ตอนที่แล้วบทที่ 15 ฮอตยิ่งกว่าดาราเกาหลี!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 17 อาโป สู้ สู้!

บทที่ 16 เริ่มการฝึกสัตว์อสูร!


บทที่ 16 เริ่มการฝึกสัตว์อสูร!

การเปิดภาคเรียนใหม่ของเหล่าบีสมาสเตอร์นั้นไม่ได้แตกต่างจากชั้นเรียนทั่วไปมากนัก

  การแนะนำตนเอง, ทำการสอน, รับหนังสือเรียน, แจกสื่อการสอน...

   หลังจากผ่านกระบวนการทั้งหมดแล้ว ครึ่งวันเช้าก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

  หลังอาหารกลางวัน ทุกคนงีบหลับ และจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างเงียบๆ ในห้องเรียน

   เมื่อใกล้ถึงเวลาเข้าเรียน ทุกคนมาที่สนามเด็กเล่นก่อนเวลา และต่างเรียกสัตว์อสูรของตนออกมา

  อาโปยังคงได้ความสนใจจากเด็กชายและเด็กหญิงในชั้นเรียนเช่นเคย

  หลังจากระฆังดังขึ้น ครูสาวสวยในชุดวอร์มที่มีนกหวีดคล้องคอก็วิ่งเหยาะๆ มาหาของพวกเขา

   เมื่อพิจารณาจากใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ และมีชีวิตชีวาของเธอแล้ว ครูคนนี้อาจอายุมากกว่าพวกเขาไม่กี่ปี และเธอน่าจะเป็นครูคนใหม่

   “ทุกคนเข้าแถวก่อน เด็กผู้หญิงอยู่ข้างหน้า เด็กผู้ชายอยู่ข้างหลัง ซ้ายต่ำและขวาสูงเป็นสองแถว และสัตว์อสูรยืนอยู่ข้างหน้า”

  ตามคำสั่งของครูคนใหม่ นักเรียนบีสมาสเตอร์ของมัธยมปลายปีสองเข้าแถวอย่างรวดเร็ว

  มันดูจะวุ่นวายพร้อมกับเสียงอื้ออึงเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ เมื่อนักเรียนเข้าแถวกันเป็นระเบียบแล้ว แต่เหล่าสัตว์อสูรไม่สามารถอยู่นิ่งได้ พวกมันเดินไปมากันอย่างขวักไขว่

  แน่นอน บางตัวก็ยืน บางตัวก็เดิน!

  อาโปพระเอกในวันนี้มันไม่ทำตัววุ่นวาย เพียงแค่นั่งขยี้ตาบนสนามหญ้า แค่นั้นก็มีแต่คนชื่นชมแม้กระทั่งครูสาว....

  เมื่อสัมผัสความนุ่มของสนามหญ้า มันก็เคลิ้มอยากจะนอนด้วยซ้ำ

  ครูสาวไม่ได้ตำหนิเขาแต่อย่างใด แต่พูดว่า: "จงควบคุมสัตว์อสูรของเธอให้ดี"

   จากนั้นเธอก็เริ่มแนะนำตัวเอง: "สวัสดีทุกคน ครูชื่อซูซิน และครูก็เป็นคนูสอนวิชาฝึกสัตว์อสูรของพวกเธอ"

  หลังจากการแนะนำสั้น ๆ ครูซูซินก็เริ่มการฝึกครั้งแรก...

   “ส่วนใหญ่สัตว์อสูรของทุกคนยังเป็นเด็ก ดังนั้นหลักสูตรการฝึกขั้นต้นจึงเป็นการฝึกเพื่อพัฒนาความใกล้ชิด”

   “แต่ก่อนเริ่มฝึก มาวอร์มร่างกายส่วนล่างกันก่อน”

  เมื่อฟังคำพูดของครูสาวนักเรียนทุกคนรู้สึกว่าคำเหล่านี้ค่อนข้างคุ้นเคย เเพราะก่อนจะเรียนอะไรก็ต้องวอร์มร่างกายก่อน

   วินาทีต่อมา ครูซูซินพูดเสียงดัง: "ให้นักเรียน และสัตว์อสูร วิ่งเหยาะๆ ห้ารอบสนามเด็กเล่น"

  ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นในกลุ่ม...

   "ห้ารอบ สนามเด็กเล่นควรวิ่งรอบละ 400 เมตร ใช่ไหม วิ่ง 2,000 เมตรเพื่ออุ่นเครื่อง"

   “สาวๆ ของเราสอบเข้ามหาลัยได้แค่วิ่งระยะไกล 1,000 เมตรเท่านั้น!”

   "การสอบเข้ามหาลัยชายของเราแค่ 1,500 ม. ไม่ใช่เหรอ"

   "..."

  หากกล่าวถึงดินแดนลี้ลับ สมรรถภาพทางกายย่อมแข็งแกร่งขึ้นมากอย่างแน่นอน หากวิ่งในระยะทาง 200 กิโลเมตร

แต่มันอาจจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับนักเรียนหญิงกับแค่ 2,000 เมตร

   เมื่อเผชิญกับเสียงร่ำไห้ของนักเรียนด้านล่าง ครูสาวก็ไม่ได้แสดงอาการใด ๆ

   “ก็เพราะพวกเธอไม่ใช่นักเรียนมัธยมปลายธรรมดา ๆ พลังของสัตว์อสูรที่ทำพันธสัญญาไว้มันจะช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางกายของพวกเธอ เพราะฉะนั้นระยะทางสองกิโลเมตรเป็นเพียงการอุ่นเครื่องเท่านั่น”

   หลังจากพูดจบเธอก็ยัดนกหวีดเข้าปาก

   ปี๊บ! ปี๊บ!

  หลังจากเป่านกหวีดสองครั้ง เธอพูดว่า: "เริ่มการวอร์มอัพ!"

 แต่ไม่ว่าครูสาวจะพูดอย่างไรเหล่านักเรียนก็ทำได้เพียงลากสัตว์อสูรของตนวิ่งไปรอบ ไปอย่างอ่อนแรง

  ครูซูซินพูดถูก หลังจากได้รับการทำพันธสัญญาพวกเขาจะได้รับพลังวิญญาณเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นการวอร์มเพียงสองกิโลเมตรก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขา

  อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะวิ่งกันได้อย่างง่าย ๆ

   “เฮ้...เจ้าปูยักษ์ อย่าเดินขวางทาง!”

   “เจ้าแกะเขาดาบ หยุดกินหญ้าซะทีเค้าไปถึงไหนกันแล้ว!”

"เจ้าเบื๊อก! จะปวดขรี้อะไรตอนนี้ฟะ! "ครูขามันไม่ยอมวิ่งอ่ะค่ะ!"

   "โกเฟอร์ อย่าขุดรู ไอ้บ้าตามฉันมา เจ้านั่นไม่ใช่นายแกนะ!"

   "..."

  นักเรียนเพิ่งผ่านการทำพันธสัญญากันเมื่อวานนี้เพราะฉะนั้น ความสนิทสนมกับสัตว์อสูรของตนอาจยังไม่มากนัก

  แน่นอนว่ามีนักเรียนบางคนที่ทำได้ดี

  หลังจากเสียงนกหวีดดังขึ้น ฟู่หยุนเฟยและ เซียวเฟิงหูก็พุ่งออกไปราวกับลูกธนูที่แหลมคม

   ตามมาทันทีคือ หลี่ซิ่วหยู และนักเรียนคนอื่น ๆ อีกหลายคน

  เฉินเหวิน และ เหอเซิ่งต่างจับลูกหมีน้อยของตัวเองและเริ่มวิ่งตามกันไป แต่ทว่าเจ้าหมีสีน้ำตาลและ เจ้าหมีกินเหล็กต่างก็ไม่รู้จักความเร็ว จึงได้แต่เดินต้วมเตี้ยมทีละก้าวเหมือนเด็กหัดเดิน ดังนั้นพวกเขาจึงรั้งท้ายของทีมอย่างรวดเร็ว

  ทั้งสองไม่รีบร้อน พวกเขาคุยกันระหว่างวิ่ง...

   ท้ายที่สุดมันก็เป็นแค่การวอร์มอัพ.... ไม่เป็นไร!

  อาโป และ เซิ่งเอ๋อ ยังคงเป็นลูกหมีตัวน้อย และพวกมันก็เหนื่อยหอบหลังจากวิ่งสี่รอบ

เซิ่งเอ๋อเริ่มเดินช้าลงและ หอบอย่างหนัก....

อาโปแย่กว่านั้นคือมันล้มตัวลงนอนลงบนพื้นอย่างหมดแรง

   เมื่อเห็นว่าอาโปกำลังจะหลับ เฉินเหวินรีบให้กำลังใจมัน: "พยายามเข้าอาโป รอบสุดท้ายแล้ว!"

  เมื่อได้ยินเช่นนี้ อาโปก็ไม่ได้ฮึดสู้แต่อย่างใด จากนั้นตาของมันก็เริ่มปิดลงอย่างช้าๆ

  เฉินเหวินไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้คำขู่

   "อาโป ถ้านายยอมแพ้ ฉันจะให้นายกินพริกเป็นอาหารเย็นแน่!"

  เมื่อนึกถึงความฉุนที่ติดปลายลิ้นของมันเมื่อคืนนี้ อาโปก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที

  หลังจากกินพริกเมื่อคืนนี้ ลิ้นของมันดูเหมือนชา และตายด้านไปพักใหญ่ ซึ่งอาโปจำจนขึ้นใจว่าจะไม่แตะต้องมันอีกต่อไป

  เมื่อมองไปที่เฉินเหวินอย่างขมขื่น อาโปก็ฮึดสู้อีกครั้ง เดินและคลานเฮือกสุดท้าย

  เมื่อเห็นอาโปรวบรวมพลังพร้อมกับการก้าวเดินอีกครั้ง เหอเซิ่งจึงถามด้วยความสงสัย: "เฮ้ย..เฉินเหวินเจ้าสัตว์อสูรกินเหล็กนั้นมันกลัวพริกงั้นเหรอ ดีๆ ฉันจะได้เอามาขู่เซิ่งเอ๋อเวลามันดื้อบ้าง"

   เฉินเหวินยักไหล่และไม่พูดอะไร.......

  เมื่อคืนหลังจากที่อาโปกินพริกเข้าไป จากนั้นมันก็ไม่เข้าใกล้พริกอีกเลย

  ซึ่งจากการปรากฏตัวของงูธนูเผยก็ให้เห็นจุดอ่อนของมันโดยตรง....

   ไม่นานรอบสุดท้ายก็ใกล้เข้ามาแล้วเหอเซิ่ง เซิ่งเอ๋อ และเฉินเหวินก็จบ 20 เมตรสุดท้าย

  อาโป มองกลับไปที่เฉินเหวิน ราวกับขอร้อง และอยากตะโกนว่า

   มันเหนื่อยจริงๆ

  เฉินเหวินชำเลืองมองเพื่อนร่วมชั้นสองสามคนที่ยังอยู่ข้างหลัง พยักหน้าและพูดว่า "ฉันจะไม่หนี.."

  จบคำพูดของเฉินเหวิน แต่ทันใดนั้น...แขนขาของอาโป ก็หยุดเคลื่อนไหวทันที

   “ฉันบอกว่าฉันจะไม่หนี แต่ฉันไม่ได้บอกว่าฉันจะไม่ขยับ!”

   “อาโป ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!”

  อาโป ได้ยินคำพูดนั้นลืมตาขึ้นและมองไปที่ เฉินเหวินด้วยสายตาที่เจ็บปวด

   “คืนนี้ฉันจะให้ของอร่อยๆ กับนาย!”

  เมื่อได้ยินถึงอาหารอร่อยๆ อาโปก็น้ำลายไหล และรู้สึกว่ามันมีแรงอีกครั้ง

   “อาโป เดินต่อไปเถอะ!”

  ในขณะที่สื่อสารกับอาโปเฉินเหวินทำท่าทางเดินขณะเดิน

   การเดินสองขาที่บ้านไม่ใช่เรื่องยากสำหรับอาโป เพราะจากที่นอนมาที่โต๊ะอาหารเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น แต่นี่......

   หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว อาโปรู้สึกว่าการเดินช้าๆ เป๋ไปเป๋มาจะง่ายกว่าสำหรับมัน ดังนั้นมันจึงยืนขึ้นพร้อมกับประคองต้นขาของเฉินเหวิน

  เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉินเหวินวางมือลงและจับมือสั้นๆ ไว้......

   จากนั้นหนึ่งคนและหนึ่งหมีก็จับมือกันเดินไปที่เส้นชัย.....

ดังนั้น นักเรียนในชั้นเรียน บีสมาสเตอร์ได้ออกกำลังกายอุ่นเครื่อง 2,000 เมตรเรียบร้อยแล้ว

   พวกที่วิ่งเสร็จเร็วก็นั่งลง ส่วนพวกที่เพิ่งวิ่งเสร็จยืนก้าวขาสั่นๆ สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือสายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่เพื่อนร่วมชั้นและสัตว์อสูรของตนที่ยังวิ่งมาไม่ถึง.....

  เฉินเหวิน และอาโปจึงกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย

   ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาเคยเห็นปูก้ามดาบยักษ์ แกะเขาดาบ โกเฟอร์ และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ในหนังสือเรียน และตอนนี้สัตว์อสูรทุกชนิดที่อยู่ในตำราก็ปรากฏแก่สายตาทุกคนแล้ว

   สัตว์อสูรที่กินเหล็กนั้นหายากมากและหลายคนเพิ่งเห็นมันในวันนี้ครั้งแรก.....

  เมื่อเห็นอาโป ยืนขึ้นในขณะที่พยุงขาของเฉินเหวิน สาวๆ ก็ส่งเสียงเชียร์ทันที....

   “อาโปสู้ !”

  ขณะที่อาโป เดินโซซัดโซเซไปที่เส้นชัย ผู้คนจำนวนมากก็หันมาให้ความสนใจกับมันมากขึ้นเรื่อยๆ

   และส่งเสียงอุทานออกมา "กรี๊ดดดดด!อาโปเก่งที่สุดเลย..."

  ความจริงแล้วการจะทำให้สัตว์อสูรสี่ขาลุกยืน และเดินได้ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะพวกมันจะเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์เพื่อความอยู่รอด.....

  อย่างไรก็ตาม หากโลกแห่งความเป็นจริงถ้าท่องเที่ยวเจอแพนด้ายักษ์นอนบนกิ่งไม้ก็จะอุทานด้วยความตื่นเต้นกับความน่ารักของมัน

แต่ทว่า......ในโลกคู่ขนานเช่นนี้ แพนด้ายักษ์เป็นสัตว์ทีี่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน และมีมีในตำราเรียน!

ฉะนั้นแล้ว....ทุกอิริยาบถขออาโปก็ย่อมอยู่ในความสนใจของสาวๆ......เป็นเรื่องธรรมดา

  เมื่อได้ยินคำอุทานของสาว ๆ เฉินเหวินก็หัวเราะ

  แต่อย่างไรก็ตามคะแนนระบบไม่เป็นศูนย์อีกต่อไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด