ตอนที่แล้วตอนที่ 1018 กล้าเริ่มก้าวเท้าออกไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1020 เจ้าทำให้ข้าผิดหวังมาก!

ตอนที่ 1019 นี่จะเป็นการเดินทางที่สนุก!


วันต่อมายังไม่ทันสว่างดี

ชิงผิงมาเคาะประตู สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจก็คือคนที่เปิดประตูไม่ใช่หลิวเย่แต่เป็นบุรุษคนหนึ่งสวมแว่นตาดำ ถ้ามองดูแต่หน้าที่สวมแว่นตาดำปกปิดตา ก็ดูค่อนข้างลึกลับ แต่พอมองดูทั่วตัวกลับทำให้ชิงผิงกลัว เพราะบุรุษประหลาดไม่ได้สวมเสื้อ และร่างกายท่อนล่างสวมใส่กางเกงชายหาดเท้าเปล่าเดินอยู่บนพรมขาว  นางเห็นเขาหลั่งเหงื่อโชกเต็มตัว  ชิงผิงตกใจคิดว่ามาผิดห้อง

นางย้อนกลับไปเล็กน้อยเพื่อดูหมายเลขห้องและพบว่านางไม่ได้มาผิดที่  นางถึงกล้าถาม “ท่านคือ....”

“อา..เจ้าคือแม่นางชิงผิงที่เราเจอเมื่อตอนนั้นไม่ใช่หรือ? ยินดีต้อนรับ  สองสามวันก่อนข้างานยุ่งไม่มีโอกาสได้พบกับแม่นางชิงผิงเลย ไม่นึกเลยว่าจะมีโอกาส”  ทันทีที่บุรุษคนนี้พูด ชิงผิงจำเขาได้ทันทีกลับเป็นเจ้าหนุ่มหน้าขาวที่ทำให้นางไม่สบายใจจนนอนไม่หลับเมื่อคืน

ถอดหน้ากากเงิน

สวมแว่นตาดำ ทำให้นางแทบจำเขาไม่ได้

ตอนนี้เมื่อเห็นเจ้าคนลามกนี่นางเกลียดเขาจริงๆ นี่นางนอนไม่หลับเพราะคนแบบนี้หรือนี่?

ในใจชิงผิงนางต้องการจะหันหลังกลับและนึกถึงว่าการเปรียบเทียบองค์ชายเทียนหลัวกับเจ้าผู้หยาบคายนี้เป็นการไม่สมควร

“น้องหลิวเย่อยู่ไหน?”  ชิงผิงระงับความรู้สึกอยากต่อยเขาแล้วถามขึ้น

“นางยังฝึกอยู่ อย่าไปห่วงนางเลย  เรามาคุยกันสองคนก็ได้” เย่ว์หยางรู้สึกเหมือนเป็นสุนัขป่าที่พบกับลูกแกะ

“ข้ามีนัดกับพวกองค์ชายรอจะไปเที่ยวทะเลหมอกด้วยกัน คงจะดีมากถ้าเจ้ามาเที่ยวด้วยกัน คนยิ่งมากก็ยิ่งสนุก!” ชิงผิงคิดว่าคนผู้นี้หน้าหล่อขาว ถ้าสามารถลอกหน้าคนผู้นี้มาสลับเปลี่ยนหน้ากับเย่คงนั่นจะดีเพียงไหน  เพื่อให้ภารกิจสำเร็จ นางไม่ต้องการจะยิ้มหวานต่อเจ้าผู้นี้เลย  ทั้งอยากด่าว่า ‘เจ้าลามกผู้น่าตาย’ แต่นางก็ยังยิ้มหวาน เป็นเรื่องยากนักที่จะเช่าเรือท่องเที่ยวเลิศหรู  ทุกวันนี้เป็นช่วงที่มีคลื่นหมอกควันมากและกระแสน้ำอุ่น  ถ้าไม่ไปเที่ยวคงน่าเสียดาย  นี่ไม่สุภาพเลยนะ  จะให้ข้ารออยู่อย่างนี้หรือ น้องหลิวเย่จะฝึกเสร็จเมื่อใด?”

“ดูเหมือนนางจะเข้าถึงสนามพลัง...คาดว่าคงไม่มีเวลาไปเที่ยวที่ไหนในช่วงวันสองวันนี้  ไม่ต้องห่วงนาง  มีหลายอย่างที่เราไม่ควรรบกวนนาง”  เย่ว์หยางบอกว่าหลิวเย่ไม่ว่างและชิงผิงลอบดูถูกเขาในใจ ระแวงว่าเขาไม่ยอมปล่อยไปนางไปมากกว่า?

“เหรอ? นางช่างขยันจริงๆ!” ชิงผิงยิ้มหวานยิ่งกว่าน้ำตาล แต่ในใจนางโกรธจนอยากจะฆ่าเจ้าคนลามกข้างหน้านี้

มีนางจะไม่รู้สึกสะดวกหรือเปล่า?

เมื่อได้ยินก็เข้าใจความคิดเขาผิดๆ  พระเจ้า! นางรู้ว่าหลิวเย่เป็นสาวน้อยที่บริสุทธิ์ ขยันทำไมนางต้องมาฟังเจ้าลามกนี่พูดด้วย!

คนอย่างนี้เป็นครูบาอาจารย์คนได้อย่างไร?  ถ้าขืนมีคนลามกอย่างเจ้าผู้นี้เป็นอาจารย์นับเป็นความโชคร้ายของนักเรียน... แน่นอนว่าชิงผิงแค่คิดในใจ แต่ไม่พูดออกมา ได้แต่ยิ้มเหมือนบุปผาแรกแย้ม  อย่างไรก็ตามมีรอยเหยียดหยามอยู่ในสายตาที่เหมือนคมมีดนั้นเล็กน้อยคาดว่าต่อให้เย่ว์หยางมีสิบชีวิตก็ต้องถึงจุดจบ

เย่ว์หยางบอกว่าหลิวเย่ไม่ว่างและชิงผิงจะไปแทนนางก็ได้เลย

เขาไม่รอให้ชิงผิงเปลี่ยนใจ รีบเอาชุดสวยงามเต็มไปด้วยลวดลายต่างๆ  ชุดที่มีมีลวดลายสวยงามนั้นเป็นชุดแนบเนื้อทำให้เกิดเสน่ห์ดึงดูดในทุกท่วงท่าอิริยาบถ

เดิมทีเมืองไป๋เหอไม่อนุญาตให้สวมใส่เสื้อผ้าที่เผยจุดสำคัญของสตรีสามจุด แต่ชุดนี้ออกแบบไว้อย่างฉลาดส่วนที่สำคัญของสตรีสามจุดถูกปิดคลุมไว้มิดชิด

เนื้อผ้าไม่ได้ผิดกฎ  แต่เสน่ห์เย้ายวนใจไม่ได้ลดลง  แม้ส่วนสงวนของสตรีก็ถูกปิดบังไว้เป็นอย่างดีแต่กลับทำให้คนรู้สึกว่าผู้สวมใส่มีเสน่ห์

ชิงผิงรับมาดู

ความสามารถออกแบบนับว่าไม่ธรรมดาสมกับเป็นตัวลามกอันดับหนึ่งของจักรวาล

“ชุดนี้งดงามมาก ท่านออกแบบเองหรือ?”  ชิงผิงถาม

“มันแน่อยู่แล้ว  นอกจากนักออกแบบผู้มีพรสวรรค์อย่างข้า  ใครจะออกแบบชุดงดงามอย่างนี้ได้!  ต่อไปข้าจะออกแบบให้เจ้าก็ได้ ถ้าได้สังเกตรายละเอียดและวัดขนาดเจ้าก่อน”   เย่ว์หยางภูมิใจจนไม่ได้สังเกตสีหน้าแปลกของชิงผิง

“อา..ขอบคุณ รอจนกว่าเจ้าว่างค่อยคุยกันอีกครั้ง!”  ชิงผิงรีบปฏิเสธ  ถ้าเขาให้นางสวมชุดที่ให้ความรู้สึกอย่างนั้นบางทีองค์ชายอาจสูญเสียความประทับใจที่มีต่อนาง ขณะที่บุรุษน้ำแข็ง และเย่คงคนหน้าซื่ออาจไม่พูดกับนางอีกต่อไป

“ข้ามีเวลาว่างตลอด  เจ้ามาหาข้าเมื่อใดก็ได้  กลางคืนก็ได้ ข้าไม่ค่อยกีดกันสาวงามอยู่แล้ว”  เย่ว์หยางพูดบางอย่างที่เป็นนัย

“ดูเจ้ากระตือรือร้นจริงๆ!” ชิงผิงไม่เพียงแต่ฟังเขาพูดผ่านๆ แต่ในใจยังคงเย้ยหยัน คิดว่าเสื้อผ้าแค่นี้จะทำให้นางประทับใจได้หรือ?  ยังไม่ต้องคิดถึงว่านางจะชอบองค์ชายเทียนหลัวหรือไม่ แม้แต่หนุ่มน้ำแข็งก็ยังดูดีมากกว่าเด็กหน้าขาวอย่างนี้  คนมากตัณหาอย่างเขาไม่มีใครสนใจแน่!  นอกจากเจ้าอ้วนโง่!

ตอนนี้นางเสียใจเล็กน้อยที่มาที่นี่

ถ้านางไม่มาโรงแรมกางเขนเหล็กเพื่อชวนหลิวเย่ไปเที่ยว  นางจะไม่มาวุ่นวายกับเจ้าหนุ่มหน้าขาว  นางคงมีเวลาที่สนุกสนานกับองค์ชาย,หนุ่มน้ำแข็ง และเจ้าผอมหน้าโง่แล้ว

ที่โชคร้ายที่สุดก็คือไม่ทันได้เชิญชวนหลิวเย่  แต่ปล่อยให้เจ้าเด็กนี่ติดตามมา ไม่รู้ว่าองค์ชายจะยอมรับเจ้าหนุ่มหน้าขาวนี่หรือไม่

เมื่อวานนี้นางไม่พบเจอเขา  เห็นแต่หลิวเย่ที่รีบปิดประตูส่งนาง  นางรู้สึกเสียใจเล็กน้อย  เมื่อมาพบนางวันนี้  กลับเป็นเช่นนี้

ความรู้สึกที่น่าอึดอัดใจเมื่อคืนนี้เป็นแค่ภาพลวงตานางรู้สึกเศร้าขนาดไหนที่ต้องสูญเสียคนแบบนี้ไป?

ถ้าน้องหลิวเย่หนีออกไปตอนนี้และฉุดดึงเจ้าหนุ่มหน้าขาวนี่กลับไป ก็คงโชคร้าย นางต้องการฝึกฝนอย่างหนัก... เจ้าเด็กหน้าขาวนี่ไม่ได้ฝึกอะไรเลยหรือ? บ้าบอจริงๆ คนอะไรออกแบบชุดราตรีแบบนั้นได้

ชิงผิงคิดว่าวันนี้นางอารมณ์ดีที่สุด  นางจะพาเย่ว์หยางไปด้วยและนางไม่ต้องลำบากกับการจัดการทีละคน ในที่สุดนางมาถึงท่าเทียบเรือตะวันออก

เฒ่าเถี่ยเหมา เจ้ากอริลลามนุษย์กุ้งและกะลาสีอื่นกำลังตะโกนบอกต่อเรือสำราญท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่ทอดสมอหันหน้ารับแสงทองยามเช้างดงามรอนักท่องเที่ยวซึ่งกำลังโดยสารรถเข้ามา นักท่องเที่ยวเหล่านี้มาจากเมื่อไป๋เหอเพื่อเยี่ยมชมทะเลหมอกในช่วงเวลานี้  มีแต่ช่วงเวลานี้ของปีทะเลหมอกจะงดงามที่สุดมีสีรุ้งที่ยากจะพบเห็น

“ทางนี้, อรุณสวัสดิ์องค์ชาย  คุณชายทันหลาง คุณชายเย่!” ชิงผิงใช้เวลากับเย่ว์หยางไม่กี่นาทีก็มาถึงท่าเรือตะวันออก เมื่อเห็นเจ้าอ้วนไห่เย่คงลงรถไฟที่สถานีท่าเรือตะวันออกนางปล่อยเย่ว์หยางฝ่ากระแสผู้คนไปพบใครบางคนด้วยความตื่นเต้น

“อรุณสวัสดิ์ ชิงผิง!”  เจ้าอ้วนไห่ส่งเสียงดังยิ้มกว้างขณะกินซาลาเปาเนื้อไปด้วย

“เฮ้, เจ้าอ้วน เจ้าก็มาด้วยเหรอ” ชิงผิงแสร้งทำเป็นพบเจ้าอ้วนไห่ แต่สาปแช่งอยู่ในใจ!

“เจ้าผู้นี้ใครกัน? น่าเกลียดอย่างนี้ยังกล้าออกไปข้างนอกด้วยหรือ?”  เมื่อเจ้าอ้วนไห่เห็นเย่ว์หยางเขาหงุดหงิดทันที ชูกำปั้นรี่เข้าหาเหมือนต้องการหาเรื่อง

“เจ้าไม่รู้จักกันหรือ?”  ชิงผิงประหลาดใจเล็กน้อย

“ใครจะรู้จักเจ้างี่เง่านี่!” เย่ว์หยางเตะเจ้าอ้วนไห่ล้มลงกับพื้น แล้วชิงซาลาเปาเอามาใส่กระเป๋าเก็บไว้กินต่อฝีมือหยิบสิ่งของของเขานั้นดูเชี่ยวชาญ คาดว่าฝึกฝนมาไม่เกินสิบปีเป็นไปไม่ได้ที่จะมีฝีมือถึงระดับนี้ได้ ชิงผิงตะลึงอยู่ชั่วครู่นางเห็นเย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่มีสีหน้าเหมือนคนไม่สนิทกันเฉยเมยก็ตัดสินได้ว่าพวกเขารู้จักกัน เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน

ชิงผิงสังเกตอยู่นานและพบว่าเจ้าเด็กหนุ่มหน้าขาวมีสัมพันธ์ที่ดีกับเสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัว  มีสัมพันธ์ธรรมดากับเย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่มีสัมพันธ์กับเจ้าอ้วนไห่เหมือนกับเป็นศัตรู

แน่นอนว่าเหตุผลที่องค์ชายเทียนหลัวทักทายเจ้าเด็กหน้าขาวอาจเป็นเพราะได้รับการอบรมมารยาทมาอย่างดีไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน! แต่ที่แน่ก็คือคนกลุ่มนี้รู้จักกันและคงมาจากถิ่นเดียวกันแน่นอน

เจ้าอ้วนไห่ลุกขึ้นจากพื้นอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ เปลี่ยนเป็นคนอื่นคงรู้สึกอายขายหน้าต่อสาธารณชน    แต่เขาตะโกนขึ้นอย่างไม่สนใจ  “น้องหลิวเย่ของข้าอยู่ที่ไหน?  ทำไมนางไม่มาด้วย?”

“อะไรนะ, หลิวเย่เป็นน้องสาวเจ้าหรือ?  บังอาจ! นางเป็นศิษย์ของข้า!” เย่ว์หยางทำท่าขยับเท้าขู่ขวัญจนเจ้าอ้วนไห่จนถอยหลังกรูดดด

“ไม่จำเป็นต้องพูดเลยเจ้าไม่ยอมให้นางออกมาเที่ยว” คำพูดของเจ้าอ้วนไห่ทำให้ชิงผิงเห็นด้วยเป็นครั้งแรก

นางก็คิดแบบนี้เหมือนกัน

ต้องเป็นตัวลามกใหญ่นี้ที่เข้มงวดกับหลิวเย่ ดังนั้นเขาไม่ยอมปล่อยให้นางออกไปเที่ยวทะเลหมอกพร้อมกับทุกคน

การฝึกฝนเพื่อเข้าใจสนามพลังนั่นเป็นเรื่องอ้างโกหก

สาวน้อยอย่างหลิวเย่จะมีพลังถึงขนาดเข้าใจเรื่องของสนามพลังได้ยังไง?  นางโง่พอให้เขาหลอกได้อย่างไร? ทัศนคติที่นางมีต่อเย่ว์หยางเปลี่ยนเป็นเลวร้ายกว่าเดิม! คนแบบนี้นอกจากหน้าตาดีแล้วไม่มีอะไร!  ถ้าหน้าตาของเขาเปลี่ยนได้กับเย่คงบุรุษน้ำแข็งและองค์ชายได้ก็คงเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรสูญเปล่า!

เย่ว์หยางแค่นเสียงย้อนคำถามเจ้าอ้วนไห่  “เจ้าดีแต่ผายลม  ข้าปกป้องหลิวเย่นางยังเป็นลูกศิษย์ของข้า ข้าทรมานนางหรือไง? นางยังเยาว์วัย ยังไม่เข้าใจว่าหัวใจของมนุษย์นั้นน่ากลัวเพียงไหน เป็นเรื่องอันตรายที่จะพานางไปขึ้นเรือเที่ยวเล่นด้วย!”

เจ้าอ้วนไห่ไม่ค่อยมั่นใจ  “นอกจากเจ้า ใครอื่นยังจะหลอกนางได้!”

“เจ้าอ้วนบ้า, คันเนื้อคันตัวมากนักใช่ไหม?  หรือว่ากำลังหาเรื่องตาย...”

“สู้กันก็เหมือนกับได้กินอาหารนั่นแหละ!”

“ทำไมเจ้าไม่แกล้งตายอีกเล่า?  มิฉะนั้นเราคุณชายจะแล่เนื้อไขมันเจ้าแล้วทอดเอาน้ำมัน!”

“ข้ากลัวจริงๆ ถ้าเจ้าเคลื่อนไหวเล็กน้อย ข้าจะแอบย้อนกลับไปเปิดประตูบ้านของเจ้า!”

ชิงผิงต้องการไกล่เกลี่ยให้พวกเขาแต่ก็พบว่าเย่คงและพวกทำเหมือนว่าเรื่องทะเลาะวิวาทกันนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่เห็นได้ทั่วไปนางได้แต่ถอนหายใจ การทะเลาะกันของคนพวกนี้เป็นเรื่องปกติ! ขณะที่นางยังไม่ได้ตรวจสอบตั๋วโดยสารนางยังคงคุยกับเย่คงและคนอื่น เมื่อองค์ชายเทียนหลัวชมกระโปรงสีเขียวอ่อนของนางว่าน่าสนใจ นางทำเขินอายบอกว่าได้เมื่อตอนวันเกิดครบสิบหกปีตอนนี้ค่อนข้างสั้นเล็กน้อย

ทันทีที่นางพูดถึงเรื่องเสื้อผ้า เย่ว์หยางเหยียบเจ้าอ้วนไห่และรีบเข้ามาร่วมวงสนทนาทันที“กระโปรงสั้นตรงไหนกัน?  กระโปรงปิดเข่าข้าว่ามันยาวเกินไป! กระโปรงสั้นคืออะไร ต้องพูดถึงกระโปรงสั้นจิ๋วในตำนาน”

เมื่อเจ้าอ้วนไห่ได้ยินคำว่ากระโปรงสั้นจิ๋วตาของเขาเป็นประกายเหมือนหมาป่าทันที “กระโปรงสั้นจิ๋วในตำนานคืออะไร?”

เย่ว์หยางพึมพำ  “นั่นคือกระโปรงที่สั้นมากๆ  กล่าวกันว่ามีแต่คนระดับเจ้าพ่อเท่านั้นที่เห็นได้”

“เจ้าพ่อ?” เจ้าอ้วนไห่ถาม เจ้าพ่อนี้คือเทพม้าหรือเปล่า?

“กล่าวกันว่าเจ้าพ่อเป็นคำเรียกของภาษาลับโบราณหมายถึงสุดยอดนักสู้ที่หายสาบสูญไปนานมาก” เย่ว์หยางเย่ว์หยางอวดภูมิรู้ที่คนอื่นไม่มีทางรู้ได้อย่างแท้จริง  นี่เป็นความรู้จากโลกก่อน

“เจ้าพ่อนี้ ก็เหมือนกับเทพเจ้า....”  เจ้าอ้วนไห่เสนอหน้าทันที  “ข้าอยากเป็นเจ้าพ่อบ้าง จะได้มองดูกระโปรงสั้นจิ๋วให้เต็มตา!”

“ดูเหมือนสวะอย่างเจ้าน่ะหรือ?ในสมัยเด็กเจ้าไม่รู้จักอ่านเรียนให้ดี แล้วอยากจะเป็นเจ้าพ่อน่ะหรือ?  เจ้าอยากเห็นกระโปรงสั้นจิ๋วจริงๆ หรือ?  ประสาทจริงๆ เด็กๆ!  ต่อไปพวกเจ้าต้องเตือนเจ้าอ้วนนี่อย่าให้ได้พบจุดจบที่น่าอนาถอีก!” เย่ว์หยางเขกกะโหลกเจ้าอ้วนไห่ เหมือนเป็นการเตือนเย่คง เสวี่ยทันหลางองค์ชายเทียนหลัวว่าพวกเขาควรจะฝึกฝนให้หนักขึ้นทุกคนวัน

“ในโลกนี้มีกระโปรงสั้นจิ๋วจริงๆ หรือ?”  ชิงผิงไม่เคยได้ยินเรื่องทำนองนี้

“อะแฮ่ม,เจ้ารู้เรื่องการออกแบบเสื้อผ้ายุคโบราณแค่ไหน? เกี่ยวกับกระโปรงสั้นจิ๋วในตำนานนี้มีอยู่ในคัมภีร์โบราณชื่อว่า คัมภีร์ไซอิ๋ว  ข้าได้เห็นครั้งหรือสองครั้งแต่ข้ามีปัญหาในการทำความเข้าใจจนกระทั่งข้าได้เข้าใจว่านั่นเป็นเหมือนเสื้อผ้าเทพที่มีมาแต่โบราณดึกดำบรรพ์  จะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ จึงจะมีโอกาสได้ใส่”  เย่ว์หยางส่งสัญญาณให้ทุกคนฟังเรื่องราวของเขา

“โปรดอธิบายเพื่อคลายความเขลาเบาปัญญาให้เราด้วย!” เจ้าอ้วนไห่อดแสดงความนับถือไม่ได้

“คัมภีร์โบราณไซอิ๋ว  ทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน?”  ชิงผิงยังคงสงสัยอยู่ในใจ

“ไซอิ๋วกล่าวถึงเรื่องราวการต่อสู้กับโชคชะตาของวานรกำพร้าเป็นเรื่องไม่ยาวแต่น่าซาบซึ้งตรึงใจยิ่งนัก เมื่อเจ้าลิงตัวนี้โดดออกมาจากเขาห้าดรรชนีปรากฏตัวและไล่ฆ่าเสือแก่แล้วถลกหนังของมันมานุ่งเป็นกระโปรงสั้นหนังเสือ”  เจ้าอ้วนไห่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น  “โหว...กระโปรงต้องสั้นจริงๆ!  สามารถทำลายภูเขาห้าดรรชนีออกมาได้ฆ่าเสือแก่ เย็บเป็นกระโปรงสั้น เขาคือเจ้าพ่อใช่หรือเปล่า?”

“ไม่, เจ้าพ่อนั้นแข็งแกร่งอย่างที่ข้าไม่เคยพบเจอมาก่อน” เย่ว์หยางทำหน้าเสียดาย

“แล้วกระโปรงสั้นจิ๋วนี่เรื่องจริงหรือ?”  ชิงผิงเมื่อได้ยินเรื่องจริงเล็กน้อย นางสงสัยว่าเจ้าลามกผู้นี้ไม่น่าสามารถแต่งเรื่องราวที่ดีอย่างนี้ได้  จากนั้นนางถามต่อ  “เหมือนกับอะไร?”

“ความจริงเป็นภาพวาด  ข้าไม่เคยเห็น แต่ถ้าทำตามตำนาน ข้าต้องสิ้นเปลืองแรงกายแรงใจกว่าจะเลียนแบบได้เพียงไม่กี่จุด” เย่ว์หยางพูดอย่างไม่เห็นแก่ตัว“เมื่อข้าทำเสร็จข้าจะส่งรูปไปให้เจ้าดู คาดว่าถ้าอย่างเจ้าได้สวมใส่คงดูดีเป็นแน่”  เขาพูดจบ เจ้าอ้วนไห่ เย่คงปรบมือโห่ร้อง

“จริงหรือ? ข้าต้องขอบคุณไว้ก่อน...” แม้ว่าชิงผิงจะรู้สึกอึดอัดใจกับเย่ว์หยาง แต่นางอยากสวมใส่ชุดในตำนานจริงๆ

เฒ่าเถี่ยเหมาเดินเข้ามาหาและขออย่างสุภาพให้เย่ว์หยางกับพวกขึ้นเรือ  และจากนั้นเรือสำราญเปิดเสียงหวูดเรือ

การเดินทางไปทะเลหมอกเริ่มขึ้นแล้ว  การเดินทางจะเป็นเช่นไร?  จากรอยยิ้มบนใบหน้าของเย่ว์หยางเจ้าอ้วนไห่และเย่คงกับพวก ดูก็รู้ว่านี่เป็นการเดินทางที่สนุก

…………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด