ตอนที่แล้วตอนที่ 10 ขั้นจิตควบคุมวิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12 ซื้อขายกับลูคัสและขั้นตอนแปลงวิญญาณสร้างรูนจิต

ตอนที่ 11 ดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวน


ตอนที่ 11 ดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวน

วันต่อมาลีโอกลับเข้ามาที่โลกมิติดวงตาผนึกเทพอีกครั้งและก็ต้องพบกับความประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าต้นดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนได้เติบโตขึ้นจนมีความสูงเกือบ 1.5 เมตร ต้นของมันคล้ายกับเถาวัลย์น้ำตาลที่พันกันเป็นเกลียวตั้งตรง

ที่ต้นนั้นไม่มีใบไม้แม้แต่ใบเดียวนอกจากลำต้นเถาวัลย์ แต่ว่าที่ลำต้นของเถาวัลย์มีดอกไม้สีเหลืองสดอยู่บนเถาวัลย์พวกนั้น ซึ่งนับดูแล้วมีต้นละ 3 ดอกพอดี

ลีโอเรียบเดินเข้าไปดูมันใกล้ ๆ อย่างตื่นเต้น

พอเข้าไปใกล้เขาก็ได้ยินเสียงเบา ๆ ดังขึ้นมาจากดอกไม้เหล่านั้น ลีโอย่อตัวลงเอาหูเข้าไปแนบ ทำให้เขาได้ยินเสียงร้อยโหยหวนดังออกมาจากดอกไม้ ทำเอาลีโอรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก

“นี่คงทำให้มันได้ชื่อว่า ดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวน ดอกพวกนี้สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว ดูเหมือนว่าข้าไม่จำเป็นต้องปลูกนานนับปี แต่สามารถใช้วิธีการบีบเอาอนุภาคพลังงานมาหล่อเลี้ยงพวกมันได้โดยตรง เพียงแต่จะทำได้ต้องรอให้งอกออกมาก่อนก็เท่านั้น” ลีโอยื่นมือไปเพื่อจะเตรียมเก็บพวกมัน

การเก็บนั้นไม่ยากก็แค่เด็ดออกมา เพียงแต่ว่าหลังจากเก็บเกี่ยวทั้ง 3 ดอกแล้วนั้นต้นดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนจะตายลงในทันที ดังนั้นจะต้องเก็บแค่ 2 ดอกเท่านั้นและปล่อยอีกดอกหนึ่งไว้ พอผ่านไปครบ 1 ปีก็จะมีดอกใหม่งอกออกมาอีก 1 ดอก พอเป็นแบบนี้ก็จะเก็บสลับกันไปได้เรื่อย ๆ

ลีโอเก็บดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนต้นละ 2 ดอกเมื่อรวมกับ 8 ต้นทำให้เขาสามารถเก็บดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนได้ถึง 16 ดอก

“ดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวน 1 ดอกสามารถขายได้ 10 ดากาซ จำนวน 16 ดอกก็มากถึง 160 ดากาซ” ลีโอมองดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนตรงหน้าอย่างตื่นเต้น

เงิน 160 ดากาซนั้นมากกว่าที่เขาใช้เงิน 15 ล้านเครดิตแลกมาซะอีก

“ดูเหมือนว่าข้าจะคิดถูกที่เอาพวกมันมาปลูกในนี้”

แต่ว่าลีโอก็พบกับปัญหานั้นคือเขาไม่สามารถเอาดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนเหล่านี้ไปขายได้โดยตรง เพราะแบบนั้นคงจะโดนที่ร้านสงสัยแน่นอน

ลีโอขมวดคิ้วคิดหนัก เขาเก็บดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนไว้ในโลกมิติดวงตาผนึกเทพก่อนจะออกไปด้านนอก เพื่อไปลองหาที่ปล่อยพวกมันโดยที่ไม่โดนสงสัยดู

ขณะที่ลีโอเดินออกไปนอกห้องก็พบว่าเหล่าลูกศิษย์ที่เข้ามาที่สถาบันเอลาเดียพร้อมกับเขานั้นกำลังยืนพูดคุยกันอยู่ตรงทางเดิน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความคืบหน้าการฝึกฝนของตนเอง

ตอนนั้นก็มีคนพูดขึ้นมาเสียงดังเป็นการชักชวนอย่างชัดเจน

“เฮ้พวกเจ้ารู้ไหมว่าตอนนี้ท่านฟลอยด์ ผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับ 5 ในรุ่นของพวกเราเพียงคนเดียวได้กลายเป็นหมอผีฝึกหัดระดับ 1 แล้ว ที่จริงแล้วพวกเจ้าน่าจะได้ยินข่าวมาบ้างแล้ว แต่ว่าข้าไม่ได้มาที่นี่เพราะเรื่องพวกนี้ ที่ข้ามาที่นี่เพราะว่าตอนนี้ท่านฟลอยด์คิดว่าจะเปิดสอนพวกเจ้าในการฝึกเทคนิคสามขั้นตอนนั้น โดยตั้งราคาแค่ 3 ดากาซต่อคาบเท่านั้น ถูกใช่ไหมล่ะ ที่ท่านฟลอยด์ทำแบบนี้เพราะรู้ว่าพวกเจ้าต้องประหยัดดากาซกันมาก ท่านจึงอยากจะช่วยเหลือพวกเจ้า ถ้าใครสนใจก็มาลงชื่อตรงนี้ได้เลย ท่านฟลอยด์จะเปิดสอนแค่ 2 คาบเท่านั้น” ผู้ที่มาชักชวนในครั้งนี้คือหนึ่งในพวกผู้มีพรสวรรค์ระดับ 3 ที่เข้ามารุ่นเดียวกับลีโอมีชื่อว่า เด็ต

ชายคนนี้กลายเป็นคนติดตามของฟลอยด์ไปแล้ว แต่ว่าใครบ้างที่ไม่ต้องการเป็นคนติดตามของผู้มีพรสวรรค์ระดับ 5 แถมยังเป็นศิษย์ของหมอผีแท้จริงอีก

ลีโอเฝ้ามองดูพวกศิษย์ที่มีพรสวรรค์ระดับ 1 และ 2 คนเหล่านี้แทบจะทุกคนนั้นมีการฝึกหยุดอยู่ที่ขั้นจิตสัมผัสกันแทบทุกคน นั้นเพราะพวกเขามีพรสวรรค์ที่ต่ำ แถมไม่มีอาจารย์หมอผีมาคอยชี้แนะด้วย

และอย่างด้วยพรสวรรค์ที่ย่ำแย่ตระกูลจึงไม่ได้สนับสนุนคนเหล่านี้มากนัก เพราะในแต่ละตระกูลก็มีทรัพยากรที่จำกัดตระกูลหมอผีส่วนใหญ่จึงเลือกจะสนับสนุนคนที่มีพรสวรรค์มากกว่าแทน

ทำให้พวกมันไม่มีทางเลือกมากนัก บางคนไปหางานในสถาบันทำ ซึ่งในสถาบันจะไม่ให้คนธรรมดาเข้ามาดังนั้นในสถาบันจึงมีงานมากมายให้กับเหล่าลูกศิษย์ได้เลือกทำ เพียงแต่ว่าเงินที่ได้ก็น้อยนิดมาก ตามที่ลีโอเคยไปสอบถามมางานส่วนใหญ่อยู่ที่วันละ 1 ดากาซเท่านั้น

ในโลกภายนอกถ้าแลกเป็นเครดิตอาจจะมาก แต่ในนี้มันน้อยมาก แค่ค่าที่พักหนึ่งเดือนและอาหารเดือนละ 20 ดากาซก็เกือบจะหมดแล้ว ส่วนอีก 10 ดากาซก็แทบจะสนับสนุนการฝึกไม่ได้ด้วยซ้ำ

โชคดีที่ลีโอนั้นมีดวงตาผนึกเทพทำให้เขามีวิธีหาเงินได้อยู่ไม่อย่างนั้นคงไปจบลงเหมือนคนเหล่านี้

“เฮ้เจ้านะคิดอะไรอยู่ข้าเรียกตั้งนานแล้วไม่ได้ยินเหรอ”

ตอนนั้นเด็ตคนที่กลายเป็นคนติดตามของฟลอยด์จะตะโกนเรียกลีโอ เพราะเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ยังยืนนิ่งอยู่

“มีอะไร” ลีโอถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“เจ้าสนใจไหม ท่านฟลอยด์จะลงมาสอนด้วยตัวเอง มันเป็นความรู้ที่อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่สอนท่านฟลอยด์มาเองกับมือ ท่านฟลอยด์บอกว่าจะถ่ายทอดสิ่งที่อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่สอนให้คนที่ลงเรียน โอกาสหายยากมากเลยว่ายังไง”

เด็ตโฆษณาออกมาไม่หยุด แต่ลีโอยังยืนมองด้วยแววตานิ่งเฉย

สุดท้ายลีโอทนไม่ไหวเพราะเขาอยากจะไปหาที่ขายดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนของตนจึงได้พูดขัดขึ้นมาว่า

“ทำไมต้องเรียนกับเขาด้วย ในเมืองไปเรียนกับทางหมอผีของโรงเรียนได้” ลีโอกล่าวกลับไป ทำให้เด็ตถึงกับผงะไปเพราะไม่คิดว่าจะได้คำตอบแบบนี้

เด็ตขมวดคิ้วมองลีโออย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็ยังพูดต่อ “เจ้าอาจจะยังไม่รู้อะไร ถ้าไปเรียนเสียค่าเข้าเรียน 1 คาบ ใช้ 10 ดากาซเชียวนะ แต่กับท่านฟลอยด์นั้นใช้เพียงแค่ 3 ดากาซ”

“ไม่สนใจ ขอตัวละ” ลีโอบอกปัดและเดินเบี่ยงตัวออกมาในทันที

“บัดซบ พรสวรรค์กระจอกแล้วยังจะมาหยิ่งอีก” เด็ตพ่นลมหายใจอย่างไม่พอใจและไม่สนใจลีโออีก

...

ลีโอไม่สนใจคำพูดลอย ๆ ของเด็ต สำหรับลีโอคนในสถาบันแห่งนี้ไม้ต่างจากคนแปลกหน้า ดังนั้นใครจะทำอะไรก็เรื่องของพวกเขา ลีโอเพียงก้าวเดินต่อไปตามทางเดินของตนเอง แต่พอเดินมาได้สักพักลีโอก็เหมือนจะฉุกคิดถึงวิธีการขายดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนขึ้นมาได้

เขากลับเข้าไปในโลกมิติและเอาดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนกลับออกมา 3 ดอก ก่อนจะไปยังชั้นสองทันที

ตามปกติแล้วการซื้อขายของในสถาบันจะผ่านหน้าร้านของสถาบัน มันเป็นที่นิยมเพราะว่ามีการรับรองว่าเป็นของแท้และราคาจะอยู่ที่ราคากลางไม่สูงหรือถูกเกินไป

แต่ว่าก็ยังมีการติดต่อซื้อขายกันเอง อาจจะให้สูงกว่าหรือถูกว่าก็ได้ แน่นอนว่าการซื้อขายแบบนี้ก็ต้องระวัง เพราะอาจจะโดนขายของปลอมมาก็ได้

มันถูกเรียกว่าการขายแบบส่วนตัว ซึ่งไม่ผิดกฎของสถาบัน แม้แต่ความรู้แบบที่ฟลอยด์ให้เด็ตมาประกาศก็จัดอยู่ในประเภทนี้ แค่คนซื้อพอใจราคา คนขายพอใจที่จะขายก็ขายกันได้เลย

“ข้าต้องไปหาคนที่ซื้อขายแบบส่วนตัว แต่ว่าการขายนั้นไม่ยาก การหาลูกค้านั้นยากกว่า” ลีโอขมวดคิ้ว ก่อนจะตัดสินใจไปเฝ้าดูก่อน

เบามายังชั้นสองของหอคอย สถานที่ย่านการค้าที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร

ลีโอมองดูอยู่เกือบ ๆ ชั่วโมง ก่อนจะพบว่าการซื้อขายส่วนใหญ่นั้นจะทำกันที่สวนสาธารณะ เขาเห็นว่ามีคนเอาของมาตั้งขาย แต่ราคานั้นถูกกว่าหน้าร้านอยู่เล็กน้อย เช่นของที่มีราคา 10 ดากาซอาจจะอยู่ที่ 8-9 ดากาซถ้ามาซื้อที่นี่ และบางอย่างก็ถูกกว่านั้น

ส่วนคนที่มาขายนั้นแทบจะทั้งหมดเป็นหมอผีฝึกหัดระดับ 2 เพราะของที่มาขายจะเป็นของที่ได้มาจากภารกิจด้านนอก พวกเขาแต่ละคนมีเหตุผลต่างกันไปที่ไม่เอามาขายที่ร้านค้าของทางสถาบัน

“เฮ้ ถ้าไม่ซื้อก็อย่ามายืนขวางหน้าร้าน” หมอผีฝึกหัดระดับ 3 กล่าวขึ้นมาด้วยความไม่พอใจที่เห็นว่ามีเด็กหนุ่มมายืนขวางหน้าร้านของต้นเอง

“ที่ตรงนี้ว่างไหม” ลีโอชี้ไปยังข้าง ๆ

“ว่าง” หมอผีคนนั้นตอบและมองลีโออย่างสงสัย เพราะจากชุดที่ลีโอแต่งแล้วยังไม่เป็นแม้แต่หมอผีฝึกหัดด้วยซ้ำ

ลีโอนั่งลง ก่อนจะหยิบเอาห่อผ้าขึ้นมา พอเปิดออกด้านในก็มีดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวน 3 ดอกวางอยู่และป้ายที่เขียนว่า “ราคา 8 ดากาซต่อดอก ต้องการซื้อจำนวนมากคุยกันก่อนได้”

ราคาปกติคือ 10 ดากาซ แต่ลีโอตั้งใจว่าจะขายถูกลงมาหน่อย แถมเขายังอยากจะหาลูกค้าประจำ

คนขายข้าง ๆ มองไปที่ลีโอและไม่ได้พูดอะไร เพราะลีโอนั้นไม่ได้ขายของแบบเดียวกับเขา

ลีโอนั่งรอไม่นานก็มีค้นเข้ามาสอบถามเขา อาจจะด้วยราคาที่ถูกกว่าราคากลาง 2 ดากาซจึงค่อนข้างดึงดูดใจพอสมควร

คนที่เข้ามาสอบถามลีโอเป็นชายหนุ่มร่างท้วมผิวขาวเนียนที่สวมชุดของหมอผีฝึกหัดระดับ 3 ในมือยังคงถือของกินและเดินมาด้วยท่าทางเหนื่อยเล็กน้อย

“เจ้าขาย 2 ดากาซจริงเหรอ” ชายคนนั้นถามด้วยความอยากรู้

“จริง” ลีโอตอบกลับไป

“ถ้าซื้อมาก ๆ ก็ราคาเดียวกันไหม” ชายร่างท้วมจ้องไปลีโอ

“ราคาเดียวกัน” ลีโอตอบ

“เราไปคุยกันที่อื่นได้ไหม” ชายร่างท้วมมองไปรอบ ๆ และกระซิบบอกกับลีโอ

“ก็ได้” ลีโอตอบตกลง โดยส่วนใหญ่แล้วพวกเขาก็ไม่อยากให้คนอื่นมาได้เห็นการซื้อขายของตนเองสักเท่าไหร่ ลีโอก็ไม่ต่างกัน

ลีโอเก็บของและหาที่เงียบ ๆ นั่งคุยราคากับชายร่างท้วม

“ให้ข้าเรียกศิษย์พี่ว่าอะไร”

“เรียกข้าว่าลูคัสก็ได้”

“ข้าลีโอ”

ทั้งสองแนะนำตัวกันง่าย ๆ ก่อนที่ลูคัสจะรีบสอบถามลีโอถึงดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด