ตอนที่แล้วตอนที่ 1053 หาการสนับสนุน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1055 ก็ได้ ข้าคือคุณชาย!

ตอนที่ 1054 ต้องผ่านการเรียนรู้?


หุบเขามนุษย์ด่านที่เจ็ดมิติดินแดนสอบฝีมือ

เย่ว์หยางลอยตัวขึ้นจากสระเกิดใหม่และเห็นเริ่นเทียนเกอและพวกกำลังรอเขาอยู่ไม่ไกล การเกิดใหม่ในหุบเขามนุษย์ไม่ได้กลายเป็นเด็กทารกหรือร่างหดเล็กลงกลายเป็นเด็ก  ทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลงยังคงเป็นร่างกายเดิม แต่หลังจากขึ้นมาจากสระเกิดใหม่แล้วจะถูกจำกัดโดยกฎสวรรค์โบราณประจำหุบเขามนุษย์

พลังวิทยายุทธ์ทั้งหมดไม่มีประโยชน์ที่นี่

คัมภีร์อัญเชิญ  สมบัติเทพ, อสูร ฯลฯไม่สามารถใช้ได้แม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม สถานะส่วนตัวของพวกเขาจะถูกใช้ออกอย่างเคร่งครัดตามมาตรฐานที่ระบุไว้ในบัตรชะตา

ตัวอย่างเช่น  ถ้าคนเกิดใหม่มีฐานะยากจนประสบความสูญเสียและโศกนาฏกรรมของชีวิต ต่อให้เมื่ออยู่ข้างนอก เขาเป็นมหาเศรษฐีพันล้านก็ไร้ประโยชน์  ถ้าไม่มีเงินผลึกสวรรค์  เขาจะต้องอดตายแน่  อีกตัวอย่างหนึ่งเป็นผู้ชายไร้สมรรถภาพทางความรัก ต่อให้เขาแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตามก็ไม่มีทางแสดงความสามารถในหุบเขามนุษย์ได้...เพราะนี่เป็นมาตรฐานของกฎสวรรค์ในหุบเขามนุษย์ ที่นี่ควบคุมไม่ให้ใช้อสูรศึกอีกต่อไป การทดสอบที่นี่ ไม่ใช่การใช้อาวุธต่อสู้ แต่เป็นการเข้าถึงมาตรฐานของคนที่ประสบความสำเร็จในเวลาสั้นที่สุด

ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมกฎสวรรค์จึงต้องทำการทดสอบเช่นนี้

แต่ทุกคนรู้ว่านี่เป็นประโยชน์อย่างแน่นอน

และเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

ตัวอย่างเช่นอสูรแปลงเป็นมนุษย์ได้สำเร็จ  นั่นเป็นขอบเขตที่สำคัญที่สุด  บางทีในหุบเขามนุษย์ผู้ท้าทายทุกเผ่าพันธุ์ต้องเข้าใจธรรมชาติและภูมิปัญญาของมนุษย์ที่แท้จริง

“พวกเราสองสามคนมีแนวทางที่แตกต่างจากเจ้า  แต่ในพิธีประเมินชีวิตอีกสามเดือนข้างหน้า  หวังว่าเราจะเป็นพันธมิตรต่อกัน” เริ่นเทียนเกอรู้ว่าจุดเริ่มต้นของเขาและเย่ว์หยางไม่เหมือนกัน  ก่อนที่เขาจะเข้าไปในหุบเขา  เขาได้รับมรดกเป็นปราสาทหนึ่งหลังเมืองสองเมือง ข้าทาสบริวารนับพัน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ฉันท์สหาย  อาจารย์ หรือมารดาก็เพียงพอทำให้เย่ว์หยางใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขามนุษย์ได้อย่างสบาย  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจารย์และมารดาของเขาทำให้คนอื่นรู้สึกแย่อยากเอาศีรษะโขกกำแพง โชคดีที่เจ้าเด็กผู้ได้รับพรจากเทพธิดาเป็นพันธมิตรของเขา

“แน่นอนว่าเรานัดหมายกันไว้ก่อนจะเข้าไปในหุบเขา”  เย่ว์หยางไม่มีเหตุอันใดต้องตัดรอนความปรารถนาดีของเริ่นเทียนเกอจินหายและเซี่ยที

มีสหายมากดีกว่ามีศัตรูมาก

นอกจากนี้เริ่นเทียนเกอเป็นพวกปศุสัตว์ในหุบเขามนุษย์อาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา

แต่เมื่ออยู่นอกแดนสวรรค์เขาเป็นคนยิ่งใหญ่เป็นที่รู้จักกันดีอย่างแน่นอน  แม้จะอยู่ในแดนสวรรค์บนก็คาดว่าจะมีสถานะที่ไม่เลว  ถ้าพวกเขาเป็นคนหยิ่งและหมิ่นศักดิ์ศรีผู้คนเย่ว์หยางคงไม่ต้องมีมารยาทอะไรกับพวกเขามาก อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายหนึ่งทอดสะพานต้องการสร้างไมตรีกับเขาในฐานะสหาย ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ    ในหุบเขามนุษย์เมื่อต้องการจะเรียนรู้ก็ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีไม่ใช่หรือ?

บัณฑิตตาเงินยิ้มและกล่าว  “เรามีต้นกำเนิดเดียวกันยกเว้นแต่ฮ็อกจะแย่กว่าเล็กน้อย ถ้าเราดูแลกันและกันได้ดีเราจะจัดตั้งกองทหารรับจ้างและทำงานเพื่อหารายได้สำหรับครองชีพและค่อยๆตั้งตัว นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตามเจ้าเข้าครอบครองปราสาทตั้งแต่เริ่มแรกเลย  คาดว่าเจ้าคงต้องพบกับเรื่องยุ่งยากบ้าง!”

เย่ว์หยางไม่ต้องการเช่นนั้นจริงๆ  แต่ไม่มีวิธีเมื่อถามไปแล้วเขาได้รับตกทอดมรดกโดยอัตโนมัติทันที

เขาไม่ต้องการได้หรือ!

“คุณชายสาม!ข้ายังต้องการร่วมทางกับเจ้า เจ้าเป็นเจ้าของปราสาท หากเจ้าไม่มีองครักษ์คุ้มกันนั่นคงเป็นเรื่องแย่...” ฮ็อกยังต้องการเกาะขาเย่ว์หยางไม่อยากปล่อย แต่เซี่ยทีเตะเขากระเด็น

การกระทำที่น่าอายของฮ็อกที่เกาะขาเย่ว์หยางแน่นไม่ปล่อยก่อนนั้นเพื่อไม่ให้เขาเคลื่อนไหวได้สะดวกทำให้เขาต้องให้ฮ็อกยืมยาเม็ดพลังยุทธ์คุณภาพสุดยอดหลายเม็ด

ในที่สุดก็รวบรวมมูลค่าได้500 อย่างยากลำบาก

นับเป็นแผนอันตรายที่จะใช้กำจัดสถานการณ์สิ้นหวังจากการใช้ชีวิตอย่างผู้แพ้ผู้โง่เขลา

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นบุรษผู้บริบูรณ์ไปทุกอย่าง  แต่สามัญชนก็ยังสามารถทำงานได้ในที่สุดดีกว่าเป็นขอทานหรือขันทีเข้าสู่หุบเขามนุษย์ ฮ็อกรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณเย่ว์หยาง เป็นความรู้สึกส่วนลึกจากใจถ้าเย่ว์หยางบอกให้เขาบุกน้ำลุยไฟคาดว่าฮ็อกจะไม่ลังเลแม้แต่น้อย แต่น่าเสียดายที่เย่ว์หยางไม่สนใจเรื่องอย่างนี้แค่ถูกกอดต้นขาตามตื๊อหยิบยืมเงิน เย่ว์หยางก็รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ แล้ว

“เราไปด้วยกันก่อน  ในเมื่อเราเข้าไปข้างในแล้วเราต้องรู้สถานการณ์ก่อน ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นมากเกินไป” เย่ว์หยางไม่ต้องการทำลายสถิติผ่านด่านในเวลาครึ่งปีของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี  มิใช่เป็นไปไม่ได้  แต่ยังไม่จำเป็น  นอกจากนี้ในหุบเขามนุษย์ถ้าไม่ได้รับรางวัล นั่นถือว่าเป็นการฝึกฝนที่เสียเวลาเปล่า

ตอนนี้เย่ว์หยางเข้าใจว่าตั้งแต่หุบเขาราคะที่ระดับสี่  หุบเขาอสูร หุบเขาปีศาจ หุบเขามนุษย์ ฯลฯจะมีผนึกพลังของเทพเจ้าโบราณ

บ่อยครั้งในกระบวนการฝึกเมื่อถึงมาตรฐาน ก็ย่อมได้รางวัลแน่นอน

ถ้าพลาดไปก็นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย... หุบเขาราคะเขาได้แพนดอราพลังเทพวิบัติและพลังปั่นป่วน หุบเขาอสูรได้ฝึกภูตน้อยตั๊กแตนมัจจุราช หุบเขาปีศาจทำให้อิคคาได้สถานะใหม่ และในหุบเขามนุษย์เย่ว์หยางคาดว่ารางวัลของกฎสวรรค์โบราณจะต้องยิ่งใหญ่กว่า  แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าเป็นอะไร  แต่เขาจะไม่ยอมพลาด  บางทีอาจเป็นมาตรฐานการประเมินผลก่อนรับคัมภีร์เทพในแต่ละระดับ ดังนั้นในหุบเขามนุษย์ไม่เพียงแต่ต้องสำเร็จตามมาตฐานเท่านั้น  แต่ต้องเหนือกว่ามาตรฐานและเป็นสถิติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

อย่างน้อยก็ต้องเอาชนะจีอู๋ลี่เจ้านั่นให้ได้!

“เราขอถามได้ไหม ขอบเขตกิจกรรมของเราต้องอยู่ในพื้นที่แออัดหรือพื้นที่สามัญชน และทั้งพื้นที่อยู่อาศัยและย่านการค้าจะต้องลงทะเบียนกับทหารรับจ้างหลังจากสร้างชื่อผลงานได้แล้วจึงจะเข้าไปได้ แต่เจ้าแตกต่างออกไป ตอนนี้เจ้าเป็นบุรุษหนุ่มสูงศักดิ์เป็นทายาทรับมรดกของบารอน เจ้าสามารถเข้าไปยังพื้นที่ใดก็ได้เราจะแยกทางกันชั่วคราวก่อน แล้วค่อยพบกันตอนประเมินการใช้ชีวิต” บัณฑิตตาเงินบอกว่าพวกเขาไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ในขณะนี้เพราะสถานะแตกต่างกัน

“ก็ได้!” เย่ว์หยางรู้สึกว่าเมื่อเขาร่วมทางกับเริ่นเทียนเกอกับพวกเป้าหมายจะใหญ่สะดุดตาไปบ้าง นั่นคงเป็นเรื่องแย่ถ้าถูกจีอู๋ลี่โจมตี

“ระวังคนผู้นั้น...”  เริ่นเทียนเกอพูดถึงจอมปีศาจไคเทียน

จอมปีศาจไคเทียนมาถึงก่อนนี้  บางทีเขาอาจตั้งตัวได้แล้ว

โชคดีที่เขาไม่รู้ว่าเย่ว์หยางได้รับมรดกมากมายและยังมีปราสาทหลังหนึ่ง

เริ่นเทียนเกอออกไปพร้อมกับซิวอิ่งเซี่ยทีและพวกยกเว้นอยู่สองสามคนที่กำเนิดจากสระเกิดใหม่สองสามคนและสตรีชุดขาวสามคน   สตรีเหล่านี้มีพลังเหมือนกับเทวทูตทั้งหมดใบหน้าพวกนางมีรอยยิ้ม พวกนางก้าวเท้าอยู่บนผิวน้ำรอเย่ว์หยางเงียบๆจนกระทั่งเขาอำลาพวกเริ่นเทียนเกอเสร็จ  พวกนางเดินนวยนาดเข้ามาหาและทักทายด้วยน้ำเสียงไพเราะ  “นักรบใหม่ โปรดแสดงบัตรกำเนิดใหม่ของท่าน”

เย่ว์หยางหยิบบัตรวิญญาณที่ออกโดยเทพสมบัติและพบว่ามีบางส่วนของข้อความในบัตรที่เปลี่ยนแปลงไป: เด็กหนุ่มสูงศักดิ์จากตระกูลรุ่งเรืองนักรบผู้กล้าหาญ ทรงเสน่ห์ เป็นที่หลงใหลของเพศตรงข้าม มีความรู้การศึกษาดีเมื่อเทียบกับสหายรอบด้านอาจกล่าวได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจเทียมฟ้า  ในตระกูลไม่ว่าจะเป็นญาติพวกพ้องสหายล้วนประสบความสำเร็จอย่างมาก  ผู้เยาว์ที่เกิดใหม่สามารถก้าวเข้าสู่ความรุ่งโรจน์ของบรรพบุรุษได้ หรือไม่พวกเขาสามารถเปล่งประกายได้ดีกว่าคนรุ่นก่อน หรือบรรลุความสำเร็จที่เหนือกว่าคนรุ่นก่อนหรือไม่?

นอกจากประเมินสถานะตัวตนนี้แล้ว  ยังมีเครื่องหมายระบุตัวตน : บารอน (มีปราสาทและเขตแดนปกครอง)

สุดท้ายจำนวนทรัพย์สินที่มี“12,500 ผลึกสวรรค์

แม้ว่าเย่ว์หยางจะมีเงินผลึกสวรรค์มากพอแลกเปลี่ยนตัวตนที่ดีกว่าอย่างเช่นเจ้าชาย, ยอดศิลปินนักแสดงที่มีแฟนคลับตามกรี๊ดจนแทบสลบ...แต่เขาไม่ต้องการเช่นนั้น

นั่นสามารถแลกเปลี่ยนได้  แต่ไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนมากมายจนทำให้เขารู้สึกว่าตนเองเองเป็นบุคคลชั้นหนึ่ง

นอกจากนี้ในหุบเขามนุษย์เขาสามารถมุ่งมั่นแสวงหาความก้าวหน้าได้ ตราบใดที่เขาได้รับเงินผลึกสวรรค์มากและได้รับเกียรติมากขึ้นสถานะของเขาจะเพิ่มขึ้นไปด้วยตามธรรมดาและความสามารถทั้งหมดจะได้รับการฟื้นฟู  ตราบเท่าที่ไม่พบกับโศกนาฏกรรมชีวิตเป็นกระเทยหรือเป็นพวกนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ เขาไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองเงินผลึกสวรรค์มากเกินไปและสูญเสียไปกับการลงทุนที่ไม่จำเป็นบางอย่างเช่นทักษะการปลอมแปลงหรือโกงในงานรื่นเริง ทักษะนี้ทำให้ฮ็อกน้ำลายไหล  แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีเงินและเย่ว์หยางไม่เห็นอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

มีสาวๆอีกหลายคนในโลกคัมภีร์ที่เขายังมิได้เปิดสัมพันธ์ลึกซึ้ง

นอกจากนี้คุณภาพของสาวๆ ข้างหน้านี้เย่ว์หยางถือว่ายังดีไม่พอ

ด้วยความรู้สึกเช่นนั้นเย่ว์หยางรู้สึกว่าคงจะดีกว่าถ้าทำหน้าหนาทำท่าเจ้าชู้กับพวกนาง...  “เชิญไปทางนี้!”  หญิงสาวผู้แนะนำติดตราผู้สูงศักดิ์ให้เย่ว์หยางและจดบันทึกชื่อเย่ว์หยางไว้ในสมุดสีเงินด้วยปากกาทองคำ

“เจ้าเป็นบุรุษผู้สูงศักดิ์แล้วในตอนนี้  โปรดระมัดระวังคำพูดและการกระทำ อย่ากระทำการหยาบคายเหมือนพวกสามัญชนหรือทหารรับจ้าง  มิฉะนั้นตราผู้สูงศักดิ์จะถูกหักคะแนนเกียรติยศหลังจากที่ได้รับคำเตือนหลายครั้ง  ขุนนางผู้สูงศักดิ์มีที่ดินศักดินาและอำนาจแท้จริง  เจ้ามีสิทธิ์มากมายรวมถึงการเกณฑ์ทหารและมีส่วนร่วมในกิจกรรมของรัฐ ฯลฯ  โปรดรีบกลับไปยังปราสาทพื้นที่ของเจ้าโดยเร็วที่สุดทำความคุ้นเคยกับรายละเอียดโดยเร็วที่สุดเพื่อที่ว่าในเวลาประเมินผลงานชีวิตอย่างเป็นทางการในอีกสามเดือนจะได้ผลงานที่ดีขึ้น” หญิงสาวชุดขาวเตือนเย่ว์หยางไม่ให้สนใจอัตลักษณ์ของนางอย่างอ่อนโยน

“ข้าหวังว่าเราจะมีโอกาสได้พบกันบ่อยขึ้น”  หญิงสาวชุดขาวอีกคนหนึ่งยิ้มก่อนเตรียมเข้าสู่ประตูเทเลพอร์ต

สิ่งที่นางกล่าวก็คือผู้ที่ได้รับการประเมินผลงานชีวิตในสิบอันดับแรก  จะได้รับรางวัล

ในหุบเขามนุษย์นี่คือพรอันสูงสุด

แทบจะไม่มีใครได้เห็นพวกนางบ่อย  เพราะมีคนมากมายที่เข้าแข่งขัน  แม้ว่าจะมีคนได้ประเมินสิบคนแรก  แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยคนเกิดใหม่หลายหมื่นคนต่างแข่งขันเพื่อให้ได้สิบอันดับแรกง่ายๆ

เย่ว์หยางคันไม้คันมืออยากยื่นมือออกไปลูบใบหน้าที่น่ารักของนาง   อย่างไรก็ตามภายใต้กฎนี้ก็คงได้แต่เพียงเพ้อฝัน การล่วงเกินเทวทูตแล้วถูกหักคะแนนเกียรติยศนับว่าน้อย แต่อาจถูกตัดสิทธิ์จากสังคมชั้นสูงหรือถูกกฎสวรรค์ลงโทษถึงตายทันทีก็เป็นได้  เย่ว์หยางไม่ต้องการต่อต้าน  เขามีโอกาสทำคะแนน  อย่างน้อยนางก็รับผิดชอบในการบันทึกคะแนนนางเชื่อว่าผู้มาเกิดใหม่ในหุบเขามนุษย์ ไม่มีความกล้าเช่นนั้น

ถ้าเขาบังอาจล่วงละเมิดเขาอาจตายได้

“จำไว้ แม้ว่าเป็นขุนนางชั้นสูง  แต่คะแนนก็มีความสำคัญเช่นกัน”  สตรีเทวทูตชุดขาวคนสุดท้ายเตือนเย่ว์หยางทำให้เด็กหนุ่มจากโลกอื่นหน้าบึ้ง ต้องเรียน ต้องสอบทำคะแนนเป็นชีวิตที่หนักหนาสาหัสจริงๆ!

“ถ้าในการสอบสิบแปดครั้งแรกทำสิบภารกิจได้สำเร็จรวบรวมเหรียญเกียรติยศได้ทั้งหมด  คะแนนเกียรติยศและสมบัติจะได้เกินแสน  ทั้งจะได้สิทธิ์เข้าวิหารโบราณ ว่ากันว่ารางวัลต่ำสุดในการได้เข้าวิหารโบราณก็คือสมบัติระดับเทพ”  บางทีเด็กสาวหน้ากลมเห็นว่าเย่ว์หยางไม่มีแรงจูงใจที่มากนัก  นางกระซิบบอก

“อะไรนะ เจ้าว่าไงนะ?”  เย่ว์หยางรู้สึกทันทีว่าขวัญและกำลังใจของเขาปะทุสูงขึ้นเป็นร้อยเท่า

มีของวิเศษชั้นเทพเป็นรางวัล

การสอบเรื่องเล็ก  รางวัลเป็นเรื่องใหญ่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด