ตอนที่ 1052 โอว..ข้าอยากตาย
เมื่อเย่ว์หยางข้ามผ่านประตูเทเลพอร์ตในหุบเขาปีศาจ เขามาถึงด่านที่เจ็ดหุบเขามนุษย์
เขาพบว่าที่นี่แตกต่างจากระดับที่หกก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
ทางเข้าเป็นบันไดขึ้นไปในอาคารโบราณที่ลอยอยู่บนก้อนเมฆเป็นวังใหญ่โตโอ่อ่าและงดงาม เย่ว์หยางเดินเข้าไปห้องโถงท้องพระโรงว่างเปล่าลึกเข้าไปถึงหมื่นเมตรพยายามค้นหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าในที่สุดก็พบเจอรูปสลักยักษ์ รูปสลักยักษ์นี้สูงสามร้อยเมตรสร้างจากทองคำบริสุทธิ์ และฐานรูปสลักได้รับการตกแต่งด้วยอัญมณีต่างๆ รูปสลักยักษ์นี้แตกต่างจากรูปสลักเทพเจ้าที่สง่างาม แต่มองดูเหมือนพ่อค้านักธุรกิจที่มีดวงตาแห่งความมั่งคั่งดวงตาเหมือนมีรอยยิ้มคล้ายจะพูดแสดงความยินดีต้อนรับความมั่งคั่งตลอดเวลา
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้นำหุบเขาปีศาจได้กล่าวแนะนำไว้ก่อน เย่ว์หยางไม่อยากเชื่อเลยว่าเทพแห่งความมั่งคั่งในตำนานจะเป็นเช่นนี้
นี่ดูเหมือนเทพเจ้าตรงไหน?
มองดูเหมือนคนตระหนี่ขี้งกที่เห็นแก่เงินทองเสียมากกว่า!
เย่ว์หยางได้เรียนรู้จากชายชราผู้คอยแนะนำผู้มาใหม่ในหุบเขาปีศาจการทดสอบที่ด่านที่เจ็ด เป็นการทดสอบหัวใจของผู้คนเป็นหลัก และการทดสอบครั้งแรกก่อนจะเข้าสู่หุบเขาจะต้องผ่านการทดสอบจากเทพแห่งความมั่งคั่ง ถ้าหากแม้แต่การทดสอบของเทพแห่งความมั่งคั่งยังทนไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าสู่ด่านที่เจ็ด
“เฮอะ! เจ้ามาช้าเหลือเกิน!” ชิงหมอออกมาจากด้านหลังเทวรูปเทพสมบัติ เขาไม่พอใจที่เย่ว์หยางมาถึงล่าช้า
“ไม่ว่ายังไง ก็ไม่ใช่ขอทานก็แล้วกัน!” ที่อยู่ด้านหลังชิงหมอคือฮ็อกบุรุษผมแดงแต่สารรูปในปัจจุบันของเขาเหมือนกับคนท้อแท้กับชีวิต ใบหน้าแสดงความเจ็บปวดเหมือนกับคนสูญเสียของรักในชีวิตไป
“พวกเจ้าคิดว่าเขาโง่เง่าเหมือนเจ้าหรือ เจ้าไม่มีความกล้าเข้าหุบเขามนุษย์ก็ไม่ต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป ไสหัวไปได้แล้ว!” สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางประหลาดใจก็คือคนที่กำลังรอเขาไม่ใช่ศัตรูอย่างจอมปีศาจไคเทียน แต่เป็นเริ่นเทียนเกอบัณฑิตตาเงินและพระยายมซิวอิ่ง ครั้งนี้เริ่นเทียนเกอด่าฮ็อกลั่นว่าคาดหวังมากเกินไป
“เกิดอะไรขึ้น” เย่ว์หยางสับสนเล็กน้อย
“เจ้าดูเงื่อนไขการกลับมาเกิดในหุบเขาเจ้าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!” ใบหน้าของฮ็อกเหมือนกับคนท้องผูกถ่ายไม่ออกสิบวันแล้วรู้สึกอยากตาย
“หืม? เงื่อนไขเกิดใหม่?” หลังจากได้ยินแล้วเย่ว์หยางตกใจ ชายชราไม่ได้บอกว่าเขาต้องเกิดใหม่ไม่ใช่หรือ? เกิดอะไรขึ้น? ชายชราจงใจปกปิดข้อมูลสำคัญเพื่อแก้แค้นเขาหรือไม่? นางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็ไม่ได้พูดถึงเงื่อนไขในการเกิดใหม่นี้ไม่ใช่หรือ?
ผู้ท้าทายผ่านด่านที่เข้าหุบเขามนุษย์จะต้องเกิดใหม่อย่างนั้นหรือ?
เขามองดูเริ่นเทียนเกอ เริ่นเทียนเกอทำเป็นเงยหน้ามองขึ้นฟ้าแกล้งทำไม่เห็นสายตาตั้งคำถามของเย่ว์หยาง
พระยายมซิวอิ่งและจ้าวกระดูกจินหายและพวกสองสามคนกำลังแสยะยิ้ม และต่อให้ฟ้าถล่มลงมาแสดงว่าคงพบเรื่องโชคร้าย เย่ว์หยางไม่มองดูคนเหล่านี้ เขารู้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่ว่าได้ดีอะไร แต่พวกเขาอยู่เพื่อดูว่าเขาจะเหมือนกันหรือได้สถานะที่แย่ยิ่งกว่าพวกเขาหรือไม่
พวกนี้ไม่ใช่ตัวดี...
เย่ว์หยางมองดูชิงหมออีกครั้ง นี่ไม่ใช่สิ่งดีเลยถ้ายังอยู่หอทงเทียนเห็นได้ชัดว่าเขาคือศัตรู
ในที่สุดบัณฑิตตาเงินก็ยังคงมีอัธยาศัยดี
ถ้าไม่คำนึงถึงบุญคุณความแค้นความไม่พอใจที่หุบเขาปีศาจก่อนนั้น
เขารอให้เย่ว์หยางเข้ามาที่ฐานเทวรูปเทพสมบัติและก้าวไปข้างหน้าช้าๆ และแนะนำการเข้าสู่หุบเขามนุษย์อย่างไม่อ้อมค้อม
หลังจากที่เขาพูด
ในที่สุดเย่ว์หยางก็เข้าใจขึ้นมาบ้าง
ปรากฏว่าหลังจากเข้าไปในหุบเขามนุษย์นอกเหนือจากการแข่งขันที่เฉพาะเจาะจงจะไม่สามารถใช้กำลังต่อสู้ได้อีกไม่ว่าผู้ท้าทายผ่านด่านจะมีพลังระดับใดก็ตามเขาจะกลายเป็นคนธรรมดาภายใต้กฎสวรรค์โบราณ ไม่มีทางจะลงมือได้โดยตรง เว้นแต่จะอยู่ในเขตที่ได้รับอนุญาตจากกฎสวรรค์โบราณ หรือเป็นพื้นที่ฝึกฝนพิเศษและต้องใช้กำลังบางอย่างในการทำเป้าหมายภารกิจบางอย่างให้สำเร็จก่อนจึงอนุญาตให้ใช้ความแข็งแกร่งได้บางส่วน
กล่าวให้ถูกคือทันทีที่ผู้ท้าทายผ่านด่านเข้ามาในหุบเขามนุษย์ อย่าคิดใช้วิทยายุทธ์คลี่คลายปัญหา
ภายในหุบเขามนุษย์ ผู้ท้าทายผ่านด่านจะต้องใช้สติปัญญาแก้ปัญหาเท่านั้น
นอกจากนี้สติปัญญาที่นี่เทียบได้กับเงิน
เงินแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง
นี่คือมาตรฐานการครองชีพในหุบเขามนุษย์
ในหุบเขามนุษย์นอกจากทำภารกิจให้สำเร็จเรียบร้อยแล้วจุดที่สำคัญที่สุดของภารกิจก็คือการทำรายได้ให้ถึงแสนผลึกสวรรค์ ผลึกสวรรค์ชนิดพิเศษนี้ไม่สามารถหาได้จากโลกภายนอกเป็นสกุลเงินพิเศษของหุบเขามนุษย์ ผู้ท้าทายผ่านด่านล้วนคลั่งไคล้อยากได้
ไม่มีผลึกสวรรค์ ก็ไม่มีเงิน ในหุบเขามนุษย์ ไม่สามารถจะอยู่ได้ทั้งวัน...นี่คือเหตุผลที่ผู้ท้าทายผ่านด่านถึงกลัวด่านที่เจ็ดหุบเขามนุษย์!
“แต่นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหุบเขาใช่ไหม?” ความจริงเย่ว์หยางเคยได้ยินเงื่อนไขการผ่านด่านและยังคงรู้เรื่องภายในหุบเขามนุษย์อยู่มาก ที่สำคัญนางพญาเฟ่ยเหวินหลีเตือนเขาอย่างคลุมเครือว่านางจะไม่บอกวิธีผ่านด่านเพื่อให้การผ่านด่านของเย่ว์หยางน่าสนใจ แต่นางยินดีที่จะแบ่งปันข้อมูลที่น่าสนใจให้กับเขา
“มันจะดีได้ยังไง?” ฮ็อกบุรุษผมแดงเมื่อได้ยินคำพูดของเย่ว์หยางก็ร้องไห้อย่างไม่เกรงใจ “ไม่สำคัญหรอกว่าจะมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ขนาดข้าเป็นนักสู้ปราณราชันย์ระดับห้าข้ายังเป็นได้แค่ขอทาน!”
“เจ้าน่ะหรือ?” เย่ว์หยางหลั่งเหงื่อพรั่งพรู
“ใช่แล้ว, ข้าไม่ได้มีความต้องการอะไรมากเลยแค่ให้เป็นพลเรือนที่มีทะเบียนราษฎร์เป็นหลักแหล่ง แต่ไม่มีใครหนุนหลังข้า ก็เป็นได้แค่สุนัขจรจัดเจ้าบอกข้าได้ไหมเล่า? ถ้าข้าเข้าไปข้าต้องเป็นคนโง่รับบาปให้คนอื่น” เขาขยี้เท้า “ลองคิดดูสิข้าผู้ชื่อฮ็อก ในแดนสวรรค์ข้าเป็นราชาปกครองเขตแดน มีสถานะพอจะอยู่ในแดนสวรรค์บนได้ แต่พอเข้าหุบเขามนุษย์ ข้าเป็นได้แค่ขอทาน ต่อไปข้ายังจะมองหน้าใครเขาได้!”
“เจ้าไม่มีความกล้าเข้าหุบเขามนุษย์ แล้วยังจะพูดอะไรได้อีก?” ชิงหมอเยาะเย้ย
“ท่านฮ็อกแห่งแดนสวรรค์บนมีชื่อเสียง ขอโทษข้าไม่เคยได้ยินชื่อของเจ้ามาก่อน!” จอมถลกหนังเซี่ยทีบอกว่าแดนสวรรค์บนไม่มีสุนัขและแมว เขาหวังว่าฮ็อกคงไม่ท้าต่อยตีคนที่ช่วยให้เขาไม่ต้องอับอาย
“เฮอะ..” ฮ็อกหงุดหงิดโมโห แต่จอมถลกหนังและชิงหมอแข็งแกร่งกันทั้งคู่เขาได้แต่กล้ำกลืนอดทน
บัณฑิตตาเงินส่งสัญญาณให้เย่ว์หยางก้าวออกมาข้างหน้า
ขณะที่เย่ว์หยางเอื้อมมือไปแตะที่ฐานของเทวรูปเทพสมบัติสำนึกเทพที่อยู่ที่นี่มานานหลายปีติดต่อกับเย่ว์หยางทันที
สำนึกเทพนี้แปลกมาก
ต่างจากสำนึกเทพทั่วไป แต่มีกฎมาตรฐานมากกว่า
หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเป็นมาตรฐานกฎสวรรค์แบบพิเศษก่อนเข้าหุบเขามนุษย์
สำนึกเทพศักดิ์สิทธิ์ถามเย่ว์หยางว่าเขาจะเข้าไปในหุบเขามนุษย์หรือไม่ หลังจากได้รับคำตอบตรงประเด็นของคำถามแรกกลับกลายเป็นว่าไม่ว่าเขามีบรรพบุรุษหรือมีสหายในหุบเขามนุษย์หรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกัน.. เย่ว์หยางไม่มีคำตอบแรกคำถามที่สองของเทพสมบัติก็คือถามเย่ว์หยางว่าหากมีสมบัติใดๆ หรือมีสิ่งมีค่าบางอย่างสามารถเอามาใช้จำนำเงินผลึกสวรรค์เพื่อดำรงชีพ เทพสมบัติแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถใช้ทรัพย์สมบัติและของวิเศษเขาสามารถฝากได้
เมื่อเย่ว์หยางถามมูลค่าจำนำของวิเศษชั้นเทพคำตอบที่ได้ก็คือ หนึ่งพันผลึกสวรรค์
คำตอบนี้ทำให้เย่ว์หยางหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
ผู้ท้าทายผ่านด่านจะมีของวิเศษชั้นเทพได้เพียงกี่ชิ้น? ของวิเศษชั้นเทพแลกสกุลเงินได้เพียงหนึ่งพันผลึกสวรรค์ แม้แต่ขุมทรัพย์กองเป็นภูเขาก็ยังทำเงินได้ไม่มาก
“ไม่มีของวิเศษชั้นเทพก็จำนำไม่ได้ใช่ไหม?” ไม่ว่าเป็นใครก็มักจะกรรโชกเย่ว์หยางง่ายๆ เสมอ ลูกไม้ของเทพสมบัตินี้ใช้กับเย่ว์หยางไม่ได้ผล!
สำนึกเทพของเทพสมบัติไม่มีอารมณ์หวั่นไหว เขาแค่ถามตามกฎและไม่ลำเอียงเลือกที่รักมักที่ชังผู้ท้าทายผ่านด่าน
จากนั้นเขาถามปัญหาที่สามกับเย่ว์หยางว่าเขาได้รับมรดกในหุบเขามนุษย์หรือไม่
ถ้าอย่างนั้นก็มีของที่ระลึกหลักฐานหรือไม่?
เย่ว์หยางกลัวว่าเขาจะดึงของที่ระลึกออกไป แต่สำนึกเทพของเทพสมบัติส่ายหัว แสดงว่าไม่มีอะไร
หลังจากจบคำถามที่สามสำนึกเทพขของเทพสมบัติพูดว่าการสัมภาษณ์จบแล้วและขอให้เย่ว์หยางเข้าสู่กระบวนการเกิดใหม่ในหุบเขามนุษย์
ตัวเลือกข้อแรกอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยางทันที
ชื่อผู้เกิดใหม่ : ในหุบเขามนุษย์เขามีสิทธิ์เลือกชื่อเกิดใหม่ ชื่อของคนเกิดใหม่ราคา100 ผลึกสวรรค์
ตัวเลือกที่สองสำหรับการเกิดใหม่ : เพศผู้เกิดใหม่ มีสิทธิ์เลือกได้ตามสะดวก ราคา 100 ผลึกสวรรค์สำหรับเลือกเพศ
เผ่าพันธุ์ผู้เกิดใหม่ : มีเลือกทั้ง โนม ก็อบลิน เผ่าแคระ อสูร สัตว์ประหลาด และอื่นๆ ราคา 10 ผลึกสวรรค์ เผ่าเอลฟ์บุปผา ปีศาจ เทวดา มาร ราคา 50ผลึกสวรรค์ มนุษย์ราคา 100 ผลึกสวรรค์
สถานะเกิดใหม่ : ขอทาน - ฟรี, สามัญชน – 10, คนฐานะดี – 50, นักรบ – 100, ขุนนาง – 500, เจ้าชาย เจ้าหญิง1000....
ความหวังในชีวิตกลับชาติเกิด : ผู้พ่ายแพ้ - ฟรี, ประสบความสำเร็จ – 10, มีผู้สนับสนุน – 100, ผู้ชนะในชีวิต– 500, ตัวเอกในชีวิต – 1000....
เสน่ห์และชื่อเสียงของผู้เกิดใหม่ : ใครๆ ก็เห็นว่างี่เง่า - ฟรี, ต่ำต้อยน่าสงสาร – 10,ขยันขันแข็งแต่เป็นเพียงตัวสำรอง – 100, มีคนขอเต้นรำด้วย – 300, ดังในหมู่สหาย –500, มีแฟนคลับไร้สมองกรีดร้องไล่ตามทุกที่ – 1000....
การดำเนินชีวิตของผู้เกิดใหม่ : กัดก้อนกินเกลือหายใจไม่ทั่วท้องอาจตายได้ทุกเมื่อ - ฟรี,มีบะหมี่ประทังหิว ชีวิตปลอดภัย – 10, ใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำ – 50, ฯลฯมีทักษะฝีมือ – 500, บางคนเรียกว่าเป็นปรมาจารย์ - 1000
ความสามารถพิเศษ(บนเตียง)เมื่อเกิดใหม่: ขันที - ฟรี, เต็มที่สามวินาที – 10, หนึ่งนาที.... ครึ่งชั่วโมงถึกทนเหมือนเสือเหมือนมังกร– 500, ได้คืนละเจ็ดครั้ง – 1000...
เกิดใหม่...
เกิดใหม่....
หลังจากเย่ว์หยางอ่านกติการู้สึกเวียนหัว“โอวแม่เจ้า ข้าจะบ้าตายอยู่แล้ว!”
