ตอนที่แล้วตอนที่ 14 เส้นทางของหมอผีผู้จารึก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 อักขระวิญญาณและโครงสร้างแห่งจิต

ตอนที่ 15 หมอผีเฒ่าไบรเซน


ตอนที่ 15 หมอผีเฒ่าไบรเซน

ลีโอกลับมาถึงห้องก็นั่งลงที่ห้องฝึกฝนและห่างออกไปไม่ไกลมีกล่องอุปกรณ์จารึกวางอยู่เบื้องหน้า ลีโอหยิบกุญแจตัวตนของเขาออกมา ก่อนจะเสียบเข้าไปที่กล่อง

กุญแจยืนยันตัวตนใส่พอดีกับช่องกุญแจบนกล่อง

กึก...

ทันใดนั้นกล่องก็มีแสงมาสแกนตัวของลีโอไม่กี่วินาทีต่อมากล่องก็มีเสียงปลดล็อกและแยกออกเป็นสองฝั่ง ด้านในเผยให้เห็น ขวดหมึก พู่กัน และมีแผ่นหนังสัตว์ที่บางเหมือนกระดาษจำนวน 10 แผ่นที่กว้างและยาว 4 นิ้วเท่า ๆ กัน และชิ้นสุดท้ายคือกระดานโลหะที่สลักลวดลายลึกลงไป 3 มิลลิเมตรกว้างและยาว 12 นิ้ว

ทุกอย่างนั้นดูเก่ามาก ๆ แต่ว่าก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ลึกลับ

ลีโอใช้มือสัมผัสไปที่แผ่นโลหะอย่างแผ่วเบา เขารู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกจึงเปิดดวงตาผนึกเทพและจ้องมองไปที่แผ่นโลหะในมือ

“มีอนุภาควิญญาณอยู่ในแผ่นโลหะนี้ด้วย”

“ดูแล้วคงไม่ใช่ของธรรมดา การจารึกเองก็เช่นกัน”

ลีโออดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ที่คิดว่าพรุ่งนี้ก็จะได้เรียนวิชาผู้จารึกพื้นฐานแล้ว เขาวางทุกอย่างกลับไปที่เดิม เพราะยังไม่รู้ว่าจะใช้พวกมันอย่างไร

หลังจากปิดมันเขาก็กลับเข้าไปในโลกมิติดวงตาผนึกเทพ

เมื่อลีโอเข้ามาก็พบกับต้นกล้าของเมล็ดสมุนไพรของหญ้าศพได้งอกขึ้นมาแล้ว โดยต้นกล้าของหญ้าศพนั้นเหมือนกับต้นหญ้าแห้ง แต่ที่ไม่ใช่เพราะต้นหญ้าศพแห้งตาย นี่คือลักษณะเฉพาะของหญ้าศพคือเกิดมาก็เหี่ยวแห้งเลย เหมือนศพที่ไม่มีชีวิต

“น่าเสียดายข้าไม่มีอนุภาควิญญาณเหลืออยู่แล้ว” ลีโอเฝ้ามองอย่างเสียดายต่อหญ้าศพทั้ง 5 ถ้าเขามีอนุภาควิญญาณเพียงพอ คงสามารถทำให้ต้นหญ้าศพโตเต็มที่ได้ มันจะทำเงินให้เขาอีกหลายดากาซ

“เหลือเวลาอีกครึ่งเดือนถึงจะจ่ายค่าห้องอีกครั้งข้าต้องเป็นผู้จารึกให้ได้ ไม่อย่างนั้นคงต้องขุดต้นดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนไปขายให้กับลูคัสแล้ว”

ด้านในไม่มีอะไรให้ลีโอทำ เขาจึงกลับออกไปและฝึกฝนอย่างช้า ๆ เพื่อไม่ให้เวลานั้นเสียเปล่า เขาเป็นหมอผีฝึกหัดระดับ 1 แล้ว

หมอผีฝึกหัดระดับ 1 นั้นมีรูนจิตทั้งหมด 3 อัน ก่อนหน้านั้นลีโอสร้างเส้นใยวิญญาณไว้ 2 เส้น หนึ่งคอเส้นสมบูรณ์ที่รวมเป็นรูนจิตแล้ว อีกหนึ่งคือเส้นที่เริ่มสร้างไปวันเดียวเท่านั้น มันยาวประมาณ 10 กว่าเซนติเมตร

ลีโออยู่ในห้องฝึกฝนด้านนอก ในเมื่อด้านในไม่มีอนุภาควิญญาณลีโอก็ต้องอาศัยการฝึกแบบหมอผีคนอื่น ๆ คือฝึกด้วยอนุภาควิญญาณด้านนอกแทน

“ถึงจะช้าก็ดีกว่าเสียเวลาเปล่า”

ลีโอเปิดดวงตาผนึกเทพและมองหาอนุภาควิญญาณ เขาไม่ต้องเสียพลังจิตในรูนจิตไปกับการใช้พลังจิตสัมผัสตามหาอนุภาควิญญาณ เขาสามารถระบุตำแหน่งของอนุภาควิญญาณได้โดยผ่านดวงตาผนึกเทพ

“ตรงนั้น” ลีโอพึมพำพร้อมกับใช้พลังจิตวิญญาณเป็นเหมือนมือยืดยาวออกไปจับอนุภาควิญญาณและดึงกลับมา

ในระหว่างขึ้นตอนลีโอขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะรับรู้ได้ถึงความยากในการดึงอนุภาควิญญาณเข้ามาหาตัวเอง

“ดูเหมือนข้าจะเคยชินกับการใช้ทางลัดมากไป” ลีโอเตือนตัวเองเบา ๆ

อนุภาควิญญาณเข้ามาถึงเส้นใยวิญญาณก็ผสานเข้าไปอย่างมั่งคง ถึงจะไม่สามารถสัมผัสอนุภาควิญญาณได้ แต่ว่าก็ยังดีที่มองเห็นอนุภาควิญญาณ ทำให้ลีโอสามารถผสานอนุภาควิญญาณได้อย่างมั่นคงไม่ต่างจากการผสานอนุภาควิญญาณด้านในโลกมิติดวงตาผนึกเทพ

เช้าวันต่อมา

ลีโอได้ตื่นขึ้นมาจากที่นอนหลังจากได้เข้ามานอนพักในช่วงตี 3 กว่า เวลานอนแค่ 4 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้วสำหรับหมอผีฝึกหัดระดับ 1

รูนจิตได้แปลงอนุภาควิญญาณมาหล่อเลี้ยงพลังจิตและร่างกายของเขา ทำให้ลีโอฟื้นพลังกายและพลังจิตได้อย่างรวดเร็วขึ้น

ก่อนที่ลีโอจะไปเข้าชั้นเรียน เขาได้แวะไปยังร้านขายของใช้ทั่วไปและซื้อยาหยอดตาชนิดหนึ่งมา

ชั้น 6 ห้อง 601

ลีโอเงยหน้ามองห้องเรียนที่เขาต้องมาเรียนในวิชาผู้จารึกพื้นฐาน เขาเดินเข้าไปก็พบว่ามีศิษย์ไม่มากนัก แต่ทุกคนนั้นมาพร้อมกับอุปกรณ์จารึกและนั่งลงที่พื้น ซึ่งล้อมรอบเป็นวงกลมและตรงกลางนั้นเป็นท่อนไม้ที่สุมกองกันไว้อยู่ในกลางห้อง

ห้องเรียนแต่ละห้องจะถูกออกแบบให้แตกต่างกันไปตามวิชาที่สอน ซึ่งห้องเรียนแห่งนี้ก็เหมือนกัน แต่ลีโอไม่รู้ว่าทำไมจะต้องมีกองฟืนวางอยู่ใจกลางห้องด้วย

เขาเริ่มสังเกตแต่ละคนในห้องนี้ก็พบว่า ตัวของแต่ละคนมีออร่าที่น่ากลัวกระจายออกมา ซึ่งเป็นผลมาจากพลังจิตที่สูงมาก ๆ ของพวกเขา

‘ทุกคนเป็นหมอผีฝึกหัดระดับ 3’ ลีโอรู้สึกกดดันจากพลังจิตที่แผ่ออกมาจากร่างของแต่ละคน เขาพยายามไม่ไปจ้องมอง เพราะไม่อยากจะมีปัญหา

แม้จะเป็นหมอผีฝึกหัดเหมือนกัน แต่ช่องว่างของหมอผีฝึกหัดในแต่ละระดับก็ต่างกันมาก โดยเฉพาะหมอผีฝึกหัดระดับ 3 พวกเขาคือผู้ที่ใกล้จะกลายเป็นหมอผีแท้จริงแล้ว พลังของคนพวกนี้สามารถฆ่าลีโอได้ด้วยการโจมตีเดียว

ในห้องมีตัวเลขบ่งบอกถึงเวลาพอเลขกลายเป็น 12.00 น.พอดีก็มีชายชราผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่า แม้แต่ตัวของลีโอนั้นก็ไม่ทันได้สังเกตว่าชายชราผู้นี้โผล่มาได้อย่างไร

ลีโอรู้สึกทึ่งอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นจนแสดงออกไป คนอื่น ๆ มองไปที่ชายชราตรงหน้าและลุกขึ้นในทันที ก่อนจะกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า

“สวัสดีท่านอาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซน” ทุกคนนั้นกล่าวเสียงดังอย่างพร้อมเพรียงกัน

ลีโอลุกขึ้นทำตามน้ำไป เขาสัมผัสได้ถึงความเคารพที่ทุกคนนั้นมีต่ออาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซน

“ไม่ต้องมากพิธี ก่อนอื่นข้าจะบอกว่าที่จริงตัวข้านั้นยืนอยู่ที่นี่และมองดูพวกเจ้ามาสักพักหนึ่งแล้ว” อาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนกล่าวและเผยรอยยิ้มออกมา

ทุกคนได้ยินก็พากันตกใจ

“สิ่งที่ข้าใช้ในการหลบเลี่ยงสายตาและการมองเห็นของพวกเจ้าคืออักขระวิญญาณชนิดใหม่ มันมีชื่อว่า ลวงตา ที่จริงแล้วข้านั้นก็แก่มากแล้ว แต่ก็ยังคงศึกษาในเส้นทางแห่งอักขระวิญญาณ เพราะว่าข้านั้นเชื่อมั่นว่าหมอผีอย่างพวกเรานั้นจะก้าวหน้าต่อไปได้ไม่ใช่ด้วยเส้นทางการเข่นฆ่าภูตผีปีศาจ แต่เป็นเส้นทางแห่งการเข้าใจต่อพวกภูติผีปีศาจ ที่ข้ากล่าวมาก็เพราะอยากให้หมอผีที่คิดอยากจะเรียนในเส้นทางของผู้จารึกของข้าจงระลึกไว้ด้วยว่า เส้นทางจารึก คือศาสตร์แห่งการรู้แจ้งต่อธรรมชาติ”

หมอผีที่ได้ฟังก็คิดตามอย่างเงียบ ๆ แม้แต่ลีโอก็ยังพยายามตีความหมายของประโยคนี้ของอาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซน

“เอาละพวกเจ้านั่งลงได้ข้าจะได้เริ่มสอน” อาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนกล่าวเบา ๆ

ทุกคนเริ่มหย่อนก้นนั่งลง แต่ตอนนั้นเองอาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนก็พูดต่อว่า “จริงด้วยที่ข้าเปิดสอนในหลักสูตรนี้เพราะคิดว่าจะลองเลือกศิษย์ส่วนตัว หวังว่าพวกเจ้าจะแสดงศักยภาพให้ข้าเห็น”

ทุกคนที่นั่งลงก้นแทบแตะพื้นก็พากันนิ่งค้างไปในทันที ก่อนจะรีบนั่งลงหลังตรงแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นกว่าก่อนหน้าแบบ 300 เปอร์เซ็นต์

ลีโอนั้นเองก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าอาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนจะมาประกาศแบบนี้

ในครั้งก่อนที่เขาได้ยินการประกาศรับศิษย์ส่วนตัวคือตอนที่พูดถึงพรสวรรค์ระดับ 5 และระดับ 4 ในการทดสอบพรสวรรค์ ที่ผ่านมาลีโอก็สนใจการเป็นศิษย์ส่วนตัวเหมือนกัน เพราะถ้าได้เป็นศิษย์ส่วนตัวเขาก็จะได้รับทรัพยากรการฝึกฝนได้ง่ายขึ้น

นั้นว่าตกตะลึงแล้ว แต่อาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนผู้ที่เป็นถึงผู้จารึกที่ทั้งสถาบันยังเคารพยำเกรงกำลังจะหาศิษย์ส่วนตัวจากบรรดาหมอผีฝึกหัดในชั้นเรียน มันยิ่งน่าตกใจยิ่งกว่า

การเป็นศิษย์ส่วนตัวของอาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนไม่ใช่ได้รับผลประโยชน์เพียงแต่ทรัพยากรหรือการแนะนำเข้ากองกำลังหมอผี

แต่ยังจะได้เรียนรู้สายวิชาของหมอผีผู้จารึกจากอาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนโดยตรง ใครบ้างที่จะไม่ต้องการ

“พวกเจ้าหายตื่นเต้นกันหรือยัง” อาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนกล่าวขึ้นมาทำไมเขาถึงจะมองความคิดของเด็กเหล่านี้ไม่ออก แน่นอนว่าอาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนก็ไม่ได้ว่าอะไร มันถือเป็นเรื่องที่ดีที่เด็กหนุ่มสาวจะมีแรงกระตุ้นกันบ้าง

“เรามาเริ่มกันที่ระดับของผู้จารึก เพราะบางคนอาจจะยังไม่รู้” อาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนกล่าวออกมา แต่ลีโอที่นั่งอยู่ในกลุ่มคนกลับรู้สึกว่าอาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนเจาะจงมาที่ตนเอง

‘ดูเหมือนข้าจะต่างจากคนอื่น ๆ โดยเฉพาะเครื่องแต่งกาย’ ลีโอคิดในใจ ที่เขาใส่นั้นคือศิษย์ใหม่ที่ยังไม่มีแม้แต่ผ้าคลุมหมอผีฝึกหัด

จึงไม่แปลกที่เขาจะโดนสังเกตเห็นได้ง่าย ลีโอยังนั่งตรงตามองไม่กะพริบ

“หมอผีนักปรุงยา หมอผีหลอมสร้างศาสตราวุธและหมอผีผู้จารึกอย่างเรา ๆ นั้นแบ่งระดับคล้ายกัน โดยแบ่งตามความสามารถที่ทำได้ แม้เจ้าจะเป็นหมอผีฝึกหัดระดับ 3 หรือระดับ 1 แต่ถ้าสามารถจารึกอักขระวิญญาณระดับ 1 ได้พวกเจ้าก็จะถูกเรียกว่าผู้จารึกระดับ 1 อย่างเช่นตาเฒ่าอย่างข้าที่มีพลังอยู่ที่หมอผีแท้จริงระดับ 3 แต่ว่าในด้านของผู้จารึกข้านั้นอยู่ที่ผู้จารึกระดับ 5 ทำให้ข้าได้ความเคารพจากหมอผีมากมาย แน่นอนว่าข้าไม่ได้คาดหวังให้พวกเจ้าจะกลายเป็นผู้จารึกระดับ 1 ในขณะที่เป็นเพียงหมอผีฝึกหัดระดับ 3 หรือระดับ 1” อาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนกล่าวด้วยท่าทางสบายใจ

“ระดับของผู้จารึกที่เหมาะสมกับหมอผีฝึกหัดนั้นคือ ผู้จารึกระดับ 0 ซึ่งข้าจะสอนพวกเจ้าถึงการเป็นผู้จารึกระดับ 0 ในหลักสูตรนี้”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด