ตอนที่แล้วตอนที่ 906 หลุมดำ ภูเขาน้ำแข็ง วิญญาณนักรบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 908 เทพตัวจริง

ตอนที่ 907 สามกระบี่พิโรธ, ความจริง


สามวันต่อมา

ภูเขาน้ำแข็งตระหง่านมั่นคงถูกผนึกมิติหลุมดำกลืนกินไปถึงหนึ่งในสิบมองดูเหมือนสัตว์ประหลาดร้ายอ้าปาก

ผนังน้ำแข็งขนาดยักษ์เปิดเป็นทางอุโมงค์ผลึกน้ำแข็งให้เย่ว์หยางเข้าไปถึงหมื่นเมตรจนถึงใจกลางภูเขาน้ำแข็ง  มิติหลุมดำยังคงน่ากลัวเหมือนเคยเหมือนกับเป็นหลุมที่ไม่มีวันเติมเต็ม เย่ว์หยางเข้าไปในมิติหลุมดำ แต่ก็พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำดินน้ำแข็งหมื่นปีละลายลอยอยู่ทั่วทุกที่... ถ้าไม่ใช่เพราะเจตจำนงของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีน้ำแข็งหมื่นปีคงกระจายหายไปในเวลาไม่กี่นาที แต่ภายใต้ประสงค์ของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี แม้แต่น้ำแข็งเท่าปลายนิ้วมือยังต้องใช้เวลามากขึ้นเป็นสิบนาทีกว่าจะละลายหายไป ไม่ต้องพูดถึงชิ้นน้ำแข็งใหญ่ขนาดเป็นร้อยเมตร

การเปลี่ยนมิติหลุมดำไปเป็นโลกหิมะน้ำแข็งของนางเป็นความต้องการของนางและนางพญาเฟ่ยเหวินหลีได้สาบานเอาไว้

ด้วยความช่วยเหลือจากเย่ว์หยางที่ด้านนอกอีกแรงหนึ่ง  นางมีเวลาและพลังงานที่ได้รับจากการดูดกลืนพลังด้านนอกก่อนที่มันจะละลายสลายไปกลายเป็นพลังน้ำแข็งที่นางสามารถควบคุมได้ดังใจ

มิติหลุมดำพลังดูดกลืนทำให้นางพญาเฟ่ยเหวินหลีได้รับการดูดซับพลังมากขึ้น

ก่อนหน้านี้พลังของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีถูกดูดกลืนไปกับหลุมดำ

ตอนนี้ด้วยพลังน้ำแข็งหมื่นปีที่เย่ว์หยางชักนำเข้ามาอย่างต่อเนื่องนางพญาเฟ่ยเหวินหลีจึงค่อยตัดสินใจท้าทายพลังผนึกของมิติหลุมดำ

“เป็นวิญญาณนักรบที่สูญเสียสำนึกหรือ?”  นางพญาเฟ่ยเหวินหลีฟังเย่ว์หยางอธิบายสถานการณ์และมีความรู้สึกแปลกเล็กน้อย “นอกจากแดนล่มสลายแห่งทวยเทพข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีเทพที่ถูกฝังอยู่ในที่อื่น!  นอกจากนี้ประกายเทพที่น่ากลัวยังแผ่ออกมา สำนึกศักดิ์สิทธิ์ของเทพจะไม่หายไปง่ายๆ สถานการณ์เช่นนี้กลับตาลปัตร ข้าเองก็ยังสับสนอยู่เช่นกัน!”

“แพนดอราแน่ใจมาก”  เย่ว์หยางยังคงสงสัย  แต่ก็เชื่อวินิจฉัยของแพนดอราที่สำคัญคือนางคืออดีตเทพธิดาแห่งโชคร้าย

“อย่างนั้น..เจ้าต้องระมัดระวังสำนึกเทพตอบโต้ให้มากเข้าไว้”  นางพญาเฟ่ยเหวินหลีกระตุ้นเตือนเขา

“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็แค่ต้องใช้ปราณกระบี่ทดสอบ” เย่ว์หยางอยู่ในระดับนักสู้ปราณราชันย์แล้ว กระบี่ดำกุยจ้างกระบี่ขาวซวงหัวและกระบี่แดงชี่เสี่ยวเหลียนมีพลังเพิ่มขึ้นอีกมากบวกกับวงจักรล้างโลก กับวงจักรนิรันดรคู่กันรวมทั้งเพลิงอฤตก็มีพลังเพิ่มขึ้น เย่ว์หยางมีความมั่นใจไม่กลัวการลอบโจมตีของสำนึกศักดิ์สิทธิ์ลับ  เมื่อสูญเสียร่างเทพไป เทพเจ้าที่น่าเกรงขามคงไม่สามารถเรียกพลังที่น่ากลัวกลับมาได้

“ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้ามีความมั่นใจมากกว่าแต่ก่อน!”  นางพญาเฟ่ยเหวินหลีชื่นชมเย่ว์หยางเล็กน้อย

ตอนนี้เย่ว์หยางมีแผนดำเนินการสองอย่าง

เมื่อเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจับคู่กันฝึกฝนพลังปราณคู่รัก อย่างนั้นเขาจะใช้สนามพลังสร้างโลกชักนำผนึกมิติหลุมดำวิธีนี้เย่ว์หยางจะมีความเชี่ยวชาญในการควบคุม แต่ระยะทำการไม่มาก  จะดูดซับแนวกำแพงน้ำแข็งหนึ่งกิโลเมตรในแต่ละครั้งจนหมด

แผนที่สองก็คือเมื่อสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ร่วมมือกับเย่ว์หยางฝึกฝนพลังคู่รักเขาจะดึงสำนึกเทพในตัวนางออกมาใช้

แม้ว่าร่างเทพและประกายเทพของนางไม่คงอยู่ต่อไปแต่พลังเทพโชคร้ายและสำนึกศักดิ์สิทธิ์ของนางยังทรงพลังอย่างแน่นอน

ครั้งนี้เย่ว์หยางใช้วิธีควบคุมเกินพิกัดพลังตามข้อเสนอของเสวี่ยอู๋เสีย

ชักนำมิติหลุมดำให้มากเท่าที่เป็นไปได้  ขยายระยะออกไปให้ไกลเท่าที่ทำได้

จากนั้นเย่ว์หยางก็ยกเลิกการควบคุมและปล่อยให้ผนึกมิติหลุมดำหายไปในพื้นโลกเดิม...ผลของการกระทำเช่นนี้ก็คือหลุมดำไม่เพียงแต่กลืนกินพลังหิมะน้ำแข็งโดยรอบเท่านั้นแต่มันยังฉีกและกลืนพื้นโดยตรง  ถ้าเย่ว์หยางหนีไม่เร็วพอ ก็ง่ายต่อการถูกกำจัดเข้าไปในมิติและทำให้พื้นที่มิติแตกสลายเสียหาย...โชคดีที่พลังของผลึกหลุมดำที่น่ากลัวที่สุดจะไม่ทำร้ายเย่ว์หยาง  มิฉะนั้นเขาคงไม่วางใจใช้แผนนี้แน่นอน!

และนอกจากนี้แผนนี้ยังมีผลเสียอีกประการหนึ่ง

เนื่องจากหลุมดำหายเร็วเกินไป  มันไม่สามารถกลืนกินพลังน้ำแข็งหมื่นปีได้อย่างสมบูรณ์จึงไม่ใช่เรื่องดีต่อกับการทำลายภูเขาน้ำแข็ง

อย่างไรก็ตามวิธีการปล่อยการควบคุมนี้ ใช้สำหรับดึงดูดหิมะน้ำแข็งที่อยู่บนพื้น

เย่ว์หยางเคยเทเลพอร์ตส่งออกไปอยู่ในพื้นที่ว่าง

เขาจึงเลือกใช้แผนนี้

ผลก็คือพลังงานน้ำแข็งและหิมะหลายหมื่นปีถูกกลืนหายไปตลอดแนวและแม้พื้นที่มิติก็ยังฉีกขาด และพื้นที่คงจะไม่ฟื้นฟูเป็นเวลานาน

สิบวันต่อมา

เหตุการณ์ยังปกติไร้เรื่องราว

เย่ว์หยางเพิ่งเสร็จสิ้นงานในตอนกลางวันกลับมาพร้อมกับสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์จากการเทเลพอร์ตไปที่ไกลแต่ทันใดนั้นเขาเห็นที่เชิงภูเขาน้ำแข็ง ขุนพลเทพธิดาวายุกำลังสู้กับใครบางคน

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตวาดอย่างดุดันและปราณของดาบเทพจักรพรรดิอวี้พุ่งชี้ขึ้นไปในท้องฟ้า

“เกิดอะไรขึ้น?” เย่ว์หยางพบว่าเสวี่ยอู๋เสียได้รับบาดเจ็บล้มอยู่บนพื้นเลือดไหลออกจากปากของนาง เย่ว์หยางคว้านางและกอดไว้ในอ้อมแขน

ทันทีที่เขากอดนางเย่ว์หยางตกใจ ร่างของนางเย็นเฉียบเหมือนก้อนน้ำแข็ง

ขณะเดียวกันเขาพบว่าพลังความเย็นนี้ไม่ใช่ว่าเป็นพลังที่ควบคุมไม่ได้แต่พลังรุกเข้ามาอย่างอธิบายไม่ได้

ใครกันที่สามารถโจมตีเสวี่ยอู๋เสียผู้มีสนามพลังสำนึกศักดิ์สิทธิ์ได้?  เย่ว์หยางโกรธตรวจดูสนามรบที่นางต่อสู้   เขาพบเงาสีทองที่ถูกผนึกในภูเขาน้ำแข็ง   มองลึกลงไปในผนึกมันโจมตีตอบโต้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน และสร้างโซ่น้ำแข็งมัดขุนพลเทพธิดาวายุ

ในเวลานี้ภูเขาน้ำแข็งไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ไม่ทราบว่ามีพลังกฎสวรรค์แปลกประหลาดทั้งภายในและภายนอกตั้งแต่เมื่อไหร่  ดูเหมือนสิ่งนั้นจะคอยป้องกันสิ่งที่อยู่ข้างใน

ภูเขาน้ำแข็งนี้ใช้ผนึกใครไว้ข้างใน?

แปลก,เขาละเลยจักษุญาณทิพย์และคัมภีร์แห่งสัจจะของเสวี่ยอู๋เสียได้ยังไง?

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้มีสัมผัสที่หกแข็งแกร่งที่สุด แม้แต่แพนดอราผู้มีความสามารถทำนายถึงความตายได้ก็ยังไม่เห็นความคงอยู่ของเขา คนผู้นี้เป็นใคร?

ความสงสัยมากมายผุดขึ้นมาในใจของเย่ว์หยางแต่เขาคิดไม่ออก อาการบาดเจ็บของเสวี่ยอู๋เสียกระตุ้นให้เขามีความรู้สึกแค้นเทียมฟ้า  ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครจะเป็นเทพหรือมนุษย์ก็ตาม บังอาจทำร้ายสตรีที่เขารัก มันผู้นั้นจะต้องถูกฆ่า!  มันต้องตาย

ปราณกระบี่ดำกุยจ้าง,กระบี่ขาวซวงหัวและกระบี่แดงชี่เสี่ยวเหลียนถูกดึงออกมาทั้งหมด

เย่ว์หยางถูกกระตุ้นจนโกรธแค้นสตรีที่เขารักได้รับบาดเจ็บ

เขาเหาะขึ้นไปในท้องฟ้าและบินเข้าไปหาองค์เชี่ยนเชี่ยนที่กำลังโกรธแค้นและเข้าไปหาขุนพลเทพธิดาวายุที่กำลังต่อสู้อย่างกล้าหาญโดยไม่สนใจฝ่ายตรงข้ามเลยแนวเส้นหมื่นสาย เขายกกระบี่ชี่เสี่ยวเหลียนจากนั้นฟันใส่จนขาด

เย่ว์หยางตาแดงและระเบิดพลังรุนแรงใส่ผนังน้ำแข็งที่หนา

ด้วยพลังกระบี่กุยจ้างที่มีปณิธานราชันย์สามารถทำลายได้ทั้งผนังและคน.. องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่อยู่ด้านหลังมองตะลึง  เท่าที่รู้ก่อนนั้นไม่ว่านางจะใช้ดาบเทพจักรพรรดิอวี้อย่างไรก็ตามก็ยังไม่สามารถฟันเปิดพื้นที่ผนังน้ำแข็งได้และตอนนี้เย่ว์หยางใช้กระบี่ฟันผนังน้ำแข็งด้วยความโกรธ ทลายผนังพังเป็นทางยาวเกือบหนึ่งกิโลเมตรแค่นี้ยังไม่พอ เย่ว์หยางคลั่งจะไม่มีเหตุผลมาก่อน ไม่มีการไตร่ตรองแม้แต่น้อยไม่ว่ากำแพงน้ำจะมีขนาดหลายสิบเมตรหรือไม่ก็ตามหรือไม่ว่าศัตรูจะซ่อนตัวลึกอยู่ในกำแพงน้ำแข็งก็ตาม  เขายังคงใช้ปราณกระบี่ทั้งสามได้อย่างสมบูรณ์

กระบี่ขาวซวงหัว!

ถ้ากระบี่ขาวซวงหัวใช้โจมตีสตรีอย่างหลิวเย่เย่ว์หวี่และแม่สี่ อย่างนั้นกระบี่ขาวซวงหัวจะไม่มีพลังและอาจช่วยฟื้นฟูพวกนางให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตามถ้าใช้โจมตีความชั่วหรือปีศาจเจ้าเล่ห์ อย่างนั้นกระบี่ขาวซวงหัวจะมีพลังยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

ไม่มีสิ่งใดเปรียบปราน!

มือขวาของเย่ว์หยางแทงอยู่เหนือกำแพงและแทงทะลุ

กระบี่ขาวซวงหัวต่างจากกระบี่ดำกุยจ้างไม่เพียงแต่โจมตีผิวชั้นน้ำแข็ง เหมือนกระบี่ดำกุยจ้างแต่ยังไม่ถูกหักเหแสงจากผลึกน้ำแข็งแม้จะไม่ส่งผลต่อกฎสวรรค์ในผนังน้ำแข็งโดยตรงกับดาบแสงแต่พอถูกเงาสีทองก็หายไปทันทีเหมือนกับว่าไม่เคยเกิดอะไรมาก่อน

เสวี่ยอู๋เสียบาดเจ็บสาหัสเย่ว์หยางยังไม่เห็นศัตรู เขาใช้กระบี่ดำกุยจ้างและกระบี่แดงชี่เสี่ยวเหลียนฟันอย่างบ้าคลั่งจนน้ำแข็งแตกออกมาอย่างมากมาย

ในที่สุดเขากลับมาพร้อมกับความแค้นแน่นอก

“แปลก!นางไม่ได้เป็นอะไร แต่มีพลังบางอย่างกำลังหลอมรวม...”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกอดเสวี่ยอู๋เสียและสำรวจร่างนางแต่พบว่าอาการบาดเจ็บของนางไม่ได้เกิดจากถูกลอบทำร้าย  เย่ว์หยางหายคลั่งและเริ่มรู้สึกอ่อนเพลียเขาแทบจะทรุดตัวกับพื้นน้ำแข็งแต่ยังเข้ามาอุ้มเสวี่ยอู๋เสียเมื่อเขาถ่ายทอดปราณกระบี่บริสุทธิ์เข้าไปเขาพบว่าอาการบาดเจ็บของนางทุเลาลงจนดีขึ้น ถ้าไม่มีเลือดอยู่ที่ริมฝีปากจะดูเหมือนกับว่านางไม่เคยได้รับบาดเจ็บเลย ที่สำคัญที่สุดคือเย่ว์หยางพบสถานการณ์เดียวกัน  ร่างของเสวี่ยอู๋เสียมีการผสานกับพลังบางอย่าง  และพลังนี้เหมือนกับพลังน้ำแข็งดั้งเดิมของนาง

“แพนดอรา! เจ้ามองเห็นอะไรบ้างไหม?”  เย่ว์หยางพบว่าจักษุญาณทิพย์ของเขาครั้งแรกตรวจไม่พบอะไรเขามองไปทางแพนดอรา

“บางที, ข้าอาจผิดพลาดไปก่อนนั้นไม่เพียงแต่มีผนึกอยู่ในภูเขาน้ำแข็ง...แต่อาจมีผนึกเทพสองอย่างอยู่ในภายใน  ผนึกหนึ่งสิ้นเปลืองสำนึกเทพไปมากมายแต่ผนึกหนึ่งมีประกายเทพและยังข่มอีกผนึกหนึ่งอยู่”แพนดอราในร่างสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ไม่มีทางเข้าใจความจริงทั้งหมดจึงต้องคาดเดาที่เหลือ

“ตอนนี้เราจะต้องทำยังไงถึงจะฆ่าเทพที่เหลือได้?” เย่ว์หยางแค่ต้องการคำตอบ

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเทพตราบใดที่กล้าทำร้ายสตรีของเขา มันต้องตาย!

แพนดอราลังเลเล็กน้อยจากนั้นส่ายหน้า  “ข้ามองไม่เห็นเหมือนกัน  บางทีอาจเป็นเรื่องดีก็ได้  แม้ว่าข้าจะเคยทำให้คนพบกับหายนะได้แต่ข้ามีความรู้สึกกล้าแข็งว่าจะมีโชคดีมากกว่า”

เย่ว์หยางมึนงง  สาวหิมะถูกศัตรูทำร้ายบาดเจ็บกลับได้รับโชคดีอย่างนั้นหรือ?

ถ้าไม่ใช่เพราะแพนดอราอดีตเทพธิดาแห่งโชคร้ายบอกเย่ว์หยางอย่างนั้นเขาคงคิดว่านางเป็นบ้า

ศัตรูเร้นลับ

ต่อให้อยากฆ่าแต่ก็หาไม่พบ

เย่ว์หยางพาเสวี่ยอู๋เสียกลับมายังโลกคัมภีร์อัญเชิญ แต่ด้วยวิธีการนี้เห็นได้ชัดว่าพลังงานที่ส่งผลต่อเสวี่ยอู๋เสียถูกตัดออกไป  เย่ว์หยางพูดคุยปรึกษากับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะต้องพาเสวี่ยอู๋เสียออกมาและอยู่ให้ห่างจากภูเขาน้ำแข็งให้มากเท่าที่เป็นไปได้  และกักพลังงานสีทองไว้ภายในไม่ให้มีโอกาสโจมตีอีก

หลังจากผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืนขนตางอนของเสวี่ยอู๋เสียเริ่มสั่นเต้น

ในที่สุดนางกำลังจะฟื้นขึ้น

เสวี่ยอู๋เสียกรีดร้องขณะที่นางยังไม่ลืมตา“อย่าสู้, อย่าสู้  อย่าทำร้ายมัน...”

เย่ว์หยางกระวนกระวายกอดนางไว้แน่น  “ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่ที่นี่จะไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้ อู๋เสีย, ไม่ต้องกลัว!” เสวี่ยอู๋เสียตื่นขึ้นเต็มที่ เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ข้างหน้าคือเย่ว์หยางนางยิ้มและหัวเราะ เย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพากันงง สาวหิมะนี้ไม่ได้วิกลจริตกระมัง?ถูกลอบทำร้ายก็ยังหัวเราะอยู่ได้อีกหรือ? พวกเขาไม่สามารถทำความเข้าใจเรื่องราวได้

“วางใจได้ ข้าไม่ได้บ้า, และสมองของข้าก็ไม่ได้รับความกระทบกระเทือน!” เสวี่ยอู๋เสียโอบแขนกอดคอเย่ว์หยางพยายามระงับความตื่นเต้นให้มากเท่าที่เป็นไปได้จนเย่ว์หยางและองค์เชี่ยนเชี่ยนตกใจ นางยิ้มให้ “ความจริงไม่มีใครโจมตีข้า, ถูกแล้ว ข้าพบศัตรูแต่เจ้าผู้นั้นไม่ได้ทำร้ายข้า เจ้ารอสักเดี๋ยว ให้ข้าพูดก่อน  ความจริงนั่นเป็นเรื่องง่ายมาก  ข้ารู้สึกถึงผนึก  ศัตรูต้องการให้ข้าโจมตีผนึกแต่ข้ารู้สึกได้ถึงพลังกฎสวรรค์ของเทพอีกสายหนึ่ง ดังนั้นข้าจึงถูกพลังสะท้อนกลับโจมตีได้รับบาดเจ็บศัตรูไม่ได้โจมตีข้า มิฉะนั้นเจ้าผู้นั้นจะฉวยโอกาสหลบหนีไปได้”

“เจ้าไม่พูดให้เร็วกว่านี้...”  เย่ว์หยางหลั่งเหงื่อเยียบเย็น  เขาถล่มภูเขาน้ำแข็งจนพังทลายไปแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด