ตอนที่แล้วตอนที่ 8 อนุภาควิญญาณและขั้นจิตสัมผัส
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10 ขั้นจิตควบคุมวิญญาณ

ตอนที่ 9 โลกมิติดวงตาผนึกเทพ


ตอนที่ 9 โลกมิติดวงตาผนึกเทพ

อนุภาควิญญาณที่แตกตัวออกมาจากมือข้างนั้นของผีร้ายมีมากกว่าอนุภาควิญญาณในอากาศหลายเท่านัก มันเหมือนว่าจะรวมตัวกันเป็นมวลอนุภาควิญญาณที่หนาแน่นและค่อย ๆ ลอยตกลงไปที่พื้นสีขาว

ลีโอมองดูอย่างตั้งใจ เขาพบว่าอนุภาควิญญาณรวมเข้าไปในพื้นและก่อตัวจนกลายเป็นพื้นดินขึ้นมาจริง ๆ ซึ่งในโลกมิติดวงตาผนึกเทพนี้มันเป็นเพียงความว่างเปล่าสีขาวที่ไม่มีอะไรเลย แต่ตอนนี้ได้ปรากฏพื้นดินขึ้นมาแล้ว

“พื้นดินเหรอ” ลีโอลองใช้มือจับดินที่พื้นดูก็พบว่ามันอุดมสมบูรณ์มาก เขาขุดมันลงไปก็พบว่ามันหนาพอสมควร ไม่แน่ใจว่าหนาเท่าไหร่ แต่ว่าความกว้างนั้นประมาณ 1 ตารางเมตรเห็นจะได้

ลีโอเริ่มดึงร่างกายของผีร้ายต่อ เริ่มจากแขนของผีร้ายทำให้มันแตกตัวเป็นอนุภาควิญญาณอีกครั้งและก่อเกิดพื้นดินติด ๆ กัน ตอนนี้มีพื้นดินประมาณ 2 ตารางเมตรแล้ว

ลีโอทำต่อไป แขนขาทั้ง 4 ของผีร้ายถูกเปลี่ยนให้เป็นอนุภาควิญญาณ ก่อนจะรวมตัวกันกำเนิดเป็นพื้นดินขนาดประมาณ 10 ตารางเมตร แต่ว่านอกจากพื้นดินก็ไม่มีอย่างอื่นเกิดขึ้นมาอีก

“หรือว่ามันจะเกิดขึ้นมาเฉพาะพื้นดินเท่านั้น ข้าต้องไปหาอะไรมาปลูกเอง ไว้หลังจากการฝึกก็แล้วกัน” ลีโอยืนคิดอยู่บนแปลงดินขนาด 10 เมตร

“ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าเพราะอนุภาควิญญาณของเจ้านั้นมีประโยชน์ต่อการฝึกฝนของข้า” ลีโอไม่เปลี่ยนผีร้ายให้กลายเป็นอนุภาควิญญาณอีก เพราะเขายังต้องเก็บมันไว้ใช้ในการฝึกฝน

ที่สำคัญคือเขาต้องให้มันชีวิตอยู่เพื่อตามหาตัวของกัสและแก้แค้นให้กับลีโอคนเก่า

ลีโอออกจากโลกมิติดวงตาผนึกเทพของดวงตาผนึกเทพมาและก็ค้นพบว่าตัวเองนั้นยังสามารถมองเห็นอนุภาควิญญาณได้เหมือนกับในโลกมิติดวงตาผนึกเทพ นั้นเป็นเพราะว่าตาขวาของเขานั้นเป็นดวงตาผนึกเทพ

ลีโอมองดูภายในห้องฝึกฝนนั้นมีอนุภาควิญญาณไม่มากสามารถนับได้ด้วยตาเปล่า อนุภาควิญญาณที่นี่เบาบางมาก แถมพวกมันยังลอยไปมาอย่างไร้จุดหมาย

อนุภาควิญญาณนั้นสามารถลอยผ่านวัตถุทั่วไปได้ จึงไม่แปลกที่มันจะลอยจากอีกห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่งได้ ลีโอลองจับไปที่อนุภาควิญญาณและก็เป็นอย่างที่คาดคิดไว้จริง ๆ เขาไม่สามารถจับมันได้

“ตามการฝึกฝนขั้นจิตสัมผัสนั้นคือการสัมผัสถึงอนุภาควิญญาณ ไม่เพียงแค่ข้าสัมผัสถึงอนุภาควิญญาณ แต่ยังมองเห็นได้ด้วยซึ่งใช้เวลาไม่กี่สิบนาทีด้วยซ้ำนั้นเป็นเพราะว่าข้านั้นมองผ่านดวงตาผนึกเทพ แต่ว่าถ้าปิดการมองผ่านดวงตาผนึกเทพข้ายังสัมผัสอนุภาควิญญาณไม่ได้อย่างมั่นคง” ลีโอประเมินตัวเอง

แม้เขาจะมีดวงตาผนึกเทพช่วยมองเห็นอนุภาควิญญาณ แต่ถ้าปิดมันไปก็ไม่สามารถมองเห็นได้ และการสัมผัสก็ยังไม่มั่นคง

เขาจำเป็นต้องทำให้ตัวเองอยู่ในขั้นจิตสัมผัสแม้จะไม่มีดวงตาผนึกเทพ ลีโอกะพริบตาอีกครั้งดวงตาขวาที่เป็นสีฟ้าของเขาก็เปลี่ยนกลับเป็นสีแดงเช่นเดิม

ลีโอพยายามสัมผัสถึงอนุภาคในมือ พอความรู้สึกหายไปเขาก็เปิดดวงตาและมองอีกครั้ง โดยเขาทำแบบนี้ซ้ำ ๆ ไปมาไม่รู้กี่ร้อยครั้ง

เวลาผ่านไปจนถึงวันใหม่ ในที่สุดลีโอก็ทำให้จิตสัมผัสของเขานั้นเสถียรแม้จะไม่ใช้ดวงตาผนึกเทพลีโอก็สัมผัสถึงอนุภาควิญญาณในมือของตนเองและรอบ ๆ ตัวไม่กี่เมตรได้

“ข้าใช้เวลา 1 วันในการฝึกขั้นจิตสัมผัสให้ได้ผล ซึ่งเร็วกว่าเท่าหนึ่งพวกผู้มีพรสวรรค์ระดับ 5 ซะอีก” ลีโอยิ้มอย่างยินดี แต่ก็รู้สึกเหนื่อยล้าเช่นกัน เพราะไม่ได้นอนมาทั้งคืนรวมกับการใช้พลังจิตของตนเองเพ่งเล็งไปยังอนุภาควิญญาณตลอดเวลา

ลีโอออกจากห้องฝึกฝนและตรงไปยังห้องอาบน้ำ ก่อนจะนอนพักผ่อนและหลับไป

ไม่มีใครมารบกวนการนอนของลีโอ สถาบันเอลาเดียนั้นฝึกฝนอย่างอิสระ ถ้าอายุครบ 25 ก็จะถือว่าไม่มีสิทธิ์ศึกษาที่นี่ต่อ และจะต้องออกไปจากสถาบัน ดังนั้นการฝึกฝนจะได้มากน้อยก็ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล ไม่มีใครมาตามสนใจ

ลีโอตื่นขึ้นมาก็แทบเป็นเวลาเย็นแล้ว เขาลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย เพราะไม่เคยชินกับการนอนต่างเวลา

หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนชุดตัวใหม่และเอาตัวเก่าใส่เข้าไปในช่อง ซึ่งจะถูกส่งไปซักที่ระบบกลางและส่งกลับมาในเวลาไม่ถึง 10 นาที นับว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ลีโอชอบมากยุคนี้

ลีโอออกไปหาอาหารกิน เพราะหมอผีก็ยังเป็นคน จึงต้องกินต้องขับถ่ายไม่ต่างจากมนุษย์ทั่วไป โดยร้านอาหารที่เขาไปนั้นอยู่ที่ชั้น 2 ของหอคอยแห่งนี้ เพียงแค่เขาไปที่นั่นและยืนยันตัวตน ก่อนจะกดเลือกอาหารที่มีนับ ๆ หมื่นเมนูรวมทั้งอาหารประจำถิ่นและเมืองก็มีรวบรวมไว้หมด

เพียงแค่กดเลือกมาอาหารก็จะส่งมาที่ช่อง ลีโอกดเลือกเมนูง่าย ๆ ที่มีทั้งข้าว ซุบ เนื้อ ผักและเครื่องเคียง อาหารนั้นให้มาเยอะมา แถมหน้าตาก็น่ากินด้วย

ส่วนราคาค่าอาหารนั้นลีโอไม่ต้องจ่ายอีก เนื่องจากมันถูกเก็บไปพร้อมค่าห้องแล้วและก็แพงสุดๆ เลย 20 ดากาซต่อที่พัก 1 เดือน ถ้าคิดเป็นเงินเครดิตก็เท่ากับ 2 ล้านเครดิตต่อเดือน

แม้แต่ลีโอคนเก่าก็ยังไม่เคยใช้เงินมากขนาดนี้ในเดือนเดียวมาก่อน

ลีโอถือถาดอาหารออกมาที่สวนสาธารณะเปิด ซึ่งนับเป็นหนึ่งในไม่กี่สถานที่ที่สามารถสูดอากาศด้านนอกหอคอยได้

ที่นี่เป็นลานกว้างประมาณ 1 กิโลเมตร และด้วยจำนวนศิษย์รวมกับอาจารย์หมอผีแล้วก็มีกันแค่ไม่กี่พัน แถมส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มารวมกันที่นี่มากนัก จึงทำให้สวนสาธารณะแห่งนี้เงียบสงบมาก

ลีโอเดินถือถาดอาหารไปหาที่นั่งที่สามารถมองออกไปด้านนอกหอหอยได้ ถึงด้านบนจะมีหมอก แต่ว่าในตอนเย็น ๆ แบบนี้จะมีแสงสีฟ้าของดวงอาทิตย์ส่องมา ทำให้บรรยากาศกลายเป็นคลุมโทนด้วยสีฟ้าและแดงออกชมพูอ่อน และเมื่อมองจากหอคอยที่สูงมาก ๆ ในรอยแยกออกไปตามรอยแยกที่แสงอาทิตย์สองมาก็นับว่าเป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ อีกฉากหนึ่งเช่นกัน

การได้มาเห็นฉากแบบนี้ก็ถือเป็นการพักผ่อนและฟื้นฟูพลังจิตของตัวเองไปในตัว เขากินอาหารเพียงลำพังและเฝ้ามองดวงอาทิตย์ที่ตกอย่างเงียบ ๆ เพียงลำพัง

...

สามวันต่อมา

ลีโอยังไม่ได้เริ่มฝึกในขั้นสองอย่างจริงจัง แต่เขาใช้เงิน 10 ดากาซในการลงเรียนบรรยายของขั้นจิตควบคุมวิญญาณจำนวน 1 คาบ เพื่อทำความเข้าใจของมันซะก่อน ซึ่งลีโอก็เข้าใจการฝึกขั้น จิตควบคุมวิญญาณ มากขึ้นแล้วและเขากะว่าจะลองในวันต่อไป

แต่พอเช้าวันต่อมาลีโอก็นึกขึ้นได้ว่าตนเองนั้นต้องหาซื้อเมล็ดไปปลูกในโลกมิติดวงตาผนึกเทพ ลีโอลองหาร้านดูแล้วก็พบว่าที่นี่มีร้านขายสมุนไพรวิญญาณอยู่

ร้านขายสมุนไพรวิญญาณนั้นคือร้านที่ซื้อขายพืชที่มีความสามารถในการดูดซับอนุภาควิญญาณได้ ทำให้มันมีคุณสมบัติด้านตัวยาและใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ ของหมอผี

ลีโอเดินเข้ามาด้านในร้านก็สัมผัสได้เลยว่าที่นี่มีอนุภาควิญญาณที่หน้าแน่นมาก เพราะต้นไม้เหล่านี้ได้ดึงดูดอนุภาควิญญาณมาที่นี่

“เจ้ากำลังมองหาอะไรหรือเปล่า” หญิงสาวอายุประมาณ 18 ผู้ซึ่งเป็นหมอผีฝึกหัดที่คอยดูแลร้านแห่งนี้ได้ถามลีโอขึ้นมา

“ท่านคือ?”

“ข้าคือไอริน หนึ่งในพนักงานที่ดูแลร้านสมุนไพรวิญญาณแห่งนี้”

“ศิษย์พี่ไอริน ข้าต้องการซื้อเมล็ดพันธุ์สมุนไพรวิญญาณท่านพอจะมีขายไหม”

“เมล็ดสมุนไพรวิญญาณ อืม...ค่อนข้างหายากอยู่เหมือนกัน แต่ว่าเจ้าโชคดีเมื่อวันสองวันก่อนมีเข้ามาในร้านพอดี มีเมล็ดหญ้าศพ เมล็ดดอกลำโพงแห่งโหยหวนและดอกระฆังระวังภัย เจ้าอยากจะได้แบบไหน” หญิงสาวกล่าวและมองไปที่ลีโอ

ลีโอพึ่งนึกขึ้นได้ว่าตนนั้นไม่มีความรู้เรื่องสมุนไพรวิญญาณเลย ดังนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าพวกมันมีสรรพคุณอะไรบ้าง อย่างน้อยถ้าปลูกก็ควรปลูกของที่ในประโยชน์ เขาจึงสอบถามหญิงสาว

“ศิษย์พี่ ข้าขอถามว่าสมุนไพรทั้งสามชนิดนั้นมันมีสรรพคุณอะไรบ้าง”

“เจ้าไม่รู้เหรอ ช่างเถอะข้าจะอธิบายให้ฟัง”

“หญ้าศพนั้นคือสมุนไพรที่ตัวหลักในการกลั่นยาที่มีชื่อว่า ยาร่างศพ ซึ่งเป็นยาที่กินไปแล้วจะช่วยให้สัมผัสได้ถึงอนุภาควิญญาณได้ง่าย 1 เท่า ดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวน เป็นสมุนไพรที่ใช้ประกอบพิธีในการสร้างอักขระคลื่นเสียงที่ใช้กับภูติผีปีศาจได้ ส่วนดอกระฆังระวังภัยเป็นดอกไม้ที่จะสั่นเมื่อมีอันตรายเข้าใกล้มัน”

“ถ้าเจ้าอยากรู้มากกว่านี้ก็ซื้อนี้ไปอ่านได้ ราคาแค่ 10 ดากาซเท่านั้นในนี้มีการรวบรวมชื่อของพืชสมุนไพรวิญญาณ คู่มือการปลูกและวิธีการเก็บเกี่ยวอยู่ สำหรับหมอผีนั้นควรจะรู้ไว้ก็ดีนะ เวลาเจ้าไปปฏิบัติภารกิจแล้วอาจจะเจอพืชสมุนไพรขึ้นในแถวที่มีภูติผีปีศาจอยู่จะได้รู้ว่ามันคืออะไรและเก็บยังไง”

ไอรินหยิบเอาตำราเล่มหนึ่งออกมา ที่ปกนั้นเขียนว่า “ตำราสมุนไพรวิญญาณระดับ 0 เหมาะสำหรับหมอผีฝึกหัด”

ลีโอมองไปที่ตำราก่อนจะชั่งน้ำหนัก

“ตกลงข้าจะซื้อมันและอยากจะได้เมล็ดสมุนไพรทั้งสามด้วย”

“เจ้าต้องการเท่าไหร่ เมล็ดหญ้าศพราคาที่ 1 ดากาซต่อเมล็ด เมล็ดดอกลำโพงแห่งโหยหวนราคาที่ 1 ดากาซต่อ 5 เมล็ดและดอกระฆังระวังภัยราคาที่ 2 ดากาซต่อเมล็ด”

ลีโอได้ยินราคาก็ตกใจ

“อย่าคิดว่าแพงถ้าเจ้าปลูกพวกมันได้ราคาจะมากถึง 10 เท่า” ไอรินพูดด้วยน้ำเสียงล่อลวง

“ก็ได้ ข้าจะซื้อเมล็ดหญ้าศพ 5 เมล็ด เมล็ดดอกลำโพงแห่งโหยหวน 10 เมล็ดและดอกระฆังระวังภัย 4 เมล็ด” ลีโอกล่าว

“เมล็ดหญ้าศพ 5 เมล็ดเท่ากับ 5 ดากาซ เมล็ดดอกลำโพงแห่งโหยหวน 10 เมล็ด 2 ดากาซและดอกระฆังระวังภัย 4 เมล็ด 8 ดากาซ รวมทั้งสิ้น 10 ดากาซ เมื่อรวมกับตำราสมุนไพรวิญญาณระดับ 0 อีก 10 ดากาซก็เท่ากับ 20 ดากาซ” ไอรินสรุปราคาอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ากลัวลีโอจะเปลี่ยนใจ

ลีโอกัดฟันหยิบเงินออกมาก่อนจะส่งมันให้กับนาง ก่อนจะมองดูเงินในกระเป๋าของตนเองมันไม่มีเหลือสักดากาซเดียว

“เอานี่ของเจ้า ข้าแถมอุปกรณ์ปลูกให้ด้วย ไว้วันหลังมาซื้อไหมนะ” ไอรินยื่นเมล็ดพันธุ์ทั้งสามถุงและหนังสือให้กับลีโอ

ลีโอรับมาและตรงกลับที่พักในทันที

เมื่อกลับมาถึงห้องลีโอก็จัดการส่งทุกอย่างที่ได้มาเข้าไปในโลกมิติ ก่อนจะตามเข้าไปด้านในโลกมิตินั้นยังคงมีสภาพเหมือนเช่นเดิม

เขาไม่ได้ลงมือปลูกในทันที แต่อ่านตำราสมุนไพรวิญญาณก่อน โดยลีโอเปิดไปยังหน้าที่กล่าวถึงสมุนไพรทั้งสามชนิดนี้ หลังจากอ่านไปสักพักลีโอก็ถึงกับขมวดคิ้วในทันที

“ทำไมข้ารู้สึกเหมือนโดนหลอกขายของมาเลย” ลีโอพึมพำออกมาเบา ๆ เพราะจากที่เขียนในหนังสือ พืชทั้งสามชนิดนั้นจะเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน แถมระยะเวลานั้นก็นานมาก

อย่างแรกหญ้าศพ จะเติบโตบนหลุมศพหรือแถว ๆ ที่มีศพตาย ใช้เวลาเติบโตเต็มเพื่อเก็บเกี่ยวอยู่ 2 ปีเป็นอย่างน้อย

เมล็ดดอกลำโพงแห่งโหยหวน จะเติบโตบนภูเขาหินหรือก้อนหินที่มีลมพัดผ่านเสมอเวลาเก็บเกี่ยวคือ 1 ปีเป็นอย่างน้อย

ดอกระฆังระวังภัยนั้นต้องเติบโตในสถานที่ไม่มีเสียงรบกวนระยะการเก็บเกี่ยวคือ 3 ปีเป็นอย่างน้อย

“หวังว่าที่นี่จะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง” ลีโอมองไปที่โลกมิติดวงตาผนึกเทพ ความหวังของเขาอยู่ที่นี่แล้ว

เริ่มลงมือปลูกเมล็ดเหล่านี้ ลีโอมีความทรงจำของลีโอคนเก่าเกี่ยวกับการทำการเกษตรทำให้ลีโอทำทุกอย่างได้คล่องมาก

ลีโอหยิบอุปกรณ์เพาะปลูก ก่อนจะจะเริ่มแบ่งแปลงในพื้นที่ 10 ตารางเมตรนี้ให้กลายเป็นแปลกปลูกสมุนไพรวิญญาณ

จากนั้นก็หย่อนเมล็ดลงไปและใช้ดินกลบ รดน้ำที่เตรียมเข้ามาอย่างระมัดระวัง ไม่นานก็เสร็จสิ้น

“เอาละแค่นี้ก็เสร็จแล้ว”

ลีโอเช็ดมือที่พึ่งล้างและมองอย่างพึงพอใจไปยังแปลงสมุนไพรวิญญาณของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด