ตอนที่แล้วตอนที่ 2 เก็บตัวบ่มเพาะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 มือสังหาร

ตอนที่ 3 สนมจิงถูกวางยาพิษ


หลี่มู่ ยังคงกวาดพื้นในวังต่อไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง

"ไม่เป็นไร..."

“อย่าคาดหวังมากจะดีกว่า”

เขายังคงฝึกฝนในตอนกลางคืน

“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์สำหรับการลงชื่อ รางวัล โอสถรวมลมปราน”

เช้าวันใหม่

หลี่มู่ เริ่มทำความคุ้นเคยกับสถานที่นี้ดีขึ้น

หญิงชราอยู่เคียงข้างนางสนมจิงทั้งวันทั้งคืน

นางสนมไม่เคยออกมาจากห้องของเธอ

ตำหนักเย็นแห่งนี้ใหญ่โตมาก

ยกเว้นห้องพักของเธอที่เขาถูกห้ามไม่ให้เข้าไป ส่วนที่เหลือทั้งหมดของตำหนักกลายเป็นอาณาเขตของหลี่มู่

มันไม่ได้เลวร้าย หมายความว่าเขาสามารถฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ หลังจากกวาดพื้นทุกวัน

อย่างไรก็ตาม สามเดือนต่อมา การบ่มเพาะของเขาประสบกับปัญหาคอขวด

ในคืนหนึ่งในอีกครึ่งเดือนต่อมา เขากลืน โอสถทะลวงปราน ยกระดับการฝึกฝนของเขาไปอีกขั้น

โอสถนั้นเป็นหนึ่งในโอสถที่เขาได้รับจากการลงชื่อเข้าใช้อย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

“ข้าไม่รู้ว่าข้าบรรลุถึงระดับการบ่มเพาะพลังระดับใดแล้ว เทียบกับขันทีน้อยของกองบัญชาการม้าของจักรวรรดิได้รึไม่”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี่หลี่มู่ก็ส่ายหัว

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะต่อสู้ โลกภายนอกนั้นอันตราย และดีกว่าที่จะอยู่เงียบๆ '”

“เซียวลี่จือ ทำความสะอาดให้ดี พรุ่งนี้เช้ามีแขกมาเยี่ยมเรา” หญิงชราบอกกล่าวที่หน้าประตู

"แขก? ที่นี่ไม่ใช่ตำหนักเย็น เหรอ?” หลี่มู่ ถามด้วยความรู้สึกสงสัย

หลังจากใช้เวลาหลายเดือนกับหญิงชรา หลี่มู่พบว่าเขาเข้ากับเธอได้ไม่ยาก

“จักรพรรดินีร้องขอ และจักรพรรดิอนุญาตให้องค์ชายน้อยมาเข้าเยี่ยมนางสนมจิง”

คน คนเดียวที่หญิงชราคุยด้วยนอกจากนางสนมคือหลี่มู่ และแน่นอนว่าเธอกระตือรือร้นที่จะพูดมากทุกครั้งเมือเธอเปิดปากพูด

หลี่มู่ได้รู้เรื่องบางเรื่องเล็กน้อย

นางสนมจิงมีบุตรชายคนหนึ่งก่อนที่เธอจะถูกจักรพรรดิลงโทษ

องค์ชายอายุเพียงสองขวบเมื่อมารดาของเขาถูกลงโทษให้อยู่ในตำหนักเย็น

ลูกชายของเธอได้รับการเลี้ยงดูจากจักรพรรดินีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เมื่อเห็นว่าองค์ชายมีอายุครบ 3 ขวบแล้ว จักรพรรดินีก็ทรงเห็นอกเห็นใจมาก พอที่จะกังวลว่าองค์ชายน้อยจะจำพระมารดาไม่ได้

นอกจากนี้เธอยังกังวลว่าสนมจิงอาจล้มป่วยได้เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับองค์ชายทั้งกลางวันและกลางคืน

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เธอจึงวิงวอนต่อจักรพรรดิ และองค์ชายก็ได้รับอนุญาตให้ไปเยี่ยมแม่ของเขาทุกเดือน

หลี่มู่ กวาดทั้งตำหนักทันที

เขาทำความสะอาดสถานที่บางแห่งซ้ำแล้วซ้ำอีก

เขาไม่ได้พยายามที่จะประจบประแจงองค์ชาย เขาแค่ไม่อยากให้ชีวิตอันเงียบสงบของเขาถูกรบกวน

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาเป็นการเยาะเย้ยความพยายามทั้งหมดของเขา

หลังจากเก้าโมงเช้า นางในและขีนทีกลุ่มใหญ่เข้ามาทำความสะอาดในตำหนักทั้งหมดอย่างละเอียด

“บ้าจริง ข้าคงเก็บแรงไว้ทำอย่างอื่นได้ถ้ารู้เรื่องนี้”

เขาเสียใจที่ต้องเสียเวลาทั้งคืนโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อจู่ๆ มีทหารองคลักษ์กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในตำหนัก

นี่แค่เด็กสามขวบต้องยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ?

“จักรพรรดินีเสด็จมา!”

หลี่มู่ซึ่งยืนอยู่ตรงมุมห้อง รีบก้มตัวลงพื้นอย่างรวดเร็ว

จากนั้นจักรพรรดินีก็เสด็จเข้าไปในตำหนักที่รายล้อมไปด้วยกลุ่มสตรีในราชสำนักและขันที

ขันทีและองครักษ์หลายคนยืนอยู่นอกตำหนัก

“ทำไมจักรพรรดินีถึงอยู่ที่นี่” เขาสงสัยก่อนที่จะลงชื่อเข้าใช้ต่อไป

เขาไม่สนใจเลยสักนิดว่าผู้มาเยือนเป็นใคร เพราะมันแทบไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย

ดิง! “ได้รับ โอสถรวมปราน การกินจะทำให้ได้รับ พลังปรานห้าปี”

ฮัฟ~

“ในที่สุด ข้าได้รับบางอย่างที่จะเพิ่มพลังของข้า”

ตำหนักเย็น ทั้งหมดเต็มไปด้วยขันที สตรีในราชสำนัก และทหารองครักษ์ มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะกินโอสถ

เขาเริ่มสังเกตองครักษ์และขันทีด้วยความเบื่อหน่าย

หลายคนสวมชุดคลุมสีม่วง

ขันทีเหล่านั้นเป็นผู้รับใช้จักรพรรดิโดยตรง

โฉบ~

ขันทีที่สวมชุดคลุมสีม่วงหันมองไปทางหลี่มู่ในทันที

แรงกดดันตรวจสอบไปทั่วร่างของเขา

เขาก้มหัวลงทันที

“นี่มัน อันตราย”

เขาเพียงชำเลียงมอง

มันถูกค้นพบโดยการแอบสังเกตของเขา พิจารณาจากลมปรานที่ส่งออกมาจากขันที่ชรา

ขันทีชราผู้นั้นมีพลังมากกว่าเขามาก

หากคืนนี้เขากันโอสถรวมลมปราน เขาจะมีความสามารถเอาชนะขันที่ชราได้หรือไม่

พระราชวังเต็มไปด้วย พยัคย์หมอบ มังกรซ่อน

“จากนี้ไปจะระวังตัวให้มากขึ้น”

ตำหนักจิงหนิงกับสู่ความสงบอีกครั้งทันทีที่จักรพรรดินีจากไป

จากนั้นหลี่มู่ก็กลับไปลงชื่อเข้าใช้ด้วยความเบื่อหน่าย

...

สองเดือนต่อมาก็ถึงฤดูใบไม้ร่วง

ได้ยินเสียงกระแอมดังไปทั่วตำหนัก

หลี่มู่ ขมวดคิ้ว

“ฉันหวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับสนมจิง”

“เซียวลีจือ รับเหรียญคำสั่งและไปที่ ตำหนักโอสถ แล้วนำโอสถแก้ลมเย็น ของสนมจิงมา”

หญิงชราโยนเหรียญตาให้หลี่มู่ขณะที่เธอเดินผ่านบริเวณนั้น

"นี่คือ…"

“บัตรผ่านที่จักรพรรดินีทิ้งไว้ ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนเหรียญคำสั่งของจักรพรรดินี เจ้าสบายใจได้ไปได้แล้ว”

"ครับคุณผู้หญิง."

หลี่มู่รับเหรียญตาและโค้งคำนับ

ในที่สุดก็มีโอกาสได้ลงชื่อเข้าใช้ในสถานที่อื่นที่ไม่ใช่ตำหนักเย็น

เขาตกตะลึงทันทีที่เขาเดินออกมา

“ตำหนักโอสถอยู่ที่ไหน”

ไม่มีใครให้เขาถาม

"อะไรก็ตาม..."

“มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

“ข้ามีเหรียญคำสั่ง ไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งใด”

“ลงชื่อเข้าใช้”

หลี่มู่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ลงชื่อเข้าใช้ทุกครั้งที่เดินผ่านสถานที่ใหม่

“ลงชื่อกองบัญชาการม้า สำเร็จแล้ว ได้รับรางวัล วิชาย่างก้าวเทพวายุ”

“ลงชื่อเข้าใช้ ตำหนักเจียนจาง เรียบร้อยแล้ว ได้รับรางวัล เทคนิคดาบวิญญาณศักดิ์สิทธิ์”

……

“ขันทีน้อย เจ้ามาทำอะไรแถวนี้”

ขันทีชุดเขียวเรียกหลี่มู่ที่กำลังลงชื่อเข้าใช้อย่างเมามัน

“ท่านครับ ข้าน้อยมาจากตำหนักจิงหนิง ได้รับคำสั่งของจักรพรรดินีให้นำโอสถจากตำหนักโอสถของจักรพรรดิ ข้าหลงทางเพราะไม่

ได้คุ้นเคยกับสถานที่ ดังนั้น…”

จากนั้นหลี่มู่ก็เหรียญคำสั่งที่หญิงชรามอบให้เขา

“โอ้ คำสั่งจากจักรพรรดินี ถ้าเช่นนั้น? มากับข้า”

ขันทีชรามองดูบัตรผ่านและส่งคืนให้เขา

ขันทีชราจึงไม่ได้จับผิดเขา ขันทีชราเดินนำทางให้เขาเล็กน้อยก่อนจะชี้ทางให้เขาและจากไป

หลี่มู่พบตำหนักโอสถ อย่างรวดเร็วจากคำแนะนำของขันทีชุดเขียว

"เจ้าคือใคร?"

“ข้ามาที่นี่เพื่อต้องการโอสถรักษา” หลี่มู่คำนับและส่งเหรียญตา

ขันทีอาวุโสมองไปที่เหรียญแล้วพูดว่า "ตามข้ามา"

จากนั้นเมื่อเข้าไปข้างในหลี่มู่ก็ยืนรอ

“ลงชื่อเข้าใช้ ตำหนักโอสถ”

“ลงชื่อเข้าใช้ตำหนักโอสถจักรพรรดิเรียบร้อยแล้ว รางวัล โอสถหวนคืนชั้นต่ำ การโอสถหวนคืนชั้นต่ำ ได้รับพลังปราน 30 ปี”

เมื่อหลี่มู่ได้รับโอสถเขาก็เดินออกจากตำหนักโอสถ และเดินเท้ากลับตำหนักจิงหนิง

การเดินทางของเขาราบรื่นมากเพราะการมีอยู่ของเหรียญคำสั่ง

เขามอบโอสถให้หญิงชราและกลับไปทำความสะอาด

ครู่หนึ่งหลี่มู่ต้องทำการทดสอบโอสถ เมื่อเสร็จแล้ว เขาก็กับไปที่ห้อง หลังจากแน่ใจแล้วว่าตนจะไม่ถูกรบกวน

การเก็บเกี่ยวในวันนี้ไม่เลว!

ย่างก้าวเทพวายุ เป็นเทคนิคการเคลื่อนไหวที่หายากในโลกนี้

วิชาดาบวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เป็นเทคนิคเฉพาะของ ดาบศักดิ์สิทธิ์ และมีสี่ระดับ

การเคลื่อนไหวจังหวะแรกถึงจังหวะที่ 18

การเคลื่อนไหวนั้นเต็มไปด้วยคมดาบไม่สิ้นสุดและยังเป็นที่รู้จักกันในนามคมดาบที่เต็มไปด้วยอารมณ์

กระบวนท่าที่ 19 ถึง 22...

ท่วงท่านี่นี้สร้างความตกตะลึงทางจิตใจ โหดเหี้ยม และด้วยเหตุนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นท่วงท่าไร้อารมณ์

กระบวนท่าที่ 23

นั่นคือการเคลื่อนไหวของเจตจำนงซึ่งสามารถทำลายเจตจำนงของฝ่ายตรงข้ามได้ มันเป็นท่าที่ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมพื้นที่โดย

รอบ ได้ด้วยดาบเพียงเล่มเดียว และมันทำให้การฆ่าคนโดยไม่ต้องขยับตัวทำได้ไม่ยาก

ระดับที่สี่ ไร้ตัวตน

เมื่อสำเร็จวิชา ดาบวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เขาจะเป็นรู้จักในนามของ ปรมาจารย์ดาบ

หลี่มู่ระงับความตื่นเต้นของเขา

วันต่อมา หลี่มู่รู้สึกว่าเท้าของตนเบาหวิว

เขาเริ่มฝึกกระบวนท่าของวิชาดาบวิญญาณ โดยใช้ไม้กวาดพื้น

ในขณะที่เขายังคงกวาดพื้นอยู่

แน่นอนว่าเรื่องทั้งทั้งหมดนี้เป็นความลับ

ด้วยระดับพลังของเขาในขณะนี้ คงเป็นเรื่องยากมากสำหรับนางสนมจิงและหญิงชราที่จะสังเกตเห็น

หลังจากกวาดพื้นแล้ว หลี่มู่ก็ฟังเสียงรอบข้างอย่างเงียบๆ

เขาได้ยินเสียงลมหายใจของคนสองคนในวัง คนหนึ่งมีลมหายใจปกติส่วนอีกคนลมหายใจแผ่วเบา

ลมหายใจแผ่วเบามาจากนางสนม

"หืม. ลมหายใจ… บ้าจริง นางสนมถูกพิษ มันเป็นพิษออกฤทธิ์ช้า”

หลี่มู่ตกตะลึง

มีคนตัดสินใจวางยานางสนมทั้งๆ ที่จักรพรรดินีสนใจ และยิ่งกว่านั้น พวกเขาใช้ยาพิษที่ออกฤทธิ์ช้า

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด