ตอนที่แล้วตอนที่ 969 เห็นจุดอ่อน?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 971 ควาฟู่ไล่ตามตะวัน?

ตอนที่ 970 นี่คือหมาที่ฆ่าไม่ตาย


“ข้าเห็นว่าเจ้ามีข้อบกพร่องในทักษะเวลาของเจ้าจึงไม่อาจเคลื่อนไหวได้” เย่ว์หยางให้คำตอบจริง

“เจ้าจะทำยังไงถึงจะทำลายทักษะนั้นได้?”  จ้าวสุริยาถามอีกครั้ง

“ไม่” เย่ว์หยางตอบตามตรง

ทั้งสองคนสนทนากันราวกับเป็นสหายสนิท แต่หมิงลี่ฮ่าวและจักรพรรดิฟู่โฉวที่อยู่ใกล้พวกเขาพาสะท้านใจ นี่คือการต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายที่แท้จริงไม่ว่าสมรภูมิจะเปลี่ยนไปเช่นไรก็ตาม ทั้งคู่จ้องมองกันและกันต่างมองหาจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลาและหาโอกาสโจมตีพิชิตศัตรูอย่างเด็ดขาด ถึงไม่ได้ลงมือปะทะโดยตรงก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองไม่ได้ต่อสู้ ตรงกันข้ามนี่คือการต่อสู้ทางภูมิปัญญาที่น่ากลัวที่สุด เมื่อฝ่ายใดแพ้ก็จะสูญเสียชีวิต!

เย่ว์หยางจ้องมองจ้าวสุริยา

ทันใดนั้นเขาโบกมือให้หมิงลี่ฮ่าวและจักรพรรดิฟู่โฉวที่ตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน  “พวกท่านไปได้แล้ว  การต่อสู้ที่นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับท่าน วันนี้โลกศิลาจะมีผู้มีชีวิตรอดออกไปได้เพียงคนเดียว  อาจเป็นข้าหรือเป็นจ้าวสุริยาก็ได้”

หมิงลี่ฮ่าวมองเย่ว์หยางและมองจ้าวสุริยาที่สีหน้าของเขาไร้ความรู้สึก

สำรวจทางออกไปจากโลกศิลา

จ้าวสุริยาเพียงแต่จ้องมองเย่ว์หยางโดยไม่สนใจการแยกจากไปของหมิงลี่ฮ่าว

หมิงลี่ฮ่าวนักสู้ปราณราชันย์ระดับแปดเป็นเหมือนปลาเล็กปลาน้อยสำหรับในใจของจ้าวสุริยาปลาใหญ่ที่แท้จริงนั้นคือเย่ว์หยางที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ขณะที่นักสู้ปราณฟ้าอื่นเป็นแค่กุ้งหอยปูปลาน้อย เขาไม่สนใจ  ตราบใดที่เขาสามารถฆ่าเย่ว์หยางได้  จ้าวสุริยาไม่สนใจแม้ต้องปล่อยคนอย่างหมิงลี่ฮ่าวหรือจักรพรรดิฟู่โฉวสักร้อยคนก็ตาม ....เพราะคนเหล่านี้ไม่ใช่ตัวคุกคามที่ร้ายแรง เขาสามารถฆ่าหมิงลี่ฮ่าวหรือจักรพรรดิฟู่โฉวได้ทุกเมื่อตราบเท่าที่ทางตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ต้องการ

เมื่อเขาพบว่าเย่ว์หยางมีดวงตาวิเศษคู่หนึ่งสามารถมองเห็นได้ทุกอย่างก็แสดงว่าสามารถเติบโตในการสู้รบได้ไม่มีที่สิ้นสุด

จ้าวสุริยาตัดสินใจฆ่าเย่ว์หยางเด็กหนุ่มผู้น่ากลัวนี้

โดยไม่ลังเลกับการทุ่มเทพลังความสามารถทั้งหมด!

“จะให้ข้าไปจริงๆ หรือ?”  หมิงลี่ฮ่าวตะโกนมาทางเย่ว์หยางก่อนจากไป

“ฝ่าบาท” ราชาสองหน้าและแปดขุนพลบริวารมองดูจ้าวสุริยาอย่างกระวนกระวายพวกเขาควรจะไปหรือควรจะอยู่ต่อ?

“ปล่อยพวกเขาไป พวกเจ้าออกไปรอข้านอกพายุทะเลคลั่ง” ในสายตาของจ้าวสุริยา เย่ว์หยางคนเดียวเท่านั้นที่เป็นศัตรูตราบเท่าที่เขาไม่จากไปหมิงลี่ฮ่าวหนีไปก็ไม่เป็นไร  นอกจากนี้แม้ว่าจะมีอุปสรรคขัดขวาง  เด็กหนุ่มคนนี้สามารถมองเห็นความสามารถของเขาจะต้องมีวิธีส่งหมิงหลีฮ่าวออกไปจากโลกศิลา

“ขอรับ”

ราชาสองหน้าคำนับด้วยความเคารพและพาแปดขุนพลบริวารออกไปเป็นกลุ่มแรก

ปกติเขาจะไม่ยอมให้หมิงลี่ฮ่าวและนักสู้อื่นออกไปจากโลกศิลา  จ้าวสุริยาไม่มีเวลาจะทำเช่นนั้น พวกเขาพากันออกไปทั้งหมด

ในทะเลคลั่งยังมีพระยาราชสีห์และราชาจินกวนอยู่  แม้ว่าพวกเขาต้องการล้อมสังหารหมิงลี่ฮ่าวและจักรพรรดิฟู่โฉวและนักสู้ปราณฟ้าอื่นก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ หมิงลี่ฮ่าวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจักรพรรดิฟู่โฉวได้รับบาดเจ็บต่อเนื่องโดยเฉพาะการโดนพลังทำร้ายครั้งล่าสุด  เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและเหลือพลังไม่มาก  จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วสู้กับพระยาราชสีห์  แต่จักรพรรดิเสิ่นกวงบางทีอาจต้องทรยศ  ต่อให้ไม่ทำเขาก็ยังไม่กล้าเป็นศัตรูต่อตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์  สำหรับคนที่เหลือ เช่นเทวีเสรีภาพไม่มีพลังต่อสู้  คุณชายฉางฟงกำลังบาดเจ็บสาหัสและไม่มีพลังต่อสู้ ราชาชิงหลางและนักสู้ปราณฟ้าอื่นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแปดขุนพล

แม้ว่าภายนอกยกเว้นแต่จักรพรรดิเสินกวงแล้ว

มีเพียงคนเดียวที่อาจหลบหนีได้ก็คือหมิงลี่ฮ่าว...ราชาสองหน้าตัดสินใจรอคอยอยู่ข้างนอกและจากนั้นค่อยกางตาข่ายฟ้าเพื่อกำจัดเป้าหมายที่ยังเหลืออยู่ในรวดเดียว

เมื่อเห็นว่าเย่ว์หยางยังคงต้านทานได้และเห็นจ้าวสุริยาไม่ได้ห้าม หัวใจของนักสู้ปราณฟ้าพองโต ถึงแม้จะรู้ดีว่าต้องมีการต่อสู้ดุเดือดภายนอกแต่ยังดีกว่ามาเผชิญกับจ้าวสุริยา เมื่อเผชิญหน้ากับจ้าวสุริยาแม้แต่จักรพรรดิฟู่โฉวก็ยังไม่สามารถต้านทานพลังโจมตีของเขาได้

สู้กับจ้าวสุริยาต่อให้มีสิบชีวิตก็ไม่พอ

ตายสถานเดียว!

สถานการณ์การต่อสู้ที่ทะเลคลั่งข้างนอกอาจจะรุนแรงมาก  แต่อาจมีการถูกรบกวนได้และอาจมีคนบางส่วนที่หลบหนีได้

ทุกคนมีโอกาสจะโชคดี  และด้วยแนวคิดนี้ทุกคนแห่กันไปที่ทางเข้าออกโลกศิลา ส่วนบุรุษผมงูผู้บาดเจ็บสาหัสมีหัวหน้าจินฟันทองคอยประคองออกไป  ขณะที่พ่อบ้านเย่พยายามชักชวนเทวีเสรีภาพนางโบกมือปฏิเสธบอกว่านางต้องการอยู่ จงกวนและคนอื่นคืนสภาพปกติ พวกเขาคำนับเย่ว์หยางก่อนวิ่งนำหน้าศัตรูออกไป

แม้แต่คนที่เพิ่งเข้าร่วมกลุ่มใหม่อย่างฟงจีและจินหวินทำตาแดงกล่าว“คุณชาย, เราจะรอท่านข้างนอก เราต้องไปแล้ว!”

หมิงลี่ฮ่าวตบหน้าแต่ละคนทันที“เจ้าพวกโง่! แทนที่จะห่วงเจ้าเด็กนี่ ห่วงกระดูกบางๆ ของพวกเจ้าจะดีกว่า... ไปแยกย้ายเอาตัวรอดได้แล้ว!”

เย่ว์หยางไม่พูดอะไร

เขาเพียงแต่โบกมือ

เขาเพียงแต่ปล่อยให้จ้าวสุริยาจ้องมองเขาโดยไม่กระพริบตา

ถ้าเขาหละหลวมแม้แต่เล็กน้อย เย่ว์หยางรู้สึกว่าจ้าวสุริยาจะสบโอกาสฆ่าเขาทันที

หลังจากนั้นหมิงลี่ฮ่าวเดินนำหน้ากลุ่มตามด้วยจักรพรรดิฟู่โฉวกลุ่มคนทั้งหมดออกจากโลกศิลาเดินผ่านไปตามทางเดินมิติที่พังเสียหายไปแทบทุกแห่ง ก่อนจะเข้าไปในทะเลคลั่งหมิงลี่ฮ่าวชะงักเท้ากะทันหันเงยหน้ามองนักสู้ปราณฟ้าทีละคน  “พวกเจ้าไปกันต่อเถอะ!  ข้าล่าฮ่าวเป็นพี่ประสาอะไรกัน?  ในฐานะพี่เจ้าก็ต้องทำตัวเหมือนพี่ด้วยจริงไหม?”

จักรพรรดิฟู่โฉวลังเลเล็กน้อยและพูดโน้มน้าว  “ท่านก็รู้ ต่อให้ท่านอยู่ก็ช่วยเขาไม่ได้”

หมิงลี่ฮ่าวหัวเราะ  “ถูกแล้ว, ข้าไม่สามารถช่วยเขาได้  แต่ข้าไม่ได้บอกว่าจะช่วยเขาข้าคิดว่าเขาน่าสงสารมาก ข้าอยู่เป็นเพื่อนเขาไม่ได้หรือไง?  ถ้าข้าไม่อยู่ เจ้าเด็กนั่นตายแน่  ถ้าข้าอยู่บางทีอาจมีโอกาสสักหนึ่งในพัน...”

จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วที่เลือดเต็มตัวต่อว่าเขา  “หลังจากผ่านมานานหลายพันปี  นิสัยเจ้าไม่เปลี่ยนเลย  ยังดูน่ารำคาญอยู่เสมอ!”

หมิงลี่ฮ่าวกลับหลังหันและเดินไปที่โลกศิลา  “ข้าไม่ต้องการเปลี่ยน  ข้าไม่ชอบ!”

ราชาจื่อฟงที่อยู่บนหลังของพ่อบ้านเย่อยู่สภาพบาดเจ็บเจียนตายขณะที่หญิงงามจูกวงดูเหมือนมองดูหมิงลี่ฮ่าว เขามองสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวหลังจากฟื้นขึ้นมา

เมื่อหมิงลี่ฮ่าวหันกลับไปร่างราวกับภูเขาของเขาหายวับไปไม่เหลือร่องรอย

จักรพรรดิเสิ่นกวงกลายร่างเป็นสีทองและหายเข้าไปในทางผ่านมิติเข้าสู่ทะเลคลั่ง

เมื่อเห็นคนผู้นี้เร่งรีบออกไป  จักรพรรดิฟู่โฉวสีหน้าเปลี่ยน “ไม่ดีแน่,เจ้าผู้นี้ต้องการไปเข้ากับฝ่ายศัตรู... ช่างเถอะ,เขาเป็นคนแบบนั้นรอให้ข้ารับมือพระยาราชสีห์ที่แข็งแกร่งที่สุดและราชาจินกวน  พวกเจ้าหนีไปให้ไกลเท่าที่เป็นไปได้! ถ้าอสูรเทพและอาวุธเทพร่างอสูรของเย่ว์ไตตันยังคงต่อสู้อยู่  พวกเจ้ายังมีโอกาส  ถ้าการต่อสู้จบแล้วให้พยายามหาเส้นทางที่เป็นไปได้ที่ดีที่สุดสำหรับพวกเจ้า!”

“ฟู่โฉว!  เจ้าหนีไปคนเดียวเถอะ ยังมีโอกาสแก้แค้น  ตอนนี้เหลือแต่เพียงเจ้าเท่านั้น”  บุรุษผมงูฝืนยิ้ม  “เรามีแต่คนบาดเจ็บและฝีมืออ่อนด้อยกว่า  เราจะหนีไปไหนได้?”

“ฉางฟง!  ทั้งหมดเป็นเพราะข้า ถ้าไม่ใช่เพราะข้าทั้งเจ้าและเย่ว์ไตตันก็คงไม่มายังภูมิภาคสวนสวรรค์เป็นแน่” จักรพรรดิฟู่โฉวประคองไหล่บุรุษผมงูและกล่าวขออภัย

“ความจริงข้ามาที่นี่เพราะอยากรู้อยากเห็นเรื่องร่างเทพ  ไม่ใช่เพราะเจ้า!  นี่เป็นชะตากรรม!  ฟู่โฉว! เจ้าหนีไปเถอะ ข้ามีทักษะพิเศษถ่วงเวลาราชาสองหน้าได้สักหนึ่งนาที พระยาราชสีห์และราชาจินกวงยังคงสู้กับฮุยไท่หลางอยู่  หนีไปเดี๋ยวนี้เจ้ายังมีโอกาสล้างแค้นให้เราอีก..”

บุรุษผมงูไม่นับจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วเข้าเป็นกำลังรบหลัก

เขารู้

จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วจะต้องจากไปก่อนแน่นอน

จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วแค่นเสียงไม่มีความหมายและสาวเท้ายาวออกจากทางออกมิติ

จักรพรรดิฟู่โฉวยังคงไปร่วมกับกลุ่มคนและจะต้องลุยผ่านไปให้ได้ในขณะที่เขายังมีพละกำลังมากที่สุด  มิฉะนั้นจะไม่มีใครรอด

เมื่อกลับมายังทะเลคลั่ง

ภาพผิวทะเลปรากฏต่อสายตาพวกเขาแม้แต่จักรพรรดิฟู่โฉวก็ยังสะท้านใจ

เพราะราชาเฉินม่อยังไม่จากไปทันทีเขาจับจักรพรรดิเสิ่นกวงไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ที่ข้างราชาเฉินม่อมีราชาสองหน้า พระยาราชสีห์ราชาจินกวนและแปดขุนพลบริวาร... และความหวังของมารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรจักรพรรดิใต้พิภพและฮุยไท่หลางพังทลาย ทั้งร่างคนทั้งร่างอสูรเต็มด้วยเลือดทะเลคลั่งย้อมไปด้วยเลือดแดงฉาน

“เย่ว์หยางเล่า?”  มารสัมฤทธิ์พยายามดิ้นรน ร่างของเขาเปื้อนเลือดและมีบางส่วนแห้งกรัง

“....ไม่ห่างจากความตายนักหรอก”  ราชาสองหน้าหัวเราะเยือกเย็น

“ไป, เข้าไปข้างในกัน!” มารสัมฤทธิ์ฟ้าคำรามพยายามดิ้นรนฉุดดึงจักรพรรดิมังกรซึ่งมีบาดแผลถูกทำร้ายขึ้นจากผิวทะเลตามด้วยจักรพรรดิใต้พิภพที่น่าทึ่ง พวกเขาตรงไปยังทางเข้ามิติ ในสายตาทุกคนมารสัมฤทธิ์ฟ้าที่ใกล้จะตายนี้ต้องการเข้าไปช่วยความหวังของตน  ราชาสองหน้าไม่จำเป็นต้องใช้เคียวปีศาจแค่ใช้เพียงนิ้วเดียวยิงพลังดรรชนีทะลุผ่านจักรพรรดิใต้พิภพตรงไปที่มารสัมฤทธิ์ฟ้า

ร่างของมารสัมฤทธิ์ฟ้าสั่นสะท้าน

ไม่สามารถประคองตัวได้อีกต่อไป

เขาค่อยๆ ล้มลง

จักรพรรดิมังกรกู่ร้องโหยหวนทั้งน้ำตาแขนของเขาเปิดจนเห็นกระดูก ฝ่ามือเต็มไปด้วยเลือดเขาประคองร่างมารสัมฤทธิ์ฟ้าที่ใกล้จะหมดสติ “เราคือนักรบหอทงเทียน เจ้าฆ่าเราได้ แต่อย่าหวังว่าเราจะยอมแพ้ ถ้าเราไม่ตาย เจ้าไม่มีทางหยุดไม่ให้เราก้าวไปข้างหน้าแน่นอน  ความมุ่งมั่นใจการต่อสู้จะอยู่กับเราตลอดไป!”

ราชาเฉินม่อยังคงเยือกเย็นนักรบที่อ่อนแออย่างนั้นก็มีปณิธานราชันย์ด้วยหรือ?  หอทงเทียนถ้าไม่ถูกทำลาย นับว่าเป็นภัยคุกคามจริงๆ

แสงสองสายยิงออกไปแล้ว

และแสงสายที่สามกำลังพุ่งตรงมาหา

จักรพรรดิมังกรกัดฟันรับน้ำหนักของทุกคนไว้

ทั้งสามหลั่งโลหิตเหมือนน้ำตกไหลหยดลงไปในทะเลคลั่ง

เนื่องจากจักรพรรดิมังกรและมารสัมฤทธิ์ฟ้าแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กพื้นผิวทะเลคลั่งรอบตัวพวกเขาจึงสงบไม่ปั่นป่วน จักรพรรดิมังกรช่วยประคองมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิใต้พิภพพวกเขากัดฟันแน่นพยายามประคองตัวด้วยพละกำลังตนเอง

เลือดไหลไปตลอดทาง

ทั้งสามคนเดินอยู่บนเกลียวคลื่นเลือดของพวกเขาย้อมทะเลตลอดทางเดินผ่าน

“ดื้อรั้นน่าเบื่อหน่าย!” ราชาสองหน้าควงเคียวปีศาจครอบคลุมจักรพรรดิมังกรและมารสัมฤทธิ์ฟ้าและฟันลงทันที

“โฮ่ง!” เสียงหมาป่าเห่า

บนพื้นผิวทะเลสาบปรากฏร่างหมาป่าตัวมหึมา  มันอ้าปากกว้างใหญ่ที่สามารถกลืนคนได้เป็นล้านๆคน

พื้นผิวหนังไม่อาจกลบปิดกระดูกที่โผล่ออกมาจากตัวขณะมันพุ่งออกมาจากทะเลคลั่ง  เจ้าสุนัขสกปรกนี้เหมือนสามารถตายได้ทุกเมื่อมันโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำมันสะบัดศีรษะและรับจักรพรรดิมังกรและมารสัมฤทธิ์ฟ้าที่กำลังจะหมดสติ ที่หางของมันลากดาบอสูรเทาเถี้ยตามออกมาจากทะเลด้วยเช่นกัน

ราชาสองหน้าตะลึง  “พวกมันยังไม่ตายอีกหรือ?”

พระยาราชสีห์เหลือบมองราชาจินกวนและส่ายศีรษะถอนหายใจเบาๆ  “เจ้าหมาตัวนั้นข้าไม่รู้จะโจมตีฆ่ามันได้อย่างไร!”

พวกเขาไม่รู้ว่าใช้ความพยายามไปมากมายเพียงไหนพวกเขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อฆ่าอสูรเทพที่ยังไม่หยุดการพัฒนาเติบโต  อย่างไรก็ตามทุกอย่างที่ทำไปล้มเหลว!

มารสัมฤทธิ์ฟ้าถ่มเลือดและส่งจักรพรรดิใต้พิภพขึ้นหลังจักรพรรดิมังกร  เขายืดเอวเชิดหน้าใช้พลังไฟฟ้าทุบที่หน้าอกตนเองเพื่อกระตุ้นหัวใจให้เต้นแรงขึ้น  และหัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง

หัวใจของเขากลับมาเต้นตามปกติต่อ

ในดวงตาของมารสัมฤทธิ์ฟ้ามีประกายความปรารถนาจะต่อสู้อีกสายฟ้ามาปรากฏรอบตัวเขาอีกครั้ง

แม้ว่าตลอดทั้งร่างจะได้รับบาดเจ็บแต่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนคนเขากลัวว่าเมื่อเขาล้มอีกครั้งเขาจะตายหรือหมดความรู้สึกได้

เขากำหมัดแน่นไม่สนใจผู้ชมไม่สนใจศัตรู แค่เดินนำเข้าประตูทางผ่านมิติ ที่สำคัญคือพวกเขาสาบานว่าจะช่วยสนับสนุนเย่ว์หยางที่ต่อสู้อยู่ตามลำพัง เมื่อเขาและจักรพรรดิมังกรผู้แบกจักรพรรดิใต้พิภพเดินผ่านจักรพรรดิฟู่โฉว จักรพรรดิฟู่โฉวและบุรุษผมงูรู้สึกหัวใจสั่นไหว  ว่ากันในเรื่องของพลัง มารสัมฤทธิ์ฟ้าและสหายของเขาไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดแน่ แต่จิตวิญญาณนักสู้ของพวกเขาดีที่สุดในกลุ่มผู้ชมดู ไม่มีใครเทียบได้

นักรบจากหอทงเทียนน่ากลัวเสมอ

ทำไมพวกเขาถึงได้แข็งแกร่งนัก?

เท่าที่ดูจากมารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้นี้พอจะบอกได้ว่านักรบเหล่านี้ไม่สามารถจะเอาชนะได้

ต่อให้ฆ่าเขาก็ตาม  เขาจะไม่ยอมทิ้งปณิธาน  เขาอาจตายได้ แต่เขาจะไม่มีทางแพ้ นี่คือนักรบหอทงเทียน ไม่..เฉพาะมารสัมฤทธิ์ฟ้า แต่แม้แต่สหายของเขา และเจ้าสุนัขสกปรกที่ดูเหมือนจะเป็นอสูรเทพที่ซ่อนความสามารถไว้ลึกสุด แม้แต่จ้าวสุริยาก็ยังต้องทุ่มสุดกำลังเพื่อฆ่าเย่ว์ไตตันให้ได้...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด