ตอนที่แล้วตอนที่ 967 มีจุดอ่อนอย่างหนึ่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 969 เห็นจุดอ่อน?

ตอนที่ 968 เวลาผ่านไปและย้อนกลับ


ทุกคนมองดูเย่ว์หยาง

รอให้เขาเฉลยคำตอบที่น่าตกตะลึงที่ไม่มีใครรู้ได้ยินแต่เพียงคำว่า “จุดอ่อนของทักษะแฝงเร้นคืนสภาพก็คือ การคืนสภาพไม่ใช่คืนชีพ  แค่คืนสภาพเท่านั้น!”

หมิงลี่ฮ่าวทรุดลงกับพื้นอีกครั้ง..นี่น่ะหรือคำตอบ..นี่น่ะหรือจุดอ่อน? นี่คือจุดอ่อน!ทักษะแฝงเร้นคืนสภาพนี้น่ากลัว คืนสภาพทุกอย่าง แล้วคืนชีพเล่า?  ทำให้คนมีชีวิตต่อไม่ใช่หรือ?หมิงลี่ฮ่าวพูดไม่ออก และรู้สึกว่าความคาดหวังของเจ้าเด็กนี่ไม่ค่อยสูงนักที่สำคัญ เย่ว์หยางไม่ใช่อยู่ๆ ไม่กี่วันก็อ่อนโยน

หน้าของจ้าวสุริยาบึ้งทันทีนั่นเป็นภาพที่ยากจะเห็น

ราชาเฉินม่อไม่ส่งเสียงแต่อย่างใด  แต่แสดงสีหน้าตกใจออกมาเป็นครั้งแรก เพราะเขาไม่เคยเห็นอาการผิดปกติของจ้าวสุริยา  เจ้าเด็กเย่ว์หยางนั่นพูดจริงหรือ?

นี่เป็นจุดอ่อนจริงๆหรือ?

จักรพรรดิฟู่โฉวและคนอื่นๆสับสนว่าเย่ว์หยางพูดคำตอบไปแล้ว แต่ทุกคนก็ยังไม่เข้าใจ!

ราชาชิงหลางอยากกระโดดออกมาถอดเสื้อผ้าชูนิ้วกลางด้วยมือที่ยังเหลืออีกข้างหนึ่งตะโกนกู่ก้องฟ้า  อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานะและพลังของเขาทำให้ไม่มีที่ให้เขายืนพูด เขาได้แต่เจียมตัวยอมรับคิดว่าไม่เข้าใจก็ดีเหมือนกัน สติปัญญาต่ำนั้นดูปลอดภัยกว่า ดูอย่างคุณชายไตตัน เขาฉลาดกว่ามิใช่หรือ?   แม้แต่จ้าวสุริยาก็จ้องมองเขาเห็นแล้วรู้สึกหมดหวังจริงๆ

ถ้าราชาชิงหลางรู้ว่ามีสวรรค์มีจริงเขาอาจจะมีความสุขก็ได้

“พูดได้ดี!”  จ้าวสุริยาเงียบอยู่นาน แล้วพยักหน้าจริงจังจากนั้นส่ายหน้าถอนหายใจ “คุณชายไตตันมีจักษุทิพย์อยู่คู่หนึ่ง น่าเลื่อมใสจริงๆ  ถ้าปล่อยให้เจ้าได้เติบโตต่อไปอีกในอนาคตข้างหน้า เราจะยืนอยู่ตรงไหน?”

“ทักษะคืนสภาพเป็นจุดอ่อนจริงๆ หรือ?”  ราชาสองหน้าที่ดูฉลาดมาก ไม่สามารถเข้าใจได้

“....” พูดตามตรงแม้จะรวมราชาเฉินม่อผู้ติดตามจ้าวสุริยามายาวนาน ก็ยังไม่เข้าใจเขาแค่ฟังจ้าวสุริยาพูดด้วยความเสียใจเกี่ยวกับทักษะแฝงเร้นคืนสภาพ

“บอกเรามาเร็วๆ” หมิงลี่ฮ่าวแม้รู้ว่าการต่อสู้ตัดสินเด็ดขาดใกล้เข้ามาต่อให้ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวได้ เขาก็ยังอยากรู้

“ทักษะแฝงเร้นคืนสภาพของจ้าวสุริยา สามารถคืนสภาพทุกสิ่งอย่างที่อยู่ในสนามพลังได้แต่ไม่สามารถคืนชีวิตได้ หรือจะกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือทักษะแฝงเร้นย้อนเวลาของเจ้าสุริยา ไม่ใช่การย้อนเวลาที่แท้จริง กล่าวอีกอย่างหนึ่งไม่ใช่การย้อนเวลาที่สมบูรณ์  แต่เป็นการาย้อนเวลาเพื่อเป้าหมายบางอย่างนั่นก็คือการคืนสภาพ

“ในกรณีนี้ อาจจะน่าสนใจก็ได้”  หมิงลี่ฮ่าวหัวเราะร่าตอนนี้เขาเลิกคิดจะระเบิดตัวเองแล้วเป็นที่คาดกันว่ากู้คืนกลับมาในสภาพเล็กน้อย ราชาเฉินม่อและราชาสองหน้า อาจจะฆ่าไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องบาดเจ็บสาหัสแปดขุนพลบริวารก็คงไม่อาจทำอะไรได้

“ต่อให้เจ้ามองเห็นทักษะแฝงเร้นของข้าข้าจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้ามีโอกาสแสดงฝีมือ” จ้าวสุริยายิ้มอีกครั้งกับสถานการณ์รวม

“เว้นแต่มีพลังเทพหรือพลังกฎสวรรค์ที่แข็งแกร่ง”  จักรพรรดิฟู่โฉวมองดูหมิงลี่ฮ่าว

“ไม่ต้องมองข้า”  หมิงลี่ฮ่าวบอกว่าเขาไม่มีทักษะเช่นนี้  ต่อให้เขาสามารถใช้กฎสวรรค์ได้เล็กน้อยก็ตาม  แต่ก็ยังห่างไกลจากกฎแห่งกาลเวลาของจ้าวสุริยา  จะไปเทียบกันได้อย่างไร?

“ข้าอาจทำอะไรบางอย่างได้  แต่เจ้าต้องสัญญากับข้าว่าจะยึดภูมิภาคสวนสวรรค์และช่วยให้คนที่นี่ได้มีคืนวันที่ดี  ข้าเชื่อว่าเจ้าจะเป็นผู้ปกครองที่ดีที่สุดได้แม้ว่าเจ้าจะดูเหมือนเกียจคร้านเล็กน้อย แต่หัวใจเจ้ามีความเมตตามาก...”เทวีเสรีภาพยืนขึ้นทันทีและกระซิบคุยกับเย่ว์หยาง “ตราบเท่าที่เจ้าสัญญากับข้า ข้าจะส่งเจ้าออกไปจากที่นี่”

“อ่า...นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินคนชมว่าข้าใจดีมีเมตตา  ขอบคุณ แต่ท่านเห็นข้าเหมือนทหารที่วิ่งหนีออกสนามรบหรือไม่?” เย่ว์หยางหัวเราะและโบกมือส่งนางออกไปอยู่ห่างหลายร้อยเมตร

“แม้ว่านางจะสละชีวิตใช้พลังเทพช่วยให้เจ้าจากไปเจ้าก็ยังจากไปไม่ได้อยู่ดี” จ้าวสุริยายืนยันอย่างมั่นใจ

“งั้นก็สู้กัน”หมิงลี่ฮ่าวรู้สึกมีความหวังอยู่บ้างเล็กน้อยในครั้งนี้สู้กับความปรารถนาที่เดือดอยู่ในใจ แต่เขาไม่ได้ยินคำพูดของเย่ว์หยาง  เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดีจะรีบเร่งหรือหรือวางอุบายอย่างใดต่อ?

เขาหันไปสังเกตเย่ว์หยางหวังว่าเจ้าเด็กนี่จะจัดหน้าที่ให้กับทุกคน

จักรพรรดิฟู่โฉวยังคงมองตรวจตรา

จากนั้นก็เป็นจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วไม่อยากมองรอคอยให้เย่ว์หยางจัดการ....หรือว่าความเป็นความตายของทุกคนขึ้นอยู่กับคำพูดของเจ้าเด็กนี่

มีแต่เพียงจักรพรรดิเสิ่นกวงยังคงมองตาเป็นประกายไม่สามารถตัดสินใจได้  ที่สำคัญจ้าวสุริยาทรงพลังเกินไปต่อให้มีหมิงลี่ฮ่าว จักรพรรดิฟู่โฉวจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วมาช่วยนั่นเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์  นอกจากนี้บริวารรอบตัวจ้าวสุริยาล้วนแข็งแกร่งราชาเฉินม่อไม่ต้องพูดถึง แค่ราชาสองหน้าก็น่าจะรับมือราชาฟู่โฉวที่บาดเจ็บสาหัสและสู้กับจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วได้ถ้าราชาเฉินม่อรับมือกับหมิงลี่ฮ่าวชั่วคราวจ้าวสุริยาจะสามารถฆ่าเย่ว์หยางได้ทันที แม้เขาจะมีพลังจักษุทิพย์แต่ว่าพลังยังไม่พอ

เย่ว์หยางโบกมือทำนองเดียวกัน  “เล่าฮ่าว, ถอยไปก่อนตอนนี้เป็นการปะทะกันของราชา ยังไม่ถึงตาท่าน!”

หมิงลี่ฮ่าวโมโห  “ราชาผายลมหรือ? ถ้าข้าเป็นทหารเจ้าก็เป็นพลเรือนคนหนึ่ง”

คำตอบของเย่ว์หยางคือชูนิ้วกลางให้สองนิ้ว

จ้าวสุริยาโบกมือให้ราชาเฉินม่อและราชาสองหน้ากลับมาพร้อมกับแปดขุนพล การฆ่าหมิงลี่ฮ่าวและจักรพรรดิฟู่โฉวและคนอื่นไม่ใช่เป้าหมายใหญ่ที่สุดในการปฏิบัติการนี้การฆ่าจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แห่งหอทงเทียนฆ่าเย่ว์หยางหรือเย่ว์ไตตันบุคคลที่หาได้ยากในรอบหมื่นปีนั่นคือเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของเขา

เพื่อทำเป้าหมายนี้ให้สำเร็จจ้าวสุริยาไม่ว่าต้องทุ่มค่าใช้จ่ายเพียงไหนก็ต้องทำให้ได้

ผู้เยาว์รุ่นหลังที่สามารถเห็นจุดอ่อนของเขาได้ในระยะเวลาสั้นๆเขาต้องตาย ต้องไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสก้าวหน้าเติบโต

คนผู้นี้ต้องตายในเงื้อมมือของเขา  เพื่อความโล่งใจอย่างแท้จริง

ทันใดนั้นเย่ว์หยางใช้รัศมีสีดำคลุมไปทั้งร่างปิดกั้นรัศมีของนาฬิกาสุริยะ

พอเห็นภาพวิธีนี้จ้าวสุริยาหรี่ตาแคบทันที

เขาหรี่ตาแคบเหมือนเข็ม

นาฬิกาสุริยากลับมาอยู่ระหว่างนิ้วเขาทันที

หมิงลี่ฮ่าวจักรพรรดิฟู่โฉวและคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านข้างไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อยแต่พวกเขาสามารถเห็นได้ว่ามีกระแสไฟฟ้านับไม่ถ้วนอยู่รอบตัวเย่ว์หยางและมีเสียงแตกดูเหมือนกับว่ามีบางอย่างที่มองไม่เห็นกำลังปะทะเผชิญหน้ากัน  ในที่สุดพลังย้อนเวลาก็ชนะ เมื่อเข็มนาฬิกาสุริยะกลับไปอยู่ที่ตำแหน่งดั้งเดิมแสงสีดำบนร่างของเย่ว์หยางก็หายกลับเข้าไปในตัว

“ความจริงเจ้าเข้าใจกฎสวรรค์น้อย...”

จ้าวสุริยาจ้องหน้าเย่ว์หยางจริงจังและมีร่องรอยตื่นเต้น  “เทียบกับเจ้าแล้ว เมื่อข้ายังอายุเท่ากับเจ้าข้ายังท้อแท้กับความสามารถของตัวเอง สามารถฆ่าอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างเจ้า น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าทำลายสมบัติวิเศษได้และมีความรู้สึกว่าได้รับความสำเร็จอย่างแท้จริง ไตตัน! ถ้าเจ้าไม่มีวิธีสู้ที่ดีกว่านี้ อย่างนั้นการทดสอบก็จบ ข้าจะส่งเจ้าสู่เส้นทางปรภพทันทีที่เป็นไปได้  ข้ามักมีความรู้สึกว่ายิ่งเจ้าอยู่นานไปที่นี่จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าได้เห็นอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว  ฉะนั้นมีอะไรก็สั่งเสียได้เลย!”

“มาเลย” คำตอบของเย่ว์หยางง่ายๆ  เขากวักมือเรียกจ้าวสุริยา

ตาของจ้าวสุริยาเป็นประกายเหมือนดวงดาว

เขาเหยียดมืออย่างเคร่งขรึม

หนึ่งนิ้ว

แสงรังสียิงออกมาจากนาฬิกาสุริยะตรงเข้าหาเย่ว์หยาง

จงกวนผู้มีฝีมือพิเศษสลับร่างเงาหายตัวอยู่ที่เหนือศีรษะของเย่ว์หยางและรับพลังคลื่นแสงแทนเขาฝืนยิ้มอยู่ในอากาศ  “ไม่มีทางเลย  ด้วยพลังอย่างข้า ข้าทำได้เพียงแค่นี้!”

จ้าวสุริยาชี้นิ้วสั่ง“เวลาผ่านไปร้อยปี”

จงกวนครางและร่วงลงพื้น

ตลอดทั้งร่างเริ่มผ่ายผอมลงด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจนความแก่ชราของเขาไม่ใช่เพราะเวลาผ่านไปร้อยปี แต่เป็นเพราะช่วงร้อยปีร่างกายของเขาใช้พลังงานมากเกินไปโดยไม่ได้เสริมบำรุงแต่อย่างใดจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะคงร่างกายเดิมไว้ตามที่ต้องการ เขาผอมเหมือนกับปีศาจอดอยากหิวโหย ความหิวของเขาไม่ใช่แค่เพียงหิวอาหารธรรมดา  แต่เป็นหิวอย่างบ้าคลั่งความอ่อนล้าท่วมทับร่างกาย.. “ข้าไม่คิดเลยว่าจะหิวโหยได้ขนาดนี้”  จงกวนหายใจรวยรินและหลับตาอย่างอ่อนล้า

“ไม่!”  เฮยถูและไป๋หม่าร้องอย่างเศร้าใจ

ลำแสงสองสายยิงไปที่เย่ว์หยาง

แม้ว่าพวกเขาจะเห็นสภาพที่น่าสลดใจของจงกวนพวกเขาก็ยังวิ่งเข้าหาด้วยหวังว่าจะยอมตายแทนเย่ว์หยางเพื่อให้เย่ว์หยางได้มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้นและจะเห็นจุดอ่อนของทักษะจ้าวสุริยาได้ดีกว่า แล้วพลิกกลับมาชนะได้

จ้าวสุริยายังคงนิ่งเฉยมองดูเย่ว์หยางช้าๆ “ตราบใดที่ข้าดีดนิ้วได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาร้อยปี พันปีหรือเวลาผ่านไปในอดีตก็ย่อมไม่เป็นปัญหาไม่ว่าจะมีสักกี่คนที่ปกป้องเจ้าก็ช่วยอะไรไม่ได้ บางทีเจ้าอาจให้พวกเขาเสียสละเพื่อค้นหาจุดอ่อนของข้า  แต่สายเกินไปแล้ว และพลังของเจ้าอ่อนแอเกินไปพลังของเราสองคนยังห่างชั้นกัน ภูมิปัญญายิ่งใหญ่การเสียสละที่ยิ่งใหญ่ไม่อาจปิดช่องว่างได้ ดังนั้นคลื่นลูกที่สามและทุกอย่างจะปิดฉากลง”

เขาชี้นิ้วนาฬิกาสุริยะปล่อยลำแสงเป็นพันสาย

ไม่ว่าจะเป็นผู้คุ้มกันคนใดวิ่งออกมาวิ่งกันแสงไว้ราชาชิงหลางและกลุ่มนักสู้ปราณฟ้าอื่นยังซ่อนตัวอยู่ออกมาช่วยป้องกันหมิงลี่ฮ่าวและจักรพรรดิฟู่โฉวและคนอื่นๆ ถูกลำแสงพุ่งใส่

ตอนนี้ตราบเท่าที่จ้าวสุริยาดีดนิ้วเวลาบนร่างของพวกเขาทั้งหมดจะผ่านไปร้อยปี พันปี หรือกระทั่งหมื่นปี

ไม่มีใครสามารถผ่านกาลเวลานานขึ้น

ครั้งสุดท้ายทุกคนมองไปที่เย่ว์หยาง

นั่นคือความเป็นความตาย

นั่นคือสงคราม

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขา...ถ้าเขาไม่มีหนทางอย่างนั้นทุกคนจะยอมรับชะตากรรม ถ้าเขาต่อสู้ต้านทาน อย่างนั้นทุกคนจะสู้อย่างสิ้นหวัง แม้ว่าจะไร้ประโยชน์ก็ต้องต่อสู้จนถึงที่สุด!

“บอกมา เจ้าจะให้ทำอะไร?” หมิงลี่ฮ่าวแค่นเสียงเป็นครั้งสุดท้าย

“เจ้าไม่ต้องทำอะไรข้าเพิ่งบอกไปแล้วว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ราชาสู้กับราชา เจ้าไปอยู่ตรงนั้นไม่มีอะไรให้เจ้าทำ!”เย่ว์หยางเตะเฮยถูและไป๋หม่าออกไป จากนั้นกวักมือเรียกยั่วยุตะโกนใส่จ้าวสุริยาอีกครั้ง  “เข้ามาเลย!”

คนฝ่ายจ้าวสุริยาถึงกับโมโห

ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาเจ้าหาเรื่องตายชัดๆ!

แม้แต่คนที่อดทนที่สุดอย่างราชาเฉินม่อก็ยังแสดงอาการโกรธเป็นครั้งแรก

จ้าวสุริยายังคงดีดนิ้วอย่างใจเย็น“เวลาผ่านไปร้อยปี!”

เฮยถูไป๋หม่าและนักสู้ปราณฟ้าอื่นร้องเรียกอย่างเศร้าใจคนอย่างหัวหน้าจินฟันทองและพ่อบ้านเย่สวะที่ยังไม่ถึงระดับปราณฟ้าเป็นลมหมดสติโดยตรงเหลือแต่ลมหายใจรวยริน  แต่เทวีเสรีภาพกลับสงบอารมณ์ตนเองได้นางดูเหมือนไม่มีความรู้สึกใดยังคงอยู่ในที่เดิมอย่างสงบ  สีหน้าของนางยังคงเหมือนเดิมหมิงลี่ฮ่าวลูบท้องและมองดูจักรพรรดิฟู่โฉวที่อ่อนแออย่างเห็นได้ชัด  พวกเขามองหน้ากันเองและส่ายหน้าช้าๆ

ด้วยพลังความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยังมิอาจหนีผลกระทบจากเวลาได้

แม้เวลาจะผ่านไปร้อยปีไม่ถึงกับทำให้พวกเขาล้มกับพื้นทันที  แต่ผลกระทบก็ยังค่อนข้างมากเป็นเหมือนกับคนที่หลับมาร้อยปีแล้วเพิ่งตื่นขึ้น

ราชาสองหน้าและคนอื่นต้องการเยาะเย้ย

แต่จู่ๆจ้าวสุริยาลืมตาโพลง

ตะลึงงัน

เพราะมีเพียงคนเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย  เย่ว์หยางยังคงยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน

เจ้าเด็กนี่ไม่ได้รับผลกระทบของกาลเวลาที่ผ่านไปได้ยังไง?  มนุษย์คือผู้ที่เสี่ยงต่อผลกระทบเวลามากที่สุด

“ข้าไม่ได้รับผลกระทบจากเวลา เพราะนาฬิกาสุริยะสนามพลัง กฎแห่งกาลเวลาใช้กับข้าไม่ได้ มีสิ่งเดียวที่ข้าอิจฉาเจ้าเล็กน้อยก็คือทักษะแฝงเร้นคืนสภาพนั่นเป็นสิ่งที่ทรงพลังที่สุดของเจ้า ขณะที่กฎแห่งเวลาของเจ้า นั่นเป็นของละเล่นสนุกสำหรับข้า!  ข้าเข้าๆ ออกๆจากประตูเป็นตายก็มีความตระหนักรู้ข้ามีสำนึกสุดยอดปราณราชันย์และยังควบคุมกฎสวรรค์ที่เป็นบุคลิกเฉพาะตัวของข้าเอง  แม้ว่าร่างของข้าจะไม่ใช่ร่างเทพ แต่ขอบเขตพลังความรู้ของข้าก็ระดับเดียวกับร่างเทพ ร่างนี้ยังจะได้รับผลกระทบจากกฎแห่งเวลาที่สร้างขึ้นโดยปณิธานของเจ้าอีกหรือ?  ในโลกของข้า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวข้า ไม่ว่าจะเป็นมิติ เวลาหรือชีวิต..แค่นั้นยังไม่พอจะล้มข้าได้  จ้าวสุริยา! ใช้ฝีมือที่แท้จริงของเจ้าออกมา ข้าต้องการท้าทายยอดฝีมือระดับกึ่งเทพดูว่าจะทำให้ข้าก้าวหน้าได้มากแค่ไหน? ข้าแทบจะคอยไม่ไหวแล้ว!”

“อย่างนั้นก็ตามที่เจ้าต้องการได้เลย”  หน้าของจ้าวสุริยันบูดบึ้งเล็กน้อยเขาโกรธอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

แม้ว่าเขาจะระมัดระวัง แต่เขาก็ยังต้องประเมินตัวเด็กหนุ่มผู้นี้อย่างจริงจัง

เขาน่ากลัวมากกว่าที่คิด!

พลังกฎสวรรค์แห่งกาลเวลาไม่สามารถฆ่าเขาได้หรือ?

มิน่าเล่าจักรพรรดินีฟ้าแห่งเผ่าเก้าแสงถึงพลาดท่าเสียทีเจ้าเด็กนี่ในวันเดียว...จ้าวสุริยาสูดหายใจลึกจ้องมองดูมือของเขา “ก่อนจะสู้กับเจ้า ข้าจะขจัดอุปสรรคเกะกะในสมรภูมิออกไปเสียก่อน   เจ้าจะได้สู้กับข้าสุดกำลัง”

จ้าวสุริยาชูแขนทั้งสอง

ชี้ขึ้นไปในอากาศ

รัศมีแผ่กระจายออกราวกับเทพเจ้าและคลุมทั้งโลก  “เวลาจงผ่านไปหมื่นปี!”

หมิงลี่ฮ่าวรู้สึกว่าพลังในร่างของเขาอ่อนแอลงมาก  ช่วงเวลาสุดท้ายเขาตะโกนขึ้น “เจ้าเด็กน่ารังเกียจ!  จำเอาไว้ ฝากดูแลน้องสาวข้าด้วย...”

“เวลาย้อนคืนหมื่นปี”หมิงลี่ฮ่าวได้ยินเสียงที่เหลือเชื่อ

หือ?

เขางอตัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด