ตอนที่แล้ว10. การเดินทางของลีน่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป12. การเปลี่ยนแปลงที่ซ่อนเร้น

11. การสังเคราะห์สายเลือดและสายเลือดศักยภาพระดับ 7 ดาว


หนิงซีเดินทางตามเส้นทางที่ลุงกริมม์แนะนำ ผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายสามแห่งจนมาถึงเมืองโตวฮวาง

ราคาสำหรับการใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายคือ 1 เหรียญทองต่อคนต่อครั้ง

หลังจากใช้ไป 3 เหรียญทอง หนิงซีก็กระเป๋าแห้งทันที

โชคดีที่อวตารสังหารสัตว์อสูรเวทย์ระดับต้นได้ 31 ตัว ได้รับแกนเวทมนตร์ขั้นต้น 9 อัน

และสายเลือด 2 สาย

หนิงซีคิดว่า เก็บแกนเวทมนตร์ไว้ก็ไม่มีประโยชน์

เขาเลยขายมันให้กับร้านค้าสายเลือดแบรด ได้รับเงิน 30 เหรียญทอง

ส่วนสายเลือดที่มี หนิงซีนำมาสังเคราะห์โดยตรง

[ใช้แต้มศักยภาพ 1 แต้ม สายเลือดแห่งหมียักษ์ผสานกับสายเลือดพังพอนสายฟ้า

กลายเป็นสายเลือดแห่งหมียักษ์สายฟ้า ศักยภาพ 4 ดาว]

[ใช้แต้มศักยภาพ 1 แต้ม สายเลือดแห่งหมียักษ์สายฟ้าผสานกับสายเลือดมดยักษ์

กลายเป็นสายเลือดแห่งหมีจอมพลังสายฟ้า ศักยภาพ 5 ดาว]

หลังจากที่สายเลือดกลายเป็นสายเลือดแห่งหมีจอมพลังสายฟ้า

พรสวรรค์ความแข็งแกร่งแห่งยักษ์ก็กลายเป็นสีทองและความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นถึง 200%!

นอกเหนือจากนั้น ยังมีความพรสวรรค์เพิ่มขึ้นอีกอย่างคือ อาณาเขตสายฟ้า

[อาณาเขตสายฟ้า : พรสวรรค์สีขาว จะผสานพลังทำลายเล็กน้อยจากสายฟ้าในการโจมตีแต่ละครั้ง]

พรสวรรค์นี้มีศักยภาพมาก มันเหมือนกับรัศมีที่เปิดและปิดได้โดยอัตโนมัติ

ถ้าเปิดใช้งาน ทุกกระบวนท่าจะผสานเต็มไปด้วยพลังการทำลายของสายฟ้า

หนิงซีใช้แต้มศักยภาพไป 2 แต้มและยังเหลืออีก 4 แต้ม

แต่เมืองโตวฮวางจัดว่าเป็นเมื่องที่มีอันตรายอย่างยิ่ง หนิงซีอยากเพิ่มความแข็งแกร่งให้มากที่สุด

จึงใช้แต้มศักยภาพอีก 3 แต้ม เลื่อนสายเลือดเป็นระดับ 3

[สายเลือดหมีแห่งหมีจอมพลังสายฟ้าได้รับการเลื่อนเป็นสายเลือดแห่งหมีอำมหิตสายฟ้า

กายภาพ +5  พลังจิตวิญญาณ +3 ความแข็งแกร่งแห่งยักษ์ได้เลื่อนเป็นโหดร้าย

ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 300%]

จากนั้นหนิงซีได้เพิ่มแต้มทักษะอีกสองแต้มให้ทักษะดาบพื้นฐานและปาจีเฉวียนตามลำดับ

[ทักษะดาบพื้นฐานระดับ 4 ได้รับคุณสมบัติ: ผู้เชี่ยวชาญแห่งดาบ ความเสียหายของทักษะดาบ +50%]

[ปาจีเฉวียน ระดับ 4  ได้รับคุณสมบัติ: ผู้เชี่ยวชาญเทคนิคหมัด ความเสียหายจากเทคนิคหมัด +50%]

คุณลักษณะต่างๆ ของ หนิงซี ในปัจจุบัน มีดังนี้:

อวตาร : หนิงซี

ร่างกาย: 27 (50)

พลังวิญญาณ: 16 (30)

ภาพลักษณ์: 8 (หนุ่มหล่อ)

พื้นฐานครอบครัว: 5 (ปกติ)

สายเลือด: สายเลือดแห่งหมีอำมหิตสายฟ้า (ระดับ 3 / ศักยภาพ 5 ดาว)

อาชีพ: นักล่าระดับ 10 (สูงสุด) / นักรบสายเลือดระดับ 2 (3200/5000)

ทักษะ: ยิงธนูระดับ 3, สร้างกับดักระดับ 1, การวิ่งในป่าระดับ 1, ก้าวย่างเงาเมฆา ระดับ 3, ปาจีเฉวียน ระดับ 4, ทักษะดาบพื้นฐาน ระดับ 4

ความสามารถพิเศษ: การเรียนรู้ (สีน้ำเงิน) ความโหดร้าย (สีทอง) การฟื้นฟู (สีทอง) อาณาเขตสายฟ้า (สีขาว)

ความสำเร็จ: ไม่มี

ค่ากายภาพของเขาได้ระดับที่น่าสะพรึงกลัวถึง 27 จุดแล้ว

และขีดจำกัดกายภาพก็เพิ่มเป็น 50 จุด

ด้วยการพรสวรรค์หลายอย่างและทักษะป้องกันตัวที่เพิ่มเข้ามา

หนิงซีสามารถรับมือกับอันตรายที่จะเข้ามาได้มากยิ่งขึ้น!

ในที่สุดหนิงซีก็รู้สึกถึงความปลอดภัยสักที

เมืองโตวฮวางเป็นที่วุ่นวายไร้ซึ่งกฎเกณฑ์เป็นอย่างมาก

ระหว่างที่เดินอยู่ในเมืองไม่กี่ร้อยเมตร

หนิงซีเห็นถึงการต่อสู้สามครั้ง บางคนถูกซ้อมจนตายคาถนน

และคนรอบข้างเห็นเป็นเรื่องธรรมดา

ต่างคนต่างเฉนเมยไม่สนใจใดๆ

ที่นี่แตกต่างจากหมู่บ้านหมัดำที่เป็นมิตรและเงียบสงบ

แต่เป็นเมืองที่วุ่นวายและอันตรายที่สุดในทวีปโมเอน

ภายใต้ความวุ่นวายนี้คืออิสรภาพที่ไร้ขีดจำกัด

นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองที่แสนจะบิดเบี้ยววิปริต

โตวฮวางตั้งอยู่ที่ชายแดนของทั้งสามประเทศ

มีกองคาราวานจำนวนนับไม่ถ้วนมาที่นี่

เพื่อหากำไรจากทำการค้าระหว่างประเทศ

ยิ่งกว่านั้น ที่นี่ไม่มีกองกำลังของทางการและไม่มีใครเก็บภาษี

ถ้าใครไม่กลัวตาย  การที่กลายเป็นคนรวยในชั่วข้ามคืนไม่ใช่เป็นแค่ความฝันในโตวฮวาง

ผู้คนนับไม่ถ้วนสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองได้ที่นี่

แต่ก็มีผู้คนจำนวนมากต้องมาทิ้งชีวิตลงที่นี่

นอกจากการค้าแล้วโตวฮวางยังมีอุตสาหกรรมบันเทิงที่เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก

อุตสาหกรรมผิดกฎหมายที่ถูกห้ามโดยประเทศต่างๆ เช่น ซ่องโสเภณี กลาดิเอเตอร์ โคลอสเซียม

การพนัน การค้าทาส การทดสอบยาในมนุษย์ และอื่น ๆ ล้วนมีอยู่ในโตวฮวาง

หนิงซีเดินเล่นรอบๆเมืองเป็นเวลาครึ่งวัน มันช่างตื่นตาตื่นใจดีแท้

สาวงามจิ้งจอก นักรบเถื่อน นักธนูเอลฟ์ เผ่าอะเมซอน และผู้คนทุกประเภทต่างมารวมตัวกันที่นี่

หนิงซีพบร้านตีเหล็กที่มีคนแคระเป็นเจ้าของ

“เจ้าของร้าน ฉันอยากได้ดาบ ยิ่งหนักยิ่งดี”

คนแคระที่ทำหน้าที่ตีเหล็กชื่อ กิ๊กส์ มีเคราหนา

เปลือยร่างท่อนบน เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งเหมือนเหล็ก

ภายใต้แสงไฟจากเตาหลอม กล้ามเนื้อของเขาอาบไปด้วยสีแดง ดูเต็มไปด้วยพลัง

เมื่อได้ยินหนิงซีพูด  กิ๊กส์ยิบเบียร์ดำบนโต๊ะขึ้นมาดื่มอึกใหญ่

มองไปที่หนิงซีอีกครั้งและตะโกนอย่างหยาบคาย

“ร่างกายเล็กๆแบบแก ยังอยากใช้อาวุธหนักหรือ?

ฉันไม่ขายอาวุธขายให้กับแมงดาโว้ย!”

หนิงซีถึงกับพูดไม่ออก ฉันผิดที่หล่อเหรอ?

เขาหยิบเหรียญทอง 10 เหรียญออกมา กระแทกลงบนโต๊ะ

“คุณจะขายไหม? ถ้าไม่ฉันจะไปหาที่อื่น”

เมื่อเห็นเหรียญทองสีเหลือง กิ๊กส์หัวเราะเบา ๆ รีบเก็บเหรียญทองเข้ากระเป๋า

เขาชี้ไปที่ดาบยาวสีดำตรงมุมห้อง พูดว่า

“ดาบนี้ทำจากเหล็กดำ ใบดาบผสมกับเหล็กอุกกาบาต มีน้ำหนัก 137 ปอนด์

นอกจากคมมาก แล้วยังแข็งและทนทานอีกด้วย”

หนิงซีเดินไปหยิบดาบยาวขึ้นมาอย่างสบายๆ โบกมือสองสามครั้ง

ในฐานะใช้ที่เป็นอาวุธชั่วคราว นี้ก็ไม่เลวเท่าไร

"เท่าไร?"

กิ๊กส์ที่กำลังจะโขกราคาสูงๆก็เปลี่ยนใจทันทีที่เห็นหนิงซีโบกดาบที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 ปอนด์ได้ราวกับไม่ได้ถืออะไร

“20 เหรียญทอง มันคืออาวุธที่มีเหล็กอุกกาบาตผสม ราคานี้ฉันขายมันให้คุณอย่างขาดทุน!”

เหล็กอุกกาบาตบ้าอะไรวะ หนิงซีไม่ได้โง่

ถ้าเป็นอาวุธที่มีเหล็กอุกกาบาต ราคาต้องไม่น้อยกว่า 100 เหรียญทอง

เขาหยิบเหรียญทองอีก 5 เหรียญออกมาโยนใส่มือกิ๊กส์อย่างแม่นยำ

เขาพูดตรงๆว่า

“15 เหรียญทอง”

หลังจากพูดจบ เขาหยิบดาบเดินจากไปโดยไม่สนใจปฏิกิริยาของกิ๊กส์

แม้ว่า กิ๊กส์จะตะโกนโวยวายอยู่ข้างหลัง หนิงซีไม่แม้แต่หันกลับไปมอง

[ดาบยาวเหล็กดำ ดาบเหล็กร้อยหลอมคุณภาพดี ราคา: 15 เหรียญทอง]

ระบบมีการแจ้งเตือนและระบุราคาที่แน่นอน

หลังจากซื้อดาบแล้ว หนิงซีไปร้านขายยาเพื่อเติมโพชั่นทุกชนิด

เขายังใส่อาหารแห้งและน้ำไว้ในกระเป๋าเป้และเดินออกจากเมืองโตวฮวาง

เขาเพิ่งมาถึงเมืองโตวฮวางและไม่รู้จักใครเลย เขาเดินไปรอบ ๆ เมือง

แต่เขาไม่ได้รับภารกิจเลยแม้แต่หนึ่งภารกิจ

เมือไม่มีภารกิจ เขาอาจเข้าป่าสักระยะหนึ่งและใช้เวลาล่าสัตวอสูรเวทย์เพื่อเพิ่มระดับ

“ที่ราบสูงรกร้างทางเหนือใหญ่เกินไป เมื่อฉันหาเงินได้ ฉันต้องหาสัตว์ขี่ไว้ใช้เดินทาง”

หลังจากวิ่งห้ออยู่สองชั่วโมง หนิงซีก็มาถึงที่ล่าสัตว์อสูรเวทย์แห่งแรก: ป่าเรดวู้ด

ตามคำแนะนำในแผนที่ มีฝูงกสัตว์อสูรเวทย์อาศัยอยู่ในป่าเรดวู้ดมาก

เมื่อเข้าไปในป่าได้ไม่นาน หนิงซีก็พบฝูงกวางสามสี

กวางชนิดนี้มีขนาดยาวกว่าสามเมตร มีเขาที่แข็งและแหลมอยู่บนหัว

ความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดแข็งแกร่งมาก

ยิ่งไปกว่านั้น สายเลือดยังมีเวทย์สายวายุ สามารถร่ายเวทย์วายุได้

ความสามารถในการต่อสู้จัดได้ว่าแข็งแกร่งในบรรดาสัตว์อสูรเวทย์ระดับต้น

แต่หนิงซีก็ไม่กลัว เขายกดาบยาวขึ้นพุ่งตรงไปยังกวาง

เคล้ง! ประกายดาบสว่างวาบ จากนั้นหัวของกวางก็กลิ้งอยุ่ที่พื้น

[ สังหารกวางสามสี  สัตว์อสูรเวทย์ระดับต้น ค่าประสบการณ์ +200]

หลังจากกระโดดหลบเขากวางและใบมีดวายุ หนิงซีก็แทงดาบเข้าที่คอของกวางสามสี

ปูชิ!

ดาบสีดำถูกดึงออกมาและเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว

[สังหารกวางสามสี  สัตว์อสูรเวทย์ระดับต้น ค่าประสบการณ์ +200  ได้รับแกนเวทมนตร์ธาตุลมขั้นต้น]

หลังจากฆ่ากวางสามสีติดต่อกัน 13 ตัว ฝูงกวางก็เริ่มตื่นตระหนก

เตลิดหนีไปทุกทิศทุกทาง หนิงซีไล่ตามไปฆ่าได้อีกแปดตัว

[นักรบสายเลือดเลื่อนระดับถึงระดับ 3 (2400/10,000), กายภาพ +1, แต้มทักษะ +1, แต้มศักยภาพ +1]

ครั้งนี้ ค่ากายภาพของเขาเพิ่มขึ้นเพียงจุดเดียว พลังวิญญาณของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย หนิงซีขมวดคิ้ว

ตามค่าที่ตั้งไว้ของโลกเกม สายเลือดระดับ 1 ดาวจะเพิ่มระดับนักรบสายเลือดได้จนถึงห้าระดับ

ตอนนี้หนิงซีมีสายเลือดระดับ 3 ดาว และระดับสูงสุดที่เขาไปถึงได้คือนักรบสายเลือดระดับ 15

เมื่อนักรบสายเลือดระดับ 1 เลื่อนขึ้นเป็นระดับ 2 เขาจะได้รับค่ากายภาพ  2 จุด

เดิมทีหนิงซีคิดว่าจะเพิ่มระดับนักรบสายเลือดให้เป็นระดับ 15

จากนั้นจะใช้รางวัลที่ได้จากการเลื่อนระดับอาชีพ ผลักดันค่ากายภาพให้ถึงขีดจำกัด 50 จุด

ตอนนี้ดูเหมือนว่าเมื่อเขาก้าวหน้าขึ้น มันก็จะเพิ่มค่ากายภาพได้ยากขึ้น

น่าเสียดายที่เขาไม่มีทักษะที่เกี่ยวการมองทะลุ ทำให้มองไม่เห็นตัวเลขของตัวละครในเกม

หนิงซีจึงไม่แน่ใจว่า ค่ากายภาพ 28 จุด อยู่ระดับไหนกันแน่

[สามารถใช้แกนเวทมนตร์ขั้นสูง 3 อันหรือคริสตัลจิตวิญญาณระดับ A หนึ่งอัน

อัปเดตระบบได้ หลังจากอัปเดต อวตารสามารถใช้เทคนิคมองทะลุ]

หนิงซีได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น เมื่อเห็นการแจ้งเตือนของระบบ แกนเวทมนตร์ขั้นสูงมาจากสัตว์อสูรเวทย์ระดับสูง

ตาม “หนังสือศักดิ์สิทธิ์แห่งนักรบสายเลือด” สัตว์อสูรเวทย์ระดับสูงนอกจะมีร่างกายที่น่ากลัวมากแล้ว

พวกมันยังสามารถร่ายเวทย์ขั้นกลางได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

สัตว์อสูรเวทย์ระดับสูงยังสามารถปลุกพรสวรรค์เวทมนตร์ซึ่งทรงพลังมากได้อีกด้วย

มีแต่เพียงนักรบสายเลือดระดับ 30 ขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับสัตว์อสูรเวทย์ระดับสูงได้

ดูเหมือนว่าการอัปเดตระบบคงต้องคอยสักระยะหนึ่ง

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการล่าสัตว์อสูรและเพิ่มระดับ

หนิงซีเพิ่มแต้มทักษะให้กับทักษะดาบพื้นฐานของเขา

[ทักษะดาบพื้นฐานเลื่อนระดับเป็นระดับ 5   ได้รับคุณสมบัติ : ผู้เชี่ยวชาญแห่งดาบ

ความเสียหายของทักษะดาบเพิ่มขึ้น 100%

คำแนะนำ: หลังจากเลื่อนระดับทักษะดาบพื้นฐานเป็นระดับ 5 แล้ว ทุกระดับต้องใช้คะแนนทักษะ 2 คะแนน]

หนิงซี เจอกระทิงดำอีกกลุ่มและเริ่มล่าสัตว์อสูรเวทย์อีกรอบ

จนกระทั่งฟ้ามืดลง ระบบก็แจ้งเตือนเขาถึงการเลื่อนระดับ

[นักรบสายเลือดได้รับการเลื่อนระดับเป็นระดับ 4 (0/20,000), กายภาพ +1, แต้มทักษะ +1, แต้มศักยภาพ +1]

นอกจากนี้ ด้วยแต้มทักษะและแต้มศักยภาพที่สะสมไว้นานถึง 3 เดือน

ช่วยให้สามารถเลื่อนระดับสายเลือดได้อีกครั้ง

แต่หนิงซีกำลังมองหาสายเลือดใหม่เพื่อนำสังเคราะห์ก่อนจะเลื่อนระดับ

หลังจากที่นักรบสายเลือดขึ้นมาถึงระดับ 4

ค่าประสบการณ์ที่ได้รับหลังการล่าสัตว์อสูรเวทย์ระดับต้นจะลดลงเหลือแค่ 100 แต้ม เท่านั้น

หนิงซีคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเข้าไปในป่าเรดวู้ดในส่วนที่ลึกขึ้น

ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สัตว์อสูรเวทย์ระดับกลางอาศัยอยู่ มันจะช่วยให้เขาสามารถล่าสัตว์อูรเวทย์ระดับกลาง

เพื่อรวบรวมสายเลือด และยังช่วยให้การเลื่อนระดับนักรบสายเลือดเร็วขึ้นได้อีกด้วย

ในอีกครึ่งชั่วโมง หนิงซีก็เผชิญหน้ากับกิ้งก่าสายฟ้า

แม้จะเป็นสัตว์อสูรเวทย์ แต่ร่างกายของกิ้งก่าสายฟ้าไม่แข็งแกร่งมากนัก

สิ่งที่ทำให้มันจัดอยู่ในสัตว์อสูรเวทย์ระดับกลางมาจากความสามารถสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวของมัน

สายฟ้าฟาด บอลสายฟ้า และโซ่สายฟ้าเป็นทักษะสายฟ้าสามทักษะที่กิ้งก่าสายฟ้าเชี่ยวชาญ

ในบรรดาทักษะเหล่านี้ ทักษะสายฟ้าฟาดเป็นทักษะที่มันร่ายเวทย์ได้ชั่วพริบตา

ความไวในการรับรู้ของสัตว์อสูรเวทย์ระดับกลางแข็งแกร่งกว่าระดับต้นมาก

มันสังเกตเห็นหนิงซีก่อนที่เขาจะเข้าใกล้มันด้วยซ้ำ

ทันทีที่มีประกายสายฟ้าแลบ หนิงซีก็มีควันลอยขึ้นจากหัว ร่างกายของเขาชาไปหมดทั้งตัว

การโจมตีของเวทย์สายฟ้าเร็วเกินไป! ไม่มีทางที่เขาจะหลบมันได้

โชคดีที่ร่างกายของหนิงซีแข็งแกร่งมากพอ และเขายังมีพรสวรรค์ในการฟื้นฟูอีกด้วย

มิฉะนั้น เขาคงล้มลงตั้งแต่ด้วยสายฟ้าฟาดครั้งแรกแล้ว

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างป่าเถื่อน หนิงซีรู้ว่าเขาหลบหลีกทักษะของกิ้งก่าสายฟ้าไม่ได้

เขาจึงเอาตัวเข้ารับลูกบอลสายฟ้าอีกลูกหนึ่งโดยไม่หลบหลีกและฟันสวนกิ้งก่าสายฟ้า

จนสามารถสังหารมันได้ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว

ผมของหนิงซีชี้ขึ้นฟ้า กล้ามเนื้อส่วนที่ถูกสายฟ้าโจมตีดำเกรียมและตาย

แต่ด้วยผลของพรสวรรค์ในการฟื้นฟู ร่างกายของเขาค่อยๆ ฟื้นตัวจนกลับมาเป็นปกติ

ชัยชนะครั้งนี้ได้มาด้วยความน่าสังเวช แต่โชคดีที่ได้รับรางวัลมากมาย

[สังหารสัตว์อสูรเวทย์ระดับกลาง กิ้งก่าสายฟ้า ค่าประสบการณ์ +500

ได้รับสายเลือดกิ้งก่าสายฟ้า]

สายเลือดของสัตว์อสูรเวทย์ระดับกลาง!

หนิงซี ไม่รอช้าและเริ่มสังเคราะสายเลือดห์ทันที

[ใช้ 2 แต้มศักยภาพ สายเลือดแห่งหมีอำมหิตสายฟ้าหลอมรวมกับสายเลือดกิ้งก่าสายฟ้า

ศักยภาพของสายเลือดเลื่อนเป็นระดับ 7 ดาว

พรสวรรค์อาณาเขตสายฟ้าเลื่อนเป็นระดับทองและพรสวรรค์ในการฟื้นฟูเพิ่มขึ้นเล็กน้อย]

หนิงซีพอใจมากกับการเพิ่มศักยภาพของสายเลือด

เขาคงต้องหาสายเลือดสัตว์อสูรเวทย์สายฟ้ามาหลอมรวมเพิ่มเติม

เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับพรสวรรค์สายฟ้าของเขา

การได้รับส่วนหนึ่งของสายเลือดกิ้งก่าสายฟ้าได้ใช้โชคของหนิงซีไปจนหมด

สัตว์อสูรเวทย์ที่เขาล่าต่อจากนั้นได้รับแต่แกนเวทมนตร์แต่ไม่ใช่รับสายเลือดแม้แต่สายเลือดเดียว

จนถึงเวลา 23.00 น. หนิงซีได้สังหารสัตว์อสูรเวทย์ระดับกลางมากกว่าสิบตัว

และเพิ่มค่าประสบการณ์ของนักรบสายเลือดจนเกือบเต็มระดับ 4 (6000/20,000)

คลื่นความอ่อนล้าทางจิตใจถาโถมเข้ามา หลังจากหนิงซีล่าสัตว์อสูรเวทย์มาตลอดทั้งวัน

หนิงซีตัดสินใจออกจากเกม

เมื่อระดับของเขาเพิ่มขึ้น ความเร็วในเลื่อนระดับก็จะช้าลงเรื่อยๆ

โชคดีที่อวตารในเกมไม่จำเป็นต้องพักผ่อน หลังจาก หนิงซีออกจากเกม

อวตารยังสามารถเข้าโหมดแฮ็คสู่ระบบและล่าสัตว์สูรเวทย์ต่อได้

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด