ตอนที่แล้วบทที่ 85: ผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของแบรนด์ชิงหลิน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 87: ต่อมรับรสจะไม่โกหก! การเริ่มต้นที่ดี!

บทที่ 86: ของเราดีกว่าของต่างประเทศ!


ในอนาคตจะมีของที่เอาออกจากเกมได้มากขึ้นเรื่อย ๆ และต้องมีของที่สามารถเอาวางขายในวงกว้างได้  อย่างเช่นซอสมะเขือเทศ  แตงโม  และเฟื่องฟ้าซึ่สองอย่างหลังถ้าขยายพันธุ์ได้สำเร็จล่ะก็เขาจะทำให้มันแพร่หลายในแบรนด์ชิงหลินอย่างแน่นอน

‘Qinglin’ ​​เป็นแบรนด์ของเขา

ซอสมะเขือเทศชิงหลินเป็นเพียงจุดเริ่มต้น

ราคาของซอสมะเขือเทศจะแตกต่างกันไปตามวัสดุ  บรรจุภัณฑ์  และวิธีการผลิตที่แตกต่างกัน

ราคาซอสมะเขือเทศบรรจุขวด 200 กรัมของฉินหลินรวมมะเขือเทศ  บรรจุภัณฑ์  แรงงาน  วัสดุต่าง ๆ  ฯลฯ  แล้วจะอยู่ที่ขวดละประมาณ 5 หยวน  ถ้าขายขวดละ 10 หยวนเขาก็สามารถทำเงินได้มากมายแล้ว

ทว่าราคาจริง ๆ นั้นยังไงก็ต้องคิดอย่างถี่ถ้วนก่อน

และที่สำคัญคือเขาต้องเอาไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอะไรพวกนี้ให้เรียบร้อยก่อนด้วย  จะได้กันไอ้พวกหน้าโง่มันมาฟ้องเรียกค่าชดเชยขอหาละเมิดอะไรนั่นเข้าซักวัน  ยามใดที่สังคมเสื่อมลงยามนั้นไอ้เรื่องโง่ ๆ แบบนี้ก็จะกลับมาเป็นกระแสอีก

ที่สำคัญและหน้าปวดหัวมาก ๆ ก็คือไอ้คนที่ทำตามกระแสละเมิดเครื่องหมายการค้าอะไรนี่มักจะเป็นคนไม่รู้กฎหมายเนี่ยสิ

หลังจากที่ฉินหลินออกจากโรงงานเขาก็ไปที่โกดังเช่าแล้วเข้าโลกในเกมเพื่อเช็ครายละเอียดของซอสมะเขือเทศชิงหลิน

[ซอสมะเขือเทศชิงลิน: เลเวล 1]

[ซอสมะเขือเทศรสหวานอมเปรี้ยวที่ทำจากสูตรลับพิเศษมีรสชาติดีเลิศ  รสสัมผัส +1 อร่อย +1 ความอยากอาหาร +1]

เมื่อได้เห็นรายละเอียดดังนี้แล้วเขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก

..........................…

2 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ฉินหลินตามซุนหมิงไปยังพื้นที่ใกล้ป่าบริเวณทางเหนือของบ้านไร่  ซุนหมิงนั้นใส่ใจกับโครงการของบ้านไร่อย่างมากถึงขนาดแทบจะมาตรวจสอบชนิดที่วันเว้นวัน

“เถ้าแก่ครับ  ตามที่เถ้าแก่กำหนด  บริเวณทั้งหมดเราได้มาร์คเอาไว้หมดแล้ว  เชิญเถ้าแก่เปรียบเทียบกับพิมพ์เขียวได้เลย” ซุนหมิงนำฉินหลินไปดูไซด์งานก่อสร้างที่ถูกล้อมไว้

ก่อนหน้านี้ฉินหลินได้คุยกับซุนหมิงเรื่องที่จะสร้างคฤหาสน์วิลล่าขึ้นที่นี่

นี่ก็คือขอบเขตของคฤหาสน์วิลล่าซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่คือ 20 หมู่เต็ม ๆ ในพิมพ์เขียวนอกจากตัวอาคารหลักที่หรูหราแล้วยังมีลานสีเขียวขนาดใหญ่พร้อมที่จอดรถแยกต่างหาก  ทั้งพิมพ์เขียวจะเห็นว่ามีการปรับภูมิทัศน์โดยรอบ  มีสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียว...

นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าคฤหาสน์วิลล่า 20 หมู่หนี้จะโดดเด่นไม่น้อยไปกว่าของจุดชมวิวเฉอซานเลย

โครงการวิลล่าแห่งนี้เรียกว่า ‘คฤหาสน์พักร้อนบ้านไร่ชิงหลิน’ เนื่องจากไม่มีทางสร้างที่อยู่อาศัยส่วนตัวบนที่ดินหลวง 500 หมู่นี้ได้  ดังนั้นจึงได้แต่ต้องทำแบบนี้เท่านั้น

สำหรับคฤหาสน์พักร้อนนี้ในอนาคตจะรับแขกยังไง  เท่าไหร่  แบบไหน  ล้วนขึ้นอยู่กับเขาเท่านั้น

แต่เริ่มแรกเลยคือเมื่อสร้างเสร็จแล้วเขาจะใช้มันเหมือนเป็นบ้านอีกหลังของตัวเองไปก่อน...

การสร้างวิลล่าขนาดใหญ่แบบนี้การจะสร้างให้เสร็จต้องใช้เวลาอีกนาน

ฉินหลินดูพิมพ์เขียวเสร็จแล้วก็ส่งคืนให้ซุนหมิง “ผมพอใจกับการออกแบบนี้มาก  ต้องรบกวนคุณซุนแล้วครับ”

ซุนหมิงรับพิมพ์เขียวกลับมาและพูดอย่างเขินอายว่า “จริง ๆ แล้วผมมีเรื่องจะรบกวนเถ้าแก่หน่อยน่ะครับ...  เถ้าแก่ช่วย...  เอ่อ...  หากระเจี๊ยบเขียวพันธุ์พิเศษมาให้ผมลองโดนดูบ้าง...”

เขาเคยเห็นข่าวแบบนี้บนอินเทอร์เน็ตมาก่อน  แต่ตอนนี้ที่บ้านไร่ไม่มีวางขายแล้วดังนั้นเขาเลยยังไม่มีโออาสได้โดน

“ของมันมีน้อย  แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะลองหามาให้ดูแล้วกันครับ” ฉินหลินไม่ปฏิเสธ

กระเจี๊ยบเขียว  ห่วยซัว  และบรอกโคลีเลเวล 2 นั้นเขาได้เก็บไว้ในช่องเก็บของในเกมโดยไม่ได้เอาออกมาขายอีกแล้ว  และการเอาออกมาเป็นของขวัญในเวลาแบบนี้สิมันถึงจะเลอค่า

การไว้หน้าให้ซุนหมิงแบบนี้ทำให้เจ้าตัวมีกะจิตกะใจที่จะสนใจโครงการของบ้านไร่เขามากขึ้น

จากนั้นทั้งสองก็คุยรายละเอียดปลีกย่อยกันอีกเล็กน้อยก่อนจะแยกย้าย

หลังจากนั้นฉินหลินได้รับโทรศัพท์จากเติ้งกวง “ซอสมะเขือเทศได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพและได้รับใบรับรองการผลิตแล้วครับ”

หลังจากได้ข่าวฉินหลินก็รีบไปดูใบรับรองคุณภาพและการผลิตที่ออกโดยสำนักงานควบคุมคุณภาพที่โรงงานทันที

สิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตและการขายผลิตภัณฑ์  จากนั้นก็แค่เอาใบนี้ย่อส่วนลงในสติ๊กเกอร์หรือไม่ก็พิมพ์ลงขวดบรรจุภัณฑ์โดยตรง

แล้วซอสมะเขือเทศชิงหลินก็จะสามารถผลิตและวางขายในจำนวนมากได้

เติ้งกวงยังกล่าวอีกว่า “ตอนนี้สินค้าออกมาหมดแล้ว  จะขายในราคาเท่าไหร่เหรอครับ?”

ฉินหลินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “แล้วราคาซอสมะเขือเทศในท้องตลาดตอนนี้ขายกันเท่าไหร่?”

เติ้งกวงอธิบายว่า “ซอสมะเขือเทศทั่วไปสองร้อยกรัมเท่ากันราคาประมาณห้าถึงเจ็ดหยวน  ส่วนของมียี่ห้อจะแพงกว่าคือเหวยเหม่ยสิบสองหยวน  ไฮนซ์สิบสามหยวน  เหม่ยเหลียงฟางสิบสสามจุดห้าหยวน  ฮันซ์สิบสองหยวน  เดลมอนเตสิบห้าหยวน...”

เติ้งกวงทำการบ้านมาดีมาก  เขาได้แนะนำราคาซอสมะเขือเทศส่วนใหญ่ในปริมาณเท่ากันตามท้องตลาดออกมาในชั่วพริบตา  โดยมีตั้งแต่ของกาก ๆ ธรรมดาทั่วไปถูกสุดอยู่ที่ 5 หยวนยาวไปจนถึงแพงสุดคือเดลมอนเตคือ 15 หยวน

จะเห็นได้ว่าแบรนด์ใหญ่ ๆ ทั้งหมดจะขายกันที่ราคาเกิน 10 หยวนหมดเลย

ฉินหลินถามว่า “ผู้เฒ่าเติ้งคิดว่าไงบ้าง?”

เติ้งกวงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ในแง่ของรสชาติเพียงอย่างเดียวสูตรเราถูกปากคนทั่วไปกว่าซอสมะเขือเทศทั้งสิบยี่ห้อนั่นแน่นอน  แม้เราจะขายแพงกว่าแต่ก็ไม่ควรมากไป  ส่วนสิ่งสำคัญที่จะทำให้ขายดีคือชื่อเสียง”

ฉินหลินคิดตามอยู่พักหนึ่งแล้วจึงตัดสินใจว่า “งั้นก็ประเดิมขายกันที่บ้านไร่ชิงหลินก่อนเพื่อสร้างชื่อ  ส่วนราคาก็ไม่ต้องไปเอาที่แพงกว่าของแบรนด์ดัง ๆ พวกนั้นหรอก  แต่จะให้ถูกเกินไปก็ไม่ได้”

“เอาที่สิบห้าหยวนเหมือนของเดลมองเตนั่นก็แล้วกัน  วัดกันไปเลยว่าของเรากับของเดลมองเตแตกต่างกันมากแค่ไหน”

เติ้งกวงพยักหน้า “ในเมื่อกำหนดราคาแล้ว  ตอนนี้ทุกอย่างล้วนพร้อมสำหรับการผลิตซอสมะเขือเทศจำนวนมากก็จริง  แต่คุณฉินได้สั่งไลน์การผลิตมาเพิ่มอีกสามไลน์  ไลน์การผลิตเวเฟอร์ก็ยกเลิกไปแล้วด้วย  ดังนั้นเราต้องมีการจ้างคนงานเพิ่ม”

“คุณจัดการไปได้เลย  เริ่มทำซอสมะเขือเทศล็อตแรกโดยเร็วที่สุดแล้วส่งไปที่บ้านไร่คืนนี้  พรุ่งนี้จะได้เอาออกไปประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยว” ฉินหลินสั่ง

“จะจัดการให้เดี๋ยวนี้ครับ” เติ้งกวงเป็นคนที่มีความสามารถในการจัดการสูง  การทำงานของเขาเป็นไปอย่างเฉียบขาดและฉับไว

ฉินหลินออกจากโรงงานและกลับไปที่บ้านไร่พร้อมซอสมะเขือเทศหนึ่งกล่อง  เมื่อเขาไปถึงห้องโถงเขาก็วางซอสมะเขือเทศลงบนโต๊ะ  จ้าวม่อชิงเดินมาหยิบขวดซอสมะเขือเทศขึ้นมาดูแล้วถามว่า “นี่จากโรงงานเหรอ?”

ฉินหลินพยักหน้า “เธอช่วยโพสต์ประกาศกิจกรรมลงในติ๊กต็อกออฟฟิเชียลของบ้านไร่ที่สิ  ว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์การทำอาหารเอาท์ดอร์ที่บ้านไร่จะมีบริการซอสมะเขือเทศฟรี  แล้วยังสามารถเอาใบเสร็จค่าใช้จ่ายมายื่นเพื่อขอรับซอสมะเขือเทศชิงหลินสองร้อยกรับฟรีอีกหนึ่งขวดด้วย”

“จ้ะ!” จ้าวโม่ชิงเข้าใจจุดประสงค์ของฉินหลิน  เธอเรียกเกาเหยาเหยากับพนักงานหญิงอีกสองคนมายกกล่องซอสมะเขือเทศไปถ่ายคลิปกันที่ด้านหลัง

ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ตอนกลางคืนจ้าวโม่ชิงได้ตัดคลิปโปรโมตกิจกรรมเสร็จแล้วก็ลงคลิปไปเลย

แม้ว่าความนิยมของบ้านไร่จะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมากอีกต่อไปเนื่องจากข้อจำกัดในปัจจุบัน  แต่ด้วยฐานแฟนคลับที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว  ทันทีที่มีการประกาศกิจกรรมมันก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากจนกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้าก็นี้มีเรื่องอย่างน้ำผึ้งชงสมุนไพรไปแล้วรอบหนึ่ง  ดังนั้นจึงไม่แปลกที่กิจกรรมใหม่นี้จะกระตุ้นให้คนเกิดความอยากรู้อยากเห็น

“บ้านไร่ชิงหลินจัดกิจกรรมอีกแล้วเหรอ?  ครั้งนี้แจกซอสมะเขือเทศชิงหลินสูตรพิเศษ?”

“ครั้งนี้ขี้เหนียวว่ะ  จะเอาซอสมะเขือเทศไปทำมะเขือเทศอะไรวะ?”

“ดูโลโก้ดิ  แปลว่าต้องเป็นซอสมะเขือเทศที่บ้านไร่ชิงหลินทำเองเห็น ๆ เราชอบซอสมะเขือเทศ  เพราะงั้นขอลองดูหน่อยซิว่ารสชาติจะเป็นยังไง”

“น้ำผึ้งชงสมุนไพรของบ้านไร่คราวที่แล้วมีชื่อเสียงโด่งดังมาก  ซอสมะเขือเทศคราวนี้ไม่ควรแย่กว่าน้ำผึ้งนะ  ไม่งั้นเสียราคาหมด”

“...”

“ฉินหลิน  ฉันประกาศกิจกรรมลงติ๊กต็อกแล้วนะ” จ้าวโม่ชิงหยิบมือถือออกมาโชว์ให้เห็นผลงานของตนทันทีทีกลับถึงบ้าน

“โอเค  ที่เหลือก็รอให้นักท่องเที่ยวมาลองชิมซอสมะเขือเทศของเราในวันพรุ่งนี้  พอนักท่องเที่ยวเห็นว่าซอสมะเขือเทศของเราดีกว่าแบรนด์ดังเหล่านั้นล่ะก็รับรองว่าบ้านไร่เราจะดังระเบิดอีกรอบชัวร์!” ฉินหลินทิ้งร่างลงบนโซฟาเจ้าหมาก็วิ่งเข้ามานอนหนุนตักทั้ง ๆ อย่างนั้นเลย

บางครั้งหมามันก็ติดเจ้าของมากเกินไปเหมือนหมัดเกาะหัว  เราต้องลูบ ๆ ไล้ ๆ ให้มันฟินจนพอใจซะก่อนถึงจะยอมถอยไปดี ๆ

วันรุ่งขึ้น

นอกศูนย์การขายของบ้านไร่ชิงหลินได้จัดบู๊ตรับแจกซอสมะเขือเทศฟรี

เมื่อคืนนี้เติ้งกวงได้ส่งซอสมะเขือเทศที่จากโรงงานมาที่บ้านไร่ตามคำสั่ง  และฉินหลินสั่งให้ลูกน้องจัดเตรียมของให้พร้อมไว้แล้ว

เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาในบ้านไร่พวกเขาทั้งหมดก็ถูกดึงดูดทันที  หลังจากที่ประกาศไปเมื่อคืนนี้ทำให้นักท่องเที่ยวสนใจซอสมะเขือเทศชิงหลินกันขึ้นมาเล็กน้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด