ตอนที่แล้วตอนที่ 935 ทางเลือกของชิวซิ่วหัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 937 จับกุมเจียย่า

ตอนที่ 936 ผลพลอยได้ของถังเทียน


ร่างของถังเทียนอยู่ในสภาพทรงประสิทธิภาพสุดขีด  และไม่ด้อยไปกว่าทุกตำนานในประวัติศาสตร์ ร่างที่แข็งแกร่งคงกระพันของเขาเป็นรากฐานของเกราะเทพเจ้า  และการควบคุมเกราะของเขายิ่งโดดเด่นมากขึ้นทุกทีไกลเกินกว่าจะพิสูจน์ได้

เทียบกับร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาแล้วการขัดเกลาวิญญาณของเขายังไม่ถึงระดับเดียวกัน

การฝึกจิตวิญญาณในปัจจุบันของเขายังเป็นระดับจิตเสมือนกระจก  สภาวะจิตเสมือนกระจกมีความเป็นเอกลักษณ์ช่วยให้เขาสามารถทะลุผ่านทุกอย่างในสภาวะที่สงบเย็นได้ แต่เทียบกับร่างที่แกร่งกร้าวไร้เทียมทานของเขาแล้ว นับว่ายังด้อยสมดุลอยู่

ความจริงเมื่อกลับมาสวรรค์วิถี  ถังเทียนใช้เวลาและความพยายามมากมายเพื่อปรับสภาพจิตวิญญาณยุทธของเขา  แต่เป็นเพราะอิทธิพลของกลุ่มดาวคนคู่เขากับเสี่ยวเอ้อใช้ร่างร่วมกัน ดังนั้นวิญญาณของเขาจึงแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างสิ้นเชิง  เมื่อเสี่ยวเอ้อแยกออกจากเขา  วิญญาณพวกเขาแยกออกเป็นสอง  และเขาไม่เคยฟื้นจากการบาดเจ็บ(ทางวิญญาณ)ดังนั้นจิตและวิญญาณของเขาไม่เคยตามทันความก้าวหน้าของร่างหยาบเขาเลย

ภายในวังวนพายุกหมุนกระบี่ที่สร้างขึ้นโดยพลังงานกลวงสภาพใจเสมือนกระจกของถังเทียนแตกกระจายเพราะรังสีกระบี่

นี่ทำให้เขาเจ็บปวดจนพูดไม่ออก  ร่างของเขาไร้อันตราย แต่ความเจ็บปวดดูเหมือนจะมาจากส่วนลึกของใจของเขา  และดูเหมือนแพร่กระจายไปทั่วร่างของเขา  เขาไม่สามารถหลบหรือซ่อนเร้นจากมันได้  ความเจ็บปวดจากความบาดเจ็บในความรู้สึกทำให้ถังเทียนไม่สามารถคิดได้และถ้าใครมองดูอย่างระมัดระวัง ก็จะสังเกตได้ว่าตาของถังเทียนสูญเสียประกาย

ในตอนแรก ความเจ็บปวดที่ฟาดฟันใส่เขาทำให้เขารู้สึกเหมือนปลาที่ถูกหั่นเป็นชิ้นใหญ่จากนั้นก็เป็นชิ้นที่เล็กลง และเล็กลงอีก แต่ในเวลาอันรวดเร็ว ความเจ็บปวดของเขาเปลี่ยนแปลง และเขารู้สึกเหมือนกับว่าพลังของเขาเหมือนหินที่ถูกฝนและขัดสี

เป็นความเจ็บปวดอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งเสียดสีไปทุกซอกมุมตัวของเขาแล้วขัดเป็นครั้งคราว  สติของเขาเหมือนกับจะหยุดชั่วขณะ  เขาเข้าใจผิดว่าตัวเขาขยายไปตามพายุหมุน  เขารู้ว่าเป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากร่างของเขาไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด และเขารู้ว่าเขายังโจมตีใส่กฎธรรมชาติเทียมอย่างเมามัน

เขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังแหวกว่ายออกห่างจากตัวของเขาและกลายเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ มองดูตนเองเคลื่อนไหวไวกว่าสายฟ้าและกฎธรรมชาติเทียมทั้งหมดไม่สามารถหลบได้พ้น แต่ความเจ็บปวดรู้สึกได้อย่างชัดเจนมาก และความรุนแรงเพิ่มขึ้นหลายเท่า และเขายังคงคิดว่าเขากำลังจะกลายเป็นเถ้าถ่าน

แต่กลุ่มกระบี่หนาแน่นหมุนวนด้วยความเร็วสูงส่งเสียงหวีดหวิวอยู่รอบตัวเขา ไม่มีอะไรสำหรับเขา

เขาไม่ได้มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน ไม่ว่าจะเจ็บปวดเพียงไหนก็ตามไม่ว่าเขาจะถูกเชือดเฉือนกี่ครั้งก็ตาม เขาก็ไม่กลายเป็นเถ้าถ่าน ต่อให้เขารู้สึกว่าสภาวะใจเสมือนกระจกของเขาปี้ป่นเหมือนทรายก็ตาม

แต่รังสีกระบี่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดและยังคงบดป่นเม็ดทรายเกิดจากสภาพใจกระจกให้แหลกละเอียดยิ่งขึ้น

ความเจ็บปวดยังคงมีอยู่ไม่สิ้นสุด ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าเขาดิ่งลึกลงไปในทะเลนรกที่โหดร้ายทุกที เหมือนกับการจมดิ่ง

จากมุมมองของเขาเองร่างกายของเขาเองดูเหมือนกับว่าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยไม่เพียงแต่ความเคลื่อนไหวของเขาเร็วขึ้นเท่านั้น แต่เขาไม่เคยพลาดเป้าเลย และเหมือนกับเครื่องจักรนักฆ่าที่สมบูรณ์แบบนอกจากปากของเขาที่ยังส่งเสียงโหยหวน

เขาทนทุกข์ทรมานขณะที่ชื่นชมความกล้าหาญของเขาเอง วังวนพายุหมุนกระบี่กรีดเสียงหวีดหวิวไม่ด้อยไปกว่าเสียงโหยหวนของเขาเอง  ทั้งสองคือความรู้สึกที่แตกต่างกันจากมุมมองของเขาและในร่างกายของเขาปนเปกันซึ่งเป็นความขัดแย้งตามปกติ

ถังเทียนในมุมมองของเขาเองยังสามารถสังเกตเห็นอาซิ่นและคนอื่นๆได้

เสี่ยวม่านอยู่สภาพดีที่สุดพลังนางเติบโตอย่างรวดเร็ว  นางมีความคิดที่บริสุทธิ์ที่สุด  ในฐานะขุนพลวิญญาณ พรสวรรค์นี้ถูกนำมาจากเมื่อครั้งนางยังมีชีวิต  พรสวรรค์ของนางโดดเด่นซึ่งช่วยให้พลังของนางเติบโตกล้าแข็งขึ้น  ร่างของนางค่อยชัดเจนมากขึ้นทุกที  พลังงานกลวงปรับแต่งร่างกายของนางจนดูชัดเจนไม่ต่างจากคนธรรมดา แต่มีชั้นเงาเลื่อมพรายทำให้ร่างกายนางดูเหมือนแก้วผลึกงามอย่างน่าทึ่ง  ดาบยักษ์ในมือนางก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงกลับกลายเป็นว่ายาวขึ้นบางขึ้นและดูสมส่วนขึ้น ตัวดาบดำสนิทและแข็งมาก และมีความบริสุทธิ์เป็นเงาเลื่อมพราย

อาซิ่นก็อยู่ในสภาพที่ดี  ร่างของเขากำลังปรับเปลี่ยนแต่เขายังช้ากว่าเสี่ยวม่านเล็กน้อย  ‘เอ่?’ ถังเทียนสังเกตว่ากระบี่อมตะในมือของอาซิ่นเมื่อใดก็ตามที่พลังงานกลวงเข้าไปใกล้กระบี่อมตะ ก็จะแตกสลายทันทีและเปลี่ยนเป็นหมอกบางถูกดูดซับโดยตัวกระบี่เอง กระบี่อมตะเหมือนกับฟองน้ำแห้งคอยดูดซับพลังงานกลวงโดยรอบอย่างกระหาย

ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงภายในกระบี่อมตะ และรัศมีของการถือกำเนิดเกิดขึ้นในกระบี่อมตะนับครั้งไม่ถ้วน

ปริมาณของพลังงานกลวงที่กระบี่อมตะกำลังดูดซับอยู่เหนือกว่าที่อาซิ่นและเสี่ยวม่านดูดซับรวมกันเสียอีก

เมื่อคิดถึงจุดนั้นแล้ว  สำนึกของถังเทียนสั่นสะท้านทันที  ตลอดทั้งร่างของเขากลายเป็นเบา  เหมือนกับว่ามีโซ่มองไม่เห็นภายในร่างของเขาแตกสลายออกทันที  และเขารู้สึกเบามากความเจ็บปวดในตัวเขาหายไป และความปีติยินดีทะลักเข้ามาอย่างห้ามไม่ได้

ในขณะนั้นถังเทียนที่สงบได้แล้วก็ตระหนักว่าสภาวะใจเสมือนกระจกของเขาเปลี่ยนแปลงไปเหมือนจะคล้ายกับเมฆหรือขนมปุยสายไหม เมื่อพลังงานกลวงยิงรังสีกระบี่ใส่ นอกจากเกิดระลอกเบาๆ แล้วเขาไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย

ถังเทียนได้รับความรู้แจ้ง  สภาวะใจกระจกของเขาแตกกระจายไปอย่างละเอียดยิ่งกว่าเม็ดทราย  และรังสีกระบี่ไม่แตกกระจายอีกต่อไป

เป็นความรู้สึกที่มิอาจอธิบายได้ความรู้สึกแบบใหม่ เขาสามารถรู้สึกได้ว่าร่างของเขาเบากว่าเดิม  และเขารู้สึกได้ว่าวิญญาณของเขาผ่านการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจกลับคืนได้  เขาไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือร้าย  แต่จากลักษณะปัจจุบันที่เห็น  มันเป็นเรื่องดี

ทันใดนั้นเขารู้สึกกระหายมาก  และอ้าปากหายใจโดยไม่รู้ตัว

วืดดดดด!

พลังงานกลวงปริมาณมหาศาลเปลี่ยนเป็นกระแสไหลทะลักเข้าไปในปากของเขา พลังงานกลวงที่สูบเข้ามาเป็นเหมือนหยดน้ำที่เข้ามาในเนินทรายแห้ง มันเข้าไปในร่างของถังเทียนเหมือนกับว่าเขากำลังกินลูกอมปุยฝ้าย(น้ำตาลสายไหม)

ความสุขที่สุดจะพรรณนาพลุ่งขึ้นมาจากส่วนลึกสุดของวิญญาณถังเทียน

สภาวะใจเสมือนกระจกเปลี่ยนเป็นลูกอมปุยฝ้ายมหาศาลและเหมือนฟองน้ำที่ดูดซับพลังงานกลวงอย่างหิวกระหาย ไม่เพียงแต่เป็นความกระหายที่ได้รับการคลี่คลายเท่านั้น  แต่กลับรุนแรงขึ้น  ถังเทียนดูดซับราวกับว่าชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับมัน  พลังงานกลวงปริมาณมากเหมือนกับหมอกที่ทะลักเข้าไปในร่างของเขา

เวลาคืบคลานไปอย่างช้าๆ แต่สภาวะใจกระจกน้ำตาลสายไหมไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะพอใจแต่อย่างใด

ถังเทียนไม่รู้ว่าใช้เวลาไปนานเท่าใด  แต่ในทันใดนั้นความเร็วในการซึมซับก็ช้าลงสภาวะน้ำตาลสายไหมดูเหมือนจะเต็มอิ่มแล้ว และเริ่มหนักขึ้น ขณะนั้นมีน้ำหยดหนึ่งหยดลงมาจากสภาวะน้ำตาลสายไหม

ติ๋ง!

เสียงเหมือนหยดน้ำกระทบกันภายในพื้นถ้ำ

ร่างของถังเทียนสะท้านเฮือก หยดน้ำที่เหลือภายในปุยสายไหมถูกเปลี่ยนเป็นกลุ่มหมอกกระจายไปทั่วร่างทุกส่วนของถังเทียน

ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าร่างที่เป็นเหมือนทะเลทรายแห้งแล้งของเขาถูกหล่อเลี้ยงด้วยฝน และความรู้สึกปีติยินดีแผ่กระจายไปทั่วร่าง  ถังเทียนรู้สึกว่าร่างของเขาเบาโหวง  เขารู้ว่าเป็นความรู้สึกหลอน ร่างของเขาใกล้จะสมบูรณ์แบบไม่มีอาการบาดเจ็บทางวิญญาณแม้แต่น้อยแล้ว

มันคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงวิญญาณเขา

เป็นไปตามคาด เขาเห็นภาพเงาเลือนรางที่ปรากฏอยู่ในร่างของเขา

หยดน้ำที่กลั่นจากขนมสายไหมกลายเป็นหมอกและกระจายเป็นรูปเงาลวงตาจากนั้นเขาตระหนักได้ว่ารูปนั้นมีจุดแสงสลัวมากมาย  และเขารู้ว่าจุดเหล่านั้นคืออาการบาดเจ็บ  กลุ่มดาวคนคู่มีวิญญาณคู่  และทั้งคู่เชื่อมโยงกันและกัน  ถ้าพวกเขาต้องแยกกันพวกเขาจะต้องรักษาอาการบาดเจ็บทางวิญญาณ

อาการบาดเจ็บทางวิญญาณรักษาได้ยากมากยากยิ่งกว่ารักษาขุนพลวิญญาณเสียอีก ขุนพลวิญญาณไม่มีร่างเนื้อดังนั้นพวกเขาจึงไม่กลัว  แต่วิญญาณคนเป็นและร่างเนื้อมีความเป็นอันเดียวกันและไม่สามารถแยกกันได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสวรรค์วิถีหรือดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณเป็นดินแดนที่ไม่รู้จักและไม่มีใครสามารถพูดได้ว่าพวกเขาให้ความสนใจความลับเรื่องวิญญาณอย่างแท้จริง

เป็นครั้งแรกของถังเทียนเมื่อเห็นวิญญาณของตนเอง

ความรู้สึกของวิญญาณของเขาชุ่มชื่นต่างจากความปีติยินดีที่เขาได้รู้สึกครั้งก่อน  เขารู้สึกว่าร่างกายของเขามีอิสระมากยิ่งขึ้น ราวกับว่าร่างของเขาเป็นกระจกที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่น  แต่ความชื้นขจัดคราบสกปรกออกไปได้เล็กน้อย และเขาสามารถรู้สึกถึงสภาวะใจของเขามีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเหมือนกับบ้านที่มืดมิดพอเปิดหน้าต่างออกและปล่อยให้แสงอาทิตย์ฉายเข้ามาก็มองเห็นสิ่งต่างๆในบ้านได้

หลายสิ่งหลายอย่างที่เขาเข้าใจได้ยากเมื่อในอดีตที่ผ่านมากลับดูเป็นธรรมชาติเหมือนกับลำคลองถูกสร้างมาระบายน้ำไหลออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ  เขาได้รับประกายความรู้ความเข้าใจ

ร่างและวิญญาณของเขาเป็นหนึ่งเดียวโดยสมบูรณ์  และหัวใจของถังเทียนได้รับความเข้าใจ

โดยไม่รู้ตัววิญญาณของเขาได้รับการรักษาและด้วยการคิดสภาวะขนมน้ำตาลสายไหมก็หยุดสูบพลังงานกลวง ผลที่ถังเทียนได้รับยิ่งใหญ่มหาศาลจนเขาเองแปลกใจความตั้งใจเดิมของเขาก็เพื่อช่วยอาซิ่น เสี่ยวม่านและพวกขุนพลวิญญาณที่เหลือ แต่ใครจะรู้กันว่าเขาเป็นคนได้รับผลกำไรมากที่สุด  หลายอย่างที่เขาเข้าใจยากในอดีตทั้งหมดกลับเข้าใจทะลุปรุโปร่งอย่างสิ้นเชิง

พลังงานกลวงความจริงเป็นส่วนสำคัญในการสร้างวิญญาณและเป็นสิ่งเฉพาะตัวจากพลังงาน

หลังจากรักษาเยียวยาวิญญาณของเขาแล้ว เขาไม่ได้ดูดซับพลังงานกลวงเหมือนเสี่ยวม่านและพวกที่เหลืออีกต่อไปไป พวกเขาสามารถได้ประโยชน์จากพลังงานกลวงปริมาณมหาศาลเพราะพวกเขาไม่ถูกจำกัดด้วยร่างเนื้อ  ถังเทียนไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ วิญญาณและกายของเขาเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วและถ้าวิญญาณแข็งแกร่งเกินไป ก็อาจจะทำลายสมดุลระหว่างทั้งสองได้

‘เมื่อวิญญาณและกายหยาบกลายเป็นหนึ่งจะไม่มีปัญหาอะไรมาก’

‘ถึงอย่างนั้น ตั้งวิแต่ญญาณข้าไม่สามารถเพิ่มที่น้ำหนักได้  ข้ายังสามารถพัฒนาคุณภาพได้  เชื่อว่านี่คือวิถีและหนทางการฝึกฝนของมนุษย์’

ของเดิมไร้ประโยชน์ต่อวิญญาณ แม้แต่วิชาขัดเกลาวิญญาณวังวนกระบี่ที่เขาเคยใช้ในอดีต  ถ้าเป็นรังสีกระบี่ธรรมดา  ก็จะไม่มีประโยชน์อะไรต่อเขา นี่เป็นเพราะพลังงานกลวงมีผลต่อวิญญาณของถังเทียน

นี่คือที่ดีที่สุดสำหรับให้ถังเทียนได้ขัดเกลาวิญญาณ  และจะไม่มีที่อื่นที่ดีไปกว่านี้อีก  ‘ที่ไหนเล่าจึงจะมีพลังงานกลวงไม่มีที่สิ้นสุดนี้?  ต่อให้วิญญาณข้าได้รับบาดเจ็บขณะปรับสภาพ  ข้าก็สามารถฟื้นขึ้นได้ทันที’  ด้วยอาการอย่างนั้นตอนนี้กังวลกับการรั้งพลัง

โดยไม่ลังเลใจถังเทียนเริ่มปรับสภาพและฟื้นฟูวิญญาณของเขา แม้ว่าเขาจะต้องพบกับประสบการณ์เจ็บปวดอีกครั้ง  แต่ผลที่ได้รับมากมายเกินกว่าอาการเจ็บปวด

นอกจากนี้ถังเทียนยังตัดสินใจปรับสภาวะจิตที่เหมือนน้ำตาลสายไหมในตัวเขาโอว ไม่, มันแตกกระจายเหมือนสภาวะใจกระจกของเขา

พลังงานกลวงที่มีไม่สุดสิ้นทำให้เขาได้ลองดูหลากหลายวิธี  จะมีที่ไหนเป็นที่ทดลองได้ดีกว่านี้เล่า?

ทันใดนั้นถังเทียนผู้เต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้รู้สึกว่าพายุหมุนรังสีกระบี่กลายเป็นสวรรค์สำหรับเขา

‘ข้าต้องขอบคุณประมุขผู้อาวุโส...โอวไม่.. ทำอย่างนั้นไม่ถูกต้อง นี่มันน่ากลัว! แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่พลเมืองของข้า แต่พวกเขาก็เป็นคนมีชีวิต’

‘อย่างนั้น ข้าจะทำทั้งหมดเท่าที่ข้าทำได้ เพื่อแก้แค้นให้พวกเจ้าก็แล้วกัน!’

‘ด้วยการกำจัดประมุขผู้อาวุโสซะ!’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด