ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 197 การต่อสู้แห่งชีวิตและความตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 199 ฆ่าสองยาย

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 198 ไม่ธรรมดา


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 198 ไม่ธรรมดา

แปลโดย iPAT

นอกจากธาตุทั้งห้ายังมีปราณหยินและปราณหยาง นิกายเมฆาพิรุณใช้วิธีการบ่มเพาะคู่หยินหยาง ผู้ชายจะฝึกปราณหยางขณะที่ผู้หญิงจะฝึกปราณหยิน

หยินหยางสามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่รู้จบสิ้น สิ่งที่ได้รับจากการบ่มเพาะด้วยวิธีนี้จะเหนือกว่าการบ่มเพาะพลังปราณจากธาตุทั้งห้า นักพรตผีดิบเป็นตัวอย่างของการบ่มเพาะปราณหยินรูปแบบหนึ่ง แต่ปราณหยินของเขามีไว้เพื่อปรับแต่งและสร้างผีดิบ

หลี่ฉิงซานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ปราณหยินไม่ได้มีชื่อเสียงในด้านความแข็งแกร่งแต่มันยังทำได้ถึงระดับนี้ กล่าวได้ว่าจอมยุทธ์ขั้นเก้าเป็นตัวตนที่ไม่สามารถดูแคลนได้อย่างแท้จริง

ทันใดนั้นมือสีดำขนาดใหญ่ก็พุ่งเข้าหาหลี่ฉิงซาน ยายประจิมกล่าวอย่างเย็นชา “คราวนี้ข้าจะดูว่าเจ้าจะหนีไปที่ใด”

“เหตุใดต้องหนี?” หลี่ฉิงซานกล่าวอย่างกล้าหาญ เขาหยิบดาบดาวตกออกมาและส่งพลังปราณให้มัน

ครั้งสุดท้ายที่เขาลองใช้ดาบดาวตกคือตอนที่เขาอยู่ที่เมืองชิงหยาง ในเวลานั้นเขายังไม่บรรลุขั้นที่สองของเคล็ดวิชาการบ่มเพาะพลังปราณเบื้องต้น แต่ตอนนี้เขาบรรลุขั้นเจ็ดแล้ว พลังปราณของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่า ลำแสงยี่สิบเอ็ดสายจากดาบดาวตกทำลายมือสีดำทันที

“สิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณระดับสูง!” ยายประจิมประหลาดใจมากก่อนจะตะโกนออกมาว่า “วังวนทมิฬ!” พลังปราณสีดำก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนขนาดใหญ่หมุนอยู่รอบตัวนางราวกับมันพยายามกลืนกินทุกสิ่ง

นี่เป็นทักษะสายป้องกันที่ทรงพลังที่สุดของยายประจิม นางมั่นใจว่านางสามารถป้องกันการโจมตีทุกชนิดของจอมยุทธ์พลังปราณทุกคน

ลำแสงยี่สิบเอ็ดสายพุ่งเข้าสู่วังน้ำวนและทำให้มันเกิดการสั่นสะเทือนอย่างแรง

ใบหน้าของยายประจิมกลายเป็นเคร่งขรึม นางทุ่มเทความแข็งแกร่งทั้งหมดเพื่อบดขยี้ลำแสงทั้งยี่สิบเอ็ดสาย

ด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ กระแสน้ำวนพังทลายลงขณะที่ลำแสงสายหนึ่งพุ่งผ่านไหล่ของยายประจิมและทำให้เลือดสาดกระเซ็นออกมา

หลี่ฉิงซานหยิบหินวิญญาณออกมาและดูดซับพลังงานจากมันผ่านฝ่ามือ นั่นทำให้พลังปราณของเขาฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในความเป็นจริงเขาค่อนข้างตกใจเช่นกัน เดิมทีเขาต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อล่าถอยออกไป แต่เขาไม่คาดคิดว่าดาบดาวตกจะทรงพลังถึงเพียงนี้ เขาสามารถทำร้ายจอมยุทธ์ขั้นเก้าด้วยการโจมตีเดียว แต่นั่นก็เป็นเพราะพลังปราณของเขาบริสุทธิ์เกินไป หากเป็นจอมยุทธ์คนอื่น พวกเขาอาจต้องบรรลุขั้นห้าหากต้องการปลดปล่อยพลังระดับเดียวกันนี้

“สิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณระดับสูงสุด?” การแสดงออกของยายประจิมเปลี่ยนไปมาก นางไม่สามารถแยกแยะระดับที่แท้จริงของสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณชิ้นนี้ แต่นั่นไม่สำคัญ มันทำให้นางหงุดหงิด ละอายใจ และยังโลภอีกด้วย

“มันจะเป็นของข้า ยายแก่ เจ้าไม่ควรแย่งข้า” ดวงตาของยายบูรพาส่องประกายสว่างไสว จากนั้นนางก็ปิดเปลือกตาลง ยกมือขึ้นและสวดมนต์ ปราณหยินทั้งหมดพุ่งกลับมาอยู่ด้านข้างนางราวกับมันมีชีวิต

ความรู้สึกอันตรายก่อตัวขึ้นในใจของหลี่ฉิงซาน นี่ต้องเป็นทักษะที่ไม่ธรรมดาเพราะกระทั่งจอมยุทธ์ขั้นเก้าก็ยังต้องใช้ความพยายามในการเตรียมการ

อย่างไรก็ตามเขาก้าวไปข้างหน้าแทนที่จะถอยหลัง เขาวิ่งขึ้นไปบนกำแพงหินราวกับมันเป็นพื้นดินที่ราบเรียบ เขาก้าวไปทั้งหมดเจ็ดก้าวก่อนจะกระโจนเข้าหายายประจิม

ดาบวายุเรืองแสงเย็นเยียบขณะที่เขาเหวี่ยงมันออกไปราวกับกำลังตัดผ่าบางอย่าง

ยายประจิมพึ่งสูญเสียการป้องกัน ตอนนี้นางไม่มีสิ่งใดให้พึ่งพาหรือบางทีนางอาจไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสิ่งใด นางยืนนิ่งและเฝ้าดูทักษะของหลี่ฉิงซาน หากปราศจากความช่วยเหลือจากสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณระดับสูง แม้แต่จอมยุทธ์ขั้นหกก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง

ยายบูรพาเปิดเปลือกตาขึ้น นางประสานมือและยกนิ้วชี้และนิ้วกลางขึ้นพร้อมกันก่อนจะชี้ไปที่หลี่ฉิงซาน “คำสาปอสรพิษ!” ปราณสีดำกลายเป็นอสรพิษจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาหลี่ฉิงซาน

ดาบวายุถูกพันธนาการด้วยอสรพิษสีดำหลายสิบตัวและไม่สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อีกแม้แต่นิ้วเดียว หลี่ฉิงซานถูกล้อมกรอบเช่นกัน

หลี่ฉิงซานรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ดาบวายุและเล็งไปที่ยายบูรพา ด้วยการตะโกนว่า “ไป!” แขนของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นขณะที่ปราณปีศาจทำลายพันธนาการของอสรพิษสีดำและพุ่งออกไปอย่างแรง

ใบหน้าของยายบูรพากลายเป็นแข็งทื่อ “เป็นไปได้อย่างไร?”

ยายประจิมสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ นางรีบหยิบเข็มสีแดงขนาดเล็กที่เรืองแสงออกมา มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณระดับสูง

นอกจากมันจะเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว มันยังสามารถเจาะทะลวงพลังปราณและการป้องกันทุกชนิด มันสามารถฆ่าจอมยุทธ์ที่ไม่มีสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณสายป้องกันได้ทันที

เข็มทิ้งริ้วแสงสีแดงบางๆเอาไว้ขณะพุ่งเข้าหาศีรษะของหลี่ฉิงซาน

เป็นเพียงเวลานี้ที่ลูกประคำหัวกะโหลกบินเข้าปะทะเข็มเล่มเล็ก ลูกประคำหัวกะโหลกอีกลูกขยายใหญ่ขึ้นเป็นหัวกะโหลกยักษ์และอ้าปากกัดยายประจิม

เสี่ยวอันโผล่ขึ้นมาจากใต้ดินและกระโจนออกมาจากความมืด ในเวลาเดียวกันนางก็แทงดาบไปที่ด้านหลังของยายบรูพา นี่เป็นการโจมตีถึงตาย

หลี่ฉิงซานทำทุกสิ่งเพื่อสร้างโอกาสนี้ขึ้นมา หากพวกเขาสามารถฆ่ายายคนใดคนหนึ่ง ชัยชนะจะเป็นของพวกเขาอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามริ้วแสงกลับก่อตัวขึ้นและห่อหุ้มร่างของยายบูรพาเอาไว้อย่างสมบูรณ์

ดาบวายุที่พุ่งเข้ามาจากด้านหน้าและดาบลอบสังหารที่พุ่งมาจากด้านหลังปะทะกำแพงแสงและทำให้เกิดเสียงดังสนั่น

หลี่ฉิงซานและเสี่ยวอันยืมแรงสะท้อนเพื่อกระโดดถอยหลังออกไปอย่างรวดเร็ว ริ้วรอยปรากฏขึ้นบนอาวุธของทั้งคู่ โอกาสที่พวกเขาสร้างขึ้นพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง ปรากฏว่ายายบูรพาครอบครองสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณที่ทรงพลังมากเอาไว้เช่นกัน

ยายบูรพากรีดร้องและล่าถอยออกไปด้านหนึ่ง มันนานมากแล้วที่นางไม่เคยเผชิญหน้ากับอันตรายถึงชีวิต หากไม่ใช่เพราะสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณระดับกลางที่นางซื้อมาด้วยราคาที่สูงมากช่วยนางเอาไว้ นางคงเสียชีวิตไปแล้ว นางตรวจสอบกระจกที่อยู่ในมือและพบรอยแตกสองรอย พลังจิตวิญญาณของมันลดลงอย่างมาก นั่นทำให้นางทั้งประหลาดใจและโกรธ

เมื่อนางมองหลี่ฉิงซานอีกครั้ง ร่างกายของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นถึงสามเมตรแล้ว ผิวของเขาเป็นสีดำสนิทและมีเขาคู่หนึ่งยื่นออกมาจากหน้าผากของเขา เส้นผมสีแดงของเขายาวลงมาถึงเอว

นางตะโกนเสียงดัง “มีบางสิ่งผิดปกติกับเด็กคนนี้ ใช้พลังเต็มที่!” นางนำหวีออกมาจากแขนเสื้อ มันขยายใหญ่ขึ้นเมื่อมันพุ่งเข้าหาหลี่ฉิงซาน นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณระดับสูงอีกชิ้น

นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กคนนี้จะรับมือยากถึงเพียงนี้ แม้แต่เด็กผู้หญิงกลิ่นหอมแห่งสวรรค์ก็แปลกมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามนางยังเชื่อว่าตราบเท่าที่พวกนางลงมืออย่างจริงจัง หลี่ฉิงซานก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจอมยุทธ์ขั้นเก้าสองคนที่ใช้สิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณระดับสูงสองชิ้น

นางเห็นหลี่ฉิงซานหยิบยันต์ออกมา นางจำมันได้ทันที มันเป็นยันต์สายฟ้าฟาดระดับกลางซึ่งทำให้นางลอบเย้ยหยันอยู่ภายใน ตอนนี้และที่นี่ไม่มีพายุฝน ยันต์สายฟ้าฟาดระดับกลางไม่สามารถปลดปล่อยพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ออกมา มันไม่แม้แต่จะสามารถเจาะทะลวงเกราะพลังปราณของนาง นี่ทำให้นางยืนยันกับตนเองว่าหลี่ฉิงซานหมดเล่ห์เหลี่ยมแล้ว

หลี่ฉิงซานยิ้ม ยันต์สายฟ้าฟาดถูกกระตุ้นใช้งาน แต่มันไม่ได้ยินไปทางยายบูรพา มันกลายเป็นประกายไฟขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนส่องสว่างไปทั่วทั้งถ้ำ มันยังทำให้ยันต์ที่หลี่ฉิงซานเตรียมไว้ก่อนหน้านี้เกิดประกายไฟขึ้น

ยันต์ทั้งแปดถูกกระตุ้นใช้งานพร้อมกัน พวกมันรวมตัวเป็นสายฟ้าสีขาวที่หนาพอๆกับเสาบ้านและฟาดลงมาที่ยายบูรพา เกราะพลังปราณของนางไม่สามารถต้านทานมันได้เลย กระจกในมือของนางแตกเป็นเสี่ยงๆทันทีขณะที่นางกรีดร้องและร่วงลงจากอากาศพร้อมควันที่ลอยขึ้นมา

“ช่างเจ้าเล่ห์นัก!” ใบหน้าของยายประจิมกลายเป็นมืดครึ้มและบิดเบี้ยว

นางใช้ยันต์โล่ทองคำระดับสูงเพื่อป้องกันหัวกะโหลกที่พ่นไฟใส่นาง ขณะเดียวกันนางก็ส่งเข็มเล่มเล็กพุ่งไปหาหลี่ฉิงซานอีกครั้ง

ใบหน้าของหลี่ฉิงซานกลายเป็นเคร่งเครียด เขายื่นมือออกไปคว้าหวีที่สูญเสียการควบคุมและปล่อยกระดองเต่าจิตวิญญาณออกมา

เข็มเล่มเล็กติดอยู่ที่กระดองเต่าและไม่สามารถเดินหน้าต่อไป

ยายประจิมประหลาดใจมาก เข็มบินของนางไม่สามารถทะลวงผ่านการป้องกันของศัตรู เมื่อนางมองไปที่หลี่ฉิงซานอีกครั้ง ความคิดหนึ่งก็พุ่งผ่านจิตใจของนาง นางก่นเสียงเย็น “นี่เป็นกับดักของนังตัวแสบนั่น!”

ในเวลาเดียวกันเสี่ยวอันก็ส่งดาบพุ่งเข้าไปหายายบูรพาโดยไม่เปิดโอกาสให้นางได้พักหายใจ

ดาบปะทะชั้นแสงสีทอง ปรากฏว่าในช่วงเวลาคับขันยายบูรพายังสามารถกระตุ้นใช้ยันต์โล่ทองคำได้สำเร็จ

เสี่ยวอันไม่สะทกสะท้าน ดาบของนางโจมตีต่อราวกับพายุ มือของนางกลายเป็นภาพพร่าเลือน แสงสีทองค่อยๆจางลงอย่างต่อเนื่อง

ยายบูรพาประหลาดใจมากแต่นางไม่ได้โวยวาย นางฉวยโอกาสนี้กินยาฟื้นฟูและดูดซับพลังงานจากหินวิญญาณ แม้นางจะถูกสายฟ้าฟาด แต่ยันต์สายฟ้าฟาดเพียงไม่กี่แผ่นยังไม่เพียงพอที่จะฆ่านาง นางโกรธมากและพยายามควบคุมหวีอย่างสิ้นหวัง

หวีในมือของหลี่ฉิงซานสั่น แต่มันจะสู้พละกำลังของกระทิงสองตัวได้อย่างไร ขณะที่เขาเริ่มเผยรอยยิ้ม ดาบพลังปราณจำนวนมากก็ระเบิดออกมาจากหวี พวกมันไม่อ่อนแอกว่าลำแสงของดาบดาวตกขณะที่หลี่ฉิงซานก็ไม่มีเวลาพอที่จะใช้กระดองเต่าจิตวิญญาณต่อต้านมัน

“บึม บึม บึม บึม!” ดาบพลังปราณปะทะหน้าอกของหลี่ฉิงซานและทำให้เขากระอักเลือดออกมา

เสี่ยวอันไม่แม้แต่จะมองเขา นางฟาดดาบออกไปอย่างโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม ดาบของนางเริ่มแตกแต่โล่ทองคำของยายบูรพาก็เต็มไปด้วยรอยร้าวเช่นกัน

หลี่ฉิงซานได้รับบาดแผลที่น่าสะพรึงกลัวจำนวนมากกระจายไปทั่วร่าง แต่บาดแผลเช่นนี้ไม่มีผลต่อปีศาจ ด้วยการไหลเวียนของปราณปีศาจ อาการบาดเจ็บของเขาก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

รอยยิ้มพึงพอใจของยายบูรพากลายเป็นแข็งค้าง “นั่นเป็นไปไม่ได้! แม้แต่ปีศาจก็ไม่มีผิวหนังที่แข็งแกร่งเช่นนี้!”

หลังจากหลี่ฉิงซานบรรลุขั้นที่สองของหมัดปีศาจวัว ผิวหนังของเขาก็ก้าวเข้าสู่ระดับใหม่เช่นกัน

“ก็ข้าไม่ธรรมดา!” ในเวลาที่คำกล่าวนี้หลุดออกมาจากปากของหลี่ฉิงซาน เขาก็มาถึงด้านหน้ายายบูรพาและปล่อยหมัดออกไปแล้ว