ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 194 กับดักของพยัคฆ์และอสรพิษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 196 พักก่อนต่อสู้ (อ่านฟรี)

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 195 ร่ำสุราใต้แสงจันทร์ (อ่านฟรี)


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 195 ร่ำสุราใต้แสงจันทร์ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT  

หลี่ฉิงซานลงไปใต้ดินอีกครั้ง เขาใช้แผนที่ใต้ดินและพบถ้ำขนาดใหญ่ เขาพูดกับเสี่ยวอัน “ดูเหมือนเราต้องอดทนอีกสักพัก เจ้าไม่ควรเปรียบเทียบที่นี่กับเมืองภูเขาเกลือ”

“เข้าใจแล้ว” เสี่ยวอันตอบกลับอย่างเชื่อฟัง เสียงของนางค่อนข้างอ้อแอ้ นอกเหนือจากตอนที่นางตะโกนออกมาครั้งแรก นางก็ไม่สามารถพูดได้อย่างชัดเจนนัก อย่างไรก็ตามมันเป็นเสียงที่ไพเราะมาก มันเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิที่สามารถปลอยโยนหัวใจของผู้คน

ท่ามกลางป่าหิน หลี่ฉิงซานตรวจสอบเม็ดยาของเขา เขาใช้เม็ดยารวบรวมพลังปราณไปแล้วครึ่งหนึ่ง ตอนนี้มันเหลืออยู่ประมาณสี่พันเม็ด อย่างไรก็ตามเขาใช้เม็ดยาร้อยไพรไปเพียงหนึ่งในร้อยส่วน ดังนั้นมันจึงเหลืออีกมากกว่าหนึ่งพันเม็ด ส่วนที่เหลือเป็นเม็ดยาระดับสูงอีกเกือบร้อยเม็ด กล่าวได้ว่าเขายังร่ำรวยในแง่ของทรัพยากร

หลี่ฉิงซานตรวจสอบยันต์สื่อสาร มันเป็นยันต์ที่มาเป็นคู่ ตราบเท่าที่พวกมันอยู่ห่างกันไม่เกินห้าร้อยกิโลเมตร ยันต์ทั้งสองก็สามารถติดต่อกัน

แม้มันจะไม่สามารถส่งข้อความที่ซับซ้อน แต่มันก็เพียงพอที่จะบอกว่าเฉียนหรงจื่อล่อยายประจิมออกมาแล้ว หลี่ฉิงซานไม่ได้กดดันนางมากเกินไป เรื่องนี้ต้องใช้เวลาและนางก็คุ้นเคยกับงานประเภทนี้อยู่แล้ว

เขาไม่กังวลว่านางจะหักหลัง นางไม่มีข้อบังคับด้านศีลธรรมแต่นางจะทำเพียงตัวเอง ในความเป็นจริงหากนางคิดคดต่อเขา นางคงบอกข้อมูลของเขาให้นิกายเมฆาพิรุณไปนานแล้ว

สิ่งที่เขาต้องทำคือรออยู่อย่างเงียบๆในสถานที่ที่เหมาะสม ทั้งหมดทำให้เขานึกถึงนิทานในชีวิตก่อนหน้า เสือตัวหนึ่งจับสนุขจิ้งจอกได้ สุนัขจิ้งจอกบอกเสือว่าหากเสือไว้ชีวิตมัน มันจะล่าสัตว์อื่นมาให้

อย่างไรก็ตามนี่ขึ้นอยู่กับว่าเสือมีความสามารถในการกินสัตว์ทุกชนิดที่สุนัขจิ้งจอกล่อมาหรือไม่

เขาเงยหน้าขึ้นและเทเม็ดยารวบรวมพลังปราณเข้าไปในปาก จากนั้นก็เริ่มบ่มเพาะ

หกวันต่อมา หลี่ฉิงซานเริ่มคิดถึงบ้านของเขาบนเมืองภูเขาเกลือ เนื่องจากไม่มีสิ่งใดให้เสี่ยวอันทำ นางจึงรู้สึกเบื่อ

สิ่งนี้ทำให้หลี่ฉิงซานรู้สึกละอายใจมาก หากเขาอยู่คนเดียว เขาสามารถนั่งสมาธิโดยไม่ตื่นขึ้นมาตลอดทั้งปี

แต่นางอยู่กับเขา เขาก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้นางมีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อเขามองไปรอบๆ สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงป่าหิน ที่นี่ไม่ใช่บ้านในอุดมคติของเขา มันยังจะส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางจิตใจของเด็กอีกด้วย

หลี่ฉิงซานตัดสินใจ “เราไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ กลับไปดูกันเถอะ กิ้งกือตัวนั้นคงหมดความอดทนและจากไปแล้ว!”

…..

คฤหาสน์ที่รกร้างบนภูเขา หลี่ฉิงซานเปิดประตูหน้าบ้านและตรงไปที่สวนด้านหลังทันที เขาเดินผ่านต้นไม้และมองเข้าไปในหลุมก่อนจะเผยรอยยิ้มขมขื่น

ปีศาจกิ้งกือนอนปิดเปลือกตาอยู่ในหลุม มันนอนหลับเหมือนตายราวกับมันไม่เคยขยับไปจากจุดนั้น เป็นเพียงเวลานี้ที่มันเปิดเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยและจ้องตรงมาที่หลี่ฉิงซาน มันถามเบาๆ “อาหาร?”

หลี่ฉิงซานยิ้ม “มาแล้ว มาแล้ว!” หลังจากนั้นเขาก็หันหลังกลับและจากไปพร้อมกับเสี่ยวอัน

ในสำนักดาบสะท้านภพ อวี๋ฉูกวงมองหลี่ฉิงซานด้วยความประหลาดใจและมีความสุข “ท่านหนิวผู้ยิ่งใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว!”

หลี่ฉิงซานพยักหน้า “อืม ข้ากลับมาแล้ว มีบางอย่างที่ข้าต้องรบกวนเจ้า”

อวี๋ฉูกวงตอบกลับอย่างจริงจังว่า “ทุกสิ่งที่ท่านต้องการ ไม่ว่าจะอันตรายเพียงใดก็ตาม...”

หลี่ฉิงซานขัดจังหวะ “มันไม่ได้ร้ายแรงเช่นนั้น เพียงเตรียมสามสิ่งให้ข้าแล้วส่งไปที่บ้านของข้า”

“ท่านหมาายถึง?” อวี๋ฉูกวงไม่สามารถจินตนาการว่าสิ่งใดที่ทำให้หลี่ฉิงซานต้องขอร้องเขา

“ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี และสุรา” หลี่ฉิงซานหยิบเงินออกมาอีกหนึ่งล้านตำลึงและวางมันลงบนโต๊ะ

“แค่นั้น?” อวี๋ฉูกวงรู้สึกประหลาดใจมาก เขาขอธัญพืชและสุรา

หลี่ฉิงซานกล่าว “ธัญพืช ผัก และผลไม้เท่าที่เจ้าสามารถหาได้ ยิ่งมากยิ่งดี แน่นอนว่าข้าต้องการอาหารยี่สิบโต๊ะเหมือนเดิม เจ้าต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างเป็นความลับ อย่าให้คนรู้มากนัก”

“อย่ากังวล ท่านหนิว ข้าจะส่งคนไปเตรียมการทันที ท่านจะได้รับของมากที่สุดเท่าที่มี” อวี๋ฉูกวงทุบหน้าอกของตนเพื่อรับประกัน ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ เขาอาจไม่สามารถทำทุกสิ่ง แต่การรวบรวมธัญพืชและอาหาร มันง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก

หลี่ฉิงซานกล่าวอย่างไม่ใส่ใจนัก “โอ้ ถูกต้อง ข้าพึ่งได้รับโอสถปราณแรกกำเนิดมาสองสามเม็ดเมื่อเร็วๆนี้” หลังกล่าวจบคำ เขาก็หันหลังกลับและจากไปทันที

ผู้พูดตั้งใจพูดขณะที่ผู้ฟังสนใจสิ่งที่ถูกกล่าวถึงอย่างชัดเจน

ดวงตาของอวี๋ฉูกวงเบิกกว้างขึ้น ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ผู้หนึ่ง เขาอาจไม่รู้จัดเม็ดยาทั้งหมดบนโลกใบนี้ แต่มียาชนิดหนึ่งที่เขารู้จักดี มันคือโอสถปราณแรกกำเนิด มันเป็นยาศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนฝันถึง ด้วยยาเม็ดนี้ พวกเขาจะสามารถลุกขึ้นและก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่

อวี๋ฉูกวงต้องการมันมาก เมื่อหลี่ฉิงซานเอ่ยถึงสิ่งนี้ อวี๋ฉูกวงก็กลายเป็นลาที่ถูกล่อด้วยแครอท แม้เขาจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้ครอบครอง แต่เขาก็ยังต้องการทุ่มเททุกสิ่งและพยายามเพื่อมัน โดยไม่ต้องกล่าวถึงว่าหลี่ฉิงซานบอกเป็นนัยอย่างชัดเจนว่ามีโอกาสที่เขาจะมอบให้อวี๋ฉูกวง

ด้วยเหตุนี้เขาจึงรีบรวบรวมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้ใจได้สองสามคนและออกคำสั่งพวกเขาอย่างจริงจัง หากไม่ใช่เพราะหลี่ฉิงซานต้องการให้เขาเก็บเป็นความลับ เขาคงดำเนินการเรื่องนี้ด้วยตนเองไปแล้ว

ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ทุกสิ่งที่หลี่ฉิงซานต้องการก็มาถึง

“นี่!” หลี่ฉิงซานโยนกระสอบข้าวลงไปในหลุม

ปีศาจกิ้งกือยื่นมือออกไปและฉีกถุงกระสอบ เมล็ดข้าวไหลออกมา ปากของมันขยายออกในลักษณะที่เกินจริงทำให้หลี่ฉิงซานนึกถึงตัวละครในการ์ตูนบางเรื่อง ข้าวทั้งกระสอบถูกยัดเข้าไปในปากของมันในพริบตา

มันเม้มริมฝีปาก “อร่อยมาก!” หลังจากนั้นมันก็จ้องหลี่ฉิงซาน

“อร่อยก็กินอีก หากอิ่มแล้วก็หยุดรบกวนข้า” หลี่ฉิงซานโยนข้าวลงไปอีก

ข้าวถูกกลืนเข้าไปอย่างรวดเร็ว มันไม่สนใจหลี่ฉิงซานแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามดูเหมือนมันจะยังไม่พอใจ

นั่นทำให้หลี่ฉิงซานต้องโยนข้าวอีกหลายสิบกระสอบลงไป หลี่ฉิงซานแบกกระสอบข้าวสองสามใบไว้บนไหล่ เขาดูเหมือนคนงานที่ดีที่สุด เขาวิ่งจากประตูหน้าบ้านไปยังสวนหลังบ้านและโยนพวกมันลงไปในหลุม

ปีศาจกิ้งกือที่ดูงุนงงตลอดเวลาเผยรอยยิ้มกว้างจนถึงใบหู ในฐานะนักชิม การได้เห็นอาหารหลากหลายชนิดตกลงมาจากฟ้าทำให้มันมีความสุข

มันแทบไม่รู้ว่าควรกินสิ่งใดก่อนหลัง

หลี่ฉิงซานปาดเหงื่อบนหน้าผากและกล่าวกับเสี่ยวอัน “จับตาดูให้ไว้ดี ข้าจะไปบ่มเพาะสักครู่ จำไว้ว่าอย่างเข้าไปในถ้ำ ข้าเกรงว่ามันอาจลงเอยด้วยการกินเจ้า!”

เสี่ยวอันไม่ใช่เด็กน้อยที่จะกลัวคำขู่เช่นนี้ นางตอบกลับด้วยรอยยิ้ม นั่งยองๆอยู่ข้างหลุม และเฝ้ามองปีศาจกิ้งกือกินด้วยความรู้สึกอัศจรรย์ใจ

ในช่วงพลบค่ำ อาหารยี่สิบโต๊ะของหลี่ฉิงซานก็มาถึงเช่นกัน เขานั่งลงข้างหลุม เปิดกล่องอาหาร และยัดพวกมันเข้าไปในปาก เขาต้องยอมรับว่าปีศาจกิ้งกือทำให้เขาเจริญอาหารเช่นกัน

หลี่ฉิงซานกินอาหารของเขาขณะที่ปีศาจกิ้งกือก็กินอาหารของมัน เสี่ยวอันเฝ้ามองปีศาจกิ้งกือและหลี่ฉิงซานกินอาหารและรู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างน่าสนใจ

ในฐานะปีศาจ เขาสามารถกินปราณจิตวิญญาณธรรมชาติแทนอาหาร เขาสามารถเติบโตขึ้นแม้จะหยุดบริโภคอาหารอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามความอยากอาหารของเขายังอยู่และจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

เหตุผลที่มนุษย์เลือกที่จะไม่ทานอาหารเพราะอาหารส่วนใหญ่มีสิ่งเจือปนมากเกินไป มันจะสะสมอยู่ในท้องและส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะของพวกเขา อย่างไรก็ตามวิธีการบ่มเพาะของมนุษย์กับปีศาจแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สำหรับปีศาจ การเติมเต็มกระเพาะอาหารของพวกมันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ร่างกายที่แข็งแกร่งของพวกมันสามารถย่อยสิ่งสกปรกออกไปได้อย่างง่ายดาย

การบ่มเพาะของมนุษย์เหมือนงานศิลปะที่ละเอียดอ่อน พวกเขาจะเลือกวิธีการบ่มเพาะและเม็ดยาที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด จากนั้นพวกเขาก็จะแบ่งขั้นตอนออกเป็นหลายขั้นอย่างละเอียดและพิถีพิถันเพื่อบรรลุจุดประสงค์อย่างช้าๆ พวกเขาต้องการควบคุมทุกสิ่ง มุ่งมั่นสู่ความสมบูรณ์แบบตลอดเวลาเพื่อก้าวไปสู่จุดสูงสุด

ในทางตรงข้าม การบ่มเพาะของปีศาจเหมือนจิตรกรที่สะบัดพู่กันออกไปอย่างไม่ตั้งใจและสร้างเป็นภาพทัศนศิลป์ที่ต้องใช้ใจมอง

ปากของปีศาจกิ้งกือชะงักอย่างกะทันหัน มันเงยหน้ามองหลี่ฉิงซานขณะที่เม็ดข้าวไหลออกมาจากมุมปากของมัน “สุรา!”

หลี่ฉิงวานพึ่งดื่มสุราไปหนึ่งไห เมื่อเขาตระหนักถึงการจ้องมองของปีศาจกิ้งกือ เขาก็โยนไหสุราลงไป “สำหรับเจ้า!”

ปีศาจกิ้งกือกลืนมันลงท้องก่อนจะขอเพิ่ม

หลี่ฉิงซานโยนอีกสี่หรือห้าไหลงไปพร้อมกัน เขาเริ่มเมาแล้วและเขาก็ลืมสิ่งที่ตนเองเคยเตือนเสี่ยวอันไปแล้ว เขากระโจนลงไปในหลุมพร้อมกับสุราอาหาร ชนไหสุรากับปีศาจกิ้งกือ และเทสุราทั้งไหเข้าไปในปาก

ปีศาจกิ้งกือมองเขาด้วยความงุนงง มันไม่รู้ว่าหลี่ฉิงซานกำลังทำสิ่งใด เมื่อหลี่ฉิงซานดื่มไปถึงครึ่งไห เขาก็ตระหนักว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เขารีบดื่มสุราต่อขณะที่ปีศาจกิ้งกือเริ่มเลียนแบบเขา

ทั้งสองแข่งกันดื่มแต่หลี่ฉิงซานยังถึงเส้นชัยก่อน เขาหัวเราะอย่างมีความสุขแต่ปีศาจกิ้งกือไม่พอใจกับผลลัพธ์นี้ มันหยิบไหสุราขึ้นมาและยัดใส่มือของหลี่ฉิงซานก่อนจะยกไหสุราอีกใบขึ้นมาชนไหสุราของหลี่ฉิงซาน จากนั้นมันก็รีบเปิดปากและดื่มสุราทั้งหมดเข้าไปอย่างรวดเร็ว

หลี่ฉิงซานหัวเราะเสียงดัง แม้ปีศาจกิ้งกือจะดูมึนงงอยู่เสมอแต่หลี่ฉิงซานไม่เคยคิดว่ามันจะมีบุคลิกบางอย่างที่คล้ายคลึงกับเขา “อีกครั้ง!”

 --------------

พรุ่งนี้หยุด