ตอนที่แล้วตอนที่ 5 สถาบันเอลาเดีย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 สกุลเงินดากาซ

ตอนที่ 6 ทดสอบพรสวรรค์


ตอนที่ 6 ทดสอบพรสวรรค์

“ชื่อข้าถูกเรียกแล้ว”

เดลล่ารีบเดินขึ้นไปที่ลานโลหะและจับไปที่แขนของศพอย่างคาดหวัง นิ้วของศพค่อย ๆ ขยับขึ้นมาทีละนิ้วทีละนิ้ว จนกระทั่งถึงนิ้วที่สาม เธอจ้องมองไปที่มือและพยายามอย่างสุดกำลัง แต่ก็ไม่สามารถทำให้นิ้วที่ 4 ขยับออกมาได้

เดลล่ามีสีหน้าผิดหวังในทันที เธอคาดหวังว่าจะต้องไปถึง 4 นิ้ว เพราะนั่นคือมาตรฐานที่อาจารย์หมอผีแท้จริงจะรับศิษย์ส่วนตัว แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ

“ถือว่าไม่เลว” อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่กล่าวออกมา ก่อนจะให้เดลล่าไปยืนอยู่กับกลุ่มคนก่อน ๆ ที่ผ่าน

เดลล่ามีสีหน้าผิดหวัง แต่คนอื่น ๆ กับมองด้วยความอิจฉาและคิดว่าตนถึงไม่มีพรสวรรค์ระดับ 3 บ้าง

เนื่องจากการได้พรสวรรค์ระดับ 3 ก็ถือว่าดีมากแล้ว เพราะคนกว่าครึ่งจะมีพรสวรรค์ที่ระดับ 1 ขยับขึ้นมาหน่อยก็ระดับ 2 ส่วนระดับ 2 นั้นมีไม่มาก ระดับ 4 นั้นสามารถนับนิ้วได้และระดับ 5 ในบางครั้งก็ไม่มีให้เห็นเลย

อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่เรียกคนไปขึ้นสอบอีกและผ่านไปสักพักตอนนั้นเองก็มีเสียงฮือฮาเกิดขึ้นมา ปรากฏว่ามีคนสามารถทำให้นิ้วศพกางออกมาทั้ง 5 นิ้วได้สำเร็จ

“นั้นคือพรสวรรค์ระดับ 5”

“บ้าไปแล้ว ดูสิ!...เขามีพรสวรรค์ระดับ 5 จริง ๆ ด้วย”

“สวรรค์ทำไมไม่เป็นข้า”

ผู้เข้าร่วมการทดสอบทั้งหมดต่างมองดูและพูดกันไม่หยุด โดยส่วนใหญ่แล้วก็เต็มไปด้วยความอิจฉาต่อพรสวรรค์ของผู้ทดสอบคนนั้น ขณะที่บางคนเริ่มคาดเดาตัวตนของผู้ทดสอบและวางแผนตีสนิทด้วย

อาจารย์เธมบีเซ่เห็นก็ยิ้มออกมา เขารู้สึกว่าการมาที่นี่ในวัยนี้คุ้มค่า เพราะได้เจอกับคนมีพรสวรรค์ระดับ 5 ซึ่งในฐานะอาจารย์ที่มาทำหน้าที่ควบคุมการทดสอบเขามีศิษย์เลือกรับเด็กที่มีพรสวรรค์เข้ามาเป็นศิษย์ก่อนคนอื่น ๆ

“เจ้าชื่ออะไร มาจากตระกูลไหน” อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่เดินเข้ามาถาม

“เรียนอาจารย์เธมบีเซ่ ข้าชื่อว่าฟลอยด์ ฟินทัน มาจากครอบครัวชนชั้นแรงงาน” ฟลอยด์แจ้งชื่อของตนเองต่ออาจารย์เธมบีเซ่

ในสหพันธรัฐดาวอังคาร แม้ว่าจะไม่มีการแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจน แต่ว่าด้วยบริบทของสังคมในยุคนี้พวกเขาก็มีการแบ่งแยกเป็นนัย ๆ ไปในตัว โดยเริ่มจากชนชั้นปกครอง คือเหล่าตระกูลที่มีส่วนร่วมในสภาของสหพันธรัฐ ชนชั้นสูงคือกลุ่มคนที่มีเงินทองและอำนาจควบคู่กันไป ชนชั้นกลางคือพวกมีเงินทองใช้จ่ายได้อย่างไม่มีปัญญามีการงานที่มั่นคง และชนชั้นล่างคือพวกผู้ใช้แรงงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าชนชั้นนี้จะเป็นกลุ่มแรงงานหลัก

เพราะในยุคนี้มีการใช้หุ่นยนต์สมองกลเข้ามาทำงานร่วมด้วยแล้ว มันเริ่มตอนที่ประชากรของมนุษย์นั้นมีอยู่จำกัด จากโลกที่ตายซากจากสงครามแย่งชิงทรัพยากร สงครามกบฏเงาจันทร์ จึงมีการพัฒนาแรงงานหุ่นยนต์ตลอดมา แต่พอความสงบสุขเข้ามาแทนที่ประชากรมากขึ้นเกินกว่าที่งานจะรองรับ

สุดท้ายก็เกิดการว่างงานสร้างผลกระทบต่อคนชั้นล่างของสังคมที่เงินไม่พอกับค่าครองชีพ คุณภาพชีวิตพวกเขาจึงด้อยลง แม้แต่สหพันธรัฐก็ไม่มีความสามารถในการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ เพราะมันเป็นไปตามกลไกของมันเองและไม่ว่ายุคสมัยไหนก็จะมีอยู่ตลอดไป

แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่กับยินดี เพราะเท่ากับว่าฟลอยด์ไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ กับตระกูลหมอผีไหนเลย อัจฉริยะพรสวรรค์ระดับ 5 ที่ไม่มีเจ้าของใครบ้างไม่อยากจะดึงตัวมาร่วมกับตนเอง

“เจ้าต้องการเป็นศิษย์ส่วนตัวของข้าไหม”

“ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่ง” ฟลอยด์ตอบรับแทบจะในทันที

ชีวิตที่ผ่านมาของเขาไม่เคยได้รับความสนใจมากเท่านี้มาก่อน ไม่คิดว่าหลังจากเจอกับเรื่องประหลาดตนเองจะได้มายังสถานที่ลึกลับนี้และยังกลายเป็นที่สนใจของอาจารย์หมอผีอีก

สถานะจากเด็กหนุ่มชนชั้นล่างที่โดนหนามเหยียดได้กลายมาเป็นลูกศิษย์ส่วนตัวของอาจารย์หมอผีที่แท้จริงที่ลูกหลานคนมีเงินทั้งหลายอย่างไขว่คว้าไว้ แต่กลับโดนเขาแย่งชิงมันมาได้

‘แล้วอย่างไรต่อให้พวกเจ้ามีตระกูลที่มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง แต่ว่าข้าก็ยังแย่งพวกเจ้ามาได้ ข้าจะเป็นหมอผีแท้จริง ข้าจะมีมากกว่าที่พวกเจ้ามี ทุกคนต้องเคารพข้า’ ฟลอยด์พูดในใจซ้ำ ๆ และหรี่ตามองกลุ่มเด็กจากตระกูลหมอผีที่กำลังอิจฉาเขา

ลีโอมองดูฟลอยด์ที่มาที่นี่ด้วยเหตุผลคล้าย ๆ กับเขา ก่อนจะลองคิดว่าตัวเองจะมีพรสวรรค์ระดับใดดูบ้าง

จะบอกว่าไม่คาดหวังเลยก็คงจะเป็นการโกหก แต่พอเทียบกับเรื่องการทะลุมิติมาและการมีดวงตาผนึกเทพอยู่ที่ตาขวามันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากจนเกินไป

ไม่ต้องรอนานชื่อของลีโอก็โดนเรียกอาจารย์หมอผีเธมบีเซ่

“ลีโอ เบลซ”

“ข้าอยู่นี่” ลีโอยกมือขึ้น ก่อนจะก้าวเดินขึ้นไปที่ลาโหละ เนื่องจากตอนนี้เหลือกันอยู่ไม่ถึง 5 คนแล้วจากทั้งหมด 30 คนทำให้เขาค่อนข้างตกเป็นเป้าหมายตา หลายคนกำลังลุ้นว่าจะมีพวกม้ามืดแบบฟลอยด์ปรากฏมาอีกหรือไม่

ลีโอเดินมาหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าของแท่นโลหะ ก่อนจะยื่นมือเข้าไปใกล้กับอุปกรณ์ทดสอบอย่างนิ้วศพ ตอนนั้นเองก็เกิดบางสิ่งขึ้นมา เมื่อมือลีโอได้สัมผัสกับท่อนแขนของศพตาขวาเขาก็เหมือนโดนกระตุ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ทำให้ลีโอรีบปล่อยมือและถอยออกมา ทำให้อาการที่ดวงตาขวานั้นหายไป

“ยกสองนิ้ว พรสวรรค์ระดับ 2” อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบง่ายและก็ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว

“หึ” ฟลอยด์มองลีโอเพียงแวบเดียว ก่อนจะหันไปสนใจอย่างยื่น เพราะพรสวรรค์ระดับ 2 มันห่างชั้นเกินไปที่เขาต้องลดตัวลงไปสนใจ

ลีโอเองก็เห็นท่าทีของฟลอยด์และเขาก็ไม่ใส่ใจมัน เขาเดินกลับเข้าไปอยู่กับกลุ่มที่ทดสอบแล้วอย่างเงียบ ๆ ขณะที่อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่เริ่มเรียกคนต่อไปขึ้นมาทดสอบพรสวรรค์ต่อ

‘ระดับสองก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร’ ลีโอคิดในใจอย่างเงียบ ๆ เพียงลำพัง แม้จะผิดหวังแต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรมากต่อเขา เพราะนอกจากพรสวรรค์ เขายังมีสิ่งที่เรียกว่าดวงตาผนึกเทพอยู่ มันมากพอจะชดเชยพรสวรรค์ที่ต่ำของเขา

แต่ที่ทำให้เขาค้างคาใจมากกว่านะคืออาการแปลก ๆ ของดวงตาผนึกเทพเมื่อครู่ เขาแอบจ้องมองไปที่นิ้วศพ แต่ก็ต้องรีบหลบสายตาเพราะกลัวจะเผลอไปเก็บมันเข้ามาในดวงตาผนึกเทพ

‘ดวงตาผนึกเทพต้องมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของหมอผีและภูติผีปีศาจแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการกักขังหรือมิติด้านในนั้น นี่คือสิ่งที่เติมเต็มช่องว่างสวรรค์ของข้า’

การทดสอบที่เหลือนั้นใช้เวลาไม่นาน ในที่สุดทั้ง 30 คนก็ได้รับการทดสอบพรสวรรค์ มีถึง 16 คนที่มีพรสวรรค์ระดับ 1 และอีก 7 คนคือพรสวรรค์ระดับ 2 ส่วนพรสวรรค์ระดับ 3 นั้นมีอยู่ 4 คน ระดับ 4 มี 2 เป็นชายที่ชื่อ แอนโทนี่ และหญิงอีกคนชื่อ เอ็มม่า และระดับ 5 มีเพียงคนเดียวคือ ฟลอยด์ ฟินทัน ทำให้เขานั้นค่อนข้างโดดเด่นในกลุ่ม 30 คนนี้เป็นอย่างมาก

อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่หันมากล่าวกับพวกเขาอีกครั้ง โดยบอกว่า “พวกเจ้าหลายคนแม้จะมีพรสวรรค์ในระดับต่ำ แต่ว่าพวกเจ้ายังมีโอกาสอีกมากและการได้มาศึกษาที่นี่ก็คือโอกาสอย่างหนึ่ง พวกเจ้าสามารถศึกษาอยู่ที่นี่จนถึงอายุ 25 ปีได้ ดังนั้นหวังว่าในช่วงเวลาเกือบ 10 ปีนี้จะทำให้พวกเจ้าประสบความสำเร็จในเส้นทางของหมอผี”

หลังได้ยินคำกล่าวจากอาจารย์หมอผีแท้จริง พวกเขาก็เหมือนจะมีกำลังใจกันขึ้นมาบ้าง แม้พรสวรรค์จะเป็นตำกำหนดที่เด่นชัดที่สุด แต่ต่างคนต่างก็มีโอกาสของตัวเอง บางทีพวกเขาอาจจะกลายเป็นหมอผีแท้จริงก็ได้

พวกเขาคิดเข้าข้างตัวเอง

อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่พาพวกเขาออกมาจากห้องทดสอบ พร้อมทั้งหันมาพูดอีกครั้งว่า

“พวกเจ้าเดินไปทางประตูนั้นจะมีอาจารย์หมอผีคอยลงทะเบียนให้พวกเจ้าเข้าเรียนที่สถาบันเอลาเดียอย่างถูกต้อง” ทุกคนหันไปมองประตูถัดไป

“ฟลอยด์ แอนโทนี่ เอ็ม พวกเจ้าทั้งสามคนตามข้ามา ข้าจะพาพวกเจ้าไปลงทะเบียน” อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่พาทั้งสามคนแยกออกไปต่างหาก แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อคนที่พรสวรรค์อย่างชัดเจน ผิดกับคำพูดที่ให้กำลังใจก่อนหน้ามาก

แต่พวกเขาที่เหลืออยู่จะโทษใครได้ ในเมื่อพวกเขาไม่ได้เป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับ 4 หรือ 5

เดลล่ามองแผ่นหลังของทั้งสามคนด้วยความอิจฉาไม่ต่างจากพวกพรสวรรค์ระดับ 3 คนอื่น ๆ

“อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่ไปไหนแล้ว”

ตอนนั้นเองก็หมอผีฝึกหัดระดับ 2 คนหนึ่งเดินออกจากห้องลงทะเบียน ก่อนจะพบว่าอาจารย์หมอผีเธมบีเซ่ผู้ที่เป็นผู้ควบคุมการทดสอบพรสวรรค์ในครั้งนี้หายไปจึงได้สอบถามเด็ก ๆ เหล่านี้

“เขาพาคนที่มีพรสวรรค์ระดับ 4 และ 5 ไปแล้ว” หนึ่งในพวกที่เหลือตอบ

“มีระดับ 5 อยู่ด้วย ดูเหมือนอาจารย์หมอผีเธมบีเซ่จะโชคดีได้ศิษย์ติดตามที่มีพรสวรรค์ระดับสูงไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าก็คง...ช่างเถอะ”

“ข้าชื่อ โคลด์ หมอผีฝึกหัดระดับ 2 เป็นผู้ช่วยของอาจารย์หมอผีไรเกอร์มาพาพวกเจ้าไปลงทะเบียนเข้าเรียนที่สถาบันเอลาเดียอย่างเป็นทางการ พวกเจ้ารู้ระดับพรสวรรค์ของแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปด้านในกันเถอะ อ้อเอาการ์ดสีดำที่ใช้ลงทะเบียนกับสหพันธรัฐมาด้วยแล้วก็เข้าไปข้างในโดยเรียงตามลำดับพรสวรรค์ก็แล้วกัน”

โคลด์เริ่มจัดระเบียบพวกเขาก่อนจะค่อย ๆ ส่งเข้าไปด้านในทีละคน ลีโอเริ่มสังเกตคนอื่น ๆ เขาเห็นว่าหลายคนนั้นกำลังถือเหรียญทองที่เหมือนจะเป็นคนละสกุลเงินกับเครดิตที่สหพันธรัฐใช้กัน

“ศิษย์พี่โคลด์ข้าสอบถามท่านได้หรือไม่” ลีโอเดินเข้ามาสอบถามกับหมอผีฝึกหัดโคลด์

“เจ้ามีอะไรถามมา ถ้าตอบได้ข้าจะตอบ” โคลด์พูดอย่างใจเย็น

“เหรียญเหล่านั้นคืออะไร” ลีโอชี้ไปยังเหรียญที่พวกเด็ก ๆ นั้นหยิบออกมาถือไว้กันอยู่ในมือ

“นั้นนะเหรอ เหรียญดากาซ เจ้าไม่มีเหรอ” โคลด์กล่าวพร้อมกับจ้องไปที่ลีโอ

ลีโอส่ายหัวเบา ๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด