ตอนที่แล้วตอนที่ 971 ควาฟู่ไล่ตามตะวัน?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 973 พลัดพรากตลอดกาล

ตอนที่ 972 เจ้าหมาโง่


ในโลกศิลาทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนในอดีต

แม้ว่าโลกศิลาแทบจะถูกทำลายแต่จ้าวสุริยาจะทำให้โลกศิลาคืนสภาพเป็นเหมือนเดิมได้อีกภายใต้การย้อนเวลาของนาฬิกาสุริยะสนามพลังกาลเวลาและกฎสวรรค์ของกาลเวลา ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือเย่ว์หยางหมิงลี่ฮ่าวและเทวีเสรีภาพฝ่ายตรงข้ามทั้งสามคนหายไป ทั้งสามคนยอมให้ดวงอาทิตย์แผดเผาและหายไปโดยไม่เหลืออะไรหรือไม่?

จ้าวสุริยารู้ว่าพลังโจมตีของเขารุนแรงน่ากลัวแค่ไหน

แม้ว่าเขาจะโจมตีแทบสุดกำลังแต่เขาไม่คิดว่าเขาจะสามารถกำจัดชีวิตของคนทั้งสามได้หมดสิ้น  โดยเฉพาะเย่ว์หยาง

ต่อให้เป็นเทวีเสรีภาพและหมิงลี่ฮ่าวไม่น่าจะตายอย่างง่ายดายนัก

เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะบาดเจ็บสาหัส

อย่างไรก็ตามเมื่อพบว่าร่างทั้งสามหายไป  จ้าวสุริยาคิดได้ทันที

เย่ว์หยางและหมิงลี่ฮ่าวหนีไปได้....ภายใต้การจับตามองของเขา พลังทำลายล้างที่รุนแรงของเขา  พวกเขาหลบหนีไปด้วยวิธีการพิเศษที่เขาคาดไม่ถึง

นั่นคงไม่ใช่ความสามารถของเข็มทิศสามพิภพแน่

ภายใต้อิทธิพลของสนามพลังและกฎสวรรค์  เข็มทิศสามพิภพจะใช้งานไม่ได้  เจ้าเด็กเย่ว์หยางนี่ต้องใช้วิธีการอื่น

“.....” จ้าวสุริยามองดูที่ๆ เย่ว์หยางยืนมีกองเลือดกองเล็ก

เขาดีดนิ้ว

อสูรแปลกประหลาดผิวสีเขียวกระโดดออกมาจากแสงสีทอง

มันดมกลิ่นอยู่ครู่หนึ่งและวิ่งไปยังอีกโลกหนึ่ง

นี่คืออสูรที่จ้าวสุริยาเชื่อใจมากที่สุด อสูรสุนัขนำทางมันไม่ใช่เป็นอสูรสำหรับต่อสู้ แต่เป็นสัตว์ติดตามร่องรอยชั้นเยี่ยม  เพราะมันเป็นอสูรที่มีความสามารถและหาได้ยากมาก ในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์มีแต่ผู้บัญชาการที่สูงกว่าระดับเจ้าตำหนักขึ้นไปจึงจะมีได้สุนัขตัวนี้เมื่อเริ่มติดตามร่องรอยแล้วมันจะไม่มีการหลงทาง  อสูรสุนัขนำทางไม่ใช่อสูรแข็งแกร่งแต่ร่างของมันครึ่งหนึ่งเป็นองค์ประกอบธาตุของสิ่งมีชีวิตเฉพาะทางไม่ว่าจะเป็นทะเลและอากาศ ไม่ว่าภูมิประเทศจะเลวร้ายเพียงไหนไม่อาจจะหยุดการไล่ติดตามของมันได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดทันทีที่เจ้าอสูรสุนัขนำทางนี้ติดตามร่องรอย ก่อนที่เจ้าของจะตายไม่ว่าจะฆ่ามันอย่างไรก็ตาม มันไม่ตาย มันมีลักษณะคล้ายอสูรพิทักษ์อยู่บ้าง

อสูรสุนัขนำทางของจ้าวสุริยาถูกฝึกฝนจนมีพลังปราณฟ้าระดับหนึ่ง  แม้ว่าจะไม่พอใช้ในการต่อสู้ก็ตาม

แต่ใช้ในการติดตามร่องรอยยังนับว่าเพียงพออยู่

ก่อนจะทำการติดตามจ้าวสุริยายังคงสังเกตรอบๆ โลกศิลา

เห็นได้ชัดว่าแม้จะใช้อสูรสุนัขนำทางติดตามแต่เขาก็ยังไม่เชื่อผลลัพธ์ที่ได้เต็มที่ เขาค้นหารอบๆ ด้วยความระมัดระวังอย่างดี จนกว่าจะได้รับการยืนยันซ้ำว่าเย่ว์หยางและหมิงลี่ฮ่าวไม่ได้ซ่อนตัวจากสายตาของเขา  ไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในที่ใดสักแห่งในโลกศิลา  ใช่แน่นอนเขาเข้าไปยังโลกแดนดาวแห่งใดแห่งหนึ่ง จ้าวสุริยาติดตามเขาไปอย่างไม่เร่งรีบ

ว่าตามตรงแม้ว่าเขาได้เห็นศพของหมิงลี่ฮ่าวและของเย่ว์หยาง

เขาก็ยังคลางแคลงใจอยู่ดี

ก่อนจะเห็นหมิงลี่ฮ่าวและเย่ว์หยางถูกทำลายวิญญาณอย่างสมบูรณ์จ้าวสุริยาไม่มีทางเชื่อว่าเย่ว์หยาง จักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่จะตายจริงๆ

แม้ว่าจะมีโอกาสเพียงหนึ่งในพันจ้าวสุริยาจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น สำหรับจ้าวสุริยาเพื่อให้ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์รุ่งเรืองตลอดไปภัยคุกคามอย่างเย่ว์หยางต้องกำจัดให้เด็ดขาด

โลกแดนดาวที่ว่างเปล่า

แม้แต่ศพของเทพธิดาที่ไม่ปรากฏชื่อครึ่งหนึ่งก็หายไป

ในจุดตำแหน่งเดิมของศพเทพธิดามีกลุ่มอักขระรูนที่ดูลึกลับ

จ้าวสุริยาเดินขึ้นหน้าด้วยความยากลำบากและเขารู้จักวงเวทอักขระรูนนี้

เขาพบว่าวงเวทนั้นเป็นวงเวทรูนเจตจำนงเทพ

แม้ว่าวงเวทเจตจำนงเทพนี้เป็นไปได้ว่าจะเป็นเส้นทางเทเลพอร์ตเข้าสู่พื้นที่เก็บรักษาคัมภีร์เทพตามความปรารถนาของเทพธิดานี้ ตัวเทพธิดาเองเพื่อเปิดพื้นที่ให้อนุชนรุ่นหลังได้เข้าสู่มิติเก็บคัมภีร์เทพนางยอมเสียสละชีวิตก่อนจะเปิดเส้นทางปณิธานเทพนี้สำเร็จ“กลับกลายเป็นว่าที่เจ้าเด็กนั่นเปิดกระโปรงเทพธิดาโดยไม่สนใจศีลธรรมอันดีงามเป็นเพราะสำรวจเส้นทางปณิธานเทพนั่นเอง” สีหน้าของจ้าวสุริยาบิดเบี้ยวน่าเกลียด เขาค่อยๆ รวบกำปั้น “บัดซบ!ไอ้เด็กเจ้าเล่ห์ในตอนที่ข้ายังหาตัวเขาไม่พบ เขาคิดหาวิธีถอยไว้แล้วหรือนี่?สมแล้วที่ฆ่าจักรพรรดินีฟ้าแห่งเผ่าเก้าแสงได้!”

“โฮ่ง โฮ่ง!” อสูรสุนัขนำทางไม่ได้ติดตามร่องรอยจากกลิ่น  แต่มันติดตามโดยพลังเหนี่ยวนำทางมันเห่าวงเวทอักขระรูนวงหนึ่งอย่างบ้าคลั่ง

อย่างไรก็ตามด้วยความสามารถของมันและความเชื่องเชื่อของมันก่อนที่จ้าวสุริยาจะออกคำสั่ง

มันเข้าสู่ภายในวงเวทเทเลพอร์ตที่เกิดจากปณิธานเทพตามลำพังอย่างยากลำบาก

มิติเก็บคัมภีร์เทพไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ไม่อาจเข้าไปได้

อสูรสุนัขนำทางมีพลังจิตวิญญาณบางอย่าง

มันรู้สึกได้ถึงพลังของคัมภีร์เทพและมีความกลัวจากก้นบึ้งหัวใจ

จ้าวสุริยามองดูมันและกล่าว  “เจ้าจงอยู่ที่นี่อย่าให้ใครเข้าไปตราบเท่าที่ข้ายังไม่ออกมา แม้แต่พระยาราชสีห์ ราชาจินกวนและราชาสองหน้าถ้าพวกเขามาก็ปล่อยให้รออยู่ข้างนอก อย่าให้ใครแตะต้องวงเวทรูนปณิธานเทพเด็ดขาด”

อสูรสุนัขนำทางมีสติปัญญาและรู้ใจมนุษย์เพียงแต่มันพูดไม่ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเหมือนนักรบปราณฟ้าที่เป็นผู้ใหญ่

มันคำนับและรับคำสั่ง

นอนหมอบอยู่หน้าวงเวทอักขระรูนปณิธานเทพรอคอยการกลับมาของเจ้านายอย่างเงียบงัน

ร่างของจ้าวสุริยากระพริบและเปล่งรัศมีสีทองเจิดจ้าขณะยืนอยู่บนวงเวทอักขระรูนและเทเลพอร์ตหายไปทันที

ห้านาทีต่อมา

ทันใดนั้นเขาปรากฏตัวอีกครั้งและบินออกไปจากโลกศิลาเพื่อค้นหาอีกครั้งเชื่อว่าเย่ว์หยางพาหมิงลี่ฮ่าวและเทวีเสรีภาพหลบหนีเข้าไปในมิติเก็บคัมภีร์เทพเขาเข้าไปในวงเวทปณิธานเทพอักขระรูนโบราณอีกครั้ง

วงเวทปณิธานเทพฉายแสงรัศมีสีเงินเจิดจ้าไม่มีใดเปรียบราวกับทางช้างเผือกในท้องฟ้า

พลังเทพสายหนึ่งก่อเกิดที่ใต้เท้าของจ้าวสุริยา

จ้าวสุริยาเทเลพอร์ตหายวับไปในทันที

ในเวลาเดียวกันเหมือนกับว่าเป็นการเปิดประตูพอคนหนึ่งเข้าก็มีคนหนึ่งออกมาเช่นเดียวกันเย่ว์หยางออกมายืนในตำแหน่งวงเวทเทเลพอร์ตปณิธานเทพแทนจ้าวสุริยา  อสูรสุนัขนำทางตาโตทันที  “งี่เง่า!  เจ้าหมาน้อย เจ้าตาบอดหรือเปล่า? ไม่รู้จักมีมารยาท เจ้านายของเจ้าไม่สั่งสอนบ้างหรือไง?”  เย่ว์หยางทำให้เจ้าอสูรสุนัขนำทางสับสนอึดอัดใจจากนั้นเขาเตะมันกระเด็น อสูรสุนัขนำทางพุ่งออกไปราวกับลูกกระสุนห่างออกไปร้อยเมตรหัวของมันแตก กระดูกสันหลังแทบหัก สมองมึนงงปั่นป่วนมันไม่สามารถรู้สึกตัวได้อยู่ชั่วขณะ ศัตรูนี้ออกมาจากโลกคัมภีร์เทพได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพิจารณาถึงเวลาที่เจ้านายเข้าไปใช้เวลาไม่มากไปกว่าหนึ่งวินาที นี่เป็นไปได้อย่างไร?

แน่นอนว่าปล่อยสุนัขไว้เพียงตัวเดียวทั้งที่จ้าวสุริยาเจ้านายของสุนัขนำทางก็ระมัดระวังเป็นอย่างดีทั้งหมดนี้ก็ยังอยู่ในการคำนวณของเย่ว์หยาง

หลังจากถูกเตะกระเด็นอสูรสุนัขนำทางอยู่ในอาการปางตาย มันเห่าอย่างบ้าคลั่ง “โฮ่ง โฮ่ง...”

เมื่อเห็นเย่ว์หยางกำลังจะจากไป

อสูรสุนัขนำทองรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้น

มันคิดว่าจะรอเจ้านายอยู่หน้าวงเวทเทเลพอร์ตหรือจะติดตามศัตรูผู้นี้?

ตัวเลือกทั้งสองนี้สำคัญพอกันเฝ้าอยู่ที่นี่ป้องกันไม่ให้ใครบางคนทำลายวงเวทเทเลพอร์ต ถ้าเจ้านายทำสัญญากับคัมภีร์เทพไม่สำเร็จ  เขาก็ต้องออกมาจากที่นี่  ถ้าวงเวทเทเลพอร์ตพังอย่างนั้นเจ้านายจะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ถ้าเขาต้องการมัน  อย่างไรก็ตามเป้าหมายหลักที่เจ้านายเข้าไปในในพื้นที่เก็บคัมภีร์เทพก็เพื่อฆ่าศัตรูที่เป็นภัยคุกคามนี้  ถ้าศัตรูหนีไปได้ ภารกิจก่อนหน้านั้นย่อมเสียไปด้วยไม่ใช่หรือ?

ความคิดทั้งสองขัดแย้งกันทำให้สมองของอสูรสุนัขนำทางแทบระเบิด

ที่สำคัญมันไม่ใช่มนุษย์

ถึงฉลาดแต่ก็เป็นแค่สุนัข!

รอให้เย่ว์หยาวค่อยๆออกไปจากโลกแดนดาว และจากนั้นเตรียมจะออกไปจากโลกศิลาเจ้าอสูรสุนัขนำทางรีบไล่ตามมาทันอย่างช่วยไม่ได้ด้วยความสามารถของมันเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันไม่ให้เย่ว์หยางจากไป  แต่ถ้าเป็นแค่ติดตามเย่ว์หยางอยู่ตลอดเวลาและทิ้งร่องรอยไว้ให้เจ้านายของมันย่อมจะทำได้

เย่ว์หยางไม่ให้ความสนใจมัน  เมื่อเขาเตรียมเดินเข้าทางผ่านมิติมีสุนัขสกปรกที่บาดเจ็บร่างโชกเลือดวิ่งสวนเข้ามาในทางผ่านมิติ

มันส่ายศีรษะและทำตัวเป็นเหมือนสุนัขจอมประจบ

รอยยิ้มบนใบหน้าของมันทำให้เจ้าอสูรสุนัขนำทางมองดูว่าเป็นการจะเลียประจบ

แม่มันเถอะต่อให้เป็นหมาเฝ้าบ้าน แต่นั่นเป็นการลดคุณค่าตัวเองเกินไปหรือเปล่า? นี่มันทำเสียหน้าสถาบันหมาหมดแล้ว!

ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยางอสูรสุนัขนำทางคงจะสั่งสอนเจ้าหมาป่าตัวนี้ให้รู้ว่าหมานั้นมีศักดิ์ศรีมากเพียงไหน!

“เจ้าหมาโง่!  เราคุณชายยังต้องให้เจ้ามาช่วยอีกหรือ?  แม้เจ้าไม่ต้องใช้สมองคิด เราคุณชายก็มีโชคดีอยู่แล้ว  แล้วเจ้าประสบเหตุเมื่อไหร่?นี่เจ้าเป็นหมูหรือหมากันแน่? โง่ได้, แต่ต้องไม่โง่ขนาดนั้น  โง่ไปนิด ไม่เป็นไร!”เย่ว์หยางมองเห็นความภักดีของฮุยไท่หลางก็ยินดียินดีที่สุนัขเลี้ยงของเขากลับมาช่วยเจ้านายเหมือนกับนิยายชีวิตของป้าฉงเหยา ยังมีสุนัขอย่างนั้นอยู่จริงอีกหรือ?

“เมี้ยว!”ฮุยไท่หลางรีบอวดความน่ารักของมันคล้ายกับว่ามันบังเอิญผ่านเข้ามาทางนี้โดยหลักก็คือยังให้ความเคารพในศักดิ์ศรีของเจ้านาย

ทักษะที่แสดงความภักดีเช่นนี้ทำให้อสูรสุนัขนำทางอยากอ้วกอาหารสุนัขออกมา

เจ้าหมาราคาถูกน่าสมเพช!

มันไม่เคยแสดงความภักดีด้วยวิธีการแบบนี้!

เย่ว์หยางหันกลับไปมองอสูรสุนัขนำทางและรำพึงกับตนเอง  “แม้ว่าฝีมือสู้รบไม่ดีแต่การติดตามสะกดรอยไม่เลว และมันรวดเร็วมาก!”

อสูรสุนัขนำทางรู้ว่าเขากำลังพูดถึงมัน  มันวิ่งไปอวดแสดงความภูมิใจต่อหน้าฮุยไท่หลางและยั่วโมโหเหมือนบอกให้รู้ว่าศักดิ์ศรีหมาที่แท้จริงคืออะไร? มันไม่เพียงแต่ได้รับการชื่นชมยกย่องจากเจ้านายเท่านั้นแต่ยังได้รับการยอมรับจากศัตรู...สุนัขเฝ้าบ้านที่ได้รับบาดเจ็บอย่างนี้เจ้านายไม่ชมชอบมัน คนนอกก็ไม่รัก มันเป็นสุนัขที่น่าขายหน้าที่สุดในวงการสุนัข

ฮุยไท่หลางดูเหมือนกับว่าปล่อยให้อสูรสุนัขนำทางโจมตี

ตลอดทั้งของมันกระแทกลงกับพื้น

สีหน้าท่าทางมันไม่มีชีวิตชีวา

หลังจากเย่ว์หยางเดินผ่านไปแล้วมันยืดตัวยืดขาทั้งสี่ กลายเป็นอสูรหิวโหยไร้น้ำใจ

อสูรสุนัขนำทางเตรียมจะไล่ตามเย่ว์หยาง  แต่ก่อนที่มันจะไล่ตามศัตรูมันไม่คิดจะปกปิดความภูมิใจของ มันวนเวียนอยู่รอบตัวฮุยไท่หลางส่ายก้นอวดความภูมิใจของมันโดยไม่ป้องกันตัว

มันเห็นว่าพลังของฮุยไท่หลางอ่อนด้อยมากและกำลังจะตาย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพลังของสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะตายจะหายไปอย่างสมบูรณ์ต่อให้ต้องการสู้อสูรสุนัขนำทางคิดว่าเจ้าสุนัขสกปรกน่ารังเกียจนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่คู่ควรของเจ้าชายสุนัขอย่างมัน อสูรสุนัขนำทางเงยหน้ามองดูสถานที่ที่เย่ว์หยางหายไปอย่างลังเล ด้วยความเร็วของศัตรูมันมีความมั่นใจว่าจะไล่ทันภายในสามสิบวินาที

ถึงตอนนั้นอสูรสุนัขนำทางลังเลอยู่หนึ่งวินาที

ในที่สุดมันตัดสินใจเล่นสนุกกับเจ้าหมาบ้านนอกโง่เง่าตัวนี้

“โฮ่ง โฮ่ง!” อสูรสุนัขนำทางกระดิกหางบิดก้นหน้าฮุยไท่หลางทำนองว่าอย่างเจ้ายังไม่มีทางไล่ตามลมที่ผายของมันได้ทัน

ฮุยไท่หลางตวัดกรงเล็บด้วยความโมโห

แต่ความเร็วของอสูรสุนัขนำทางเร็วเกินไป

มันไล่ไม่ทันเลยแม้แต่น้อย

อสูรสุนัขนำทางหลบหลีกตอนแรก แต่เมื่อมันประเมินความเร็วในการโจมตีของเจ้าสุนัขสกปรกข้างหน้าของมันมันก็ยิ่งรู้สึกสนุกดีใจ แล้วหันก้นพร้อมกับส่ายยั่วโมโหอยู่ใกล้ปากฮุยไท่หลางต่อให้อีกฝ่ายหนึ่งเร็วกว่านี้สักสิบเท่า ก็ไม่สามารถแตะต้องแม้แต่ขนของมันได้

ถ้าความเร็วในการโจมตีของเจ้าสุนัขนี้คือลม  อย่างเจ้าอสูรสุนัขนำทางรู้สึกว่าพลังความเร็วของมันคือแสง

ลมไม่มีทางไล่ทันแสงได้ไม่ว่าจะพยายามขนาดไหนก็ตาม

ไม่ว่ามันจะโกรธเพียงไหน!

ฮุยไท่หลางอ้าปากไล่งับอสูรสุนัขนำทางอยู่สองสามครั้งแต่ก็ไล่กัดมันไม่ทัน

อสูรสุนัขนำทางหัวเราะกลิ้งอย่างพอใจ

อย่างไรก็ตามขณะที่มันกำลังหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ฮุยไท่หลางเคลื่อนไหวทันทีมันอ้าปากอีกครั้ง... หัวของมันขยายใหญ่โตกว่าตัวถึงร้อยเท่าและงับร่างของอสูรสุนัขนำทางในกร้วมเดียว อสูรสุนัขนำทางไม่มีทางหนีได้มันเร่งความเร็วสุดชีวิต แต่หนีไม่พ้นจากปากกว้างใหญ่ของฮุยไท่หลาง

กร้วม!

ฮุยไท่หลางกลืนอสูรสุนัขนำทางลงท้องมันแสยะยิ้มอีกครั้ง

มันเรียนรู้ท่าทางของอสูรสุนัขนำทางก่อนที่มันจะตายไว้ได้  บิดก้น กระดิกหาง เดินท่าทางกวนๆบนพื้นที่ก่อนที่เจ้าอสูรสุนัขนำทางจะตาย

ในที่สุดมันหัวเราะด้วยความสะใจ

กลิ้งกับพื้นไปมา....

รอจนมันหัวเราะจนหนำใจแล้วมันลุกขึ้นยืนและกลับคืนสภาพหมาหน้าโง่เหมือนอย่างเคย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด