ตอนที่แล้วตอนที่ 943 อาคันตุกะไม่คาดหมาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 945 หญิงงามจูกวง

ตอนที่ 944 ด้านได้อายอด


ต่อให้เป็นจักรพรรดิเสินกวงมาเองก็ยังไม่กล้าล่วงเกินราชาจื่อฟง

อย่างไรก็ตามเมื่อบุรุษทั้งสองปรากฏตัวขึ้นกลับสร้างความตกใจให้กับผู้พบเห็น

การปรากฏตัวของบุรุษทั้งสอง

เหมือนกับดวงอาทิตย์โชติช่วงที่พุ่งชนประตูวังหลวงทุกอย่างไม่อาจจะต้านทานพลังของเขาได้ พื้นหินภูเขาไฟถูกกระแทกแหลกร่างขนาดใหญ่ยืนตระหง่านดุจขุนเขา และหยุดอยู่คั่นหน้าระหว่างเย่ว์หยางและราชาจื่อฟงแบ่งแยกคนออกเป็นสองกลุ่ม ภายใต้พลังอากาศอัดกระแทกสะท้านฟ้าสะเทือนดิน นี่ไม่ใช่แค่ทำให้ราชาจื่อฟงตกใจเท่านั้นแต่นักรบทุกคนปากอ้าตาค้างด้วยความตกใจ

ราชาทั้งสามที่ไม่ได้รับเชิญมีสีหน้าแปลกประหลาดมองดูราชาจื่อฟงจากนั้นหันไปมองมารสัมฤทธิ์ฟ้า

การสลายพลังของสองคนนี้

เขาเห็นร่างของบุรุษทั้งสองคนแข็งแรงสูงห้าเมตรคอหนา ไหล่กว้าง หลังตรงเหมือนเสือทั้งสองมีความสูงระดับเดียวกัน กล้ามเนื้อและความแข็งแรงแค่อธิบายด้วยกล้ามเนื้อที่แกร่งเหมือนเหล็กก็คงยังไม่พอ  แต่เปี่ยมไปด้วยพลังที่พร้อมระเบิดออกเต็มที่

ไม่มีใครสงสัยเลยว่าถ้าทั้งสองร่วมมือกันสามารถถล่มภูเขาจนราบเป็นหน้ากลองได้

เหมือนกับว่าพวกเขาสามารถแบกสวรรค์ไว้ได้

หรือถ้าพวกเขาร่วมมือกันก็สามารถฉุดดึงโลกไว้ได้ทั้งใบ

ราชาที่ไม่ได้รับเชิญทั้งสามรู้สึกสับสนในกระทิงเถื่อนทั้งสองคนนี้มีพลังมังกรคล้ายกับสนามพลังเลือนลางมีทักษะแฝงเร้นแฝงอยู่โดยรอบ ถ้าตรวจจับพลังงานนี้ลึกๆจะสามารถสัมผัสความรู้สึกภายในของทั้งสองนี้ได้ชัดเจน  ทั้งสองคนนี้มีพลังคุกรุ่นอัดแน่นอยู่ภายในเหมือนภูเขาไฟรอระเบิด....  “เป็นพวกเขาหรือ?”  ตาสีเขียวของราชาทั้งสามสัมผัสได้ถึงพลังไม่มีสิ้นสุด”  ราชาชิงหลางถามราชาจื่อฟง

“พวกเขา อะแฮ่ม..เมื่อวานนี้พวกเขายังเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่งอยู่เลย”  ราชาจื่อฟงมีสีหน้าสงบ แต่พอเขาพูด เขารู้สึกขื่นขมอย่างช่วยไม่ได้  เขาเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน  เรื่องนี้ต้องมีสาเหตุมาจากคุณชายไตตันเพราะท่านไตตันได้รับตัวสองคนนี้ไป “พบกันวันก่อนสองพี่น้องกระทิงเถื่อนไม่มีอะไรคู่ควรแก่การเอ่ยอ้างคิดไม่ถึงเขาเลื่อนพลังเป็นปราณฟ้าระดับสี่อย่างคาดไม่ถึง เพียงวันเดียวเลื่อนพลังสามระดับ ที่น่ากลัวที่สุดก็คือเห็นได้ชัดว่าถ้าสองพี่น้องกระทิงเถื่อนฝึกต่อไปจะต้องเลื่อนไปถึงระดับห้าแน่นอน  เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น

“อะไรนะ ว่าไง?”

ราชาจื่อฟงตอบราชาทั้งสามเหมือนที่ตอบราชาชิงหลาง

ยกระดับพลังสามระดับในวันเดียวน่ะหรือ?

นี่ไม่ใช่นักสู้ปราณดิน  แต่เป็นนักสู้ปราณฟ้า  เป็นไปได้อย่างไรกัน?

ถ้าไม่มีการให้เลือดเทพเป็นของขวัญก่อนหน้านี้ราชาจื่อฟงและอีกสามราชาคงจะไม่มั่นใจแน่นอน อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นราชาจื่อฟงพวกเขามองดูราชาจื่อฟงและคนรอบด้านอีกครั้ง เหมือนกับว่าไม่มีสิ่งใดแปลกปลอมนอกจากมีเลือดเทพเป็นของขวัญแล้ว ในเวลานั้นพวกเขาเริ่มเชื่อแล้ว

ราชาชิงหลางรีบถาม“นี่เป็นเพราะหลอมรวมกับเลือดเทพหรือเปล่า?”

ราชาจื่อฟงส่ายศีรษะ“ไม่, ไม่ใช่เลือดเทพ แต่คุณชายไตตันคงต้องมีสมบัติอื่นนอกจากเลือดเทพ โอว!”

ม่านตาของราชาว่านเจียวผู้สวมมงกุฎสูงสีดำขยายจากนั้นมองผ่านพลางกล่าว “เป็นเลือดมังกรโบราณที่บริสุทธิ์มากหลอมรวมอยู่ในตัวกระทิงสองพี่น้องนี้  และศักยภาพของทั้งสองนี้นับว่าไม่เลว มีบางคนใช้เลือดมังกรโบราณปลดปล่อยศักยภาพของทั้งสองคนนี้ทำให้พลังของพวกเขาที่ถูกจำกัดไว้ได้รับการปลดปล่อยโดยตรง!”

บุรุษคนที่สามที่ดูธรรมดาแต่ดวงตาคมกริบราวกับดาบ  ระหว่างทั้งสองคนนี้ราชาผู้สวมชุดสีแดงคือราชาโหลวลั่ว เขาพยักหน้าช้าๆยอมรับตามที่สหายของเขาราชาว่านเจียวบอก

ขณะนั้นราชาทั้งสามคือชิงหลางว่านเจียว และโหลวลั่ว

นอกจากตกใจแล้ว

ยังมีความรู้สึกไร้พลังและอิจฉา

แม้ว่าเขาเองจะเป็นถึงนักสู้ระดับราชาแต่ไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ โชคดีที่ได้เลื่อนระดับเป็นนักรบปราณฟ้าระดับสามในวันเดียวหรือ?  นั่นเป็นความสำเร็จอะไรกัน? พวกเขาเชื่อว่าแดนสวรรค์ไม่มีคนโชคดีมากพอจะมาอยู่ต่อหน้าของเขาสองพี่น้องได้

พ่อบ้านเย่และหัวหน้าจินฟันทองยังไม่เป็นไร

แต่ฮูเหลยและนักสู้ปราณฟ้าอื่นอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา พวกเขาปรารถนาจะหาต้นไม้สักค้นและผูกคอตาย

โอวแม่เจ้า  เจ้าวัวโง่สองตัวนี้แทบไม่มีอะไร  ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าทำบุญมาแต่ชาติปางไหนถึงได้มาพบเจอคุณชายไตตัน

คนที่ต้องห่วงก็คือตัวเขาเอง

ถ้าเลือดมังกรบินโบราณใช้กับตัวเขาได้  อย่างนั้นนี่จะเป็นเรื่องดีมากมายแค่ไหน

“พวกเจ้า ใครคือราชาจื่อฟง  จงออกมาพบกับเราสองพี่น้องตอนนี้เราไม่เพียงแต่แข็งแกร่งเท่านั้น เรายังมีเกราะรบทอง ต่อให้พวกเจ้ารวมหัวกัน เราก็จะเอาชนะเจ้าให้ได้!” พี่ใหญ่กระทิงเถื่อนพยายามยืนอยู่ในท่าที่พวกเขาคิดว่าดูดีที่สุดและยกชูหมัดขึ้นพร้อมกับน้องชายและทำท่าชกลมเสียงดังฟืดฟาด

“เราต้องใช้หมัดของเรากำจัดพวกเจ้าให้หมดสิ้น!” กระทิงเถื่อนคนรองพอถูกเย่ว์หยางดึงพลังเทพออกไปกลายเป็นผู้มีนิสัยดุดันก้าวร้าว

“เจ้าพวกโง่ทั้งสองคน!” หมิงลี่ฮ่าวทนไม่ได้อีกต่อไป

หนึ่งคนหนึ่งหมัดต่อยออกปด้วยความโมโหกระแทกใส่ทั้งสองโดยตรง

ไม่สมเหตุผลเสียเลย

ตามแผนของเย่ว์หยางทั้งสองคนนี้ควรจะออกไปอยู่นอกเมืองรอสัญญาณการต่อสู้ที่งดงามที่สุดในตอนราตรีพวกเขาต้องการเปิดตัวโจมตีอย่างยิ่งใหญ่เพื่อก่อกวนการจัดงานของราชาจื่อฟง  นึกไม่ถึงเลยว่าเย่ว์หยางกับพวกยังมาไม่ถึงวังหลวง  เจ้าโง่ทั้งสองก็บุกเข้ามาอย่างช่วยไม่ได้!

เย่ว์หยางคาดไว้นานแล้วเจ้าสองคนนี้คงจะทนรอไม่ได้และเขาจะไม่บังคับให้สองกระทิงเถื่อนฟังคำสั่งของเขาเหมือนคนอื่น

อย่างไรก็ตามมีบางอย่างอาจผิดปกติ

แม้ว่าเขาจะไม่ได้คาดหวังว่าทั้งสองคนนี้จะบุกรุกเข้ามารวดเร็วนัก  แต่เขายังมีความรู้สึกว่าไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้? สำหรับสองคนนี้เชี่ยวชาญในการเปลี่ยนแปลง นั่นก็ถูกไม่ใช่หรือ ? เย่ว์หยางยิ้มยิ้มเฉิดฉายเหมือนดวงอาทิตย์และตบสองพี่น้องกระทิงเถื่อน  “ข้านึกว่าพวกเจ้าจะต้องหลับไปสามวันเสียอีกคาดไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าจะตื่นขึ้นรวดเร็วนัก ก็ดีแล้ว การหลอมรวมพลังสมบูรณ์แล้วแม้ว่าพลังจะก้าวหน้า แต่ดูเหมือนว่าพลังยังไม่มีความเสถียร  พวกเจ้ายังปรับตัวเข้ากับพลังนั้นไม่ได้ง่ายๆ  ตอนนี้ เมื่อครู่นี้ข้าเห็นพวกเจ้าเพิ่งจะพุ่งเข้าปะทะประตูพังดังนั้นพวกเจ้าต้องฝึกฝนให้ดี มิฉะนั้นถ้าพวกเจ้ามีพลังแต่ไม่มีทักษะต่อสู้นั่นเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์”

สองพี่น้องกระทิงเถื่อนไม่เคยยอมรับฟังใคร  แต่กลับเชื่องเชื่อต่อเย่ว์หยางนัก

คำวิจารณ์ที่น่าอึดอัด

สองพี่น้องลูบหลังศีรษะและหัวเราะอย่างโง่เขลาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

เย่ว์หยางให้พวกเขาลุกขึ้นอีกครั้งและชี้ไปทางจวนเจ้าเมือง  “ถ้าพวกเจ้าต้องการสู้  พวกเจ้าจะสู้ทั้งที่ท้องว่างเปล่าได้หรือ?  ถ้าเจ้ามีเรื่องร้องเรียนกับราชาจื่อฟง  ทำไมเจ้าไม่ไปบ้านเขาก่อนกินก่อนแล้วค่อยเล่นกับพวกเขา? ที่นี่มีเหล้ายาอาหารมากมายเป็นภูเขาเลากา ทำไมพวกเจ้าไม่หาความสุขจากการกินเสียก่อน?”

เมื่อสองพี่น้องกระทิงเถื่อนได้ยินเช่นนี้พวกเขาตบหน้าผากตนเองทันที  “โฮ่ย...ข้านึกไม่ถึงจริงๆว่าจะมีประโยชน์มากมายขนาดนี้!”

การต่อสู้เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน  แต่เป็นไปไม่ได้จริงๆ กับการต่อสู้ทั่งที่ท้องยังหิว

ไม่อย่างนั้นจะแย่เกินไป

กระทิงเถื่อนพี่ใหญ่เกรงว่าราชาจื่อฟงจะไม่ยินยอมให้ตนเองได้ร่วมสนุก  เขาตะโกนลั่นทันที  “พี่น้องเรา พี่น้องไตตัน เข้าไปข้างในไปกินอาหารกัน ใครกล้าขัดขวาง? ข้าจะใช้หมัดคู่นี้ทุบวังให้พังจนหมดสิ้น!”

กระทิงเถื่อนน้องรองคว้าคอเสื้อจินฟันทองและตวาด  “เอาอาหารออกมาเดี๋ยวนี้!”

พ่อบ้านเย่รีบนำทาง

เมื่อหัวหน้าจินฟันทองและพวกพาเจ้ามนุษย์วัวไร้สมองทั้งสองเข้าไปหาอาหารเติมท้อง ในวังหลวงมีอาหารมากพอให้สองพี่น้องกระทิงเถื่อนกินจนพุงแตกตายมีคุณชายไตตันคอยคลี่คลายสถานการณ์ของสองพี่น้องกระทิงเถื่อนทั้งสองคนนี้ยังจะเอาเวลาที่ไหนไปสู้ในวันนี้? ถ้าพวกเขาไม่เมาอยู่ในวังหลวง อย่างนั้นหัวหน้าจินก็ไม่ควรเป็นหัวหน้าจินฟันทองอีกต่อไปสมควรจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นจินผู้ไร้ความสามารถ!

เดิมทีฮูเหลยและนักรบปราณฟ้าคนอื่นตาแดงด้วยความอิจฉาอาการที่ไม่พอใจที่เกิดขึ้นในใจตอนแรกหายไปทันที

แม้ว่าสองพี่น้องกระทิงเถื่อนจะมีพลังก้าวหน้าไปถึงปราณฟ้าระดับสี่  แต่สติปัญญาของเขามิได้เพิ่มตามขึ้นเลย

โชคดีที่พวกเขาทั้งสองยังโง่เหมือนเดิม

ดีที่เจ้าสองคนนี้ยังโง่ ฮูเหลยปล่อยวางความคับข้องใจและตัดสินใจวาจะหาโอกาสผูกมิตรกับคุณชายไตตัน  ตราบเท่าที่คุณชายเรียกหาตัวเขา  มีหรือที่เขาซึ่งมีความฉลาดมากกว่าจะไม่ดีเท่าเจ้าวัวป่าทั้งสองตัวนี้ได้?

ต่างจากนักสู้ปราณฟ้าอย่างฮูเหลยและพวกราชาจื่อฟงและอีกสามราชาถือเป็นนักสู้ระดับสูง

พวกเขามีมุมมองต่างออกไป

คุณชายไตตันพูดกับพี่น้องกระทิงเถื่อนเพียงไม่กี่คำดูเหมือนเรื่องจะง่ายไปหมด ความจริงแล้วยอดฝีมือระดับราชาทั้งสี่คือ ราชาจื่อฟง ราชาชิงหลางราชาว่านเจียวและราชาโหลวลั่ว ก็ยังรู้สึกว่ายากจะเปลี่ยนสถานการณ์เช่นนี้ได้  พวกเขาลอบถอนหายใจ “น่าตกใจจริงนี่คือลูกหลานของตระกูลมีชื่อเสียงจากแดนสวรรค์บนหรือเปล่า?  ความสามารถของคนผู้นี้เกินคาดจริงๆ  ไม่ต้องพูดถึงนักรบระดับราชาเลย เขาอาจจะสูงกว่าหรืออยู่ในระดับจักรพรรดิแดนดินก็เป็นได้  เป็นข้าก็คงทำได้ไม่ดีกว่านี้?”

คุณชายไตตันผู้นี้อายุเท่าใดกันแน่?

เมื่อเขาเติบโตขึ้น จะเป็นยังไง?

ถ้าเป็นแต่ก่อนจื่อฟงและชิงหลางจะให้เกียรติคุณชายไตตันเพราะสถานะของเขา  แต่ตอนนี้พวกเขาเพิ่มความเกรงกลัวขึ้นอีกเล็กน้อย

ในแง่ของเสน่ห์บุคลิกส่วนตัวระดับราชายังคงด้อยกว่าเช่นกัน.... ชิงหลางว่านเจียวและโหลวลั่วมองหน้าและพยักหน้าให้กัน และเดินออกมาจากกลุ่มคนเพื่อทักทายคารวะ  “คุณชายไตตันมาเยือนแดนสวรรค์ล่างข้าต้องขออภัยที่มิได้รีบมาต้อนรับท่าน นับว่าเสียมารยาทจริงหวังว่าคุณชายจะให้อภัยพวกเรา!”

ราชาจื่อฟงแทบเกือบทำเสียงแค่นเขาลอบสบถด่าอยู่ในใจ พวกเจ้าเป็นเจ้าจากผ่นดินไหนกันแน่ ข้าคือเจ้าถิ่นที่นี่พวกเจ้าเป็นแค่นกกาผู้อาศัยเท่านั้น แต่แน่นอนว่าเขาคงไม่พูดเช่นนี้ออกมาตรงกันข้ามเขาพยายามข่มอารมณ์ขุ่นเคืองและฝืนยิ้มทำหน้าที่ผู้เหย้า “น้องไตตัน!  เชิญเข้ามาเถอะจื่อฟงจะขอแนะนำสหายให้รู้จักสักสองสามคน ท่านผู้นี้คือชิงหลางแห่งอาณาจักรเยี่ยเซินหลิน ท่านนี้คือราชาว่านเจียวและนี่คือราชาโหลวลั่ว ทั้งสามเป็นราชาเพื่อบ้านของข้าจื่อฟงทั้งสามท่านนี้ได้ยินว่ามีอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติอย่างคุณชายไตตันมาเยือนจากแดนสวรรค์บนจึงอดมาชื่นชมสง่าราศีของคุณชายไม่ได้!”

คำพูดเชือดเฉือนเพื่อนบ้านฝ่ายตรงข้ามทำให้ดูเหมือนกับว่าสหายบ้านนอกของเขาเดินทางมาไกลหลายพันไมล์เพื่อเยี่ยมเยือนสหายที่อยู่ในเมือง

ชิงหลางและพวกลอบหงุดหงิดอยู่ในใจ

น้องสาวของเจ้าบิดาของเจ้าก็มาจากบ้านนอก นึกว่าตนเองเลิศเลอมาจากไหน?ตระกูลจากแดนสวรรค์บนน่ะหรือ ไม่  ตระกูลจากแดนสวรรค์บนไม่ใช่ตระกูลของเจ้า อย่าทำตัวน่าขันอยู่เลยอย่างเจ้ามีความสามารถปฏิเสธไม่ให้คนอื่นเข้าประตูบ้านได้หรือ?

ถ้าเป็นปกติ เจ้าคงเชิดหน้าหนีไปแล้ว

แต่ตอนนี้เขาได้แต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไร  ได้แต่หัวเราะและพยักหน้า

อย่างไรก็ตามทุกคนถือคติด้านได้อายอด

ไม่มีใครอยากหัวเราะเยาะใคร

หมิงลี่ฮ่าวแกล้งทำเป็นยิ้มอย่างจนใจตอนนี้เขารู้สึกสนุกที่ได้ทำงานร่วมกับเจ้าเด็กเย่ว์หยาง สถานการณ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างนี้จะเปลี่ยนไปได้อย่างไร? ตอนแรกเขายังคิดว่าแผนการของเย่ว์หยางเกินเลยไปบ้างบางคนอาจมองออกได้ง่าย การให้เลือดเทพจะเป็นการสูญเปล่าหรือไม่? แต่ตอนนี้แผนกลางๆโดยรวมดำเนินไปด้วยดี และไม่ใช่แค่ราชาจื่อฟงและชิงหลางเท่านั้นแต่ยังมีพวกที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดยังตกเข้ามาในกับดักของเย่ว์หยางจนได้

สุดท้ายแล้วเลือดเทพจะใช้ตกปลาใหญ่ได้กี่ตัว?

ตอนนี้การละเล่นเพิ่งจะเริ่ม รอให้ถึงเวลารวบแหในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดตอนที่จูกวงลงมา

“ท่านหญิงจูกวงกำลังมา!”

ในฐานะสตรีผู้เป็นเจ้าภาพฉลองวันเกิดท่านหญิงจูกวงต้องละวางความกังวลใจทั้งหมดและลงมาพบอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติอย่างคุณชายไตตันด้วยตนเอง ตระกูลชั้นสูงจากแดนสวรรค์บนไม่ได้ติดต่อมาเป็นพันปีแล้ว

เย่ว์หยางให้ราชาจื่อกวงและราชาอื่นรายล้อมเหมือนดาวล้อมเดือนแหวกกลุ่มคนออกมาเพื่อสตรีงามที่กำลังเดินเข้ามาในอิริยาบถที่สบาย

หมิงลี่ฮ่าวผู้มีความสูงสิบเมตรยังคงจ้องมอง

ดวงตาของเขาเป็นประกาย

หมัดทั้งสองกำแน่น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด