ตอนที่แล้วตอนที่ 987 เพื่อเสี่ยวซาน ข้าจะฆ่าเจ้า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 989 อาบเลือดสู้

ตอนที่ 988 อาวุธเทพร่างมนุษย์!


เย่ว์หยางเรียกเพลิงบัวแดงด้วยมือข้างซ้ายและเพลิงเมฆาด้วยมือข้างขวา

ในท้องฟ้ามีเพลิงแดงสวรรค์เทลงมาเหมือนน้ำตก  และไม่ทราบว่าบนพื้นมีกุ่ยหยินไฟตั้งแต่เมื่อไหร่มันค่อยๆ คลุมเท้าของจ้าวสุริยาอย่างเงียบๆ ตราบใดที่เย่ว์หยางกระตุ้นการโจมตี ทั้งสองจะทำให้เกิดการระเบิดรุนแรง  จ้าวสุริยาเคลื่อนไหวไม่ได้  แต่เขาไม่กลัวไม่ว่าไฟจะทรงพลังแค่ไหนก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายตัวเขา ต่อให้ทำร้ายร่างกายของเขาได้จริงๆ แต่เขาสามารถใช้นาฬิกาสุริยะย้อนเวลา และกำจัดพลังทำลายล้างทั้งหมด  เว้นแต่พลังเทพ เย่ว์หยางไม่สามารถจะทำร้ายเขาแม้แต่ผมเส้นเดียว!

จ้าวสุริยามีความมั่นใจมากพอ

เขามีร่างระดับเทียมเทพ  ไม่กลัวไฟใดๆ ในโลกทั้งนั้น

แม้แต่เพลิงแดงสวรรค์ที่ทรงพลังที่สุดหรือแม้แต่พลังของกุ่ยหยินไฟ ก็อาจระเบิดได้ แต่ไม่สามารถทำร้ายเขาได้

“เสนอดาบ..!”

เย่ว์หยางไม่ใช้ไฟโจมตี

เขาเหยียดมือออกและถามเหมือนกับขอดาบจากบริวารราวกับอัศวินแก่ ดาบแบบไหนกันที่เย่ว์หยางไม่สะดวกแก่การพกพา?

จ้าวสุริยาสับสนเล็กน้อย  เจ้าเด็กเย่ว์หยางนี่ครอบครองคัมภีร์อัญเชิญและมีแหวนเก็บสมบัติ เขายังจะต้องพกพาดาบอีกหรือ?

ตอนแรกจ้าวสุริยาพบว่าเขาเองมองเย่ว์หยางไม่ออก

ในท่ามกลางความประหลาดใจเขาเห็นที่ทางเข้าตำหนักม่วงทอง มีสตรีอยู่สามคน คนหนึ่งเป็นปีศาจอสรพิษและยังมีอีกสองคน แม้แต่ในข้อมูลข่าวกรองของเสี่ยวโฉ่วก็ไม่พบชื่อของพี่น้องสองสาวมังกรในเผ่าพันธุ์ภูตบูรพา  สองพี่น้องเผ่ามังกรคู่นี้แตกต่างจากเผ่าภูตบูรพาทั่วไป   สายเลือดของพวกนางดูเหมือนจะบริสุทธิ์มากกว่าอย่างชัดเจน

ความรู้สึกแบบนี้....

ทันใดนั้นจ้าวสุริยาเข้าใจทันที แดนสวรรค์บนมีเผ่าพันธุ์พิเศษอยู่เผ่าพันธุ์หนึ่ง บุรุษและสตรีมีความคล้ายกับพี่น้องสองสาวมังกรมาก   พวกนางเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่?

อาเหยาหนึ่งในสองพี่น้องบินมายืนข้างหน้า

ร่างของนางเปล่งรัศมีเจิดจ้าและแปลงเป็นดาบมีปีกเล่มหนึ่ง

ดาบมีปีกลอยลงมาอยู่ในมือของเย่ว์หยางโดยธรรมชาติ ขณะที่เขาถือดาบในมือทั้งเลือดและเนื้อจะเชื่อมประสานกันทันที   เย่ว์หยางไม่จำเป็นต้องการโชคตราบที่ใจของเขาเป็นหนึ่ง พลังงานที่ไม่จำกัดในร่างของสาวมังกรจะเปลี่ยนร่างนางเป็นดาบแล้วเชื่อมต่อกัน  เมื่อเย่ว์หยางเร่งเร้าพลังเต็มที่ พลังจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า

เทพสงคราม!

อาวุธเทพร่างมนุษย์!

ตอนนี้จ้าวสุริยาเข้าใจแล้วว่า เจ้าเด็กไตตันนี้ไม่เพียงแต่มีอาวุธเทพร่างอสูร  แต่ยังมีอาวุธเทพร่างมนุษย์

แม้ว่าจะมีคนมากมายในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ความลับการฝึกฝนอาวุธเทพร่างมนุษย์  ต่อให้เขาสามารถจับอาวุธเทพร่างมนุษย์มาได้ แต่เขาจะเป็นเหมือนกับเจ้าเด็กเย่ว์ไตตันได้อย่างไร ความจริงนางคือเผ่าพันธุ์อสูรอมตะสำหรับอาวุธเทพร่างมนุษย์  แย่แล้ว..เขาติดอยู่ในวงจักรนิรันดรไม่สามารถหลบหนีออกไปได้

จ้าวสุริยาไม่คิดว่านาฬิกาสุริยะและทักษะแฝงเร้นย้อนเวลาจะสามารถคืนสภาพทุกอย่างที่ถูกอาวุธเทพร่างมนุษย์ทำร้าย

ก็เหมือนกับพลังกฎสวรรค์!

เย่ว์หยางควงดาบและฟันอากาศข้างหน้าเขาไม่ได้ใช้ท่าดาบท่าแรกผ่าปฐพี ไม่ได้ใช้พลังโจมตีเต็มกำลังเป็นการฟันออกไปอย่างธรรมดา

อย่างไรก็ตามหลังคาของตำหนักม่วงทองถูกดาบผ่าเป็นสองส่วน

ปราณกระบี่ยิงแสงผ่านหลังคาทะลุขึ้นไปในอากาศ

มิติภายในวงจักรนิรันดรฉีกขาดยาวหลายสิบเมตร

เป็นครั้งแรกนับแต่สู้กับเย่ว์หยางบนไหล่ของจ้าวสุริยา ได้รับบาดแผลลึกถึงแม้ว่าไม่ทันได้หลั่งเลือดเนื่องจากผลจากวงจักรนิรันดรก็ตาม แต่จ้าวสุริยารู้ว่าดาบนี้ทำร้ายเขาจนได้รับบาดเจ็บ! แต่เดิมทีด้วยพลังของเย่ว์ไตตัน ไม่ว่าจะโจมตีทำร้ายเพียงใด ตัวเขาเองจะไม่ได้รับบาดเจ็บ  อาการบาดเจ็บเล็กน้อยผิวเผินเขาสามารถใช้นาฬิกาสุริยะและทักษะย้อนเวลาได้นั่นเป็นความห่างชั้นของระดับฝีมือที่เย่ว์ไตตันมิอาจข้ามผ่านได้  แต่ตอนนี้เขามีอาวุธเทพร่างมนุษย์   เขามีคุณสมบัติต่อสู้กับเขาได้อย่างทัดเทียม

ตอนนี้ไม่เพียงแต่เขาที่สามารถฆ่าเย่ว์ไตตันได้  แม้แต่เย่ว์ไตตันก็สามารถฆ่าเขาได้เช่นกัน!

สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นก็คือจ้าวสุริยาพบว่าพลังไฟของเย่ว์หยางไม่ว่าจะเป็นเพลิงบัวแดง เพลิงเมฆาเพลิงแดงสวรรค์ และกุ่ยหยินไฟไม่ระเบิดขึ้น

แต่กลับเป็นเหมือนน้ำไหลภายใต้คำสั่งของเย่ว์หยางเปลวไฟเหล่านั้นชอนไชเข้าบาดแผลที่ไหล่ของเขาอย่างบ้าคลั่ง

ภายในเวลาไม่กี่วินาทีจ้าวสุริยารู้สึกเจ็บปวดจากเพลิงผลาญวิญญาณของเขา

ร้อน มันร้อนมาก!

เด็กเจ้าเล่ห์นี่รู้ได้อย่างไรว่านาฬิกาสุริยะและทักษะย้อนเวลาของเขาไม่สามารถกำจัดพลังงานออกจากร่างกายของเขาได้?  จ้าวสุริยาไม่มีเวลาคิดมากเกินไป หลังจากเย่ว์หยางใช้พลังไปแล้วเขาดิ้นสู้อย่างหนัก วงจักรนิรันดรจึงแตกสลายหายไป เปลวไฟทั้งสี่โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งสร้างบาดแผลบนร่างของเขาได้ทำให้เจ้าสุริยาต้องพลังปิดปากแผลตนเอง

“ลูกไม้เล็กน้อยเท่านี้คิดว่าจะทำร้ายข้าได้หรือ!” จ้าวสุริยาตวาดลั่นพร้อมกับขับเพลิงทั้งสี่ชนิดที่อยู่ในตัวเขาออกมาทางคอและปาก

“เสนอธนู!”

เย่ว์หยางจะให้โอกาสจ้าวสุริยาปรับตัวขณะที่อาเหยาคืนสภาพเป็นร่างมนุษย์ เขาเหยียดมือออกอีกครั้ง

อาหยูหนึ่งในสองพี่น้องบินเข้ามาหาเขาแล้ว

อาหยูแผ่รัศมีเจิดจ้าและกลายร่างเป็นคันธนูที่งดงามไม่มีที่ใดเปรียบลอยเข้าไปอยู่ในมือของเย่ว์หยาง  ทันทีที่เย่ว์หยางเริ่มใช้งานปราณก่อกำเนิดทั้งหมดมารวมตัวอีกครั้งช่วยเป็นพลังเสริมให้อาหยู  เย่ว์หยางเตรียมใช้พลังปราณตามปรารถนาของตน

ตอนนี้จ้าวสุริยาเริ่มตอบโต้ เขามองดูเย่ว์หยางซึ่งมีอาวุธเทพร่างมนุษย์อยู่ในมือ

เขาถอยหลังทันทีแล้วเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมาสร้างม่านพลังงานคุ้มกัน

เขาไม่ยอมให้ร่างของเขาเป็นอันตราย

นอกจากม่านพลังจากคัมภีร์อัญเชิญแล้ว  จ้าวสุริยายังใช้โล่วิเศษเพลิงเทพอสูร โล่วิเศษที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์  แต่พลังป้องกันของมันเทียบได้กับสมบัติเทพแม้ว่าสมบัติวิเศษบางอย่างอาจไม่จำเป็นต้องทรงพลัง! แต่สมบัติวิเศษนี้ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีระยะประชิดหรือระยะหมื่นเมตรโล่เพลิงปีศาจก็ยังต้านรับไว้ได้ มันสลายพลังครึ่งหนึ่งและสะท้อนพลังครึ่งหนึ่งกลับไปยังผู้โจมตีได้

ดาบและธนูธรรมดาไม่มีทางทำลายการป้องกันของสมบัติวิเศษชั้นศักดิ์สิทธิ์ได้เลย  ใครก็ตามต้องการโจมตีคนที่ถือโล่วิเศษนี้จะถูกพลังสะท้อนใส่ถึงตายได้

ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยางมีอาวุธเทพร่างมนุษย์  พลังของโล่นี้นับว่าน่ากลัวเกินไป  ทั้งจ้าวสุริยาก็ไม่ต้องการเอาโล่นี้ออกมาใช้ตั้งแต่แรกด้วย

นี่คือสมบัติช่วยรักษาชีวิตที่เขาไม่ยอมเอาออกมาใช้อย่างง่ายๆ

“ลองเจอนี่เป็นไง”  เย่ว์หยางเหนี่ยวธนูจนโค้งดูเป็นรูปพระจันทร์เต็มดวงทั้งควบแน่นพลังสายฟ้าสีม่วง นี่คือธนูน้ำแข็งเป็นสีม่วงและมีกฎสวรรค์เพลิงศักดิ์สิทธิ์แฝงไว้เขาเล็งที่หัวใจของจ้าวสุริยา เย่ว์หยางตวาดเสียงดังลั่นยิ่งกว่ากองทัพทั้งกองทัพเหนี่ยวสายธนูเต็มที่และยิงธนูที่แฝงพลังทำลายล้างออกไปทันที!

“เฟี้ยวววว”

สายธนูสะบัดเสียงดังราวกับอัสนีบาต

เร็วกว่าเสียงภายใต้การจับตามองของจ้าวสุริยา เขาเห็นแต่เพียงประกายสายฟ้าสีม่วงหายวับทันที

รอจนมันปรากฏอีกครั้งธนูพุ่งผ่านทะลุม่านพลังของคัมภีร์ และจากนั้นทะลุโล่เพลิงเทพและทะลุผ่านปราณคุ้มกันร่างของจ้าวสุริยาทะลุหัวใจออกไปที่ด้านหลังเสียงสายฟ้าและประกายสายฟ้าดังขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของโล่

เสียงธนูยังดังต่อเนื่องทะลุเสาค้ำภายในท้องพระโรงผ่านออกไปข้างนอก

นอกจากทิ้งร่องรอยเป็นรูที่ถูกยิงแล้ว  ทั่วทั้งตำหนักม่วงทองไม่มีร่องรอยสายฟ้าสีม่วง

เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

จ้าวสุริยามีสีหน้าเหลือเชื่อ

เขาใช้โล่เพลิงเทพอสูรแล้วแต่ยังปล่อยให้เย่ว์หยางยิงเข้าหัวใจได้อย่างไร?

ม่านพลังป้องกันของคัมภีร์อัญเชิญไม่ส่งผลอะไรเลยโล่เพลิงเทพอสูรก็ไม่สะท้อนพลังกลับไป ธนูนี่ไวมากขนาดนั้นเชียวหรือ?  อย่าบอกนะว่าต่อให้เป็นเทพก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อพบกับธนูนี่

น่ากลัวเกินไป ไม่น่าแปลกใจที่เย่ว์ไตตันรู้ว่าเขาคือจ้าวสุริยาแห่งตำหนักเทพสุริยะเขายังกล้าต่อกรกับตัวเขาเอง เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญอาวุธเทพร่างมนุษย์ที่น่ากลัวนี่เอง!

โล่เพลิงเทพอสูรส่งเสียงร้องหึ่งๆเหมือนสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บแล้วร้องโหยหวน

“ฆ่า ต้องฆ่าเจ้าให้ตาย”  จ้าวสุริยาไม่สามารถตรวจสอบและไม่คำนึงถึงโล่เพลิงเทพอสูรของเขาเขาระเบิดปลดปล่อยพลังของตนเองเต็มที่   เขาคิดว่าเย่ว์หยางยังเหน็ดเหนื่อยกับการใช้พลังจากอาวุธเทพร่างมนุษย์เพื่อเร่งเผด็จศึก! เขาจะไม่ยอมให้เด็กคนนี้ได้ใช้อาวุธเทพร่างมนุษย์อีกต่อไป นั่นเป็นเรื่องอันตรายเกินไปกับการเข้าไปใกล้เขา เขาจะต้องใช้พลังทั้งหมดในตัวบดขยี้เจ้าเด็กนี่ในตำหนักม่วงทองนี้อย่างไม่หยุดยั้ง พลังงานและระดับความแข็งแกร่งของเขาเหนือกว่าเจ้าเด็กนี่ ตราบใดที่เขาไม่มีโอกาสใช้อาวุธเทพร่างมนุษย์  ชัยชนะสุดท้ายจะต้องตกเป็นของเขา!

“ฮ่าาาาห์” เสี่ยวเหวินหลีตวาด และใช้ทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเธออย่างเต็มที่  ดวงตาของเธอมีเลือดหยาดหยด

“นี่คือสิ่งที่เจ้าสนใจไงเล่า!” เย่ว์หยางไม่สนใจพลังหมัดหนักหน่วงของจ้าวสุริยาที่ต่อยใส่หน้าอกเขาเมื่อทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลีส่งผล เขายิงวงจักรล้างโลกออกไปทันทีวงจักรตัดผ่านทะลุอกของเขา  ทำให้จ้าวสุริยาบาดเจ็บสาหัส

ทันใดนั้นจ้าวสุริยารู้สึกได้ถึงเงาแห่งความตายครอบงำก้นบึ้งหัวใจเขาทันที

ความกลัวตายที่เขาไม่พบเจอมานานแล้ว

ตอนนี้ความกลัวตายปรากฏชัดเจนสั่นสะท้านวิญญาณของเขา

เย่ว์ไตตันผู้นี้มีแม้กระทั่งวงจักรล้างโลกกลยุทธ์ที่น่ากลัวเช่นนี้รอลงมือทำร้ายเขา ผู้เยาว์อย่างเขามีทักษะไร้เทียมทานตั้งมากมายได้อย่างไร?  นอกจากจะมีอาวุธวิเศษ สมบัติวิเศษระดับเทพและอาวุธเทพร่างอสูรแล้ว เจ้าเด็กนี่ยังมีอาวุธเทพร่างมนุษย์นั่นก็คือสองสาวพี่น้องมังกรจากเผ่าอสูรอมตะมีกระทั่งวงจักรนิรันดรและวงจักรล้างโลก ทั้งยังเกิดมาเป็นที่รักของชาวสวรรค์ นี่นับว่าสวรรค์อยุติธรรมเกินไป!

เขาคิดว่าจีอู๋ลี่มีความภูมิใจในทักษะที่ไม่เหมือนใครในโลก คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเด็กนี่จะได้รับความรักเมตตาจากโลกและสวรรค์ขนาดนี้

วงจักรนิรันดร วงจักรล้างโลกทั้งหมดรวมอยู่ในที่เดียวกัน

หญิงสาวเผ่าพันธุ์มังกรก็ยอมรับใช้เป็นอาวุธเทพให้  เจ้าเด็กนี่เป็นใครกัน

จ้าวสุริยาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดิ้นให้หลุดจากทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลี  เมื่อวงจักรทะลุผ่านร่างเขาไปเขากระโดดถอยหลังหลบหนีพลังทำลายล้างรุนแรงของวงจักรล้างโลกและไปอยู่ที่ตำหนักม่วงทอง มองดูนิ้วตนเอง

เขาสูญเสียนิ้วไปสามนิ้วนั่นพิสูจน์ให้เห็นถึงความน่ากลัวของศัตรู

ตัวเขาเองมีพลังอำนาจในฐานะจ้าวสุริยา

ถ้าพ่ายแพ้ในการต่อสู้อย่างนี้เปลี่ยนเป็นคนอื่น จะมิกลายเป็นเหยื่อโอชะของเย่ว์ไตตันหรอกหรือ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด