่อตัวเธอเองในตอนนั้นว่าเธอจะฝึกฝนอย่างหนักเพื่อกลายเป็นลูกศิษย์ของผู้ที่อยู่ในระดับสูง เพื่อที่เธอจะกลับไปแก้แค้นพวกโจรเหล่านั้น

แต่เธอรู้ดีว่าความสามารถของเธอนั้นอยู่ในระดับทั่วไปเท่านั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะกลายเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์ในนิกายได้ เมื่อเธอคิดแบบนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะเป็นสาวใช้ไปตลอดชีวิตจนกระทั่งเธอได้พบกับยื่อซวน

ยื่อซวนเป็นเหมือนลําแสงส่องสว่างเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของเธอและพาเธอออกจากความทุกข์ทรมานจากความมืด

"อย่าคุกเข่าให้ข้าอีก!" ยื่อซวนนั้นเอื้อมมือไปยกลู่หยานรันขึ้นเบาๆ ยื่อซวนอุ้มเธอขึ้นมาในขณะที่เธอพูดกับยื่อซวนด้วยเสียงอันอ่อนโยนว่า

"ข้ามีเรื่องจะบอกกับท่าน"

ลู่หยานรันเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของเธอและพูดกับยื่อซวน

5 2 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด