ตอนที่แล้วตอนที่ 1045 อย่ากลับคำพูด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1047 ทุกอย่างมีครั้งแรก....

ตอนที่ 1046 ทักษะแฝงเร้นสืบทอด


ก่อนตัดสินใจลงมือจอมปีศาจไคเทียนต้องการสอบถามปัญหาสุดท้ายก่อน

“สิ่งที่เจ้าแสดงไม่มีอะไรมากไปกว่ามุกมารฟ้า  ถ้าข้าให้มุกมารฟ้ากับเจ้าทั้งสองด้านจะเป็นยังไง?”  จอมปีศาจไคเทียนไม่เคยลองเสนอเงื่อนไขดีๆกับมนุษย์มาก่อนในชีวิต อยู่ต่อหน้าเด็กหนุ่มผู้นี้อาจกล่าวได้ว่าเขาเปลี่ยนเป็นประทับใจเด็กหนุ่มนี่จริงๆ  เขาจะลองใจเป็นครั้งสุดท้าย  เนื่องจากเด็กหนุ่มอย่างเย่ว์หยางจอมปีศาจไคเทียนรู้ดีว่าถ้าเขาไม่สามารถฆ่าได้ อีกฝ่ายจะกลายเป็นศัตรูที่สร้างความปวดหัวเขาได้ตลอดชีวิต  จอมปีศาจไคเทียนไม่ได้หวังว่าสิ่งต่างๆจะกลายเป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะหากสำนึกเทพของเขาไม่ได้ถูกผนึกอยู่ในวิหารปีศาจฟ้า

มุกมารฟ้าคืออะไร?

ที่หอทงเทียนมารสัมฤทธิ์ฟ้าเคยมอบมุกมารฟ้าสมบัติระดับกึ่งเทพให้เย่ว์หยาง  นั่นเป็นสมบัติค่าเทียมเมืองเพื่อแลกกาเพลิงปีศาจสองตัวใช้เป็นอสูรประจำตัวมารแค้นฟ้า

ในเวลานั้นจักรพรรดิใต้พิภพก็ใช้เนตรยมโลกแลกกับอสูรศึก  เพราะลักษณะพิเศษของสมบัติทั้งสองเย่ว์หยางเอาของวิเศษทั้งสองมาทูลขอจักรพรรดิเทียนหลัว

แน่นอนว่าจักรพรรดิเทียนหลัวกริ้วไม่รับคำเย่ว์หยาง

แต่สมบัติลับทั้งสองยังมีเรื่องค้างคาใจของเย่ว์หยาง

เขาหาทางขจัดความสงสัย

ตอนนี้จอมปีศาจไคเทียนไม่คาดคิดเลยว่า‘มุกมารฟ้า’ จะทำให้เย่ว์หยางกระตือรือร้นได้

“เจ้าจะให้มุกมารฟ้ากับข้าอย่างนั้นหรือ?” เย่ว์หยางไม่บอกอีกฝ่ายว่าเขาไม่รู้ว่ามุกมารฟ้าคืออะไรเขาแค่แค่นเสียงทำท่าเบื่อหน่ายเพื่อล่อให้จอมปีศาจไคเทียนเปิดเผยข้อมูลมุกมารฟ้า  อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาพูดคำอะไรออกมามุกวิเศษที่เก็บพลังไม่รู้จบเปล่งแสงแปลกประหลาดส่องแสงลอดมือซ้ายของของจอมปีศาจไคเทียน

“เอาโองการปีศาจฟ้าออกมาแล้วข้าจะบอกเจ้าว่าจะใช้ของนี้ได้อย่างไร” จอมปีศาจไคเทียนแสดงความจริงใจ

“ข้าไม่โง่” เย่ว์หยางสงสัยจึงปฏิเสธไว้ก่อน

ไม่ว่าเขาจะกระตือรือร้นอยากรู้ความจริงมากเพียงไหนเขาจะไม่ผ่อนคลายความระมัดระวัง จะวางใจคนก็ต้องดูวัตถุประสงค์ด้วย ผู้ที่อยู่ข้างหน้าเขาคือจอมปีศาจไคเทียนสิ่งมีชีวิตที่อยู่มานานนับหมื่นไป  สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือชัยชนะของเขาไม่เหมือนกับนางพญาเฟ่ยเหวินหลี ชัยชนะของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีส่วนใหญ่มาจากการโค่นล้มตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นนักสู้อันดับหนึ่งของแดนสวรรค์แต่ชัยชนะของจอมปีศาจไคเทียนก็คือทำลายแดนสวรรค์ ทำลายกองกำลังที่ขัดขวางจากแดนสวรรค์ทั้งหมดและครอบครองแดนสวรรค์หมดสิ้นสมบูรณ์กลายเป็นผู้ปกครองใหญ่โดยมีเผ่าพันธุ์ต่างๆเป็นทาส

จอมปีศาจผู้มีอายุมากสามารถกลืนกินแดนสวรรค์ได้ทั้งหมด ถ้าเย่ว์หยางร่วมมือกับเขาก็เท่ากับขายตัวให้เขาทั้งยังนับเงินให้จอมปีศาจไคเทียนอีกด้วย!

เย่ว์หยางสามารถร่วมมือกับใครในโลกก็ได้แต่มีอยู่ไม่กี่คนที่เขาไม่อาจร่วมงานได้

หนึ่งในนั้นคือเจ้าตำหนักสูงสุด อีกคนก็คือจีอู๋ลี่ที่พยายามท้าทายผ่านด่านเพื่อครอบครองคัมภีร์เทพ คนที่สามก็คือจอมปีศาจไคเทียนที่มีความอยากครอบครองแดนสวรรค์ทั้งหมดก็ยังไม่พอใจ

คนทั้งสามนี้มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกน

นั่นคือความโลภที่ไม่รู้จักพอเพียง

เย่ว์หยางผู้มีความทะเยอทะยานมากเกินไปไม่สามารถร่วมมือกับฝ่ายตรงข้ามได้  เพราะคนแบบนี้เป็นคนบ้าที่ไม่เคยพอใจและเป็นผู้ไร้ความปราณี

จอมปีศาจไคเทียนยิ้มเล็กน้อย ทันใดนั้นอัญมณีวิเศษระดับเทพที่ประเมินค่ามิได้ อาจนับเป็นยอดกว่าของทุกอย่างในโลกนี้ทำให้ของในโลกนี้ด้อยค่าไปเลย  ก่อนที่เย่ว์หยางจะยื่นมือออกไปรับ เขาคิดอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า  นี่เป็นกับดักหรือไม่?  จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?  ในที่สุดภายใต้การล่อลวงด้วยสิ่งล่อใจเขายื่นมือออกไปจับเบาๆ

ไม่ว่าฟ้าจะถล่มหรือดินทลายหรือน้ำท่วมสิ่งที่เย่ว์หยางต้องการตอนนี้ก็คือ ของวิเศษระดับเทพ

ของวิเศษชั้นเทพอยู่ในมือ  โลกก็เป็นของเรา

สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางตื่นเต้นที่สุดไม่ใช่แค่สมบัติวิเศษระดับเทพเท่านั้น

ความจริงสิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางลังเลจะปล่อยมือก็คือมุกมารฟ้านี้ดูเหมือนจะรอเย่ว์หยางมาเป็นพันปี สิ่งนี้ควรเป็นของตัวเขาเองเหมือนกับเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายที่ถูกแยกออกไป  ตอนนี้ได้เวลากลับคืน

“มุกมารฟ้าเป็นเทพสมบัติที่ไม่มีเจ้าของ  ข้าต้องการทำสัญญากับมันตลอด  แต่ไม่สำเร็จสักครั้ง  บางทีอาจเป็นของเจ้าก็ได้  ข้าเห็นมันมาหลายปีแล้ว  เจ้าถือไว้ในมือแล้วเอาโองการปีศาจฟ้าออกมาและปลดผนึกกับพลังของมุกมารฟ้า...” จอมปีศาจไคเทียนไม่ได้ปกปิดและบอกความจริงเกี่ยวกับสมบัติลับ

“.......” เย่ว์หยางกระวนกระวายมากในตอนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะสมบัติอยู่ในมือของเขา  เย่ว์หยางจะไม่มีทางเชื่อใจจอมปีศาจไคเทียน

ปัญหาก็คือฝ่ายตรงข้ามมอบเทพสมบัติมุกมารฟ้าให้เขา

จะปฏิบัติตามไหม?

ปล่อยโองการปีศาจฟ้านี่โอกาสได้รับรางวัลหลังจากผ่านด่านวิหารปีศาจฟ้าหรือ?

โองการปีศาจฟ้ายังมีของวิเศษชิ้นที่สองหรือต้องเป็นโองการปีศาจฟ้าจึงใช้ทำสัญญากับมุกมารฟ้าเทพสมบัติคุณภาพดีที่สุดหรือไม่

จอมปีศาจไคเทียนส่ายหน้า  “ข้าเข้าใจความรอบคอบและอารมณ์ของเจ้าแน่นอนว่าเจ้าไม่มีพื้นฐานยอมเชื่อใจข้า แต่ข้าต้องการร่วมมือกับเจ้าจริงๆ ตอนนี้เทพสมบัติอยู่ในมือของเจ้าไม่สำคัญว่าเจ้าสามารถคลายผนึกได้หรือไม่ ข้าแค่หวังว่าเจ้าจะสัญญากับข้า เงื่อนไขระหว่างทั้งสองก็คือเป็นพันธมิตรและรับผลประโยชน์ร่วมกัน  อย่างน้อยเจ้าไม่ควรต่อต้านข้า!”

เย่ว์หยางคิดอยู่เป็นเวลานาน

สุดท้ายเขาทำสัญญาอย่างรอบคอบ “ถ้าข้าทำสัญญากับเทพสมบัติมุกมารฟ้าได้สำเร็จและได้รับรางวัลสูงสุดของวิหารปีศาจฟ้า  อย่างนั้นข้าสัญญาว่าจะไม่ต่อต้านเจ้า  และในบางกรณีอาจเป็นพันธมิตรกับเจ้าด้วย”

อาจกล่าวได้ว่าเย่ว์หยางไม่เชื่อในจอมปีศาจไคเทียน

ไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย

เขารู้ว่าปากของศัตรูพูดหมื่นคำจะไม่มีความจริงอยู่เลย

แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องการหันหน้าหนี เขาไม่ต้องการเป็นศัตรูกับจอมปีศาจไคเทียนแม้แต่น้อยสิ่งที่เขาต้องการตอนนี้ก็คือปลดผนึกทำสัญญากับเทพสมบัติเพิ่มพลังให้ตัวเขาเอง

“เจ้าค่อยๆ ปลดผนึกก็แล้วกัน ข้าจะกลับไปดูว่าเริ่นเทียนเกอลงมืออย่างไร  ถ้าพวกมันยินดีจะละทิ้งความโลภ  ข้าจะปล่อยพวกมันไป  ท้ายที่สุดการเข่นฆ่าในวิหารปีศาจฟ้ายิ่งมีมากก็ยิ่งทำให้สำนึกเทพของข้าแข็งแกร่งมากขึ้น หากพวกมันไม่ได้วางแผนไว้แต่แรก ข้าคงไม่ยินดีฆ่าพวกมัน” จอมปีศาจไคเทียนโบกมือเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา จากนั้นร่างของเขาหายไปในความว่างเปล่าไม่สิ้นสุด

“.....” เย่ว์หยางยังเงียบอยู่นาน

จอมปีศาจไคเทียนรู้ได้ทันทีว่าไม่สามารถซ่อนตัวอยู่ในความมืดและโจมตีเย่ว์หยาง  เขาค่อยๆ จากไป

ออกจากประตูลับที่สองและออกจากประตูแรก

กลับมายังพื้นที่รังมารซากเมืองโบราณใต้ดิน

เย่ว์หยางหาห้องว่างที่เงียบสงบไม่มีใครเหลืออยู่เลย

ในที่สุดเขาอดกระตือรือร้นหยิบเอามุกมารฟ้าออกมา...นี่คือสมบัติเทพ  มีอย่างที่ไหนที่สมบัติเทพจะถูกแจกจ่ายออกมาเหมือนกับกะหล่ำปลีไร้ราคา?  ไม่ว่าจอมปีศาจไคเทียนจะเล่นบทอะไร แต่อย่างน้อยตอนนี้มุกมารฟ้าก็เข้ามาอยู่ในเงื้อมมือของเขาแล้ว!

มุกมารฟ้าเป็นของเขาแล้วแล้วโองการปีศาจฟ้าเล่า?

นี่คือเทพสมบัติชิ้นที่สองหรือไม่?  หรือเป็นกุญแจสำหรับทำสัญญากับมุกมารฟ้า

เขาไม่รู้

หัวใจเย่ว์หยางเต็มไปด้วยความสงสัย

ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวได้  เย่ว์หยางข่มความสงสัย หลังจากออกมาจากรังมารเขาอดดึงมุกมารฟ้าและโองการมารฟ้าออกมาดูมิได้

หลังจากคิดอย่างระมัดระวังและค้นหาอย่างดีไม่มีใครอยู่แถวนั้น

ปลอดภัย

ทุกอย่างเหมือนจะสงบสุข

ตามวิธีการที่จอมปีศาจไคเทียนกล่าวถึงเย่ว์หยางถือมุกมารฟ้าในมือข้างหนึ่งแล้วค่อยๆถ่ายเทพลังงานที่บริสุทธิ์ที่สุดลงไป จากนั้นฉีดพลังงานมุกมารฟ้าลงไปที่โองการปีศาจฟ้า ตอนแรกเย่ว์หยางทำด้วยความระมัดระวังฉีดพลังงานลงไปเล็กน้อยแล้วหยุดทันทีสังเกตอย่างระมัดระวังจากซ้ายไปขวาป้องกันการโจมตีจากศัตรู

อย่างไรก็ตามสภาพแวดล้อมโดยรอบว่างเปล่า และเย่ว์หยางตื่นตัวและระวังตัวต่อเนื่อง ทำให้การทดลองเขาล้มเหลว

ปรากฏว่าในชั้นต้นโองการปีศาจฟ้าหลังจากพลังงานเล็กน้อยของมุกมารฟ้าถูกอัดฉีดเข้าไปมีการเปลี่ยนแปลงมากทันที ดูเหมือนมันจะขยายออกไป ดูเหมือนจะมีพลังงานไม่สิ้นสุดแต่ติดอยู่ตรงที่ผนึก  ถ้าปลดผนึกออกหมดเขาเชื่อว่าโองการปีศาจฟ้านี้คงจะไม่ใช่เทพสมบัติธรรมดา

แม้แต่เย่ว์หยางผู้มีจักษุญาณทิพย์ก็ยังไม่อาจมองเห็นได้ล่วงหน้า

โองการปีศาจฟ้านี้มีพลังยิ่งใหญ่ขนาดนั้น

เย่ว์หยางระงับปีติดีใจสูดหายใจลึก

เขาปลดพลังงานอีกทันทีและฉีดพลังงานมากมายลงไปในมุกมารฟ้าและฉีดพลังเข้าไปในโองการปีศาจฟ้าเพื่อดูการเปลี่ยนแปลง

ในตอนแรกเขามีความระมัดระวังระดับหนึ่งและเน้นที่การควบคุมแต่ด้วยความเปลี่ยนแปลงของโองการปีศาจฟ้าความระมัดระวังของเย่ว์หยางค่อยๆผ่อนคลาย พลังมหาศาลของมุกมารฟ้าเหมือนกับกระแสน้ำหลากฉีดเข้าไปในโองการปีศาจฟ้าอย่างต่อเนื่อง  พลังในร่างไม่เพียงแต่ไม่ลดลงมีแต่ขยายเพิ่มมากขึ้น และดูเหมือนจะเป็นพลังงานอนันต์ เย่ว์หยางยังคงถือโองการปีศาจฟ้าด้วยมือข้างหนึ่งและยืดออกมากขึ้นกลายเป็นกระบี่วิเศษ ด้วยพลังงานของมุกมารฟ้าพลังงานของผนึกที่เคลือบอยู่บนผิวค่อยๆ หลอมละลาย

พลังงานภายในโองการปีศาจฟ้าทำงานมากยิ่งขึ้นเหมือนกับภูเขาไฟระเบิด

ขณะที่มาถึงขีดจำกัดของพลังผนึก

ปัง

พลังผนึกสลายไปอย่างสมบูรณ์และพลังที่ระเบิดออกมารุนแรงยิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิด  แรงระเบิดแผ่ขยายไปทั่วซากเมืองใต้ดิน

โฉมหน้าที่แท้จริงของโองการปีศาจฟ้าปรากฏคืนในทันทีมันคือกระบี่วิเศษที่ตัดทุกอย่างในโลกได้สีของกระบี่ม่วงดำยาวและแคบบางคมไม่มีสิ่งใดเปรียบปราน  ปราณกระบี่เรืองแสงฉายขึ้นไปในท้องฟ้า

ขณะที่กระบี่วิเศษถือกำเนิดพื้นที่รังมารทั้งหมดสั่นสะเทือนและดูเหมือนจะสั่นสะเทือนด้วยพลังของกระบี่วิเศษ

“ปลดปล่อยได้สำเร็จ ดีกระบี่เทพโองการปีศาจฟ้าที่ยอดเยี่ยม” เย่ว์หยางมองดูกระบี่วิเศษที่ลอยขึ้นไปในท้องฟ้าเขาเอื้อมมือและดูเหมือนต้องการถือกระบี่วิเศษด้วยความตื่นเต้น  ทันในนั้นกระบี่วิเศษสั่นสะเทือนกะทันหันและฉายรัศมีที่มิอาจมองได้ตรงๆ เห็นได้ชัดว่ากระบี่วิเศษนี้ต่อต้านเย่ว์หยาง  สมบัติวิเศษระดับเทพเลือกเจ้านายยิ่งไม่ต้องพูดถึงเทพสมบัติที่มีคุณภาพดีที่สุด มันมีวิญญาณรับรู้  แม้แต่ของวิเศษระดับศักดิ์สิทธิ์ซึ่งต่ำกว่าขั้นหนึ่งยังไม่อาจเลือกเจ้านายได้ง่ายๆ

เย่ว์หยางเข้าใจความจริงเรื่องนี้แน่นอน

เขาไม่ยอมแพ้

ยังคงเอื้อมมือไปพยายามจับดาบวิเศษที่กำลังต่อต้านเขา

ตราบใดที่เขาถือกระบี่วิเศษนี่ต่อให้เขาใช้เวลามากขึ้น เขาต้องทำสัญญากับมันได้สำเร็จ

ขณะที่เย่ว์หยางพยายามยื่นมือไปคว้ากระบี่วิเศษมีเงาร่างหนึ่งปรากฏอยู่หน้าเย่ว์หยาง ไม่สนต่อการต่อต้านของกระบี่วิเศษเขาเอื้อมมือไปคว้ากระบี่วิเศษข้างหน้าเขาถือไว้ในมือ  กระบี่วิเศษที่อยู่ในมือของเงาร่างนั้นเหมือนสัตว์เลี้ยงที่ได้พบกับเจ้านายมันส่งเสียงดีใจยินดีไม่รู้จบเสิ้น

ปรากฏว่าเป็นจอมปีศาจไคเทียนมาถึง

ขณะนี้เองจอมปีศาจไคเทียนหลับตาและลูบคมกระบี่วิเศษในมือของเขาท่าทีของเขาเคลื่อนไหวนุ่มนวลราวกับลูบผิวคนรัก

“เจ้าเพื่อนยาก!  ผ่านไปหลายหมื่นปี  ในที่สุดเจ้าก็กลับมา”  จอมปีศาจไคเทียนถอนหายใจปลาบปลื้ม  “ข้ามองการณ์ไกลไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเจ้าจะต้องกลับมาหาข้า อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มผู้ระมัดระวัง ทำให้ข้ากังวลใจ  ข้ากลัวว่าเขาจะผนึกมุกมารฟ้าไว้กับเจ้าตลอดไปถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะไม่มีทางได้พบเจอกันอีก และข้าคงไม่มีความสุข  ต่อให้ข้าได้เป็นจ้าวโลกก็ตามที  เจ้ากลับมาอยู่กับข้าแล้วกระบี่ปีศาจฟ้าแดนสวรรค์...ตั้งแต่วันนี้ไปข้าสาบานว่าจะไม่มีใครพรากเจ้าไปจากข้าได้อีก!”

“วู้ววว!” กระบี่วิเศษที่เกิดจากโองการปีศาจฟ้าตอบรับจอมปีศาจไคเทียน

“เฮ้..ปีศาจเฒ่าเจ้ายืมมือข้าปลดผนึกกระบี่ของเจ้าหรือ?” เย่ว์หยางกำลังโมโห

“เพื่อเป็นการตอบแทนคุณเจ้าที่เปิดผนึกให้  ข้าจะจบชีวิตของเจ้าอย่างเจ็บปวดที่สุด ข้าคงไม่กล้าพูดประโยคนี้ก่อนที่กระบี่ปีศาจฟ้าจะกลับมาอยู่ในมือข้า  แต่ตอนนี้ข้าได้กระบี่วิเศษคืนมาแล้วข้ากล้าพูดได้ว่า ใครจะกล้าเป็นศัตรูกับข้า?” จอมปีศาจไคเทียนชูกระบี่ปีศาจฟ้าขึ้นท้องฟ้าเบาสายฟ้านับพันสายเหมือนกับงูปีศาจฟาดลงพื้นอย่างรุนแรง

บึ้ม!

แค่เพียงสายฟ้าฟาดครั้งเดียวซากเมืองโบราณหายไปไม่เหลือ

ทุกอย่างที่เคยอยู่บนพื้นหายวับไปเหลือแต่ความว่างเปล่า  ภายลำแสงสายฟ้าเหลือแต่เพียงหลุมยักษ์ที่ดูเหมือนกับปากสัตว์ประหลาดอสูรร้าย

“บัดซบ!”  เย่ว์หยางตกใจ จอมปีศาจไคเทียนตอนไม่มีกระบี่อยู่ในมือยังพอจะเกลี้ยกล่อมได้ แต่ตอนนี้มีกระบี่วิเศษปีศาจฟ้าอยู่ในมือความแข็งแกร่งของปีศาจเฒ่านี้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยสิบเท่าดังนั้นเขาเกลี้ยกล่อมไปก็คงไม่ต่างอะไรกับผายลม!  อย่างไรก็ตามเนื่องจากถูกศัตรูหลอกใช้เย่ว์หยางอารมณ์ไม่ดีเอามาก จิตใจของเขาถูกความโกรธและความร้อนรนครอบงำ เขาไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับปัญหาว่าสู้ได้หรือไม่ ตอนนี้เขาเพียงแต่คิดว่าทักษะแฝงเร้นรู้ล่วงหน้าของปีศาจเฒ่าที่น่ากลัวจะต้องถูกขยี้ลงกับพื้น ดีที่สุดต้องให้ปีศาจเฒ่าคุกเข่ากับพื้นขอความเมตตาจากเขาเอง

“ยกเว้นเวลาที่ข้าถูกผนึก  ข้าไม่เคยแพ้ใครมาก่อนในชีวิต”  จอมปีศาจไคเทียนกวาดหางตามองเย่ว์หยางอย่างหยิ่งผยอง  “ข้ามีทักษะแฝงเร้นเห็นล่วงหน้า  ข้าไร้เทียมทาน  ยกเว้นเทพโบราณ ไม่มีใครสามารถเอาชนะข้าได้ ต่อให้เจ้าเป็นอัจฉริยะไร้เทียมทานที่ยากพบพานในรอบพันปี ก็ไม่ยกเว้น!”

“เจ้าเห็นความล้มเหลวของข้าหรือ?”  เย่ว์หยางแค่นเสียง  “ถ้าเจ้าเห็นได้จริง ลองใช้ทักษะแฝงเร้นมองการณ์ไกลของเจ้ามองดูทักษะแฝงเร้นที่น่ากลัวของข้าได้ไหม?”

“แน่นอนเจ้าเป็นแค่ปลาเล็กปลาน้อยในทักษะมองการณ์ไกลของข้า”  จอมปีศาจไคเทียนยิ้มยโส “บางทีเจ้าอาจมีทักษะแฝงเร้นพิเศษที่ส่งผลต่อทักษะมองการณ์ไกลของข้าได้  แต่ด้วยพลังปัจจุบันของเจ้า  ข้าใช้นิ้วเดียวก็ฆ่าเจ้าได้ร้อยครั้ง”

“ก็ลองดู!”

ทันใดนั้นเย่ว์หยางเปลี่ยนไปใช้ตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ซึ่งปกติเขาจะให้เย่ว์ซวงใช้ทุบลูกเกาลัดถั่วเปลือกแข็ง แทนที่จะเอามาใช้ต่อสู้

ถ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองอยู่ข้างๆ นางจะพบว่าเย่ว์หยางไม่เคยจริงจังมาก่อนในชีวิต

นี่ไม่ใช่โกรธเพราะถูกหลอก

แต่เป็นการเผาผลาญพลังต่อสู้ถึงขีดสุด

จอมปีศาจไคเทียนสีหน้าบึ้งทันทีเขาพูดด้วยความโมโห  “อะไรกัน?  เจ้าจงใจปลดผนึกกระบี่ปีศาจให้ข้าหรือ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด