ตอนที่แล้วตอนที่ 953 คนทรยศ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 955 เกาะกลาง ทะเลสันติและตุลาการ

ตอนที่ 954 อย่าเล่นมากเกินไป เดี๋ยวเขาร้องไห้


“ว่านเจียวอยู่กับเราตลอดเวลา  เราไม่ได้ทำอะไร จื่อฟง! เจ้ากล่าวหาต้องมีหลักฐาน” ราชาชิงหลางแม้จะคิดว่าการโจมตีทั้งสองครั้งน่าสงสัย  แต่ไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้ว่านเจียวน่าสงสัยนักหรือ?

“สงบไว้ก่อนบางทีนี่อาจเป็นการตอบโต้ของศัตรูก็ได้” ราชาโหลวลั่วเข้ามาขัดขวาง

“เอาหลักฐานออกมา  ไม่อย่างั้นข้าจะไม่มีทางเชื่อแน่”  หน้าของราชาว่านเจียวบิดเบี้ยวปั้นยาก เขาพยายามข่มความโกรธและแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนอง

“ถ้าไม่ใช่เพราะมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรทั้งสองคนนี้เตือนข้าให้สนใจความผิดปกติเป็นพิเศษ ข้าก็คงยังงมงายอยู่ในความมืด ยังไม่ต้องพูดถึงการโจมตีครั้งนี้ก่อน เราลองนึกถึงตั้งแต่ตอนแรก ในเมืองลู่หลิวงานเลี้ยงในวังของข้าทุกคนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ดูเหมือนจะเป็นของวิเศษมุกธารดาราของจักรพรรดิฟู่โฉวที่มีพลังพิเศษในการกักการลงมือได้ในการโจมตีนั้นศัตรูมีเป้าหมายอยู่ที่น้องไตตัน ต่อมาเพราะฮุยไท่หลางอสูรเทพนี้ พาตัวน้องไตตันหลบไปก่อนทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนใจชั่วคราวและแสร้งทำเป็นปล้นเลือดเทพ...ถ้าเป้าหมายเดิมคือเลือดเทพ ก็คงไม่จำเป็นต้องมีจักรพรรดิฟู่โฉวปลอมปรากฏตัวชิงเลือดเทพและชิงตัวสนมจูกวงเพื่อพยายามสร้างอิทธิพลต่อจิตใจของข้าทำให้ข้าตัดสินใจผิด  หันไปโกรธแค้นจักรพรรดิฟู่โฉว ขณะนั้นคนแรกที่เรียกขานชื่อจักรพรรดิฟู่โฉวก็คือว่านเจียว!” ราชาจื่อฟงจ้องมองราชาว่านเจียวอย่างเย็นชา

“ไม่,คนแรกที่เรียกขานชื่อของจักรพรรดิฟู่โฉวก็คือข้า!”  ราชาชิงหลางจำได้และแก้ไขข้อมูลทันที

“ไม่ใช่เจ้า, ก่อนหน้าที่เจ้าจะพูดนั้นว่านเจียวพูดออกมาเบาๆ ก่อน และเจ้าก็คล้อยตามคำแนะนำของเขาทันที ก่อนที่เจ้าจะตะโกนออกมาดังนั้นคนที่พูดถึงจักรพรรดิฟู่โฉวก่อนใครก็คือว่านเจียว  เจ้าแค่ถูกเขาชักจูงเท่านั้น!”  พอราชาจื่อฟงพูดนักสู้ปราณฟ้าในที่นั้นดูเหมือนจะนึกได้เลือนลางทันที  ก่อนที่ราชาชิงหลางจะตะโกนออกมาราชาว่านเจียวอุทานมาก่อนเล็กน้อย

ราชาว่านเจียวตะโกนเมื่อทุกคนจิตใจว้าวุ่น

มีหลายคนเชื่อถือทันที

เพียงแต่เวลานั้นราชาจื่อฟงยังไม่ปักใจเชื่อเขายังมีข้อสงสัยบางอย่าง

ทุกคนมองดูราชาว่านเจียวดูว่าเขาจะมีคำอธิบายเช่นไร  ถ้ามีคำอธิบายที่สมควรอย่างนั้นความสงสัยของราชาจื่อฟงก็ไม่มีเหตุสมควร

ราชาว่านเจียวยิ่งฟังก็ยิ่งหน้าเขียวคล้ำ  “ข้าแค่ร้องบอกออกไปโดยไม่รู้ตัว เจ้าก็ตัดสินว่าข้าเป็นคนทรยศแล้วหรือ?  เจ้าเสียสติหรือเปล่า?”

ราชาจื่อฟงพยายามระงับความโกรธ  “เฮอะ.. ข้าไม่ได้เสียสติ ไม่ได้บ้าเจ้าหวังจะให้ข้าเป็นบ้า แต่ข้าจื่อฟงก็ต้องพูดหลังจากรอดชีวิตจากมรสุมวิกฤติมาได้ แม้ว่าเจ้าจะทำร้ายข้าอย่างหนัก ชิงตัวสนมรักข้าไป  แม้ว่าหวีเฉาที่หลอกลวงอยู่ข้างข้าเป็นกบฏต่อข้าทำร้ายข้าเกือบตาย แผนการชั่วร้ายของเจ้าก็ยังล้มเหลวทั้งหมด”

ราชาโหลวลั่วและราชาว่านเจียวเป็นสหายที่ดีต่อกันเสมอมา ขณะนั้นเขาลุกขึ้นขึ้นกล่าวแก้ต่างให้กับราชาว่านเจียว  “จื่อฟง! เจ้าไม่มีข้อพิสูจน์ว่าว่านเจียวทรยศ เว้นแต่ต้องมีหลักฐานใหม่  มิฉะนั้นข้าไม่ยอมรับเช่นกัน”

มารสัมฤทธิ์ฟ้าโบกมือ  “หลักฐานย่อมมีอยู่แน่ ตัวอย่างเช่นเมื่อจักรพรรดิฟู่โฉวตัวปลอมปรากฏตัวครั้งแรก”

จากนั้นจักรพรรดิมังกรหัวเราะแล้วพูดขึ้น“ถ้าเป็นพลังของสมบัติวิเศษ มารสัมฤทธิ์ฟ้าคงไม่ถูกจำกัดความเคลื่อนไหวเป็นเวลานานเพราะเขามีความสามารถพิเศษจำกัดความสามารถของสมบัติวิเศษได้ทันทีแน่นอนว่าข้าเองก็มี เพียงแต่ยังช้ากว่า แต่ในเวลานั้น ไม่มีใครในพวกเราที่สามารถขยับได้ได้แต่มองดูจักรพรรดิฟู่โฉวตัวปลอมชิงเลือดเทพจากไปแน่นอนว่ามีสมบัติที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่ในโลกแต่ข้าแน่ใจว่าสร้อยธารดาราไม่ใช่แน่ มันเป็นสร้อยคอที่ช่วยเสริมพลัง แต่ไม่ใช่สมบัติสำหรับโจมตี”

จักรพรรดิใต้พิภพปกติจะไม่ค่อยพูดเขายังคงไม่ทำตัวให้โดดเด่น

แต่ถึงขณะนี้เขาลุกขึ้นยืนและกระแอมสองครั้ง “ในเมื่อทุกคนเอ่ยปากพูดแล้ว ข้าขอพูดบ้างสักเล็กน้อย! ตามทักษะแฝงเร้นและฝีมือถนัดของข้าข้าสงสัยว่าการจำกัดความเคลื่อนไหวของเราในช่วงสั้นๆ เป็นพลังจากสนามพลังที่ราชาว่านเจียวแผ่ขยายออกมาล่วงหน้าเตรียมการไว้ก่อนจะมีการลอบสังหาร นอกจากนี้หลังจากที่เข้าจับกุมและมีคำสาปแพร่กระจายออกมา ข้ามีเหตุผลถึงแปดในสิบที่จะสงสัยว่าเป็นการกระทำของราชาว่านเจียว  เพราะมีคนในกลุ่มนั้นทั้งหมดต้องคำสาปยกเว้นฮุยไท่หลางที่พาคุณชายไตตันออกไปก่อนในเวลานั้น  และยังมีอีกคนหนึ่งที่ไม่ต้องคำสาปนั่นก็คือราชาว่านเจียว”

“ว่าไงนะ?” นักสู้ปราณฟ้าทุกคนตกใจ

ว่านเจียวไม่มีคำสาปอยู่ในร่างอย่างนั้นหรือ?

แม้แต่ชิงหลางและโหลวลั่วยังรู้สึกประหลาดใจมองดูว่านเจียวสีหน้าของพวกเขารู้สึกเหลือเชื่อ

พวกเขาทั้งสองคนคุ้นเคยกับว่านเจียวมากที่สุดรู้ว่าสนามพลังของว่านเจียวก็คือ ‘จำกัดพลัง’ ด้วยความช่วยเหลือของพลังธาตุมืดและสมบัติวิเศษบางอย่าง แต่ก็มีความเป็นไปได้ในการจำกัดพลังของศัตรูได้ในช่วงเวลาสั้นๆ       นี่สามารถอธิบายได้ว่าการลอบฆ่าก่อนนั้นของมือสังหารร่างของพวกเขามีหมอกสีดำคลุมและเจ้าโจรที่ร่างโปร่งแสงใช้ความสามารถระเบิดคำสาปออกมาได้

ภายใต้แสงสีเงินเจิดจ้าเมื่อความสนใจของทุกคนอยู่ที่จักรพรรดิฟู่โฉวตัวปลอมราชาว่านเจียวก็วาดมือวาดเท้าได้เต็มที่

จักรพรรดิใต้พิภพชี้นิ้วลงพื้น“นอกจากนี้การโจมตีระลอกที่สองก็ยังเป็นนักฆ่าร่างสีเงินได้ใช้ความเร็วขั้นสูงเป็นพิเศษเอาชนะราชาจื่อฟงและฆ่าเทวีเสรีภาพที่ถูกสับเปลี่ยนตัวไปแล้วมองอย่างผิวเผิน นี่คือพลังของฝ่ายตรงข้าม แต่ข้าอยากจะบอกว่าถ้ามือสังหารร่างสีเงินมีพลังแข็งแกร่งจริงๆ  ไม่ต้องใส่ใจกับการล้อมโจมตีของเราเขาไม่จำเป็นต้องลอบโจมตี พลังของเขาก็คือพลังที่แข็งแกร่ง  อย่างไรก็ตามเหตุผลที่ทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้น  ใครจะทำอย่างนี้ได้ มีเพียงสองคนในโลกนี้ก็คือราชาว่านเจียว และคนที่สองก็คือข้า”

จักรพรรดิมังกรพยักหน้าให้เย่ว์หยางเหมือนกับองครักษ์ที่อนุญาตเจ้านายแสดงความเห็น

หลังจากได้รับอนุมัติจากเย่ว์หยางแล้วเขาพูดความลับอีกอย่างหนึ่ง “การโจมตีครั้งที่สองว่านเจียววางเป้าหมายไว้ที่จักรพรรดิฟู่โฉว...เวลานั้นเราได้พิจารณาข้อสงสัยอย่างถี่ถ้วนระหว่างราชาว่านเจียวกับราชาโหลวลั่วอย่างไรก็ตามเราไม่มีหลักฐานไม่สามารถตรวจสอบได้จึงได้แต่ลอบเฝ้าสังเกตในการโจมตีครั้งที่สองไม่ใช่เทวีเสรีภาพ แต่เป็นคุณชายไตตัน”

“ทำไมเป็นอย่างนั้น?”  ราชาชิงหลางถาม

“เพราะการโจมตีเทวีเสรีภาพไม่สมเหตุสมผลแม้แต่น้อย เนื่องจากเทวีเสรีภาพมีพลังเทพอยู่ในร่างนาง  นางไม่ใช่เป้าหมายที่จะฆ่าได้ง่ายๆ  ต่อให้ทำร้ายนางจนบาดเจ็บอย่างหนักพลังเทพจะฟื้นฟูร่างกายนางอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้แม้แต่เราที่เป็นอาคันตุกะก็ยังรู้ ตัวมือสังหารเองย่อมไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่รู้”  จักรพรรดิมังกรอธิบายเรื่องนี้

“นั่นนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเป้าหมายการโจมตีครั้งนี้คือคุณชายไตตัน!”  ราชาโหลวลั่วยังรู้สึกสงสัย

“คุณชายไตตันกลับไปพักผ่อนชั่วคราวในโลกคัมภีร์อัญเชิญ”  จักรพรรดิมังกรหัวเราะอย่างอารมณ์ดี  “ราชาว่านเจียวทิ้งร่องรอยลับไว้ให้มือสังหารและพยายามก่อกวนให้เขาอยู่ข้างนอก แต่น่าเสียดายที่คุณชายไตตันไม่ใส่ใจ ยังกลับเข้าไปพักผ่อนในโลกคัมภีร์ทำให้แผนการของเขาล้มเหลว แต่ราชาว่านเจียวทำอะไรไม่ถูกต้องปรับเปลี่ยนแผนและลอบปล่อยอสูรที่มีพลังมืดออกไปหวังจะไปช่วยแจ้งมือสังหารให้ทันเวลาไม่ให้ดำเนินการตามแผนที่เตรียมไว้แต่เขาไม่รู้ว่าฮุยไท่หลางของเราจมูกไวเพียงไหน ใช่แล้วมันจับอสูรศึกของเจ้าไว้ได้และเพราะเหตุนั้นมารสัมฤทธิ์ฟ้าและข้าจึงตระหนักรู้ได้ว่าการโจมตีระลอกใหม่จะมาถึงในไม่ช้า”

“อสูรที่ถูกส่งไปแจ้งเตือนถูกควบคุมไว้ได้และการโจมตีมาถึงตามที่คาดไว้ และเพื่อไม่ให้เราพบเห็นในครั้งนี้ราชาว่านเจียวไม่พอใจกับแผนนี้  เขาต้องใช้ความสามารถของเขาอีกครั้งในท่ามกลางความมืดความเร็วของนักฆ่าเพิ่มขึ้นอย่างมากจากนั้นเขาลอบแจ้งฝ่ายตรงข้ามว่ามีการเปลี่ยนแปลงแผนนั่นทำให้มือสังหารเปลี่ยนใจทันที ทำให้หมัดแรกที่เขาโจมตีใส่หน้าราชาจื่อฟงมีพลังลดทอนลงไปมาก”ยิ่งจักรพรรดิใต้พิภพพูดมากขึ้นเท่าใดหน้าของราชาว่านเจียวก็เขียวคล้ำมากขึ้นทุกที

“อย่างนั้นทำไมยังมีคลื่นพลังโจมตีสุดท้ายอีกเล่า?”  ราชาชิงหลางเข้าใจขึ้นบ้างเล็กน้อย  แต่ยังมีข้อสงสัยสุดท้าย

“เนื่องจากความล้มเหลวในการโจมตีสองครั้งก่อนหน้านี้ ในที่สุดศัตรูส่งหนึ่งในมือสังหารที่ทรงพลังที่สุด  มือสังหารเข้ามารอซุ่มโจมตีอย่างลับๆอยู่ในพื้นที่โลกคัมภีร์ของราชาว่านเจียวรอให้คุณชายไตตันปล่อยเทวีเสรีภาพออกมาจากแหวนกักกันและได้รับการยืนยันตัวตนของนางแล้ว มือสังหารจึงออกมาและทุ่มโจมตีสุดกำลังอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายที่หลอกนัยน์ตาของฮุยไทหลางกับดาบอสูรเทาเถี้ยไม่ได้  พวกมันกลับไปแจ้งคุณชายไตตันตั้งแต่แรก  และคุณชายไตตันก็ได้วางแผนรับมือทันที  ในเวลากลางวัน ว่านเจียวยากจะปกปิดความจริงได้จึงได้แต่แสร้งออกมาทักทายเราและคอยลอบประสานให้ความช่วยเหลือนักฆ่าฝ่ายศัตรู...ราชาว่านเจียวถ้าเจ้าไม่กังวลเท่าใดนัก อย่างนั้นเจ้าก็ควรระวัง แล้วเจ้าจะตรวจพบตำแหน่งของเรา,ฮุยไท่หลางและเทาเถี้ยและเหยื่อล่อเงาร่างคุณชายไตตันที่ถูกสร้างขึ้นด้วยอักขระรูน”  จักรพรรดิใต้พิภพหัวเราะในที่สุด  “พลังธาตุมืดของเจ้าไม่เลวแต่เจ้าคิดว่าจะใช้หลอกทุกคนได้หรือ?”

“....” ถึงตอนนี้ราชาว่านเจียวพูดไม่ออกอีกต่อไป

ขณะนั้น ราชาชิงหลางและราชาโหลวลั่วหลั่งเหงื่อเยียบเย็นเช่นกัน

การสังเกตและความสามารถในการวางแผนสู้ของมารสัมฤทธิ์ฟ้าจักรพรรดิมังกรน่ากลัวจริงๆบุคลิกที่น่ากลัวอย่างนี้ยังเป็นแค่เพียงองครักษ์หรือ  นักสู้ปราณฟ้าจากแดนสวรรค์บนไม่ธรรมดาจริงๆ!

แม้แต่คุณชายไตตันที่ดูเหมือนจะไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อคนและสัตว์ก็ไม่ถูกหลอก

ถ้าว่านเจียวต้องเผชิญหน้ากับหนึ่งในพวกเขา  คาดว่าก็คงหนักหนากินแรงพอแล้ว  แต่นี่พวกเขาอยู่กันเป็นกลุ่มถ้าเขาจะพบกับหายนะก็คงจะไม่แปลก

ไม่ต้องพูดถึงคนแค่เจ้าสุนัขสกปรกที่ชื่อฮุยไท่หลางก็ยังยากจะตอแยได้

สุนัขเจ้าเล่ห์ร้ายกาจมันสามารถจับอสูรศึกของว่านเจียวและมองแผนการร้ายของฝ่ายตรงข้ามออกและดูเหมือนจะกลับเข้าไปรายงานเจ้านายในโลกคัมภีร์ได้

นี่เป็นภูมิปัญญาแบบไหนกัน?

ความเฉลียวฉลาดแบบนี้หมายความว่ายังไง?

โลกมีสุนัขที่เฉลียวฉลาดแบบนั้นได้อย่างไรกัน?

ว่านเจียวตกอยู่ในเงื้อมมือมันก็ยังไม่รู้ตัว

ราชาจื่อฟงไม่ต้องพูดอะไรอีกต่อไป  ชิงหลางและโหลวลั่วสองราชาถอนหายใจเบือนหน้าหนีว่านเจียว

ในเวลานี้พวกเขาไม่ได้เป็นสหายกันอีกต่อไปแล้วเพราะว่านเจียวไม่เพียงแต่วางแผนร้ายต่อราชาจื่อฟงและคุณชายไตตันเท่านั้น  แต่ยังรวมเอาพวกเขาไว้ด้วยคำสาปนั้นส่งผลต่อทุกคนรวมทั้งชิงหลางและโหลวลั่ว พวกเขามองว่านเจียวว่าเป็นสหายเป็นเหมือนพี่เหมือนน้อง แต่เขากลับปล่อยคำสาปที่ชั่วร้ายใส่พี่น้องเช่นนี้ได้!

“ข้าต้องขอบอกว่าสุนัขของพวกเจ้าฉลาดมากจริงๆและมันคงมาจากแดนสวรรค์บนจริงๆ ถึงได้หลอกลวงมันได้ยาก”ราชาว่านเจียวถอนหายใจกล่าวเสียงแผ่วเบา “ถ้าไม่มีเจ้าอยู่ที่นั่น มีแต่เพียงจื่อฟง ชิงหลางและโหลวลั่ว พวกเจ้าไม่มีทางมองข้าออกตลอดชีวิตน่าเสียดายที่ข้าคิดว่าจะได้ใช้แผนการนั้นอีกครั้งที่เกาะกลาง”

“วางใจได้เราจะช่วยเจ้าวางเค้าโครงแผนการให้สมบูรณ์ได้ และเราพอใจที่จะทำเช่นนั้น” เย่ว์หยางที่ไม่พูดมาตลอดยิ้มให้คำรับประกัน  ยิ่งเขาทำเช่นนี้มากเท่าใดราชาว่านเจียวยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจ คำพูดนี้ยิ่งตอกย้ำความล้มเหลวของเขา นี่คือคุณชายไตตัน

อย่างไรก็ตามตัวเขาเองยังจะใช้วิธีการอะไรได้อีก?

คุณชายไตตันมีของวิเศษอย่างหนึ่งเป็นร่างเงาที่มีรูปร่างเหมือนกัน

อสูรเทพและเทพอาวุธร่างอสูรอยู่ทางซ้ายมือมีสามองครักษ์อยู่ทางด้านขวา มีกลุ่มนักสู้ปราณฟ้าอยู่ข้างหลังพวกเขาการฆ่าเขายากยิ่งกว่าปีนป่ายขึ้นสวรรค์เสียอีก

ราชาว่านเจียวมองดูราชาชิงหลางและโหลวลั่วสหายทั้งสองของเขาและกล่าวขออภัย  “ชิงหลาง, โหลวลั่ว! ความจริงเรื่องการใช้พลังคำสาปไม่ใช่เป็นความตั้งใจดั้งเดิมของข้าแต่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้จริงๆ เราเป็นสหายกันมาหลายร้อยปี ต้องมาลากพวกเจ้ามาร่วมตายด้วยข้ารู้สึกเสียใจเล็กน้อย หลังจากที่ข้าระเบิดตัวเองตายไปแล้ว พวกเจ้าควรจะรีบฆ่าตัวตายซะ เพราะหลังจากคำสาปทำงานแล้ว พวกเจ้าจะต้องเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ  นอกจากนี้อิทธิพลที่หนุนหลังข้าอยู่ไม่ใช่คนที่พวกเจ้าจะเข้าไปตอแยได้ เมื่อเทียบกันแล้วเจ้าเป็นแค่กุ้งตัวเล็กตัวน้อย ถ้าเจ้ายังคิดว่าข้าเป็นสหาย ดีที่สุดก็คือฆ่าตัวตายทันทีหลังจากที่ข้าตายไปแล้ว...”

ชิงหลางทุกข์ใจโกรธมีความรู้สึกเหมือนถูกตบหน้า  “ขอบคุณมาก ข้าดูแลตัวเองได้ ไม่ว่าข้าจะเป็นหรือจะตายยังไงเจ้าไม่ต้องสนใจหรอก”

โหลวลั่วมีความสัมพันธ์ที่ดีกว่าชิงหลาง  เขาถอนหายใจพูด  “ว่านเจียว! เจ้าต้องการให้ทุกคนพินาศไปพร้อมกันอย่างนี้จริงๆ หรือ?  เจ้าคลี่คลายคำสาปเถอะ ข้าจะช่วยขอขมาจื่อฟงและคุณชายไตตันขออภัยความผิดนี้  หลังจากนั้นข้าจะกลับ และทุกคนยังเป็นพี่น้องกันอยู่!

ว่านเจียวส่ายศีรษะ“ความจริงข้ามายังภูมิภาคสวนสวรรค์ไม่เคยคิดเรื่องมีสหายอยู่แล้ว  เจ้าเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่ข้าใช้ใจของข้าแค่ภักดีต่อสถานที่นั้น....”

เมื่อราชาจื่อฟงและมารสัมฤทธิ์ฟ้าและคนอื่นๆตั้งท่าโจมตี จู่ๆ ว่านเจียวก็หัวเราะขึ้น

เขาแหงนหน้าหัวเราะ  “พวกเจ้ามองแผนการของข้าออกสามารถตอบโต้โจมตีข้าได้ แต่พวกเจ้าไม่มีทางจับข้าได้ ข้ามีสนามพลังอันธกาล สามารถใช้คำสาปมืดได้ แม้จะอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์แต่คำสาปก็ยังคงอยู่ไม่สูญสลายหายไปหลังจากข้าตาย พวกเจ้าทุกคนที่ต้องคำสาปจะต้องเจ็บปวดทวีคูณขึ้นเป็นสิบเท่าในทุกคืนวัน  ลาก่อนศัตรูและสหายของข้า  พวกเจ้าฉลาดกว่า  มีปัญญามากกว่าแต่นั่นก็เป็นแค่เพียงมดแมลงที่ดิ้นรนต่อสู้เท่านั้น!”

ร่างของว่านเจียวขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว

โป่งกลมเหมือนกับลูกหนัง

มันขยายขนาดออกไปสองสามเท่าภายในไม่กี่วินาที

พลังธาตุมืดในร่างของเขาเพิ่มขึ้นถึงขีดที่น่ากลัว  หากแตะต้องเพียงเล็กน้อยเชื่อได้ว่าจะทำให้เกิดการระเบิดสะท้านฟ้าสะเทือนดิน

ขณะที่ราชาว่านเจียวมองไปรอบๆด้วยสายตาที่เย้ยหยัน เขาตั้งใจจะระเบิดพื้นที่รอบตัวเขาทั้งหมดรวมทั้งคนอื่น  หมิงลี่ฮ่าวทำเหมือนกับกำลังดูหนังก็ยังอดตะโกนไม่ได้แต่แทนที่จะหยุดยั้งราชาว่านเจียวแต่กลับพาเย่ว์หยางที่กำลังเกาะแขนของเขามองดูภาพข้างหน้า

“น้องสาวของเจ้าคงไม่ต้องการยิงมันใช่ไหม?ถึงได้ผลักดันเราคุณชายให้ช่วยออกหน้า?

เย่ว์หยางหงุดหงิด

อย่างไรก็ตามต่อหน้าธารกำนัลไม่ใช่เรื่องดีกับการระบายอารมณ์ใส่หมิงลี่ฮ่าว

“แค่ก แค่ก”เย่ว์หยางถูกดันมาอยู่กลางพื้นที่ ภายใต้สายตาของทุกคน เขาจำเป็นต้องพูด “ข้ากล้าบอกได้เลยว่าว่านเจียว เจ้าไม่กล้าระเบิดตัวตายแน่นอน  ลองดูก็ได้ เอ่อ..แต่นี่ไม่ใช่โอกาสจะทดสอบ!”

“....” ทุกคนทรุดลงกับพื้น

ขณะที่ว่านเจียวยิ้มและเตรียมจะระเบิดตัวเองมีเงาน้อยสายหนึ่งบินออกมาจากร่างเย่ว์หยาง

เป็นปีศาจอสรพิษน้อยผู้น่ารัก และเมื่อเธอออกมาได้เธอใช้ดวงตากลมโตน่ารักจ้องมองราชาว่านเจียว ราชาว่านเจียวกำลังจะระเบิดร่างตัวเองกลับพบว่าทุกอย่างหยุดยั้งลงรวมทั้งพลังธาตุมืดในร่าง  ปีศาจอสรพิษน้อยเสี่ยวเหวินหลีไม่เพียงแต่จ้องมองราชาว่านเจียวที่เตรียมระเบิดร่างเท่านั้นแต่เธอใช้มือน้อยๆ ตบร่างกลมของราชาว่านเจียวเหมือนกำลังเล่นวอลเลย์บอลบอลกระเด้งเหมือนกับลูกหนัง

ขณะที่เธอยกมือขึ้นลงอยู่ในความว่างเปล่าเหมือนทำท่าทางสักอย่าง

ราชาว่านเจียวมีร่างโป่งพองเหมือนกับลูกหนังขนาดใหญ่

พลอยกระเด้งตามไปด้วย

เย่ว์หยางพบว่าลูกสาวตัวน้อยเอาแต่เล่นมากเกินไป  เขารีบกระตุ้นเตือนเธอ  “เฮ้ๆ, สนุกพอประมาณ อย่าเอาแต่เล่นนานเกินไปถ้าเจ้านั้นผู้ร้องไห้ เจ้าจะทำยังไง?”

เสี่ยวเหวินหลีหยุดเล่นอย่างว่าง่าย

แต่ฮุยไท่หลางกับดาบเทพอสูรเทาเถี้ยเล่นสนุกต่อ

ทั้งสองวิ่งเข้ามาตบเล่นบ้าง

ทุกคนที่เห็นภาพนี้

รู้สึกเหมือนจะเป็นลมล้มลงกับพื้น

พระเจ้าช่วย?นี่พวกเขากังวลห่วงคุณชายไตตันมากเกินจำเป็นหรือไม่?  นอกจากอสูรเทพแล้วเขายังมีอสูรในตำนานที่ออกมาลงมือกับราชาว่านเจียวได้อย่างง่ายดาย ราชาว่านเจียวคิดว่าเขาสามารถฆ่าคนกลุ่มน้อยรอบด้านได้โดยง่ายเป็นเรื่องน่าตลกขบขันที่สุด... ตระกูลจากแดนสวรรค์บนจะถูกฆ่าตายง่ายๆ ได้อย่างไร?

ว่านเจียวต้องการจะร้องแต่ตอนนี้เขาไม่มีน้ำตา   ตอนนี้เขาไม่มีอะไรให้เลือก

นอกจากยอมตกเป็นเชลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด