ตอนที่แล้วตอนที่ 946 เหตุเปลี่ยนแปลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 948 เทวีเสรีภาพ?

ตอนที่ 947 มือสังหารพลังสาป หักหลัง


ขโมยล่องหนเพิ่งถูกจับกดลงกับพื้น

นักสู้ปราณฟ้าทุกคนมีความคิดที่ผิดเพี้ยนอย่างหนึ่งในใจก็คือเมื่อตนเองไม่ได้ คนอื่นอย่าหวังว่าจะได้ อย่างไรก็ตามขณะที่พวกเขาหัวเราะที่ร่างเงาล่องหนลอบลงมือพวกเขาก็ยังตกใจเช่นกันพลังของจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพอาจไม่ด้อยไปกว่ามารสัมฤทธิ์ฟ้า

ชิงหลางว่านเจียวและโหลวลั่วขมวดคิ้วกันทั้งสามคนด้วยพลังของจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพพวกเขารู้สึกว่าแม้ว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะได้ ก็ต้องสิ้นเปลืองพลังมากมายและอาจจ่ายด้วยราคาแพง  สู้กับศัตรูตัวต่อตัวก็ยากพออยู่แล้วถ้าเป็นหนึ่งต่อสอง หรือหนึ่งต่อสามเล่า? เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งมารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้น่ากลัวมีพลังแทบจะไม่ด้อยกว่านักสู้ระดับราชาเลย

ราชาจื่อฟงรู้ว่าไม่อาจสูญเสียเลือดเทพได้แต่เขาไม่เร่งรีบยับยั้ง

แต่กลับเข้ามาคุ้มกันคุณชายเย่ว์ไตตัน

เลือดเทพถูกชิงคงกลายเป็นเรื่องตลกแต่ถ้าคุณชายถูกโจมตี นั่นเป็นเรื่องน่ากลัวที่สุด

ทันทีที่ขโมยถูกจับได้ทุกคนคลายใจอยู่ช่วงหนึ่งแต่ทันใดนั้นมีเรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้น  ราชาจื่อฟงมองเห็นนักสู้ปราณฟ้าจากกลุ่มอาคันตุกะที่ดูธรรมดาทั้งสองคนนั้นไม่ได้มุ่งไปที่เลือดเทพแม้แต่น้อยแต่กลับมุ่งเป้ามาที่คุณชายไตตันแทน

ถ้าทั้งสองคนนี้เตรียมจะชิงตัวคุณชายไตตันไปอย่างนั้นก็คงไม่เป็นไร

อย่างไรก็ตามเมื่อราชาจื่อฟงชำเลืองมองศัตรูทั้งสอง  เขาตวาดลั่นทันที  ศัตรูทั้งสองไม่ต้องการลงมือจับแต่พวกเขาต้องการสังหารคุณชายไตตัน

ถ้าคุณชายไตตันถูกฆ่า...

จะไม่มีใครต้านรับผลที่ตามมาได้

น่ากลัวว่าภูมิภาคสวนสวรรค์อาจจะถึงกาลอวสาน ราชาที่รับผิดชอบพื้นที่ต่อให้ตายหมื่นครั้งก็ยังไม่เพียงพอต่อการไถ่ถอนโทษ

“โจรร้าย!  บังอาจนัก?” ราชาจื่อฟงได้แต่คิดเช่นนี้ในใจ เขาต่อสู้อย่างดุเดือดพยายามสกัดกั้นการโจมตีของมือสังหารทั้งสอง ไม่ต้องพูดถึงราชาจื่อฟง แม้แต่ชิงหลางว่านเจียวและโหลวลั่วที่มองดูอย่างสนุกสนานยังร้องตกใจไปด้วย  ถ้าคุณชายไตตันตายที่นี่ พวกเขาก็จบกันแต่พวกเขากังวลว่าจะสร้างความเข้าใจผิดให้กับองครักษ์อย่างมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรที่ยืนรอดูผล

“เจ้าโจรที่ไม่รู้จักเจียมตัว!  หาที่ตายชัดๆ!” มารสัมฤทธิ์ฟ้าอยู่กับเย่ว์หยางยกมือและปล่อยสายฟ้าสังหารสองนักฆ่า

“อ๊า....” เมื่อราชาทั้งสามเห็นมารสัมฤทธิ์ฟ้าลงมือ พวกเขาอดรู้สึกขนลุกชันมิได้  แม้ว่าพวกเขาจะคาดได้ถูกต้องแต่พวกเขาก็ยังประมาทคนผู้นี้อยู่

แสงรัศมีเจิดจ้านัก

ฮูเหลยพบว่าแสงรัศมีฉายออกมาจากด้านหลังของพวกเขาเอง

ฮูเหลยต้องการจะขอโทษมาโดยตลอดเพราะก่อนนั้นเขาเข้าใจผิดคุณชายไตตัน และต้องการให้คุณชายไตตันยกโทษให้เขา

อย่างไรก็ตามในตำแหน่งที่นั่งของเขานี้เขาได้แต่นั่งอยู่ที่ขอบห้องจัดเลี้ยงรอบนอกสุดที่เต็มไปด้วยนักสู้ปราณฟ้าที่เข้ามาร่วมแสดงความยินดีเท่านั้น หลังจากที่เขาพบว่ามีขโมยพรางตัวร่างโปร่งแสงและขโมยนั้นถูกจับได้จากนั้นก็พบว่ามีการบุกโจมตีระลอกสอง เขาเกร็งพลังรอคอยช่วยเมื่อจำเป็น บางทีคุณชายไตตันคงไม่ตกอยู่ในอันตรายที่แท้จริง  แต่ฮูเหลยก็จะทำโดยไม่สนใจทั้งนั้น

ในขณะนั้นที่ด้านหลังของเขา

จู่ๆมีประกายแสดงระยิบระยับฉายวาบ และฮูเหลยเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้น

มีศัตรูอยู่ที่ด้านหลังหรือ

เขาไม่มีเวลาหันไปมอง

แสงประกายระยิบระยับงดงามเหล่านั้นกลายเป็นเหมือนกับแม่น้ำดวงดาวนับหมื่นดวงเป็นงดงามไม่มีใดเทียบ

ผู้คนที่เห็นรู้สึกเหมือนตกอยู่ในทางช้างเผือก

ฮูเหลยพบว่าทุกคนในห้องนิ่งเหมือนเป็นหุ่น

มีเพียงราชาจื่อฟงกำลังเคลื่อนไหวช้าๆ  แต่ฮูเหลยตกใจเมื่อพบว่าราชาจื่อฟงเคลื่อนไหวช้าราวกับทากคลาน  ความเร็วของเขาช้าเกินไปหรือไม่?

ราชาจื่อฟงรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นนี่คือสนามพลัง หรือความสามารถพิเศษของสมบัติวิเศษ  อย่างน้อยต้องเป็นสมบัติวิเศษใกล้ระดับเทพ...พลังที่น่ากลัวนี้จำกัดความเคลื่อนไหวของทุกคนในพื้นที่บริเวณ  ราชาจื่อฟงไม่สนใจเลือดเทพสิ่งที่สำคัญที่สุดคือปกป้องคุณชายไตตัน สิ่งที่ศัตรูต้องการไม่ใช่เลือดเทพ แต่เป็นชีวิตของคุณชายไตตัน ราชาจื่อฟงไม่สามารถแม้แต่จะดูแลสนมจูกวงคนรักของเขาได้  เขาพุ่งเข้าหาคุณชายไตตันโดยไม่ได้คิดอะไร

เพราะราชาจื่อฟงในตอนนี้เตรียมจะเข้าขัดขวางนักฆ่าจากนั้นค่อยกลับมาอีกครั้ง แต่ยังมีระยะห่างจากคุณชายไตตัน

แม้ว่าจะมีระยะห่างเพียงสองเมตรก็ตาม

แต่ระยะห่างสองเมตรนี้ไกลราวกับฟากฟ้าหนึ่งทำให้จื่อฟงรู้สึกยากจะหยุดยั้งเพื่อรักษาชีวิตไว้ได้

อีกด้านหนึ่งมารสัมฤทธิ์ฟ้าใช้สายฟ้าโจมตีศัตรูที่แข็งแกร่งทรงพลังสองคนกำลังกลับมาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามความเร็วของเขายังแตกต่างจากราชาจื่อฟงมาก  เขาเร่งความเร็วขึ้นอีกเล็กน้อยแต่ไกลเกินกว่าจะไปถึงตัวเย่ว์หยาง

“....”สนมจูกวงเม้มริมฝีปากและดูเหมือนต้องการจะพูดบางอย่าง แต่ในที่สุดนางไม่ได้พูดอะไร

นางกลับรักษาสภาพเยือกเย็นไว้ได้อีกครั้ง

รอดูสถานการณ์การต่อสู้เปลี่ยนแปลง

มือสังหารผู้แข็งแกร่งทั้งสองที่ถูกมารสัมฤทธิ์ฟ้ารุกไล่ดูเหมือนจะสวมเกราะวิเศษอยู่กับตัวไม่สนใจสายธารแสงดวงดาว

พวกเขาเล็งมีดไปที่เย่ว์หยางที่มือของเขามีแสงสีม่วงประหลาดกระพริบวาบ แสงมรณะพุ่งวาบอย่างรวดเร็ว

ไม่!

ราชาจื่อฟงรุ่มร้อนใจจนร้องออกมาฆ่าใครก็ฆ่าได้ไม่เป็นไร แต่คิดจะฆ่าคุณชายผู้นี้ในแดนสวรรค์เชียวหรือ?  คุณชายผู้นี้มีสมบัติมากมาย หากจะปล้นก็ยังไม่มีปัญหาแต่ไม่ต้องฆ่าก็ได้ ทันทีที่ฆ่าคน ภูมิภาคสวนสวรรค์ยังจะคงอยู่ได้หรือ? อย่างไรก็ตามราชาจื่อฟงไม่สามารถหยุดได้ ได้แต่มองดูโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น

ขณะที่ทุกคนมองภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้านักฆ่ทั้งสองกำลังจะแทงใส่หัวใจของคุณชายไตตัน

ทันใดนั้นสุนัขเลี้ยงที่หมอบคลานอยู่ใต้โต๊ะพลันกระโจนขึ้นมาทันที

ไวยิ่งกว่ากระต่ายเปรียว

ราวกับสายฟ้า

แม้แต่พลังประกายแสงดาวระยิบระยับที่คาดว่าน่าจะเป็นของวิเศษระดับใกล้ขั้นเทพก็ยังไม่สามารถหยุดการกระทำของมันได้   ราชาจื่อฟง ชิงหลาง ว่านเจียว โหลวลั่ว ฯลฯและนักสู้ปราณฟ้าทั้งหลายต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าเจ้าสุนัขโง่กลายร่างเป็นอสูรเทพ!

พลังปณิธานของอสูรเทพระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่งข่มพลังของสมบัติวิเศษไว้ได้

มันเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมากางโล่แสงป้องกันไม้ตายสังหารของมือสังหารทั้งสองจากนั้นเก็บเจ้านายเข้าไปในโลกคัมภีร์ของมัน

มันกลายเป็นพายุหมุนควันไฟสีดำ

และหมุนราวกับพายุหมุนรุนแรง

หลบออกมาจากหอจัดเลี้ยงของวังลู่หลิว

นักฆ่าทั้งสองที่พลาดท่าเสียทีพยายามจะไล่ตาม  แต่กลับมีอสูรประหลาดเข้ามาขัดขวางมือสังหารที่มีความรู้อดร้องไม่ได้ “อาวุธเทพร่างอสูร?”

อาวุธเทพร่างอสูรแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่หาได้ยาก  แต่ยังไม่ใช่สิ่งที่หายากที่สุด

อย่างไรก็ตามอาวุธเทพอสูรนี้มีสติปัญญาพิเศษมันสามารถคุ้มกันเจ้านายให้หนีได้ในยามวิกฤติมันคือสิ่งมีชีวิตที่หาได้ยาก กล่าวอีกอย่างเมื่อเทียบกับอาวุธเทพร่างอสูรธรรมดาก็นับว่าไม่ต่างกันกับการเทียบอสูรปราณฟ้ากับอสูรเทพแม้ว่าจะแข็งแกร่งแต่อนาคตยากจะก้าวหน้าได้ แต่อาวุธเทพอสูรตัวนี้ไม่เพียงแต่ทรงพลัง แต่ยังมีความก้าวหน้าในอนาคตได้อย่างเหลือเชื่อ และผู้เป็นเจ้าของมันก็มีอนาคตที่ก้าวหน้าได้ไม่สิ้นสุดเช่นกัน

ดาบอสูรเทาเถี้ยมีกรงเล็บเหมือนดาบ

ร่างของมันกันศัตรูไว้เหมือนกับกำแพงเหล็กผนังทองแดง

นักฆ่าทั้งสองทุ่มเทพลังจนแทบหมดแรงก็ยังไม่สามารถผ่านมันไปได้  พวกเขาได้แต่จ้องมองอสูรเทพและถอนหายใจ

โชคดีที่อาวุธเทพอสูรแค่กระตือรือร้นรอกระทั่งเจ้านายพ้นจากห้วงเหตุคับขันได้ก็กลายเป็นแสงสีดำเนื่องจากเป็นอาวุธวิเศษมาตั้งแต่แรก มันผ่ามิติและกลับไปหาเจ้านายโดยตรง

ราชาจื่อฟงตื่นเต้นแทบตาย

สุนัขดำกลายเป็นอสูรเทพต่อหน้าต่อตาอาวุธเทพร่างอสูรที่น่ากลัวกลับมีสติปัญญาสูงเกิดเรื่องน่าทึ่งไม่สิ้นสุดจริงๆ ไม่ว่าใครจะเป็นศัตรูกับคุณชายไตตัน ก็ต้องพบกับจุดจบ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้คุณชายไตตันพ้นจากอันตรายอย่างปลอดภัย  และศัตรูทำงานล้มเหลวและพบความเสียหายอย่างหนัก

ชิงหลางและราชาอื่นๆกลัวแทบตาย

พวกเขายังต้องรู้อะไรเพิ่มอีกไหม  สุนัขสกปรกที่นอนแทะกระดูก กลายเป็นอสูรเทพ?

โชคดีที่พวกเขาไม่ได้พยายามจะคว้าตัวคุณชายไตตันมิฉะนั้นพวกเขาไม่รู้ว่าตนเองจะตายยังไง มีทั้งอสูรเทพและอาวุธเทพร่างอสูรมีสุดยอดนักสู้ถึงสามคน มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรจักรพรรดิใต้พิภพและนักสู้ปราณฟ้าอีกหลายคน  ต้องการจะลงมือกับคุณชายไตตันอย่างนั้นหรือ? ล้อเล่นหรือเปล่า?  ให้ท้าทายจักรพรรดิเสิ่นกวงยังดีกว่าเสียอีก

ในที่สุดคุณชายไตตันก็พ้นอันตราย

อย่างไรก็ตามวิกฤติยังคงอยู่

สมบัติวิเศษของนักฆ่าทั้งสองถูกข่มแต่ก็ยังทำงานได้ดี พวกเขาไม่ได้หลบหนีไป และหนึ่งในนั้นพุ่งเข้าหาราชาจื่อฟง

อีกคนหนึ่งวิ่งเข้าหาสนมจูกวง....

มีอีกหนึ่งที่เร็วมากกว่านักฆ่าทั้งสองเขาลอยเข้ามาตามทางเดินเหมือนกับเดินกลับเข้ามาในบ้านตนเองความเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วกว่ามือสังหารทั้งสองคนราวกับประกายไฟ  ทุกคนมองเห็นอย่างชัดเจนบุรุษชุดทองคนหนึ่งเดินเข้ามาในท้องพระโรงรูปลักษณ์ของเขาหล่อเหลาสง่างาม นอกจากคุณชายไตตันที่ดูมีเสน่ห์แล้วเกรงว่าแม้แต่มารสัมฤทธิ์ฟ้ายังดูด้อยกว่า บุรุษรูปงามผู้นี้อยู่ในชุดเกราะมังกรทอง มือขวาถือดาบแสงที่แฝงไปด้วยปราณกระบี่แม้ว่าเขาจะไม่ได้กวัดแกว่งก็ตามแต่ปราณกระบี่ของเขาดูเหมือนจะเสียดแทงหัวใจทุกคนได้

แต่มือซ้ายของเขาถือสร้อยเพชรรูปดาวเป็นประกายเหมือนทางช้างเผือก

ขณะที่ทุกคนมองดูอยู่นั้นคนผู้นี้แทงกระบี่ออกทันที

กล่องทองที่อยู่ในมือของพ่อบ้านเย่ซึ่งมีประกายสีทองแตกและหายไปทันที...หมัดของมารสัมฤทธิ์ฟ้าและราชาจื่อฟงแทบจะถึงพร้อมกัน แต่พวกเขาล้มเหลว

“สมบัติกึ่งระดับเทพ ดาบเซียน และสร้อยธารดาราคนผู้นี้ต้องเป็นจักรพรรดิฟู่โฉวแน่” ชิงหลางร้องเตือน

“ฮึ่ม!”  ราชาจื่อฟงไม่คิดเช่นนั้นคนผู้นี้คล้ายจักรพรรดิฟู่โฉวจริงๆ แต่จักรพรรดิฟู่โฉวถ้าจะมา  ไม่จำเป็นต้องอวดอ้างความแข็งแกร่ง ด้วยพลังของจักรพรรดิแดนดินเขาสามารถฆ่าทุกคนได้เด็ดขาดอยู่แล้ว ทำไมต้องใช้กลอุบายเล็กๆ น้อยๆเพื่อชิงหยดเลือดเทพด้วย? ด้วยพลังของจักรพรรดิฟู่โฉวเขาสามารถมาพบกับคุณชายไตตันด้วยตนเองยังจะง่ายกว่า  ทำไมถึงจงใจสังหารเขา? ต้องมีใครบางคนจงใจปลอมตัวเป็นจักรพรรดิฟู่โฉวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณชายไตตันพ้นจากอันตรายไปแล้วคนผู้นี้ถึงได้ปรากฏตัวทันที เห็นได้ชัดว่าต้องการโทษใส่ความบางคน

ในภูมิภาคสวนสวรรค์มีสักกี่คนที่มีพลังพอใส่ความจักรพรรดิฟู่โฉวได้?

นอกจากจักรพรรดิแดนดินทั้งสองแล้วก็มีแต่พวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์...หลังจากจักรพรรดิแดนดินทั้งสองคนบังอาจสังหารคุณชายไตตันทายาทจากตระกูลในสวรรค์บน?จักรพรรดิเสินกวงและจักรพรรดิฟู่โฉวก็คงสมองมีปัญหาเป็นแน่เขาเกรงว่าพวกเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้นใช่ไหม? นอกจากนี้ยังมีพวกที่มีข้อพิพาทขัดแย้งกับตระกูลใหญ่ทั้งสี่...ราชาจื่อฟงไม่โง่ เมื่อเขาคิดเรื่องนี้ได้แล้ว เขารู้สึกรังเกียจในใจแต่เขาไม่ยินดีพูดเปิดโปง

“ช่วยข้าด้วย!”  สนมจูกวงหน้าซีดเผือด

ราชาจื่อฟงสามารถหลบพลังโจมตีของศัตรูได้อย่างง่ายได้โดยไม่ต้องใช้พลังพิเศษของสมบัติวิเศษแต่สนมจูกวงทำไม่ได้

นางอ่อนแอและเกือบถูกฆ่าตายจากพลังโจมตีที่รุนแรง

โชคดีที่หวีเฉาหัวหน้าองครักษ์ผู้ภักดีและเสียสละใช้ร่างตนเองขวางรับพลังโจมตีไว้ได้

ราชาจื่อฟงไม่สามารถช่วยมารสัมฤทธิ์ฟ้าและคนอื่นได้เขารีบไปช่วยสตรีคนรักของเขาทันที มารสัมฤทธิ์ฟ้าไปที่ขโมยร่างโปร่งแสงเตรียมสอบสวนว่ารับคำสั่งจากใครให้มาฆ่าคุณชายไตตันและทำไมถึงเป็นศัตรูกับแดนสวรรค์บน

นักฆ่าทั้งสองคนจนมุมและเตรียมทุ่มเทกำลังทั้งหมดสู้

จื่อฟงตั้งใจจะทรมานและสอบปากคำพวกเขาเขาจัดการทุกอย่างๆ ใจเย็นและพาสนมจูกวงหลีกออกไป จะดีที่สุดให้ไปอยู่ใกล้มารสัมฤทธิ์ฟ้าเพื่อความปลอดภัย

“หลังจากข้าตายไป พวกเจ้าทุกคนในที่นี้จะต้องคำสาป  ถ้าต้องการมีชีวิต พวกเจ้าต้องพาเทวีเสรีภาพไปยังเกาะกลางบึงหยุดลม  ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้าทั้งหมดติดกับแล้ว”  โจรร่างโปร่งใสเย้ยหยันและร่างของเขาที่เหมือนกับก๊าซปล่อยอักขระรูนออกมานับไม่ถ้วน  อักขระรูนเหล่านี้ขยายกระจายออกไปอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าไปในร่างของนักสู้ทั้งหลาย

“.....”มารสัมฤทธิ์ฟ้าต่อต้านพลังงานและพบว่าไม่สามารถทำอะไรได้ อักขระรูนแตกกระจายหล่นใส่แขนและหายเข้าไปในตัว

“มีการรุกรานของพลังงานที่ไม่ธรรมดา นี่คือคำสาปมันคือคำสาป!” ราชาว่านเจียวตะโกนด้วยความรังเกียจ

“บัดซบ เจ้านักฆ่าทั้งสองผู้ชั่วช้า น้องจื่อฟงให้เราช่วยเจ้าเอง!” ขณะที่ราชาชิงหลางเต็มใจจะช่วยเขาเข้าไปช่วยราชาจื่อฟง ทันใดนั้นนักฆ่าทั้งสองระเบิดสังขารตนเองเพื่อกระจายสัญลักษณ์รูนออกไป

“ฝ่าบาท! หนีเร็ว!” หวีเฉาผู้ภักดีและเสียสละวิ่งเข้าบังศัตรูไว้เพื่อให้ราชาตนเองปลอดภัย

“ต้องการระเบิดข้าหรือ, ไม่ง่ายนักหรอก!” ราชาจื่อฟงรู้ว่าไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ระเบิด  แต่ต้องใช้เวลา  ในมือของผู้แข็งแกร่งหรือตัวเขาเอง  หรือถ้าเป็นมารสัมฤทธิ์ฟ้าเล่า?  ต่อให้ทั้งสองไม่สามารถหยุดได้  อย่างน้อยก็ยังมีคนหนึ่งรับมือได้ไม่ใช่หรือมิฉะนั้นผู้สิ้นหวังเหล่านี้จะคิดกันจริงๆ ว่าราชาผู้นี้ไร้ความสามารถ?

ราชาจื่อฟงจับนักฆ่าทั้งสองก่อนหวีเฉาจะมาถึง

ชิงหลางว่านเจียว โหลวลั่ว ทั้งสามคนมาถึงพอดี มารสัมฤทธิ์ฟ้าจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพ ยืนล้อมวง ต้องการให้ระเบิดไหม?เชื่อได้ว่าพวกเขาไม่ต้องการ

ขณะจะหาข้อสรุปของสถานการณ์

เกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง

หวีเฉาผู้ภักดีและเสียสละแทงเข้าที่หัวใจของราชาจื่อฟงมีดของเขาอาบยาพิษและเป็นพิษชนิดเดียวกันกับที่นักฆ่าสองคนใช้ มีดทะลุเกราะแทงผ่านกล้ามเนื้อหลังปักเข้าไปในหัวใจพ่อบ้านคนที่สามคว้ามือสนมจูกวงและวิ่งเข้าไปในประกายแสง

หวีเฉาสองนักฆ่า พ่อบ้านคนที่สามที่มีร่างอ้วนและสนมจูกวงผ่านเข้าประตูเทเลพอร์ตหายไปขณะที่กลุ่มผู้คนเพิ่งจะรู้สึกตัว

วิธีการหนีจากไปของพวกเขาเหมือนกับที่บุรุษหนุ่มรูปงามชิงเลือดเทพหนีไป

ราชาจื่อฟงล้มลงกับพื้นพร้อมกับมีดโลหิตไหลทะลัก

เวลาเหมือนผ่านไปยาวนาน

ไม่มีใครพูด

ไม่มีใครคิดว่าเรื่องจะเกินเลยมาถึงขนาดนี้  แม้แต่ราชาที่เตรียมเข้ามาก่อกวนอย่างชิงหลางว่านเจียวและโหลวลั่วก็ยังคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด