ตอนที่แล้วตอนที่ 957 ความดื้อรั้นและเกลียดชัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 959 ไพ่สุดท้าย?

ตอนที่ 958 ดาบแสงศักดิ์สิทธิ์  พายุทะเลคลั่ง


เมื่อดาบนี้ยังไม่ถูกชักออกมันดูเหมือนดาบที่มีสนิมธรรมดาขายกันอยู่ในร้านอาวุธเล่มละหนึ่งเหรียญเงินและอาจถูกกดราคาเหลือเพียงสามเหรียญทองแดง อย่างไรก็ตามเมื่อจักรพรรดิฟู่โฉวชักดาบออกมานักสู้ปราณฟ้าทุกคนที่ถืออาวุธต่างอึดอัดหายใจแทบไม่ออกและรู้สึกว่าอาวุธของตนเองถูกสะกัดขัดขวางไม่ให้ใช้ออก พวกเขาพยายามยับยั้งความกลัวในก้นบึ้งหัวใจประหนึ่งว่าเป็นความกลัวสัตว์ตัวเล็กยามเผชิญหน้ากับพยัคฆ์เจ้าป่า  พยัคฆ์เจ้าป่านั้นมีราศีบารมีของราชาตั้งแต่เกิดเป็นพลังบริสุทธิ์ที่ไม่มีใดแทนได้

เคียวปีศาจสีดำของราชาสองหน้าส่งเสียงร้องหึ่งๆอยู่เป็นเวลานานต่อเนื่อง

มันเริงร่าเพราะความกระหายเลือด

ราวกับว่านักสู้ที่แข็งแกร่งพบเจอศัตรูหัวใจของเขากำลังเดือดดาล

ไม่เพียงแต่เคียวปีศาจเท่านั้นแต่ลึกลงไปในดวงตาของราชาสองหน้ามีแววประกายกระหายเลือดชนิดหนึ่งราวกับว่าต้องการจะเปิดฉากฆ่าไม่หยุดยั้ง เพียงแต่ต้องมุ่งมั่นอดทนรอเวลาที่ดีที่สุด

หลังจากดาบธรรมดาถูกชักออกดาบเปล่งประกายแสงสีเงินระยิบระยับ

ยังไม่มีการกวัดแกว่งยังคงหยุดนิ่ง

ท้องฟ้ากลายเป็นเต็มไปด้วยจุดดวงดาวสว่างสวยงามทันที

เมื่อเจ้าของดาบเริ่มควงดาบมิติที่ว่างเปล่าถูกตัดด้วยอาวุธที่มองไม่เห็น คล้ายจะพังทลายได้ทุกเมื่อ

นักสู้ปราณฟ้าผู้อยู่ในที่นั้นรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจทันที รู้สึกเหมือนกับว่าลึกลงไปในวิญญาณของพวกเขาดาบแสงศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ฟันใส่ไม่สามารถหยุดเลือดที่ไหลรินได้... ยกเว้นราชาสองหน้าผู้ถือเคียวดำปีศาจหมิงลี่ฮ่าวและเย่ว์หยางผู้มีปณิธานอมตะรวมทั้งมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรล้วนเห็นภาพลวงตาว่าถูกดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ฟันใส่

ดาบแสงศักดิ์สิทธิ์!

นี่คือดาบศึกที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรพรรดิฟู่โฉว

ตอนแรกที่จักรพรรดิฟู่โฉวใช้ออกมันไม่คิดหยุดเอาชีวิตศัตรู และไม่หยุดทำให้ศัตรูเจ็บปวดแม้ว่าราชาสองหน้าจะมีเคียวดำปีศาจอยู่ในมือก็ตามทั้งสองเป็นอาวุธวิเศษระดับเตรียมเทพทั้งนั้น อย่างไรก็ตามอาวุธทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกันก็จริงแต่พลังและจิตสังหารต่างกัน

แม้แต่คนตาบอดก็รู้ได้ว่าดาบวิเศษแข็งแกร่งกว่าเคียวดำปีศาจมาก

หากไม่ได้สนามพลังและฝีมือของราชาสองหน้าคลื่นเคียวดำปีศาจคงไม่สามารถต้านดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ของอีกฝ่ายได้

“มีคำพูดใดจะสั่งเสียไหม?”  จักรพรรดิฟู่โฉวไม่เคยละทิ้งความตั้งใจจะฆ่าศัตรู  เขาไม่มีความเมตตาให้ศัตรูภายใต้ดาบของเขาจะไม่มีทางให้อภัยศัตรู ตราบเท่าที่เขาตายตราบเท่าที่ใช้เลือดล้างความเกลียดชังในใจของเขา!

“ข้าจะบอกก่อนตายแน่  แต่ไม่ใช่ตอนนี้”  มารสัมฤทธิ์ฟ้ายืนขึ้น

“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!” จักรพรรดิฟู่โฉวประหลาดใจเล็กน้อยเขาไม่เคยคิดว่าจะมีคนกล้ายืนขึ้นท้าทายตัวเขา

“อย่างนั้นก็ยังมีเรา” จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพก็ยืนขึ้นเช่นกัน ฮุยไท่หลางเห็นว่าจักรพรรดิฟู่โฉวไม่อาจตอแยได้ง่ายมันต้องการทำตัวเป็นสุนัขเลี้ยงต่อไป แต่ถูกเย่ว์หยางใช้เท้ายันมันออกมา

การปรากฏตัวของฮุยไท่หลางทำให้จักรพรรดิฟู่โฉวชำเลืองมองเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย  อสูรเทพ? เมื่อก่อนนี้เขาไม่เห็นมันจริงๆ!

ราชาสองหน้าที่อยู่ห่างออกไปมองฮุยไท่หลางอย่างไม่ตั้งใจตอนนี้เขารู้สึกไม่สบายใจ

มีอสูรเทพเพิ่มขึ้นมาอีกตัวหนึ่งดูเหมือนมันยังไม่โตเต็มที่ ทั้งยังต้องการสู้กับจักรพรรดิแดนดิน

นอกจากนี้จักรพรรดิฟู่โฉวยังมีดาบแสงศักดิ์สิทธิ์อาวุธสมบัติระดับเตรียมเทพ!

ราชาจื่อฟงตื่นเต้นมาก“มารสัมฤทธิ์ฟ้าและฮุยไท่หลางยินดีจะยืนหยัดต่อสู้  พวกเขาละอายใจหวังว่าจะมีใครยื่นมือช่วยได้ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่แข็งแกร่งมากพอจะยืนหยัดขึ้นต้านทานได้จริงๆ  สายตาของเขามองไปที่เย่ว์หยางหวังว่าเขาจะพูดต่อ  ถ้าเขาใช้ศักดิ์ศรีจากตระกูลจากแดนสวรรค์บนยกเลิกความตั้งใจของจักรพรรดิฟู่โฉวได้ย่อมเป็นการดีที่สุด

ความจริงฝ่ายของเขากับจักรพรรดิฟู่โฉวนอกเหนือจากการเป็นปรปักษ์กันแล้วไม่มีเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์อะไรกันเลย

ถ้าคุณชายไตตันยินดีจะขอร้องไกล่เกลี่ยบางทีจักรพรรดิฟู่โฉวอาจจะยอมเห็นแก่ตระกูลของเขาก็ได้ “......”  หญิงงามจูกวงยังคงมองดูเย่ว์หยาง

“ข้าก็อยากสู้ แต่เราสู้กันไปมาเราก็ต้องระมัดระวังคอยควบคุมไม่ให้พลั้งมือทำลายที่สาธารณะ  การปกป้องสภาพแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญต่อให้ไม่มีเด็ก แต่การสร้างความเสียหายให้ต้นไม้ใบหญ้าดอกไม้ก็คงไม่ใช่เรื่องดี” เย่ว์หยางเอ่ยปากพูดทุกคนแทบทรุดสมกับเป็นคุณชายที่ถือช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เขาไม่เคยเห็นโลกที่โหดร้ายมาก่อน

“เมี้ยว..” ยกเว้นฮุยไท่หลางไม่มีใครคิดว่าเย่ว์หยางพูดมีเหตุผล

ฮุยไท่หลางไม่เพียงแต่ปรบมือเท่านั้น  แต่มันยังแสดงอาการชื่นชมเจ้านายของมันเต็มที่

ทั้งยังใช้อุ้งเท้าชูหัวแม่มือ (เท้า)ให้เจ้านาย

ถึงเย่ว์หยางลืมไม่ได้พกยาขัดรองเท้ามาด้วยมันก็คงเลียรองเท้าให้เขาจนสะอาดเรียบ

ทุกคนมองเห็นเต็มตานี่เป็นสิ่งที่สุนัขเฝ้าบ้านทำ ต้องฉลาดและภักดีขนาดไหนถึงทำได้เช่นนี้ ตรงกันข้ามแม้แต่คนยังทำได้ไม่ดีเท่าสุนัขตัวนี้!

หัวหน้าจินฟันทองและหัวหน้าพ่อบ้านเย่รู้สึกละอายใจและความรู้สึกการแสดงออกของพวกเขาก่อนหน้านั้นแย่เกินไป  แทบจะในเวลาเดียวกัน ทั้งสองกัดฟันตัดสินใจต่อไปพวกเขาจะต้องเรียนรู้จากฮุยไท่หลาง ยังมีมารสัมฤทธิ์ฟ้า คนที่บ้าการต่อสู้ ก้าวออกมาข้างหน้าเย่ว์หยางเขาไม่ได้ยืนอย่างโง่เขลาเบาปัญญา และทั้งยังจะสู้กับจักรพรรดิฟู่โฉวเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก! ถ้าเขาขี้เกียจ ก็คงขี้เกียจต่อไป อยู่ตรงนี้คอยจับตาราชาสองหน้าไว้ จะเล่นกับอะไรน่ะหรือ? แน่นอน ด้วยพลังในปัจจุบันของมารสัมฤทธิ์ฟ้า จะสู้กับจักรพรรดิฟู่โฉว  นั่นคือการล่วงเกิน  แน่นอนว่าเย่ว์หยางมีเจตนาดีผิดปกติ  เขาเหยียดมือเรียกเงาปีศาจยักษ์

ในท่ามกลางสายตาของทุกคนมารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรจักรพรรดิใต้พิภพและฮุยไท่หลางได้รับเสริมพลังกันทั้งหมด

มารสัมฤทธิ์ฟ้าเสริมพลังเพิ่มเป็นสองเท่า

เขาปลดปล่อยพลังปราณ

แผ่นดินสั่นสะเทือน

ในที่สุดเมื่อมารสัมฤทธิ์ฟ้าปรับตัวได้พลังของทุกคนเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองสามเท่า

ฮุยไท่หลางอสูรเทพที่เย่ว์หยางฝึกฝนมันขึ้นมีพลังเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยเท่า

มันคำรามขึ้นท้องฟ้าและกลายร่าง ขณะที่ดาบเทพอสูรเทาเถี้ยก็แปลงร่างเช่นกัน

จากนั้นระเบิดพลังออกมาทันที

อสูรเทพทำให้นักสู้ปราณฟ้าตกใจกลัวแทบหมดสติ

ไม่เพียงแต่เคียวดำปีศาจ แม้แต่ดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ยังส่งเสียงร้องเช่นกัน

ราชาสองหน้าก็ตะลึงเช่นกัน

ราชาจื่อฟงและคนอื่นๆถึงกับทำตัวไม่ถูก

มือสังหารฝ่ายศัตรูถึงกับหงุดหงิดมิน่าเล่าคุณชายไตตันผู้นี้มีเงาปีศาจนี้ช่วยเสริมพลังเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าได้? น่ากลัวเกินไปหรือเปล่า?

“ไม่เลว, ในทะเลสันตินี้ ถ้าพวกเจ้าต้านรับข้าได้ร้อยกระบวนท่าโดยไม่ตายได้ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า” จักรพรรดิฟู่โฉวฟันดาบออกสามท่าทันที สามดาบจู่โจมสังหารพวกมารสัมฤทธิ์ฟ้าฮุยไท่หลาง และอาวุธเทพร่างอสูร ตอนนี้เขาเห็นว่าคนเหล่านี้และอสูรเทพไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเสิ่นกวง  แต่เป็นนักสู้ที่มีศักดิ์ศรีภูมิใจเป็นของตนเองไม่ยอมกลับคำง่ายๆ เขาใช้ร้อยกระบวนท่าเป็นตัวกำหนด นับว่าไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ

“ระวังตัวด้วย!”จักรพรรดิมังกรตั้งหลักได้มั่นคงที่สุดเมื่อมารสัมฤทธิ์ฟ้าบินออกไปพร้อมกับจักรพรรดิฟู่โฉวเขารั้งท้ายเพื่อกระตุ้นเตือนเย่ว์หยาง

ด้วยพลังของเย่ว์หยางเขาไม่จำเป็นต้องกระตุ้นเตือนเลย

อย่างไรก็ตามการกระทำเช่นนั้นช่วยขจัดความกังวลเกี่ยวกับศัตรูและทำให้ศัตรูต้องปรับแผนตั้งหลักกันใหม่เพราะความลี้ลับรอบตัวเย่ว์หยาง

พี่น้องกระทิงเถื่อนเห็นว่าจะมีการต่อสู้ก็มีความรู้สึกเหมือนกับขี้ยาเห็นยาเสพติดเหมือนพวกขี้เหล้าได้เห็นเหล้าชั้นดี แต่ไม่มีคำสั่งจากเย่ว์หยาง พวกเขาไม่กล้าบุ่มบ่ามออกไปได้แต่ขยี้เท้า เย่ว์หยางแค่นเสียงเย็นชา พวกเขากลัวว่าจะทำลายเรื่องสำคัญของเย่ว์หยางมากกว่า

เย่ว์หยางมองดูพวกเขาและโบกมือให้ไม่พอใจ

สองพี่น้องกระทิงต่างดีใจ

ขอบคุณไม่หยุดหย่อน

แต่พวกเขาไม่ออกไปในทันทียังคงมองดูเย่ว์หยาง

เย่ว์หยางจ้องมองกระทิงสองพี่น้องตอนแรก  เห็นได้ชัดว่าทั้งสองต้องการออกไปสู้แล้วทำไมไม่ลงมือ?

“สิ่งนั้น..เราต้องการสิ่งนั้น คุณชาย”  กระทิงพี่ใหญ่พูด  เย่ว์หยางเข้าใจ และหัวเราะลั่นทันที  “ทุกคนบอกว่าเจ้าโง่  ข้าไม่คิดว่าเจ้าโง่ ข้ารู้ว่าพวกเจ้าต้องการเงาปีศาจยักษ์เสริมพลังฮะฮะ เจ้านี่ฉลาดมากที่คิดอย่างนี้ ข้าเห็นว่าเจ้าฉลาดนะ ข้าจะเพิ่มเงาปีศาจให้เป็นสองเท่าเป็นยังไง?”

“เยี่ยม!” สองพี่น้องกระทิงตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น

อย่างไรก็ตามแม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าคุณชายไตตันก็ยังไม่มั่นใจเต็มที่นักคนอย่างมารสัมฤทธิ์ฟ้าได้รับเงาปีศาจยักษ์ไปหนึ่งร่าง ก็ยังรู้สึกว่ายากจะควบคุมถ้าเป็นอย่างสองพี่น้องกระทิงเถื่อนควบคุมไม่ได้ ดูแล้วคงเป็นเรื่องน่าอัดอัดอยู่บ้าง

แต่นี่จะให้เงายักษ์คนละสองร่างเชียวหรือ?

ผลก็คือพลังของสองพี่น้องกระทิงเถื่อนจะเพิ่มขึ้นอีกมาก  แต่ว่ามากเกินไป พลังควบคุมไม่เพียงพอสองพี่น้องกระทิงเถื่อนจะมิเดินเหมือนเป็ดหรอกหรือ?

คาดกันว่าพวกเขาจะออกไปสู้กับจักรพรรดิฟู่โฉวแม้ว่าจักรพรรดิฟู่โฉวจะไม่ฆ่าพวกเขาก็ตาม แต่ทั้งสองก็คงจะถูกทรมาน  ฟงจิน,จินหวิน, หัวหน้าจินฟันทองและคนอื่นเห็นสองที่น้องกระทิงเถื่อนยังคงดีใจพวกเขาถึงกับเหงื่อไหลพรั่งพรู คุณชายไตตันมิอาจรุกรานล่วงเกินได้จริงๆ

การต่อสู้ที่ด้านนอกปะทุขึ้นแล้ว จักรพรรดิฟู่โฉวยังคือถือดาบใช้ต้านรับพลังกดดันของหมัดที่หนักหน่วงของมารสัมฤทธิ์ฟ้า

ร่างของมารสัมฤทธิ์ฟ้าจมลงในทะเลสันติ

ร่างของมารสัมฤทธิ์ฟ้าทำลายสมดุลพลังงานที่ผิวทะเลสันติที่สงบราบเรียบทันที

เกิดแรงระเบิดที่รุนแรงมากกว่าภูเขาไฟปะทุถึงพันเท่าหรือหมื่นเท่าทันที ทั่วทั้งทะเลสันติกลายเป็นสภาพพายุทะเลคลั่งคลื่นทะเลสูงครอบคลุมท้องฟ้าเป็นพันฟุต ทะเลที่เงียบสงบกลายเป็นอ่างน้ำวนเหมือนสัตว์ประหลาดยักษ์ขนาดมหึมาฮุยไท่หลางกระแทกเข้ากับเสื้อคลุมจักรพรรดิของจักรพรรดิฟู่โฉวมันคอยลอบโจมตีผสานกับการต่อสู้ของมารสัมฤทธิ์ฟ้า และประสบความสำเร็จเป็นอยอ่างดี!

จักรพรรดิฟู่โฉวใช้ดาบฟันใส่ฮุยไท่หลางทันที

เขาตั้งใจจะฟันร่างของมันให้ขาด

อสูรเทาเถี้ยช้ากว่าเล็กน้อยแต่ก็มาทันเวลารับมือการโจมตีของจักรพรรดิฟู่โฉวมันอ้าปากกว้างใช้ฟันที่คมกริบรับการโจมตีไว้ได้

“ไม่เลว! นับว่ายังคู่ควรกับการเหลียวมอง!” จักรพรรดิฟู่โฉวเตะใส่ฮุยไท่หลางและเทาเถี้ยสองเท้าและใช้ดาบฟันใส่คอของจักรพรรดิมังกร

“ต้าน!” จักรพรรดิมังกรรับหน้าที่ป้องกันเขาใช้โล่มังกรคุ้มกันชีวิตจากดาบศักดิ์สิทธิ์

พอมารสัมฤทธิ์ฟ้าตั้งหลักในอากาศได้เขาระเบิดพลังสายฟ้าและโจมตีใส่จักรพรรดิฟู่โฉวทันที

พื้นที่มิติแตกทะเลสันติกลายเป็นพายุทะเลคลั่ง

ทำให้พื้นที่นี่สั่นสะเทือน

เป็นไปได้ว่าจะถล่มทลายได้ทุกเวลา

อย่างไรก็ตามการตัดสินที่ยุติธรรมยังไม่ได้เริ่มขึ้นและการเจรจาต่อรองระหว่างราชาจื่อฟงกับฝ่ายมือสังหารเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น“........”บุรุษชุดทองที่มีลักษณะคล้ายกับจักรพรรดิฟู่โฉวโผล่ออกมาจากด้านหลังกลุ่มมือสังหารและยิ้มเต็มหน้าราวกับพบเจอสหายสนิท  “ราชาจื่อฟงข้ามักให้เกียรตินับถือเจ้าในฐานะราชา ในระหว่างนี้ข้าถือโอกาสเชิญพี่สะใภ้มาเข้าร่วมประชุมด้วยความจริงเราไม่มีเจตนาร้ายอันใดเราแค่ต้องการยืมสะเก็ดศิลาดวงดาวของท่าน ข้ารับประกันได้ว่าเมื่อเราใช้สะเก็ดศิลาดวงดาวเสร็จแล้วเราจะคืนให้ท่านโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น”

ราชาจื่อฟงหน้าซีดเขาพยายามข่มความโกรธ “เจ้าฟังเรื่องสะเก็ดศิลาดวงดาวมาจากใคร?คนอย่างข้าหรือจะมีสมบัติวิเศษอย่างนั้นได้?”

ถึงตอนนี้นักสู้ปราณฟ้าที่ไม่เคยแสดงตัวมาก่อนปรากฏตัวออกมาทันที

เป็นอดีตหัวหน้าองครักษ์ผู้จงรักภักดีของราชาจื่อฟงนามว่าหวีเฉาเขายังคงดูเหมือนกับวันนั้น

ทว่าน้ำเสียงของเขาแตกต่างจากในอดีต“ข้าเป็นคนพูดเอง, ราชาจื่อฟง ถ้าข้าจำได้ไม่ผิดเมื่อครึ่งปีที่แล้วท่านได้รับสมบัติหีบหนึ่งซึ่งมีสะเก็ดศิลาดวงดาวบรรจุอยู่ในนั้นไม่ใช่หรือ? ปกติแล้วคนอย่างท่านจะไม่ให้คุณค่าความสำคัญกับสะเก็ดศิลาดวงดาวแม้ว่าจะเป็นชิ้นเล็กน้อยก็ตาม คนฉลาดอย่างท่านควรจะเข้าใจภาษิตที่ว่า ‘คนไม่ผิด  ผิดที่ครอบครองหยก’ สะเก็ดศิลาดวงดาวไม่ใช่สมบัติที่คนอย่างท่านจะมีได้ มอบสะเก็ดศิลาดวงดาวออกมาก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งท่านยังสามารถกลับไปเป็นราชาจื่อฟงต่อไปได้  นอกจากนี้ท่านยังสามารถดื่มกินใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย มีหญิงงามคุกเข่ารับใช้อยู่ใกล้ๆ....”

สนมจูกวงพอได้ยินนางหลั่งน้ำตาทันที  “ฝ่าบาท! มอบสะเก็ดศิลาดวงดาวให้เขาไปเถิด เราสู้พวกเขาไม่ได้!”

เย่ว์หยางลอบสะกิดหมิงลี่ฮ่าว

เหมือนจะถามว่าสะเก็ดศิลาดวงดาวคืออะไร?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด