ตอนที่แล้วตอนที่ 1029 ดูดกลืนพลัง เย่ว์หยางคลั่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1031 กำไรชีวิต

ตอนที่ 1030 คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือ โลกก็เป็นของเรา


เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขามีช่วงเวลาฝันที่เนิ่นนาน

ในฝันมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น  เขาเห็นผู้คนมากมาย สิ่งมีชีวิตบางอย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อน  สิ่งมีชีวิตบางอย่างซึ่งไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่รายล้อมอยู่รอบตัวเขา โลกแห่งความฝันนี้เป็นโลกที่น่าทึ่งเหลือเชื่อ  แม้จะเอาภาษาทั้งโลกมาอธิบาย ก็ไม่สามารถทำได้

ในโลกแห่งความฝัน เขารู้สึกว่าเขาอยู่ข้างๆ เด็กหญิงสองคน

พวกเธอยังเด็กและซุกซน

พากันกระโดดโลดเต้นอยู่ข้างสตรีสูงศักดิ์ ที่ไม่ต้องการจะหยุดการละเล่นสนุกของเธอ

มีหญิงสาวที่ดูคล้ายหญิงสาวสูงศักดิ์ยืนอยู่ข้างนางอย่างเงียบๆนางไม่พูดอะไร ไม่ว่าหญิงสาวสูงศักดิ์เดินไปทางไหน นางจะติดตามเหมือนเงาตามตัวหากนางมองกลับมาทางเขา นางจะยิ้มให้เขาโดยไม่พูด

มีคนหลายคนในโลกแห่งความฝัน  คนเหล่านี้คล้ายคุ้นเคย คล้ายไม่คุ้นเคย แต่ไม่สามารถระบุเรียกชื่อได้

คนเหล่านี้ทั้งบุรุษและสตรีเดินเคียงข้างกันโดยไม่หยุด  พวกเขาไม่สนใจคำถามคำทักทายของเย่ว์หยางและเมื่อเผชิญหน้าพวกเขา พวกเขาก็ผ่านไปโดยไร้รอยยิ้มโดยไม่หยุดพูดคุยจากนั้นจางหายไปด้านหลังเขา สิ่งมีชีวิตหายากมากมายที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเดินวนเวียนรอบๆ เย่ว์หยางบ้างก็บินอยู่เหนือศีรษะเขา บ้างก็ไล่กวดกัน สิ่งมีชีวิตในฝันนั้นส่วนใหญ่เชื่องและเป็นมิตรตัวที่เชื่องและมีเมตตาจะยิ่งแข็งแกร่งสวยงาม

น้อยนักที่แข็งแกร่งแล้วจะดุร้าย

แต่ทันทีที่เกิดการต่อสู้ขึ้นก็จะถูกเนรเทศออกสถานที่ที่ไม่รู้จักนี้

โลกในความฝันนี้ดูเหมือนเป็นโลกที่มีรายละเอียด ไม่อนุญาตให้ใช้กำลังกันอย่างง่ายดายตามอำเภอใจ

“นั่นคืออัญมณีสร้างโลกของข้าไม่ใช่หรือ?”  ในโลกแห่งความฝัน เย่ว์หยางพบโดยบังเอิญว่าอัญมณีสร้างโลกที่อยู่ข้างหน้าเขาแตกกลางอากาศและดูดซับพลังงานอย่างต่อเนื่อง เมื่อเย่ว์หยางก้าวเข้าไปอยู่ในมิติว่างที่แตกสลายเขาต้องรู้สึกประหลาดใจกับความใหญ่โตของมัน มิติว่างที่แตกสลายใหญ่โตเกินจินตนาการมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่สัมผัสรู้ด้วยจิตวิญญาณ

เขารู้สึกว่ามิติว่างที่แตกสลายนี้ถ้าถือว่าทวีปมังกรทะยานเป็นจุดๆหนึ่ง อย่างนั้นสามารถใส่จุดลงไปได้นับสิบล้านหรือร้อยล้านจุด

เขาเข้าไปในมิติว่างที่แตกสลาย

เย่ว์หยางยิ่งพบความน่าอัศจรรย์ยิ่งกว่า  นอกจากมิติว่างแตกสลายแล้ว  มีจุดอยู่ทุกที่ในโลกแห่งความฝันแต่ขนาดแตกต่างออกไป มีทั้งที่ใหญ่กว่าและเล็กกว่ามิติว่างที่แตกกระจาย  หากดูจุดที่นับไม่ถ้วนเหล่านี้จากระยะไกลจุดเหล่านั้นจะกระจุกรวมตัวเป็นบอลแสง สามารถยืดขยายได้ เมื่อขยายไปถึงขีดจำกัด  แสงทรงกลมเหล่านี้จะถูกรวมเข้าเป็นทะเลแสงขยายออกไปไม่มีที่สุด

ไม่มีทางอื่น ยกเว้นต้องเจียมตนและทำตัวเล็กน้อย  เย่ว์หยางไม่มีทางแสดงความรู้สึกอื่น

อย่าว่าแต่คนๆ เดียวเลยต่อให้เป็นโลกเทียบกับระบบขนาดใหญ่อย่างนั้นก็ยังเล็กเหมือนเม็ดทราย

มีจุดแสงที่มากกว่าเม็ดทราย..บอลแสงที่เกิดจากจุดแสงนับไม่ถ้วน และทะเลแสงที่เกิดจากบอลแสงอีกนับไม่ถ้วน...ทุกอย่างเคลื่อนไหวอยู่ภายใน หากเพ่งมองสถานที่หนึ่งเย่ว์หยางจะพบว่าบางจุดแสงหรือบางบอลแสงคล้ายกับอักขระรูนโบราณส่วนบอลแสงและทะเลแสงกลับมองดูคล้ายอักขระรูนอมตะในตำนาน

(จุดแสง = ดาว, โลก, บอลแสง = จักรวาล, ทะเลแสง = ทางช้างเผือก)

เมื่อเย่ว์หยางเข้าใจและเข้าถึงจุดนี้แล้วโลกที่ยิ่งกว่าเม็ดทรายพลันพุ่งเข้าหาเย่ว์หยางทั้งหมด

ความรู้นับไม่ถ้วนและพลังงานมากมายพรั่งพรูเข้ามาในมิติว่างกระจัดกระจายที่เย่ว์หยางอยู่

ทันใดนั้นมิติว่างทั้งหมดถูกบรรจุจนเต็ม

เย่ว์หยางรู้สึกเจ็บปวดในหัว ปานว่าหัวแทบระเบิด

แม้เมื่อก่อนหน้านี้เขาได้รับตกทอดความรู้แต่ก็ไม่มีความรู้สึกรุนแรงจนหัวแทบระเบิดในทันทีสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดก็คือสมองเย่ว์หยางสามารถรองรับความรู้ตกทอดจากพี่สาวแม่สี่และสำนึกเทพจากโลกพฤกษา ก็ยังแทบไม่สามารถทนได้แม้แต่สองสามวินาที    เย่ว์หยางประมาณการว่าความสามารถของบอลแสงมากมายอาจระเบิดตัวเขาเองได้  แต่มีบอลแสงนับไม่ถ้วนและทะเลแสงอีกมากมาย...เย่ว์หยางตกใจหนัก ถ้ายังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปชีวิตของเขาจบสิ้นแน่

อัญมณีสร้างโลกที่อยู่ในมือพลันส่องแสงระยิบระยับทันที

มันซึมซับพลังงานและความรู้ไร้ขีดจำกัดที่ท่วมท้นเข้ามาไว้แทนเย่ว์หยาง

ทั้งยังมีคัมภีร์อัญเชิญไม่ทราบว่าลอยออกมาเองตั้งแต่เมื่อใดอสูรโลกยังคงดูดซับพลังงานและความรู้อย่างบ้าคลั่งทั้งย่อยสลายและเติบโตก้าวหน้าด้วยความเร็วที่น่าตระหนกเห็นได้ด้วยตาเปล่าที่ด้านหลังเย่ว์หยางดูเหมือนจะอีกบางสิ่งที่ซึมซับความรู้และพลังงานเข้ามาในร่างเย่ว์หยาง  แต่เย่ว์หยางไม่สามารถค้นหาพบ  นั่นคืออะไร? สมบัติวิเศษ? อสูรพิทักษ์? ไม่, บางทีอาจเป็นคัมภีร์อัญเชิญเล่มที่สองที่เขาไม่เคยอัญเชิญได้สำเร็จ  คัมภีร์เทพฤทธิ์ที่เขาเห็นด้วยตนเอง!

ใช่แล้ว มันกำลังเปลี่ยนแปลงความกดดันที่ตัวของเขา

เย่ว์หยางต้องการหันกลับไปดู

อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากจากการหลอมรวมภายในครั้งใหญ่ทำให้เขากระพริบตายังไม่ได้อย่าว่าแต่หันหน้าไปมอง

ภายใต้แรงกดดันจนร่างแทบระเบิด  แม้ว่าจะมีการเบี่ยงเบนแบ่งเบาไปได้แต่แรงกดดันก็ยังเหลือเชื่อ สติสัมปชัญญะของเย่ว์หยางค่อยๆ ดับลงไม่ต้องพูดถึงการรับพลังงานและความรู้จากทะเลแสงและบอลแสงนับไม่ถ้วน  ที่สำคัญบอลแสงลูกหนึ่งก็มีจุดแสงคงอยู่ยิ่งกว่าเม็ดทราย แต่ละจุดแสงขนาดเท่ากับโลกมิติว่าง  “ทำไมข้าถึงทำอย่างนี้? ทำไมถึงยอมรับการหลอมรวมภายในจากพลังงานและความที่อยู่ในบอลแสงและทะเลแสงนับไม่ถ้วน?”

เย่ว์หยางไม่อาจเข้าใจได้

ชั่วขณะก่อนที่เขาจะหมดสติเขารู้สึกว่ามีมือข้างหนึ่งกดลงที่ศีรษะของเขา

มีพลังงานอ่อนหยุ่นพุ่งเข้ามาในจิตวิญญาณของเขาความรู้สึกนั้นเหมือนช่วยให้เย่ว์หยางเปิดสมองทันทีและขยายความสามารถของขอบเขตสมอง ทำให้ความรู้สึกปวดสมองบรรเทาเบาบางลง

ใครกัน?

ใครช่วยเขา?

เมื่อจิตสำนึกของเขารู้สึกสายเกินกว่าจะคิดเย่ว์หยางหมดสติทันที

กระทั่งเขาตื่นขึ้นและลืมตาเขาพบว่าตนเองนอนอยู่ในอ้อมแขนหลิวเย่ นางกำลังร่ำไห้อย่างหนัก

ในท้องฟ้าลายถักทอแสงด้านบนยังคงมีอยู่แต่แกนกลางพลังงานหายไปแล้ว เหมือนกับว่าไม่เคยมีปรากฏมาก่อน นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงนี้เย่ว์หยางยังรู้สึกว่าอาณาจักรจิตวิญญาณในตัวของเขาอัญมณีสร้างโลกวิ่งไปอยู่ในที่แห่งหนึ่ง และดูเหมือนว่ามันจะมาพร้อมกับโลกที่ไม่ใช่มิติว่างพังทลายอีกต่อไป

ในนั้นเขาไม่รู้ว่าโลกที่ว่างเปล่านั้นกำลังเยียวยาตนเองอย่างช้าๆ แต่ส่วนที่แตกหักพังทลายลดจำนวนลง

เขาไม่รู้ว่าพลังปั่นป่วนถูกเก็บอยู่ที่นั่นอย่างเงียบงัน

ที่นั่นใหญ่มากจนเย่ว์หยางไม่กล้าเคลื่อนไหวโดยพลการ

เพราะกลัวว่าเคลื่อนไหวโดยพลการจะไปกระทบกลไกที่น่ากลัวส่งผลกระทบกระเทือนเลวร้ายยิ่งกว่าโลกถล่ม...มีพลังงานปั่นป่วนมากมาย มีทั้งโลกมิติว่างที่พังทลายขนาดใหญ่  และการรวมกันอยู่ของความคิดและจิตวิญญาณ เขาไม่ทราบว่าเมื่อมันมีวิวัฒนาการมาจากอัญมณีสร้างโลกเป็นวิวัฒนาการสมบัติระดับเทพ  เย่ว์หยางมีความรู้สึกทันทีเขาเป็นผู้สร้างโลกนี้ตราบใดที่เขาพอใจเขาสามารถใช้พลังปั่นป่วนสร้างทุกอย่างได้ตลอดเวลา

เพียงแต่น่าเสียดายที่เย่ว์หยางเองไม่มีความสามารถพิเศษในการครอบครองพลังงานปั่นป่วนนี้

ความรู้สึกนี้เหมือนกับเด็กเล็กที่เปิดโกดังสินค้าและพบว่าเขาเป็นเจ้าของทองคำสูงเป็นภูเขาเลากามากกว่าน้ำในทะเล และเขาสามารถสร้างวังทองคำได้ทุกเมื่อ แต่ตัวเขายังไม่สามารถสร้างได้เพราะเขายังเล็กและอ่อนแอ

“ตอนนี้ปล่อยไปก่อน สักวันก็คงได้”  เย่ว์หยางมักมองโลกในแง่ดีเสมอ

“ท่านตื่นแล้วหรือ?” หลิวเย่ในตอนนี้ค่อยรู้สึกตัวว่าเย่ว์หยางตื่นอยู่ในอ้อมแขนของนางนางตกใจร้องลั่น “ท่านไม่รู้ว่าข้าห่วงแค่ไหน ข้ากลัวแทบตาย...”

“ข้าหลับไปหลายวันหรือ?” เย่ว์หยางรู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่เหมือนเดิมแต่เขาไม่สามารถบอกได้โดยเฉพาะเจาะจงในขณะนั้น

“สามวัน!  ท่านหลับไปสามวัน  ไม่ว่าจะปลุกเรียกอย่างไรก็ไร้ผล ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวเหวินหลีและตั่วตั่วอยู่ด้วยและแม่นางปิงหยินบอกว่าท่านไม่เป็นอะไร และบอกข้าไม่ให้เคลื่อนไหวโดยพลการ   ข้ากลับไปหาจักรพรรดินีเทียนฟาและนางบอกว่ารู้สึกผิด”  หลิวเย่เดี๋ยวร้องเดี๋ยวหัวร่อแต่เมื่อนางเห็นเย่ว์หยางฟื้นขึ้นมาอีกครั้งนางคิดว่าดีกว่าอะไรทั้งหมด นางรู้ว่าการล่าขุมทรัพย์เป็นอันตรายอย่างยิ่งนางไม่เห็นด้วยที่เย่ว์หยางจะไล่ล่าขุมทรัพย์โบราณแม้ว่านางจะมากับเขาแต่นางไม่เห็นด้วยที่เขาจะบุกเข้าไปยังแกนกลางพลังงานของอักขระรูนโบราณ

“ฮะฮะโง่ไปได้  ข้ามีวิธีทำได้  ก็แค่หลอมรวมเข้ากับอักขระรูนโบราณแล้วก็หลับไปเท่านั้น!”  เย่ว์หยางหัวเราะอย่างสบายๆ  และยื่นมือลูบศีรษะหลิวเย่เบาๆเช็ดน้ำตาที่หน้านาง

“ก็ข้าห่วงมากจริงๆนะ!”  หลิวเย่อายและขอโทษเบาๆ

รอจนเย่ว์หยางลุกขึ้นนั่งก็พบว่าร่างของเขามีอักขระรูนโบราณนับไม่ถ้วนกระพริบแสง

ความฝันทั้งหมดเป็นจริงหรือ?

หรือว่าร่างกายของเขากลืนแกนพลังงานอักขระรูนโบราณที่ทอกันเป็นชั้นๆ? คนเหล่านั้นและสิ่งที่เขาพบในความฝันเป็นความทรงจำประวัติศาสตร์ในยุคโบราณ

สาวกิเลนปิงหยินนางต้องปรากฏตัวแน่  สองพี่น้องหงส์เพลิงดูเหมือนจะปรากฏ

เทพธิดากระบี่ฟ้าดูเหมือนจะใช้ปราณกระบี่ช่วยเขา?

เย่ว์หยางไม่แน่ใจ!

นอกจากนี้อัญมณีสนามพลังสร้างโลกและคัมภีร์อัญเชิญและคัมภีร์เทพฤทธิ์ที่อยู่เบื้องหลังเขาเล่า?

ในที่สุดใครคือคนที่กดมือลงที่กระหม่อมเขาเพื่อเปิดพลังสมองก่อนเขาจะหมดสติไป?

เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด จริงหรือเท็จ?

เย่ว์หยางยิ่งสับสนมากขึ้นทุกขณะ  แต่ด้วยนิสัยคร้านที่จะคิด  เขาจะไม่คิด สักวันความจริงจะปรากฏ

คัมภีร์เทพฤทธิ์เรียกออกมาไม่ได้ในสภาพที่เย่ว์หยางมีสติสมบูรณ์อัญมณีสร้างโลกระดับเทพก้าวหน้าในระดับใหม่มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่อย่างชัดเจน  แต่เขาเห็นโลกมิติว่างที่แตกพังบรรจุเก็บไปด้วยพลังปั่นป่วน  เย่ว์หยางมองเห็น แต่ไม่กล้าลงมือโดยพลการ  เขากลัวว่าเมื่อเคลื่อนไหวแล้วจะควบคุมบังคับไม่ได้

สิ่งเดียวที่เขาสามารถนำออกมาดูได้ก็คือคัมภีร์อัญเชิญของเขาเอง

เรื่องที่เกิดขึ้นในฝันจริง หรือเท็จ?

เย่ว์หยางเหยียดมือและนึกเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมา  ผลก็คือเกิดแสงสว่างเจิดจ้าหลากสีสันคัมภีร์อัญเชิญที่ลอยอยู่เปล่งรัศมีเจิดจ้าหลากสีสัน  “คะ คัมภีร์..ชั้นศักดิ์สิทธิ์?”  เย่ว์หยางตะลึงมองดูคัมภีร์อัญเชิญของตนคล้ายคุ้นเคย คล้ายไม่คุ้นเคย

คัมภีร์อัญเชิญของตัวเขาเองพัฒนาเปลี่ยนไปเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่เมื่อใด?

เย่ว์หยางไม่รู้เลยแม้แต่น้อย

นอกจากนี้มองดูคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของเขาเอง  คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดินีฟ้าหลังจากที่นางตายจื้อจุนที่เอาชนะนางได้หลอมรวมคัมภีร์ตนเองกับคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดินีฟ้าเลื่อนคัมภีร์ของนางเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์แทน  คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวปีศาจโบราณ  คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของซิวคงคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของหมิงเยี่ยกวง พวกสามจอมภพแดนสวรรค์ และช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่นานนี้คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวสุริยาขณะที่เย่ว์หยางได้เห็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีหลายครั้ง  แต่ก็ไม่เหมือนกัน

ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยางเรียกคัมภีร์ออกมาอย่างกะทันหันเขาอาจเข้าใจเอาเองว่านี่คือคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ดั้งเดิมมิฉะนั้นอาจสงสัยว่านี่คือคัมภีร์เทพ!

พลังของคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์นี้มากเกินไปหรือเปล่า?

ทันใดนั้นเย่ว์หยางอดปลื้มใจมิได้  ‘มีคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือโลกก็เป็นของเรา’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด