ตอนที่แล้วตอนที่ 4 โรงเพาะพันธุ์สัตว์อสูร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 ฉันไม่ใช่พระเอก!

ตอนที่ 5 ทางเลือกของเฉินเหวิน


ตอนที่ 5 ทางเลือกของเฉินเหวิน

  【ชื่อสัตว์เลี้ยง】: หมีพิโรธ

  【คุณสมบัติของสัตว์อสูร】: ทอง ดิน

  【ระดับศักยภาพ】: ธรรมดา

  【พรสวรรค์สัตว์อสูร】: ทรงพลัง

   【ลักษณะนิสัย】 : บ้าคลั่ง

  [ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสัตว์อสูร]: สัตว์อสูรเป็นสัตว์ที่พบได้ทั่วไปในจีน ตราบเท่าที่ยังถูกกินและไล่ล่า และ พวกมันก็เชื่องและเลี้ยงง่าย แต่อย่างไรก็ตาม พวกมันมีความบ้าคลั่งในการต่อสู้ แต่ข้อเสียของพวกมันก็คืิอ เคลื่อนไหวค่อนข้างช้า

  พลังโจมตี และพลังป้องกันของหมีพิโรธนั้น มีการแข่งขันสูงมากในหมู่สัตว์อสูรระดับต่ำ ลักษณะนิสัยที่บ้าคลั่ง แต่พวกมันก็สามารถเอาชนะข้อบกพร่องด้านความเร็วของพวกมันได้อีกด้วย

   มีเหตุผลว่าหมีพิโรธเช่นนี้ควรได้รับความนิยมอย่างมากจากบีสมาสเตอร์ระดับทั่วไป

   อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากความช้า แล้วเจ้าหมีพิโรธยังมีข้อบกพร่องอื่นๆอีกหลายอย่างอีกด้วย และมันอาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตอีกด้วย หากกำหราบมันไม่อยู่หมัด

ข้อบกพร่องร้ายแรงนี้คือ ระดับศักยภาพของเจ้าหมีพิโรธเนั้นต่ำมาก ยกเว้นบางตัวที่มีความสามารถเป็นเลิศ ระดับศักยภาพของพวกมันส่วนใหญ่นั้นเป็นเพียงหมีธรรมดาๆ ก็เท่านั้น หลังจากที่บีสมาสเตอร์ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับมืออาชีพแล้ว เขาจะไม่สามารถเลี้ยงพวกมันได้อีก

   ดังนั้น มีเพียงอสูรฝึกที่มีอยู่ไม่มากนัก ที่เกิดในครอบครัวฐานะปานกลาง ที่จะเลือกที่จะทำพันธสัญญากับเจ้าหมีพิโรธได้

  สัตว์เลี้ยงในโรงเพาะพันธุ์ไม่ได้ถูกขังไว้ในกรงเหล็ก แต่ถูกเลี้ยงในเซฟเฮ้าส์ ซึ่งส่วนใหญ่จะล้อมรอบด้วยผนังกระจก เพื่อควบคุมสภาวะทางธรรมชาติ เช่น อุณหภูมิ และความชื้นที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตของพวกมัน

  ตามเส้นทางบนแผนที่ เฉินเหวินและเหอเซิ่งรีบไปที่โรงเพาะพันธุ์ซึ่งเก็บหมีพิโรธไว้.........

   ระหว่างทางเฉินเหวินถามด้วยความสงสัย:

"เหอเซิ่ง.....ทำไมนายถึงระบุหมีพิโรธ พี่จูหวู่เคยกล่าวว่าสัตว์อสูรตัวแรกควรเป็นสัตว์ที่มีศักยภาพโดดเด่น"

   ขณะที่พูด เฉินเหวินชี้ไปที่ภาพประกอบของเสือโหยหวน และลิงพ่นไฟในหนังสือ ระดับศักยภาพของทั้งสองนี้อยู่ระหว่างระดับพิเศษที่ยอดเยี่ยม และระดับพิเศษที่หายาก และศักยภาพของพวกมันนั้นสูงกว่าหมีพิโรธอย่างเห็นได้ชัด

 เหอเซิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มองไปรอบๆ ว่าไม่มีใครอยู่แล้วเข้าไปใกล้หูของเฉินเหวิน

   “เฉินเหวิน ....ฉันจะบอกนายเอาไว้อย่าบอกใครไปนะ!”

   เฉินเหวินพยักหน้าและพูดว่า: "นายก็รู้จักฉันดี ขนาดที่ฉันสามารถเก็บเรื่องที่นายฉี่รดที่นอนตอนอายุเจ็ดขวบมาเป็นเวลาสิบปีแล้ว เพราะฉะนั้นอย่ามาลูกเล่น มีอะไรก็จงบอกมา!"

  ใบหน้าของเหอเซิ่งแดงขึ้นทันที จากนั้นเขาก็ตบไหล่ของเฉินเหวินด้วยเสียงเข้ม....

  ถ้าไม่ใช่เพราะการเตรียมการแต่เนิ่นๆ ของเฉินเหวิน เขาคงถูกเหอเซิ่งแบล็กเมล์นานแล้ว

   เฉินเหวินหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า "ฉันจะไปดูหมีพิโรธ นายได้เรียนรู้วิธีกำหราบมันหรือยัง""ตะคอก!"

   เหอเซิ่งตะคอกเสียงดังกลับ: "ใครฉี่รดที่นอนตอนอายุเจ็ดขวบ? ฮึ!นายยังต้องการฟังข้อมูลอย่างอื่น

อีกมั้ยเนี้ยะ พูดจาแบบนี้"

   เฉินเหวินถูไหล่ที่เจ็บของเขาแล้วพูดว่า: "เออ ๆ ฉันล้อเล่นมีอะไรพูดมาเดี๋ยวนี้!"

เหอเซิ่งเข้าใกล้หูของเฉินเหวินอีกครั้ง และพูดด้วยเสียงแผ่วเบา: "ลูกพี่ลูกน้องของฉันหยูฮวยเป็นนักเพาะพันธุ์สัตว์อสูรที่มหาวิทยาลัยมณฑลซีฉวน และเขาก็สามารถเอาน้ำผึ้งร้อยดอกไม้ให้ฉัน... เขากำลังศึกษาเส้นทางวิวัฒนาการของหมีพิโรธกับอาจารย์ของเขา และขณะนี้การวิจัยอยู่ในระหว่างดำเนินการ โดยสรุปแล้ว ได้ส่งเส้นทางวิวัฒนาการให้สมาคมพัฒนาพันธุ์สัตว์ตรวจสอบแล้ว"

   "เยี่ยมมากเลย นายมีลูกพี่ลูกน้องที่เลี้ยงสัตว์อสูรด้วยเหรอเนี่ย!"

  เฉินเหวินมีความสุขกับเหอเซิ่ง มีญาติเป็นผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรเอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ในอนาคตเป็นแน่

  ผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรเป็นอาชีพสำหรับวิจัย สามารถ ฝึกฝนความรู้ และทักษะระดับมืออาชีพในการเพาะเลี้ยงสัตว์อสูร และช่วยให้พวกมันมีวิวัฒนาการที่เป็นเลิศได้อีกด้วย

  ผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรนั้นแตกต่างจากบีสมาสเตอร์ ก็ตรงที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ดังเช่นบีสมาสเตอร์ แต่พวกเขาต้องมีความรู้เบื้องต้นในวิชาชีพนี้เท่านั้น

   “ฮ่าฮ่า พี่หยูฮวยใจดีกับฉันมากนะ!”

   ด้วยรอยยิ้ม เหอเซิ่งพูดกับเฉินเหวิน: "เฉินเหวิน ถ้านายไม่คิดมาก ฉันว่านายก็น่าจะสามารถทำพันธสัญญากับหมีพิโรธได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำผึ้งร้อยดอกไม้แม้แต่หยดเดียว!"

   “ได้สิ... แต่นายเคยบอกว่าอยากลองดูก่อนไม่ใช่เหรอ?” เฉินเหวินยิ้ม "ใช่น่ะซิเพราะถ้าเราทำพันธสัญญาเลยมันก็จะไม่มีโอกาสได้ลองดูนะ!"

  เหอเซิ่งทำหน้ามึนไม่โต้ตอบ...

  เฉินเหวินส่ายหัวเบา ๆ เขารู้ว่าเหอเซิ่งตรียมน้ำผึ้งร้อยดอกไม้นี้ไว้ให้เขาเป็นพิเศษ ไม่ว่าเขาจะโลภมากเพียงใด แต่เขาก็มีน้ำใจกับเพื่อนเสมอ

   ทั้งสองเดินและพูดคุยกัน และหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงโรงเพาะพันธุ์ขนาดเล็กทางทิศตะวันตก

   เมื่อมองผ่านผนังกระจก จะมีเนินหินลูกเล็กๆ อยู่ตรงมุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสนามหญ้าสีเขียว และหมีน้อยเจ็ดตัวกำลังเล่นอยู่บนนั้น

  นอกประตูเหล็กของโรงเพาะพันธุ์ มีนักเรียนเก้าคนเข้าแถวแล้ว และด้านหน้าแถวคือ เจ้าหน้าที่ของโรงเพาะพันธุ์ในเสื้อคลุมสีขาว

   เฉินเหวินก้าวไปข้างหน้าและตบไหล่นักเรียนคนสุดท้ายในแถวคนหนึ่ง แล้วถามว่า "เฮ้.. นายตอนนี้ที่นี่เป็นไงบ้าง!"

   เขาหันมาเป็นเด็กผู้ชายที่มีสิวเกรอะบนใบหน้า เขาพูดว่า: "สัตว์อสูรในพันธสัญญาก็ต้องเข้าคิว มาก่อนได้ก่อน!"

  เฉินเหวินขมวดคิ้วและพึมพำ"ตอนนี้มีลูกหมีพิโรธเพียงเจ็ดตัว แต่มีคนเข้าคิวรอยาวเหยียดขนาดนี้..."

  ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเขาจะได้เปรียบที่สุด ที่ถามพนักงานเกี่ยวกับกลยุทธ์ แต่เมื่อมองไปที่แถวที่อยู่ด้านหน้านั้นมันแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย

   มันต้องเข้าคิวอย่างเดียวถึงจะได้มันมา

   การถามเกี่ยวกับกลยุทธ์นั้นมีประโยชน์กับเขา แต่มันกลับให้ผลตรงกันข้ามกับเหอเซิ่งที่เตรียมการไว้นานแล้ว

  เหอเซิ่งโบกมือและพูดว่า: "ไม่เป็นไร เจ้าหมีพิโรธไม่ต้องเรื่องมากเรื่องพันธสัญญา แต่จะมีใครทำมันได้สำเร็จเท่านั้น "

   เขาพูดกับเฉินเหวิน: "แล้วนายตัดสินใจที่จะทำพันธสัญญากับเจ้านั่นหรือเปล่าล่ะ หากนายไม่แน่ใจก็ลองเดินสำรวจดูรอบๆ ก่อนก็ได้นะ แล้วค่อยว่ากันต่อ "

   เฉินเหวินพยักหน้า......เมื่อมองแถวที่ยาวเหยียดแล้วเดินออกไป......

  แม้ว่าเขาจะมีน้ำผึ้งร้อยดอกไม้แต่ทว่า ... ศักยภาพของหมีพิโรธก็ไม่ต่ำตามเส้นทางวิวัฒนาการ แต่มันไม่ได้อยู่ในรายชื่อสัตว์อสูรในพันธสัญญาที่ได้ฟรีน่ะสิ!

  พรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรของเขาน่าจะสามารถสร้างคุณสมบัติ ทักษะ พรสวรรค์ และสายเลือดของพวกมันได้

  คุณลักษณะของเจ้าหมีพิโรธนั้นไม่เลว แต่ความสามารถ และทักษะของมันนั้นค่อนข้างธรรมดา ในฐานะบีสมาสเตอร์ ทำไมมันถึงบ้าคลั่งได้ขนาดนั้น?

   มันเพียงพอแล้วสำหรับสัตว์อสูรที่จะทำสิ่งต่าง ๆ เช่นการต่อสู้ แต่ในฐานะบีสมาสเตอร์ สิ่งที่เขาต้องการคือความสง่างาม

  ก่อนมาโรงเพาะพันธุ์ เฉินเหวินมีแผนในใจอยู่แล้วเชียว

เฉินเหวินมีพรสวรรค์อยู่หลายอย่าง เช่น การหลบหลีก การแปลงร่าง การควบคุมไฟ การควบคุมน้ำ...

  เขาชอบความสามารถ และทักษะทั้งหมด แต่เขาไม่สามารที่จะยิงปืนครั้งเดียวได้นกหลายตัวได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกสิ่งที่เหมาะสมกว่าก่อนเท่านั้น

  หลังจากชั่งใจอยู่นาน เขาตัดสินใจว่าสัตว์อสูรตัวแรกจะเลือกทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรประเภทมีปีกได้ซึ่งมีศักยภาพที่ดีกว่า

  เหตุผลที่เลือกสัตว์อสูรประเภทมีปีกก็เพื่อความปลอดภัยในอนาคตเป็นหลัก

   อาชีพของบีสมาสเตอร์ ยังคงอันตรายมาก ไม่ต้องพูดถึงดินแดนลี้ลับที่เต็มไปด้วยภยันตราย อีกทั้งการต่อสู้ระหว่างบีสมาสเตอร์ด้วยกันเองที่ลอบกัดปล่อยสัตว์อสูรลอบสังหารก็มี

   ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในฐานะบีสมาสเตอร์ก็คือความปลอดภัยของตัวเองนั่นเอง!

  บีสมาสเตอร์ทั่วไปจะสวมชุดเกราะ หรือเรียนรู้วิธีการหลบหลีก หรือปล่อยให้สัตว์อสูรปกป้องตนเอง

  เฉินเหวินแตกต่างออกไป เขามีพรสวรรค์ในการ "พันธนาการ" และเขาก็มีทักษะและพรสวรรค์ที่ได้มาฟรีๆอีกด้วย

   ดังนั้น เตรียมทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรประเภทมีปีกจะเป็นสัตว์อสูรตัวแรกของเขา

  ถ้าเขาจำไม่ผิด ในข่าวที่เขาเห็นเมื่อวานนี้ เคยมีคนสามารถทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรประเภทมีปีกได้ตั้งแต่แรกเกิดก็มี

   หลังจากทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรประเภทมีปีก เขาก็จะสามารถใช้ทักษะการบินหรือพรสวรรค์อื่นๆได้แบบอิสระ

   เมื่อมีภยันตรายในป่า เขาสามารถปล่อยให้พวกมันไปเพื่อซุ่มโจมตีก่อน เป็นผู้ล่าย่อมดีกว่าที่จะเป็นเหยื่อมิใช่หรือ อีกทั้งเพื่อช่วยยืดเวลาในการหากลยุทธ์เพื่อเอาชนะศัตรู

   เมื่อเทียบกับการล่าถอยโดยตรง โดยสัตว์อสูรประเภทมีปีกนั้นย่อมปลอดภัยกับตัวเองกว่าสองเท่า

   เมื่อพลิกดูคู่มือ เฉินเหวินเดินตามแผนที่ไปยังเนินเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเพาะพันธุ์

   “อีกาอัคคี !”

  

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด