ตอนที่แล้วตอนที่ 956 ความลับและความจริงมาจากมนุษย์?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 958 ดาบแสงศักดิ์สิทธิ์  พายุทะเลคลั่ง

ตอนที่ 957 ความดื้อรั้นและเกลียดชัง


คนผู้นี้คล้ายกับบุรุษรัศมีทองที่ปรากฏตัวในวังเมืองลู่หลิวและชิงหยดเลือดเทพและหญิงงามจูกวง

อย่างน้อยก็ดูมีลักษณะคล้ายกันมาก

ถ้ามองอย่างสังเกตจะพบว่าทั้งสองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

บุรุษชุดทองที่ชิงหยดเลือดเทพปล่อยพลังออกมาเหมือนกับดาบและพลังมีความแหลมคมก้าวร้าว ส่วนบุรุษที่มาทีหลังไม่เพียงแต่แต่งกายเรียบง่าย  แต่ยังสงบราบเรียบเหมือนบ่อน้ำเก่าหรือมองดูคล้ายกับภูเขาไฟที่ยังสงบมีพลังปานฟ้าถล่มดินทลายคนด้านหลังก็มีกระบี่เหมือนคนชุดทอง กระบี่นี้ดูเหมือนธรรมดาไม่ได้แขวนอยู่บนเอวเหมือนมือกระบี่ทั่วไป เป็นกระบี่ไม่มีฝักแต่มีผ้าแพรสองสามชิ้นพันรอบไว้

“ข้ารู้ว่าพวกเขาจะต้องใช้เจ้าอีกครั้ง! ความจริงคนพวกนี้ล้วนแต่เป็นขยะทั้งนั้น เป็นขยะประจำโลก ต้องเอาชีวิตไปช่วยพวกมันทำไมกัน?ช่วยพวกมันมีแต่จะสูญเปล่า กลับจะสร้างอันตรายให้กับเจ้าเป็นทวีคูณ  เจ้าไม่รู้หรือว่าพวกมันเป็นใคร ตามข้ามาเถอะเจ้าไม่ควรมาที่นี่!”

คนที่เพิ่งมาถึงไม่สนใจผู้ชมคนอื่นเขาเดินตรงมาที่เทวีเสรีภาพ

และมองดูนาง

หลังจากที่เห็นนางเงียบเขาถอนหายใจเบาๆ และพูดเสียงอ่อนโยน “เจ้าต้องการช่วยผู้คน ทำไมไม่มากับข้า? นั่นยังทำให้ช่วยผู้คนได้มากกว่าเสียอีก!” ขณะที่เทวีเสรีภาพส่ายหน้าและปฏิเสธที่จะตามมา

ราชาสองหน้าถือเคียวปีศาจไม่ได้พูดอะไร

เหมือนว่าเขาไม่เห็นใครอยู่ในสายตา

บุรุษชุดทองที่อยู่อีกด้านถอยไปหนึ่งก้าวแอบซ่อนตัวครึ่งหนึ่งอยู่ที่ด้านหลังมือสังหารและหญิงงามจูกวงเขากรอกสายตาดูรอบๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่ว์หยางที่เขาต้องระมัดระวังอย่างมากที่สุด เย่ว์หยาง เขาแสดงตัวเหมือนกับคนโง่งี่เง่า ลักษณะของหมิงลี่ฮ่าวก็โง่พอกัน  เขาก้มหน้าและซ่อนตัวอยู่ด้านหลังนักสู้ปราณฟ้าร่างยักษ์หลายคนดูเหมือนกับคนขี้ขลาด มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรเดินขึ้นมาข้างหน้าอย่างเงียบงันและใช้ตัวครึ่งหนึ่งบังเย่ว์หยาง  พวกเขาตระหนักได้ว่าผู้ที่เพิ่งมาถึงมีพลังยิ่งใหญ่ไม่อาจต่อต้านได้การต่อสู้ป้องกันคนผู้นี้ไม่ให้โจมตีเย่ว์หยางพวกเขาจะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นหลายเท่า

อีกด้านหนึ่งสีหน้าของราชาจื่อฟงชิงหลาง โหลวลั่ว ฯลฯ มีสีหน้าไม่ดีนัก

เพราะพวกเขาจำสถานะของผู้ที่มาถึงได้

จักรพรรดิฟู่โฉว!

ท่าทีไม่ไยดีผู้ที่อยู่ในที่นี้พวกเขาสงสัยว่าจักรพรรดิฟู่โฉว คงไม่สนใจวิธีการเตรียมลงมือแก้แค้นทันที

ส่วนตัวปลอมที่ราชาว่านเจียวเคยตะโกนเรียกตอนนี้ยืนอยู่ด้านหลังหญิงงามจูกวง เขาเป็นคนที่มีลักษณะที่คล้ายกันเท่านั้น  แต่บัดนี้จักรพรรดิฟู่โฉวตัวจริงปรากฏนอกจากนี้ยังมีพลังแข็งแกร่งมากกว่าที่คิด!

ราชาจื่อฟงและคนอื่นๆแม้ว่าจะอยู่ภายใต้บัญชาการของจักรพรรดิเสิ่นกวงก็ต้องทรงพลังด้วยเหมือนกัน

แต่พวกเขายังไม่มีคุณสมบัติต่อต้านจักรพรรดิฟู่โฉว

จักรพรรดิฟู่โฉวนั่นคือระดับเดียวกับจักรพรรดิเสิ่นกวงและจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว นั่นเป็นเรื่องน่าปวดหัวนักสู้ระดับราชาเผชิญนักสู้ระดับจักรพรรดิ มีจุดจบตายสถานเดียว!

“ถ้าท่านยืนยันจะช่วยคนพวกนี้ทั้งหมด ถ้าอย่างนั้นข้าต้องฆ่าพวกมันทั้งหมดรู้ว่าชีวิตท่านสำคัญต่อข้า และพวกมันที่เหลือเป็นแค่ขยะเท่านั้น”ขณะที่เทวีเสรีภาพส่ายศีรษะ และขณะที่จักรพรรดิฟู่โฉวพูดคำว่า “ถ้าอย่างนั้น...”เขาหันหลังช้าๆ และเดินไปทางราชาจื่อฟงและเย่ว์หยางกับคนอื่นๆสายตาของเขาเหมือนกับมองกลุ่มคนตาย

“ทำไมเจ้าต้องทำอย่างนี้อยู่เรื่อย?”  เทวีเสรีภาพหลั่งน้ำตา

“ข้าไม่ผิด ท่านก็รู้!” จักรพรรดิฟู่โฉวได้ยินเสียงเทวีเสรีภาพร้องไห้ เขาชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อย

“ตราบใดที่เจ้าอภัยให้ผู้อื่นสลายความเกลียดชังกันและกัน ความทุกข์ก็จะหมดไปจากพวกเราได้ ทำไมเจ้าถึงได้ดื้อรั้นยืนกรานนัก?ความเกลียดชังไม่อาจแก้ไขอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด ตรงกันข้าม มันมีแต่จะทำลายภูมิภาคสวนสวรรค์เป็นทวีคูณ  หลังจากผ่านมาหลายปีผู้คนล้มตาย0มากพอแล้ว”  เทวีเสรีภาพน้ำตานองหน้า

“ทั้งหมดที่ข้ารู้ก็คือพวกเขาใช้ความเมตตาและการให้อภัยของท่านผ่านไปรุ่นแล้วรุ่นเล่าไม่ทำให้ได้ชัยชนะกลับมาเลยสักนิดกลับได้มาแต่พวกเนรคุณที่เยาะเย้ยถากถาง ข้าไม่โทษท่าน เพราะท่านก็เหมือนกับท่านแม่นั่นแหละเกิดมาเป็นคนใจดีมีเมตตา ไม่ต้องการเห็นผู้อื่นประสบทุกข์ยากลำบาก  กลับยอมทรมานตนเองแทนที่จะตำหนิว่ากล่าวคนอื่นแต่ความเมตตาของท่านถูกคนเลวใช้ประโยชน์ และเอามารังแกท่าน  ข้าจะต้องสนองคืนมันสำหรับความแค้นความชังนี้  ต่อให้ทำลายภูมิภาคสวนสวรรค์ทั้งหมดข้าก็ไม่สนใจ ไม่ว่าต้องฆ่าคนกี่คนก็ตาม ข้าไม่สนใจ ไม่ว่ายังไงก็ตามข้าจะไม่ให้อภัยพวกมัน....เป็นเพราะพวกมันทำให้เกิดเรื่องทุกวันนี้  ข้าจะแก้แค้นแทนท่านแม่ แก้แค้นแทนท่านแก้แค้นแทนคนที่ถูกข่มเหงจนต้องตายไปอย่างน่าเศร้าอีกนับไม่ถ้วน  ข้าต้องการแก้แค้นเจ้าพวกเหล่านั้นข้าต้องการให้เจ้าพวกที่สูงส่งเหล่านั้นที่เอาแต่เสวยสุขบนความยากลำบากผู้อื่นต้องประสบเคราะห์กรรม  ข้าต้องการให้โลกโชคร้ายต้องการให้พวกมันทุกข์ยากลำบากเป็นพันเท่าหมื่นเท่า  ข้าไม่สนใจชื่อเสียงอยู่แล้ว  เพราะข้าเกิดมาเพื่อแก้แค้น  นอกจากพวกมันตายกันหมด  ความแค้นของข้าจะไม่มีวันสลาย!”

จักรพรรดิฟู่โฉวกำหมัดแน่นแต่หน้าของเขายังคงสงบ

แต่ลึกลงไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังมีความเจ็บปวดสลักลึกอยู่ในกระดูกและหัวใจ ไม่มีพลังใดๆ ในโลกลบล้างออกไปได้

เย่ว์หยางเริ่มเข้าใจขึ้นบ้างทันที สาเหตุของความทุกข์ยากเดือดร้อนของภูมิภาคสวนสวรรค์หลายพันปีทำไมหมิงลี่ฮ่าวจึงทำเป็นตาบอด? ทำไมเรื่องเหล่านี้ถึงกลายเป็นโศกนาฏกรรมมากขึ้นทุกที?

เหตุผลนั้นง่ายเป็นเพราะจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วจักรพรรดิเสิ่นกวงและเจ้าตำหนักน้ำรุ่นหลังไม่เคยมองเห็นมาก่อนหรือจักรพรรดิฟู่โฉวเองก็ดื้อรั้นจนยากจะรั้งกลับ แน่นอนว่าไม่น่าแปลกใจเมื่อมองอีกมุมหนึ่งพวกเขาคือครอบครัวเดียวกัน มีสัมพันธ์กันทางสายเลือดไม่ว่าผิดหรือถูกทุกคนต้องสู้กันจนถึงที่สุดและใช้พลังหมัดคลี่คลายปัญหา

ไม่รู้จักหมดสิ้น

เมื่อเป็นอย่างนี้ถ้าไม่วุ่นวายก็คงเป็นเรื่องแปลก!

นอกจากนี้โศกนาฏกรรมในภูมิภาคสวนสวรรค์ซับซ้อนยุ่งเหยิงเกินไปจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสะสางปัญหานี้ได้

ถ้าคนเหล่านี้ไม่ดื้อรั้นจนเกินไป  ถ้าจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วไม่หมกมุ่นขนาดนั้น  ถ้าเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ไม่หมกมุ่นถือทิฏฐิ  ถ้าจักรพรรดิเสิ่นกวงไม่หมกมุ่นเกินไปอย่างนั้นหลายอย่างก็คงไม่ขยายลุกลามกลายเป็นโศกนาฏกรรม....

สำหรับจักรพรรดิฟู่โฉวเย่ว์หยางไม่คิดว่าเขาทำอะไรผิด

ตรงกันข้ามเย่ว์หยางสนับสนุนความเคลื่อนไหวของจักรพรรดิฟู่โฉว ตาต่อตา ฟันต่อฟันไม่มีอะไรผิดกับการกระทำนี้ ในกรณีนี้ถ้าจักรพรรดิฟู่โฉวไม่ล้างแค้นก็คงเป็นเรื่องแปลก

หากมีคนข่มเหงสมาชิกครอบครัวซึ่งเป็นที่รักของเขาเย่ว์หยางคงชักดาบเล่นงานฝ่ายตรงข้ามเป็นแน่

การล้างแค้นไม่ใช่เรื่องผิด  แต่ต้องใช้วิธีที่ดีที่สุด

ไม่อาจใช้กำลังบังคับแข็งขืน...ไม่อาจปล่อยให้ความเกลียดชังบดบังดวงตา..นี่คือจุดแตกต่างระหว่างเย่ว์หยางกับจักรพรรดิฟู่โฉว!

“ข้ารู้ว่าข้าทำไม่ถูก  แต่ข้าไม่รู้ว่าจะทำให้ถูกต้องได้อย่างไร  สำหรับเจ้าข้าไม่ต้องการให้เจ้ามีชีวิตอยู่กับความเกลียดชังตลอดเวลา  เจ้าควรจะมีชีวิตเป็นของตัวเองแสวงหาตนเองแทนที่จะคิดแค้นตลอดเวลาและอาบเลือดสู้กับศัตรูแม้ว่าข้าจะเป็นคนรุ่นหลังแม่ของเจ้าแต่ข้าไม่ต้องการสนับสนุนการแก้แค้นของเจ้าไม่ว่าจะเป็นเจ้า จักรพรรดิเสิ่นกวง จักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนทุกคนต่อสู้เพื่อตอบสนองความต้องการในใจของตนเอง ข้าไม่ต้องการอยู่ในวังวนสงครามกับเจ้า...ข้าจะไม่ไปกับเจ้า!”  เทวีเสรีภาพปาดน้ำตา  แม้ว่ารูปลักษณ์ของนางจะดูอ่อนแอ  แต่ดวงตาของนางมุ่งมั่น

“ท่านแค่ติดตามข้า  ข้าไม่ต้องการการสนับสนุนจากท่านท่านไม่ต้องทำอะไรให้ข้า ท่านแค่ใช้ชีวิตอยู่ในที่ปลอดภัยให้ดี  พอเถอะ ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมข้าอีก  ข้าเองก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมท่านได้เช่นกันพวกเราทั้งหมดล้วนแต่ดื้อรั้นกันทั้งนั้น ท่านไม่ยอมช่วยข้า  ข้าก็ไม่ว่ากระไรแต่ข้าตัดสินใจแล้วจะเอาตัวท่านจากไป ท่านไม่ต้องคัดค้าน  เพราะข้าแข็งแกร่งกว่าท่าน  เรื่องนี้ข้าต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน”

หลังจากจักรพรรดิฟู่โฉวพูดเสร็จเขาชะงักฝีเท้าอีกครั้ง

เมื่อเขายืนอยู่ต่อหน้าราชาจื่อฟงเขายังไม่ชักกระบี่  แต่พูดอย่างราบเรียบ“เจ้าฆ่าตัวตายดีกว่า ความเจ็บปวดจะได้ลดน้อยลง”

ราชาจื่อฟงสีหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียด

สีหน้าซีดเซียว

ทุกคนโกรธแต่ในใจมีความกลัวมากกว่า เพราะอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิฟู่โฉวผู้ทรงพลังต่อให้พวกเขาร่วมมือกันก็ยังไม่เพียงพอต่อต้านฝ่ายตรงข้ามได้  ต่อหน้านักสู้ระดับจักรพรรดิแดนดินที่ทรงพลัง นักสู้ปราณฟ้าระดับราชาเป็นเพียงแค่หนูตัวเล็กที่อยู่ต่อหน้าราชสีห์ไม่ว่ามีจำนวนเท่าใดก็ไม่มีประโยชน์

จักรพรรดิฟู่โฉวเห็นราชาจื่อฟงและคนอื่นๆไม่พูดอะไร  เขาแค่นเสียงเย็นชา “อย่านึกว่าเจ้าขี้ขลาดเสิ่นกวงจะช่วยเจ้าได้  ในท่ามกลางทะเลสันติที่เต็มไปด้วยอันตรายนี้ เขาไม่กล้ามาพบข้าแน่นอนต่อให้ข้าไม่ฆ่าพวกเจ้า ข้าคิดว่าพลังอย่างพวกเจ้ายังจะมีชีวิตรอดพ้นแผนของราชาสองหน้ากับพวกอีกหรือ?  ชีวิตของพวกเจ้ามีค่าไม่ต่างอะไรจากขยะแค่ใช้เลือดเอาไว้บูชายัญศิลาดวงดาวเท่านั้น!”

ราชาสองหน้าที่ยืนห่างออกไปยังคงนิ่งเงียบราวกับว่าตาบอดหูหนวกมาแต่กำเนิด

สนมจูกวงมองดูสีหน้าเย่ว์หยางไม่วางตา

พยายามจะค้นหาบางอย่าง

เย่ว์หยางกระแอมเบาๆ ต่อหน้าทุกคนใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้ม “เศษหินดวงดาวอะไรกัน ข้าไม่รู้จัก,เล่ห์เหลี่ยมแผนการอะไร ข้าไม่รู้ทั้งนั้น ข้าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น  ข้ามีนิสัยรักสงบ เมื่อข้ายังเด็กข้าเป็นเด็กดีมีน้ำใจ ข้าเองคิดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการต่อสู้ของเจ้า ดังนั้นข้าสามารถไปจากที่นี่ได้ไหม?”

“เจ้าเป็นใคร?” จักรพรรดิฟู่โฉวประหลาดใจเย่ว์หยางเล็กน้อยและเขาก็คาดเดาไม่ออกว่าเจ้าเด็กนี่โผล่ออกมาจากไหน?

“เจ้าเพิ่งบอกไม่ใช่หรือว่าจะกลับไปกินมื้อเย็นที่บ้าน?” เย่ว์หยางทำตัวเหมือนเด็กนักเรียนประถมที่ถูกลงโทษเวลาทำผิดพลาด

“คิกๆๆ” สนมจูกวงอดหัวเราะไม่ได้

“....”หญิงงามจูกวงลอบสังเกตเย่ว์หยางและอดตำหนิกับความเหลวไหลไร้สาระของเขามิได้  “โชคดีที่จักรพรรดิฟู่โฉวแค่มองหาจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วเพื่อแก้แค้น”

จักรพรรดิฟู่โฉวไม่ตอบ

เขาเพียงแต่ชักกระบี่ด้านหลังช้าๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด