ตอนที่แล้วตอนที่ 932 ตัวร้าย! ข้าเกลียดเจ้าที่สุด!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 934 เด็กน้อย อย่าก่อเรื่องยุ่ง!

ตอนที่ 933 เลื่อนระดับพยัคฆ์ขาวเป็นอสูรเทพ


การยกระดับพลังองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเป็นระดับพลังปราณราชันย์คือเป้าหมายที่อยู่ในใจของเย่ว์หยางมาโดยตลอดแค่อาศัยพลังนางตามลำพัง ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องใช้เวลานาน ก่อนจะเปลี่ยนแปลงถึงขั้นนั้นเย่ว์หยางได้แต่รออยู่เงียบๆ

ตอนนี้มีศัตรูมากขึ้นเรื่อยๆสถานการณ์วิกฤติกำลังแผ่ขยายจำเป็นต้องยกระดับพลังของนางเป็นพลังปราณราชันย์ให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้

นอกจากนี้เย่ว์หยางก็มีขอบเขตพลังปราณราชันย์ที่สมบูรณ์แบบ  แม้แต่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็ยังหันกลับมามีส่วนร่วมกับเขาอีกครั้งนางสัมผัสได้ถึงข้อบกพร่องของพลังปราณราชันย์ได้อีกครั้ง เพื่อชดเชยข้อบกพร่องจึงต้องปล่อยให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฝึกตามลำพัง!  ดังนั้นเย่ว์หยางจึงคาดหวังว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฝึกลำพังคนเดียวจะทำให้แข็งแกร่งมากกว่า

แต่ก่อนจะได้รับมุกพยัคฆ์ขาวศักดิ์สิทธิ์  เย่ว์หยางมีแผนอย่างหนึ่ง  ตอนนี้ได้มุกพยัคฆ์ขาวศักดิ์สิทธิ์ แม่เสือสาวตื่นเต้นอย่างคาดไม่ถึงที่ได้มุกศักดิ์สิทธิ์  เย่ว์หยางรู้สึกว่าเวลาสุกงอมเต็มที่แล้วและเขาได้ปรับปรุงแผนเดิมโดยดำเนินการสามขั้นตอน

ขั้นตอนแรกใช้พลังงานของอัญมณียกระดับพยัคฆ์ขาวอสูรศักดิ์สิทธิ์ของแม่เสือสาวไปเป็นสุดยอดอสูรศักดิ์สิทธิ์  และจะดีที่สุดถ้าไปได้ถึงระดับเตรียมอสูรเทพ

ขั้นที่สองใช้พลังงานบริสุทธิ์ของหญ้าวิญญาณเทพอัคคีบวกกับเลือดเทพเพื่อยกระดับมันให้ใกล้ระดับอสูรเทพมากที่สุด

ระดับที่สามขั้นสุดท้ายซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก  เย่ว์หยางเตรียมชักนำองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนให้บรรลุผ่านระดับปราณราชันย์และหลอมรวมปรับแต่งให้เข้ากับดาบเทพจักรพรรดิอวี้และเปลี่ยนให้เป็นสมบัติวิเศษของนางเอง  ตามวิธีนี้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังไม่สามารถถึงระดับสุดยอดปราณราชันย์ได้เหมือนเย่ว์หยาง  แต่อย่างน้อยก็เป็นการบรรลุระดับใหม่ที่สมบูรณ์มีอสูรพิทักษ์กลายเป็นอสูรเทพและมีอาวุธเทพอยู่ในมือ เขาเชื่อว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้บรรลุระดับปราณราชันย์ จะเป็นนักสู้หลักและกลายเป็นนักดาบหญิงในสนามรบได้

“ไม่ต้องกังวล วันนี้พักไว้ตรงนี้ก่อน  อย่างน้อยข้าต้องการเวลา”

ความคิดขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถูกแยกจากกันในสภาวะฝึกพลังคู่รัก

เมื่อยังไม่ถึงระดับปราณราชันย์นางไม่สามารถรู้สึกได้ถึงโลกในจิตใจของเขาอยู่เป็นเวลานาน.. ความรู้สึกนั้นเหมือนกับเย่ว์หยางไม่สามารถรู้สึกได้ถึงจื้อจุน,จักรพรรดินีราตรีและใจของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีอยู่เป็นเวลานาน

จักรพรรดินีราตรีจะดีกว่าเล็กน้อยและพลังในปัจจุบันของเย่ว์หยางใกล้เคียงกับระดับของนาง

เย่ว์หยางยังตามหลังจื้อจุน

แต่ความรู้สึกผสานพลังกับนางพญาเฟ่ยเหวินหลีจะชัดเจนที่สุด ในช่วงแรกเย่ว์หยางแทบไม่สามารถทนได้แม้แต่วินาทีเดียว ต่อมาภายใต้โลกพฤกษาเขาเข้าใจและหลอมรวมกับใจนางสำรวจพลังของกันและกันนั่นยังไม่เพียงพอสำหรับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ซึ่งก็เป็นอย่างนี้นางรู้สึกว่านางยังต้องเงยหน้ามองดูเย่ว์หยาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใจของนาง เมื่อมองดูขอบเขตระดับเทพนั่นยากที่จะคงอยู่ได้เป็นเวลานาน

ขอบเขตของเย่ว์หยางไม่ปรากฏตอนนี้นางไม่สามารถสำรวจเหนี่ยวนำได้

แน่นอนว่าสภาพใจแบบนี้จะผสานได้สมบูรณ์แบบมาก   แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดมาก แต่ก็ได้รับประโยชน์มาก

หลังจากพยายามหลายรอบในที่สุดใจของทั้งสองก็ผสานเข้าด้วยกันเป็นเวลานาน

พยัคฆ์ขาวอสูรพิทักษ์ซึ่งหลอมรวมกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยอมรับใจของเย่ว์หยางในขอบเขตเทพเป็นครั้งแรกและรับถ่ายทอดแหล่งพลังโกลาหลมาจากในร่างของเขาและรับการชำระวิญญาณด้วยปราณกระบี่และเพลิงอมฤต

อ๊าาาาาาาา.......

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัส

ราวกับว่าร่างมนุษย์ของตนเองถูกเพลิงอมฤตเผาผลาญจากในออกมาข้างนอก อย่างไรก็ตามการเผาผลาญเช่นนี้คงอยู่ตลอดไป  เมื่อใดก็ตามที่พลังในร่างนางขาดไปเล็กน้อย จะมีพลังจากแหล่งพลังปั่นป่วนและพลังปราณกระบี่เข้ามาช่วยเสริมเพื่อให้เพลิงอมฤตทำการชำระต่อไปได้ แม้ว่านางทำท่าว่าไม่สามารถทนได้เย่ว์หยางจะเปิดใช้วงจักรนิรันดรบังคับให้นางอยู่ในสภาวะชำระวิญญาณไม่ปล่อยให้นางเลิกรากลางครัน

ความเจ็บปวดเช่นนี้ยากที่คนธรรมดาจะทนได้

ด้วยทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ของนางองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะรับความรู้สึกได้เร็วกว่า ความรู้สึกจึงมากกว่าคนอื่นๆเป็นธรรมดา พูดให้ถูกก็คือนางจะทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดมากกว่าคนอื่นถึงร้อยเท่า  อย่างไรก็ตามสิ่งที่เย่ว์หยางต้องการก็คือนางจะต้องได้รับการรักษาและเกิดใหม่ด้วยพลังชำระที่ยิ่งใหญ่  นั่นเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดและทรงพลังที่สุด

ทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ซึ่งถูกชำระจนรู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัสจะทำให้ประสาทรับรู้ทั้งหกทรงพลังอย่างที่สุด

และยกระดับพยัคฆ์ขาวอสูรพิทักษ์

มันจะเติบโตในสภาพที่ดีที่สุด

เย่ว์หวี่และจุ้ยมาวอี้รอดูอยู่ด้านนอกด้วยความกระวนกระวายแต่มิอาจช่วยได้

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนต้องผ่านความยากลำบากไปให้ได้ด้วยตัวนางเองผ่านการทดสอบที่แท้จริงนี้ จะได้ทองเนื้อดีที่สุด

การฝึกฝนยังคงดำเนินต่อไป

หนึ่งนาทีสามนาที ห้านาที สิบนาที หนึ่งชั่วโมง สามชั่วโมง ห้าชั่วโมง  ในช่วงกลางครันของการฝึกฝนเย่ว์หวี่และจุ้ยมาวอี้หักห้ามความอายหันไปมองเย่ว์หยางที่อยู่ในสภาพเปลือยกายฝึกปรือพลังคู่รักถ่ายทอดพลังงานพวกนางช่วยเขาให้คงอยู่ในสภาวะฝึกฝนต่อได้ แต่ไม่กล้าเผชิญหน้าเพราะกลัวจะรบกวนสมาธิองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจนเกิดความล้มเหลวในที่สุด

ขณะเดียวกันทั้งสองนางตกใจกับความพากเพียรขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

แม้ว่าเย่ว์หยางจะช่วยอย่างเต็มที่และบางครั้งด้วยพลังช่วยเหลือจากวงจักรนิรันดร อย่างไรก็ตามสามารถดำเนินการฝึกฝนต่อเนื่องถึงห้าชั่วโมงก็นับว่าเป็นความอดทนอย่างเหลือเชื่อ

เย่ว์หวี่ประหลาดใจในความมุ่งมั่นขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและจุ้ยมาวอี้ลอบละอายใจว่านางยังเป็นรองมาก

นางชื่นชมความมุ่งมั่นของแม่เสือสาวจริงๆ

การฝึกยังคงดำเนินต่อไป

ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด

จู่ๆสรรพสิ่งก็เงียบลงในทันที แต่ทันใดนั้นมีเสียงพยัคฆ์คำรามดังออกมาและมีพลังปะทุออกมาจากร่างองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเกิดคลื่นแรงระเบิดกระจายไปทั่วโลกคัมภีร์ของเย่ว์หยางอย่างเงียบๆดูเหมือนว่าพยัคฆ์ขาวอสูรพิทักษ์ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะบรรลุผ่านระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ไปเป็นระดับสุดยอดอสูรศักดิ์สิทธิ์หรือระดับเตรียมอสูรเทพช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดมาถึง จะมีการบรรลุอีกครั้งหรือจะอยู่ในระดับขอบเขตนี้ไปอีกนานเพื่อรอเวลาในอนาคต?

“ลงมือกันเถอะ!”

เย่ว์หวี่กับจุ้ยมาวอี้มองหน้ากันและพยักหน้ายืนยัน

คนหนึ่งถือหญ้าวิญญาณเทพอัคคีซึ่งเย่ว์หยางปรุงเป็นของเหลวแล้วอีกนางหนึ่งถือเลือดเทพที่เย่ว์หยางเตรียมเอาไว้

ในช่วงเวลาของการเลื่อนระดับของพยัคฆ์ขาวแผนการของเย่ว์หยางก้าวหน้าเป็นอย่างดี ขั้นแรกและขั้นที่สองทำได้ดีที่สุดในช่วงเวลาเดียวกัน  เพราะหลังจากสำเร็จขั้นที่หนึ่งโดยไม่ต้องคำนึงถึงการปรับสภาพร่างกายขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน พยัคฆ์ขาวยังคงมีสภาวะมั่นคงหลังจากเลื่อนระดับต้องใช้เวลาสักครู่แล้วจึงจะยกระดับใหม่ได้ เวลาต้องทิ้งช่วงกันนาน  เพราะเหตุที่ต้องแข่งกับเวลาจะต้องทำให้สำเร็จในพริบตาเดียว การใช้พลังจากมุกศักดิ์สิทธิ์พยัคฆ์ขาว น้ำยาหญ้าเทพอัคคีและเลือดเทพเพื่อบรรลุพลังระดับใหม่เป็นอสูรเทพในทันที

ร่างขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเปล่งรัศมีเป็นพันสาย

คมชัดเหมือนคมมีด

แรงระเบิดทำให้เสื้อผ้าของเย่ว์หวี่และจุ้ยมาวอี้สลายเป็นผุยผงและพวกนางเกร็งพลังต่อต้าน

พวกนางพยายามฝ่าเข้าไปหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและหยดของเหลวหยดเลือดเทพบนมุกพยัคฆ์ขาวบนหน้าผากนาง

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเกือบจะล้มหมดสติอยู่หลายครั้งเย่ว์หยางปล่อยให้อัญมณีพยัคฆ์ขาวคุ้มครองนาง ส่วนตนเองใช้มือประคองหลังศีรษะนาง

เสี่ยวเหวินหลีช่วยประคองหลังมือเย่ว์หยางอีกครั้ง

อัญมณีพยัคฆ์ขาวแปะอยู่ที่ระหว่างคิ้วขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

น้ำยาวิเศษและเลือดเทพ

ถูกหยดไว้แล้ว

และซึมเข้าไปในอัญมณีสีขาวทันทีพลังงานของอัญมณีพยัคฆ์ขาวซึมเข้าไปในใจของพยัคฆ์ขาวอสูรพิทักษ์ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโดยตรงกลั่นพลังวิญญาณให้อยู่ในสภาพสูงสุดและหลอมรวมกับเลือดเทพ  ศักยภาพในขณะนั้นถูกระเบิดและปลดปล่อยพลังออกมาจนถึงขีดสุด

คัมภีร์อัญเชิญขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนปรากฏออกมาทันที

รัศมีสีทองสามสายฉายลงที่ด้านบนคัมภีร์อัญเชิญ  บนศีรษะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หยาง

ฉายขึ้นท้องฟ้าบิดเป็นเกลียวพลุ่งตรงขึ้นไปด้านบนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ดูเหมือนว่ามีภาพที่พยัคฆ์ขาวที่ดุร้ายโดดออกมาจากร่างขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและจากนั้นกลายเป็นภาพพยัคฆ์ขาวขยายเต็มท้องฟ้าของโลกคัมภีร์

มันอ้าปากคำรามเงียบๆ

แต่ทั้งโลกสั่นสะเทือนเหมือนจะทนไม่ได้อีกต่อไปขณะพยัคฆ์ขาวคำราม

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่เกือบจะหมดสติอยู่แล้วลืมตาขึ้นทันทีดวงตาของนางฉายประกายเจิดจ้าเทียบได้กับเทพเจ้าผู้ทรงพลัง คัมภีร์อัญเชิญของนางเปล่งรัศมีเจิดจ้าจนยากจะมองและมีแสงสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าคัมภีร์อัญเชิญเดิมเลื่อนระดับเป็นคัมภีร์เพชรชั้นสุดยอดใกล้เคียงกับคัมภีร์ระดับศักดิ์สิทธิ์  คัมภีร์อัญเชิญพลิกหน้าเปิดโดยอัตโนมัติและมีหน้าใหม่ปรากฏเป็นภาพพยัคฆ์ขาวตั้งแต่วัยเด็กและกลายเป็นอสูรเทพ!

ส่วนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่อยู่ใกล้ๆยังไม่สามารถบรรลุระดับใหม่ได้อย่างต่อเนื่องนางถึงขีดจำกัดและหมดสติอยู่ในอ้อมแขนเย่ว์หยาง

สนามพลังศักดิ์สิทธิ์มีอสูรศักดิ์สิทธิ์ในตำนานปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สายฟ้า ธาตุดินน้ำแข็งและเปลวเพลิงปรากฏเต็มทั้งฟ้า  การเพิ่มพลังของอสูรศักดิ์สิทธิ์พยัคฆ์ขาวช่วยสนับสนุนพลังสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ เกิดรอยฉีกขาดในพื้นที่นับพันจนแทบทำลายโลกคัมภีร์ของเย่ว์หยาง

โชคดีที่โลกคัมภีร์ตอบสนองอย่างรวดเร็วและเย่ว์หยางควบคุมพลังปณิธานไว้ได้หลังจากองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหมดสติแล้ว

ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะพังพินาศทันที

“แม่เสือสาวนี้บรรลุระดับพลังใหม่ได้น่ากลัวจริงๆ!” จุ้ยมาวอี้ตกใจและเกือบถูกปราณดาบของนางฆ่า โชคดีที่มีการปกป้องจากเย่ว์หยางและเสี่ยวเหวินหลี  มิฉะนั้นผลที่ตามมาคงสุดคาดคิด

“หลังจากผ่านความทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสามารถอดทนผ่านไปได้ ถ้านางสามารถบรรลุระดับปราณราชันย์ นางจะหลอมรวมกับดาบเทพได้ จากนั้นจะไม่มีใครหยุดความก้าวหน้าระดับติดปีกบินในเส้นทางของนางได้ นางกับเสวี่ยอู๋เสียจะเป็นนักสู้ปราณราชันย์ระดับอัจฉริยะแน่นอน!” เย่ว์หวี่ทั้งมีความยินดีกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและรู้สึกเศร้าใจกับตัวนางเองที่ยังยืนหยัดด้วยตนเองไม่ได้แม้ว่านางจะว่าเป็นไปไม่ได้ แต่นางยังหวังว่านางจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเสี่ยวซานและสามารถตามดูแลเขาได้มากยิ่งขึ้น  สักวันนางอาจจะถูกทิ้งจนอยู่ห่างตลอดไป....”

“เจ้าก็ทำได้เช่นกันเพียงแต่เจ้ายังไม่ได้ทุ่มเทอย่างแท้จริง” จุ้ยมาวอี้คิดว่าเย่ว์หวี่นี้ก็เป็นอัจฉริยะตัวจริง  และอนาคตของนางมิอาจจะคาดคิดได้

แต่เนื่องจากสถานะนางนางจึงมิอาจโน้มน้าวใจเย่ว์หวี่ได้

ที่สำคัญตอนนี้เย่ว์หวี่คือพี่สาวรองของเขา

คำพูดบางคำเป็นเรื่องน่าอายเกินกว่าจะพูดออกไป

เย่ว์หยางถ่ายเทพลังให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่หมดสติและฟื้นฟูสภาพร่างกายของนาง เขามิอาจฝืนความเหนื่อยล้าได้ในที่สุด ยังไม่ทันรับแก้วน้ำจากจุ้ยมาวอี้ก็ทรุดลงกับพื้นจุ้ยมาวอี้กับเย่ว์หวี่รับร่างเขาและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไว้

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่เป็นไร นางเพียงแต่ปรับสภาพร่างกายรับการยกระดับพลังต่อเนื่องไม่ไหวนางแค่ต้องการปรับตัวและหลับพักผ่อน

ส่วนเย่ว์หยางเหนื่อยหนักสายตัวแทบขาด

สองสาวมองหน้ากันเองและจุ้ยมาวอี้เบือนสายตาจากเย่ว์หวี่และอุ้มองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนออกไปปล่อยให้เย่ว์หวี่อยู่ตามลำพัง

นางรู้ว่าเย่ว์หยางเหนื่อยล้าต้องการฟื้นฟูร่างกายนั่นต้องเป็นหน้าที่ของเย่ว์หวี่มีแต่พลังน้ำที่บริสุทธิ์ของนางจะใช้ได้ผลดีที่สุด จุดนี้พลังน้ำแข็งบริสุทธิ์ของเสวี่ยอู๋เสียยังเป็นรองอยู่มาก

จุ้ยมาวอี้อุ้มองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจากไป

เย่ว์หวี่ค่อยรู้สึกหายอึดอัดใจ

สำหรับน้องชายของนางที่เหน็ดเหนื่อยจนหลับนางเห็นมามากและช่วยให้เขาฟื้นฟูพลังมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในการทดลองหลังการต่อสู้หรือเมื่อหลอมรวมกับอักขระรูน หรือปรุงยาก็ตามเมื่อเขาเหนื่อยนางจะใช้พลังเพื่อช่วยเหลือเขาแทบจะทันที  นางคุ้ยเคยกับสถานการณ์นี้นานแล้วและนางไม่อาจรออะไรอื่นได้ นางรีบก้มและกอดน้องสามที่ทั้งน่ารำคาญและน่ารักขณะที่ฟื้นฟูพลังให้เขานางก็บ่นเขาไปด้วย “ยิ่งโตก็ยิ่งทำตัวเหมือนเด็ก เมื่อไหร่เจ้าจะทำให้พี่สาวของเจ้าสบายใจได้เสียที! ไม่ทราบว่าข้าเป็นหนี้เจ้าแต่ชาติปางไหนชาตินี้ถึงต้องมาชดใช้คืนให้เจ้า...”

สิ่งที่เย่ว์หวี่พูดนั้นเย่ว์หยางไม่ได้ยิน เพราะเขาหลับไปแล้ว

แน่นอนว่าเมื่อเขาฟื้นขึ้นมา

นางจะไม่พูดกับเขาเรื่องนี้

พอวันแรกที่เย่ว์หยางฟื้นฟูร่างกายได้ก็เผ่นวิ่งไปหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน“แม่เสือสาว, ขอดูเจ้าหน่อยซิ อสูรเทพกับเจ้านายอยู่ในสภาวะเดียวกัน ข้ายังไม่เคยเห็นเลย”

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเห็นว่าจุ้ยมาวอี้และเย่ว์หวี่กำลังพักผ่อนและยังไม่ลุกขึ้นนางใช้กำปั้นยันหน้าอกเย่ว์หยาง

“เกิดอะไรขึ้น?”  เย่ว์หยางประหลาดใจ  แม่เสือสาวไม่พอใจอย่างนั้นหรือ?

“เจ้าพูดไม่รู้จักอายแบบนั้นข้ากลายเป็นพยัคฆ์ขาวจริงๆ แล้ว!” หน้าขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแดงทันทีและร้อนผ่าวด้วยความอาย

“อะไรนะ?” เย่ว์หยางไม่เข้าใจ  หลังจากอึ้งอยู่นานเขาค่อยสนองตอบ  “ด้วยอสูรเทพ มันกลายเป็นพยัคฆ์ขาวหรือ?ข้าไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? ขอข้าดูก่อน”

“ดูเงาหัวเจ้าเองเถอะ!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเห็นอาการช่างสงสัยของเจ้าเด็กนี่แล้วนางอับอายกลายเป็นโกรธ นางทุบเขาลอยกระเด็น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด